ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 247+248 งั้นพวกคุณก็อยู่ที่นี่ไปแล้วกัน/สู่กวาง
ตอนที่ 247+248 งั้นพวกคุณก็อยู่ที่นี่ไปแล้วกัน/สู่กวาง
ตอนที่ 247 งั้นพวกคุณก็อยู่ที่นี่ไปแล้วกัน
เสี่ยวอวิ๋นไม่สามารถกลั้นยิ้มไว้ได้ แต่เธอก็ยังคงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ
“คุณฉี นี่คือกฎของเรา ไม่ต้องพูดถึงคนที่ยังไม่ได้ซื้อเสบียง แม้แต่สมาชิกระดับพรีเมี่ยมของเราก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พักค้างคืนที่นี่ ถ้าเราเปิดส่วนนี้และอนุญาตคุณ เมื่อทุกคนมาถึงสถานีก็จะสับสนเอาได้ว่านี่มันที่จอดรถหรือค่ายพักแรม?”
ชายปากร้ายคนนั้นพูดด้วยอารมณ์ว่า “คุณเมินเฉยเราที่ไม่ซื้อเสบียงเหรอ งั้นเถาหยางก็เลือกปฏิบัติสินะ”
เสี่ยวอวิ๋นทนไม่ได้อีกต่อไป “อย่าตีความหมายของฉันผิด! แต่ฉันขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย กรุณาออกไปเถอะค่ะ”
ชายคนนั้นและพวกของเขาชำเลืองมองกันและกัน เลือกที่จะไม่สนใจเธอ พวกเขาทำในสิ่งที่คิดว่าควรทำ คือพวกเขายังเดินหน้าหยิบโต๊ะพับออกมา และเตรียมจุดไฟทำอาหาร
ข้างนอกร้อนมาก การที่มีที่เย็น ๆ แบบนี้แล้วยอมออกไปข้างนอกก็โง่แล้ว
ดวงตาของเสี่ยวอวิ๋นเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ซูเถาเดินไปตบไหล่เธอ และมองไปที่กลุ่มคนเหล่านี้อย่างเย็นชา
“แน่ใจนะว่าจะไม่ออกไป?”
ชายปากร้ายคนนั้นเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เขาจึงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ไป แล้วคุณอยากมาอยู่เป็นเพื่อนเราไหม?”
ซูเถาแสยะยิ้ม “งั้นพวกคุณก็อยู่ที่นี่ไปแล้วกัน”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เปิดระบบเพื่อสร้างห้องว่างที่ไม่มีประตู และขังคนเหล่านี้ไว้ข้างใน
เหลือไว้เพียงหน้าต่างเล็ก ๆ บานหนึ่ง
พวกเขายังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ พวกเขาแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างปกคลุม และเมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้น พวกเขาก็พบว่าตัวเองติดอยู่ในห้องมืดเล็ก ๆ ที่มีหน้าต่างบานเล็กเพียงบานเดียวซึ่งใหญ่ไม่เท่าหัวมนุษย์เลยด้วยซ้ำ
พวกเขาพยายามทุบอย่างรุนแรง แต่กระจกทึบไม่ขยับเขยื้อนสักนิด
เสี่ยวอวิ๋นตกตะลึง
ซูเถาโบกมือ “ไม่ต้องห่วงพวกเขา เมื่อพวกเขารู้สึกหิวโหยและกระหายน้ำพวกเขาก็จะเรียกฉันเอง ถึงเวลานั้นค่อยโยนพวกเขาออกไปข้างนอก”
ในวันรุ่งขึ้น ลูกค้าที่เถาฉือเห็นห้องสีดำเล็ก ๆ กลางลานจอดรถ และได้ยินเสียงคนกรีดร้องอยู่ข้างใน
จากนั้นพวกเขาก็หันกลับไป เนื่องจากได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ พวกเขาจึงหวาดกลัวเล็กน้อย โชคดีที่พวกเขาเชื่อฟังและปฏิบัติตามกฎ
พวกคนที่มีนิสัยวางแผนจะฉวยโอกาสเข้ามาใช้ประโยชน์ ก็ไม่กล้าเข้ามาที่นี่
แน่นอนว่าเรื่องนี้อธิบายยาก
ซูเถาขอให้หลินฟางจือวางแผนการนัดหมาย เฉพาะขบวนที่นัดหมายในวันเดียวกันเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้ ขบวนอื่น ๆ ต้องสงวนเอาไว้ก่อน หากมีคนมากเกินไป ปัญหาจะเกิดขึ้น
หลินฟางจือพยักหน้าตอบด้วยความรู้สึกผิดอยู่ในใจ เพราะเขารู้สึกว่าเขาไม่ได้คิดอย่างรอบคอบ
ซูเถาเห็นว่าดวงตาของเขาเศร้าหมองและหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความกังวล เธอจึงลูบหัวเขาและพูดว่า
“อย่าโทษตัวเองเลย เรื่องเล็กน้อยน่ะ เพราะว่าถึงยังไงแล้วฉันก็วางแผนที่จะระงับความร่วมมือทางธุรกิจไว้ชั่วคราวในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า เพราะฉันและนายต้องเริ่มเตรียมตัวเพื่อจะเดินทางไปที่ซินตู”
ส่วนใหญ่ที่ต้องเตรียมคือของที่ใช้ระหว่างเดินทาง และสิ่งที่จะนำไปจำหน่าย
เธอต้องการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและการประมูลที่การประชุมในครั้งนี้
เป็นการดีที่สุดที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสของงานแสดงสินค้าเพื่อยกระดับชื่อเสียงของธุรกิจเถาหยาง เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ถ้าเธอได้ผลึกนิวเคลียสมาจำนวนมากในครั้งนี้…มันคงจะวิเศษมาก
เธอยังต้องการขยายเถาหยาง เช่น การขยายถนน และเพิ่มระยะห่างระหว่างอาคาร
และยังต้องการขยายฟาร์มปศุสัตว์ขนาดเล็ก อัปเกรดร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์ และเลี้ยงลูกหมูและลูกแกะ
และความรับผิดชอบในพื้นที่ขนาดใหญ่ในตงหยาง…
เฮ้อ ตอนนี้เธอขาดแคลนผลึกนิวเคลียส
เธอไม่ได้สนใจการประมูลในครั้งนี้เป็นพิเศษ เพราะหากเธอสนใจ เธอจะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก
เธอต้องการเก็บผลึกนิวเคลียสและเงินสกุลเหลียนปังให้มากขึ้นเพื่อเร่งขยับไปที่เลเวล 7 และเปิดร้านขายยาให้เร็วที่สุด
คงจะดีมากถ้าเธอสามารถซื้อปืนพลังงานนิวเคลียสอีกอันในการประมูลครั้งนี้ หรืออย่างอื่นที่คล้ายกันก็ได้ที่มีพลังโจมตีที่ทรงพลัง
ช่วงนี้ซอมบี้ออกอาละวาดบ่อยเกินไป เมื่อคืนมันก็บุกไปที่ตงหยาง แต่เป็นพื้นที่รอบนอกที่มีประชากรน้อยและไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น
แต่สัมผัสได้ว่าซอมบี้กำลังทดสอบมนุษย์ทีละขั้นทีละขั้น ค่อย ๆ ทะลวงเข้าไปในหัวใจของมนุษย์
ไม่รู้ว่าตงหยางจะเผชิญกับสถานการณ์แบบไหน แต่ถ้าเธอสามารถครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั้งหมดก่อนที่ตงหยางจะเกิดภัยพิบัติได้ล่ะ?
ในเวลานี้ ภาพที่คลุมเครือบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเธอ แต่เธอมองเห็นไม่ชัดเจน
เธอรู้ว่านี่คือความสามารถเหนือธรรมชาติของเธอคือ ‘ทำนาย’ ซึ่งมันส่งสัญญาณบางอย่างมาให้เธอ
แต่เธอก็ไม่สามารถระบุอะไรได้อย่างชัดเจน
……
ตอนที่ 248 สู่กวาง
วันต่อมา ซูเถาได้รับแบบร่างของพื้นที่เปิดโล่งขนาด 1,200 ตารางเมตร
ผู้อาวุโสเหม่ยขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจอย่างมากกับการออกแบบของตัวเอง จึงส่ายหัวแล้วพูดว่า
“พื้นที่เล็กเกินไป และต้องรองรับคน 500 ชีวิต ต้องดูแลคุณภาพชีวิตของประชากร ต้องมีพื้นที่สนามฝึก โกดัง ลานจอดรถให้เพียงพอ ถ้าเป็นไปได้ ต้องมีสถานบันเทิง… เอาแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้าไม่โอเคค่อยแก้”
เจิ้งซิงที่เอาผ้าพันศีรษะของเขาไว้ “เถ้าแก่ซู อาจารย์และผมเห็นตรงกันว่ามันแออัดเกินไป ถ้าเป็นไปได้ ขอแนะนำให้พวกเขาลดจำนวนคนให้น้อยลง”
เขาและอาจารย์คิดอย่างหนักเป็นเวลาหลายวันก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับแบบร่างนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่พอใจกับการออกแบบและข้อกำหนดที่มีขีดจำกัด ไม่เช่นนั้นแบบร่างคงถูกส่งมานานแล้ว จนเถ้าแก่ซูก็รอไม่ไหว จึงเร่งเขาถึงสองครั้ง จนได้แบบนี้มาในที่สุด
ซูเถาหยิบแบบร่างที่เขียนด้วยลายมือและพลิกดูทีละแผ่น พร้อมกับชำเลืองมองพวกเขาแล้วพูดว่า
“ฉันคิดว่าได้นะคะ คุณทำตามเงื่อนไขทั้งหมดที่พวกเขาบอกแล้ว ดังนั้นถึงมันจะแออัดแค่ไหน มันเป็นทางเลือกของพวกเขาเอง”
ซูเถาส่งแบบร่างนี้ไปให้หุยซู่เพื่อยืนยันแบบ
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ส่งข้อความมาว่า
“เถ้าแก่ซู เพื่อนของผมคิดว่ามันดีมาก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน ผมแค่หวังว่าจะสร้างเสร็จโดยเร็วที่สุด พวกเขาจะได้รีบย้ายเข้าไป”
ซูเถาพูดว่า “เพื่อนของคุณรีบไหม ถ้ารีบ ฉันจะเร่งทำภายในคืนนี้ และพวกเขาสามารถเช็คอินได้หลังเก้าโมงเช้าพรุ่งนี้”
หุยซู่รีบขอบคุณอย่างรวดเร็ว
เป็นเรื่องเร่งด่วนจริง ๆ บอสกู้เป็นผู้นำในการฆ่าซอมบี้กลุ่มหนึ่งเมื่อคืนนี้ด้วยตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่สูญเสียพื้นที่ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตก็ค่อนข้างหนัก
ถ้าหมอจงไม่รู้เรื่องนี้กลางดึกและรีบไปรับการรักษาอย่างลับๆ คงมีคนบาดเจ็บล้มตายมากกว่านี้
เฮ้อ จิตใจของหมอจงยังคงอ่อนโยน เขาบอกว่าเขาจะไม่ออกมาจากเถาหยาง แต่เขาก็มาที่นี่โดยไม่ลังเลเมื่อเขาได้ยินว่ามีพี่น้องหลายคนเสียชีวิต
ซูเถาไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้จงเกาอี้ไปที่ตงหยาง ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าและถามว่า
“เพื่อนของคุณต้องการตั้งชื่อไซต์หรือเปล่า”
หลังจากใช้ผลึกนิวเคลียสเพื่อรับสิทธิ์ในการจัดการ เธอก็ยังไม่ได้ตั้งชื่อมัน
หุยซู่ “เดี๋ยวผมถามให้”
หลังจากนั้นประมาณสิบนาที เขาก็พูดว่า “เรียกมันว่าสู่กวาง”
ผู้คนที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ในอนาคตจะเป็นวัยรุ่นจากเขตตะวันออก พวกเขาเป็นเด็กที่บอสกู้รับเลี้ยงมาหลายปี พวกเขาคือความหวังของเขตตะวันออก และเป็นสัญลักษณ์ของแสงสว่าง
ซูเถาจึงตั้งชื่อมันในระบบทันทีและพูดว่า
“สถาปนิกของเราขอให้ฉันเตือนเพื่อนของคุณว่าหากมีผลึกนิวเคลียสมากขึ้น แนะนำให้ขยายพื้นที่ของสู่กวาง ตอนนี้พื้นที่ 1,200 ตารางเมตร สำหรับคน 500 ชีวิต ค่อนข้างแออัด”
หุยซู่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
มีผลึกนิวเคลียสเพิ่ม แต่ต้องสงวนไว้สำหรับพี่น้องที่กำลังจะมีวิวัฒนาการ
บอสกู้ได้เลี้ยงดูผู้คนจำนวนมาก และเมื่อเร็ว ๆ นี้มีพี่น้องหกหรือเจ็ดคนที่แสดงสัญญาณของการวิวัฒนาการ
ผลึกนิวเคลียสที่ได้รับจากการฆ่าศัตรูเมื่อคืนนี้ไม่เพียงพอให้พี่น้อง 7 หรือ 8 แล้วจะมีผลึกนิวเคลียสสำหรับขยับขยายสู่กวางได้อย่างไร
แต่หุยซู่ก็ตอบรับไปก่อน
“ตกลง ผมจะบอกเขาให้ เถ้าแก่ซูถือว่าพวกเราตกลงกันแล้วนะ พรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้าพวกเขาจะไปถึงที่นั่น”
หลังจากวางสายแล้ว ซูเถาก็หรี่ตาลง
เพื่อนของหุยซู่คนนี้หลบหน้าเธอหรือเปล่า แน่นอนว่าเขาสามารถสื่อสารกับเธอได้ด้วยตัวเอง ทำไมต้องหาคนกลางมาสื่อสารด้วย
รอดูพรุ่งนี้แล้วกันว่าเป็นใคร
ซูเถาหยิบพิมพ์เขียวและไปที่สู่กวาง
เธอเปิดการออกแบบที่ผู้อาวุโสและลูกศิษย์ของเขาเป็นคนวาด
เมื่อเข้าทางประตูจะมีที่จอดรถด้านซ้ายและขวา จอดได้ 7-8 คัน แล้วแต่ขนาดของรถ
เดินเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งเล็ก ๆ ใช้พื้นที่ไม่มากจึงเป็นเพียงลานหน้าอาคารเล็ก ๆ
มีตู้ขายอัตโนมัติสองอยู่ทั้งสองด้านของลาน ซึ่งสะดวกสำหรับพวกเขาในการซื้ออาหารและของใช้ประจำวันต่าง ๆ
ตรงข้ามสนามเป็นอาคารหอพักหลัก
ที่ชั้น 1 มีลิฟต์ 4 ตัวทางซ้าย บันไดทางขวา ห้องน้ำและห้องสุขาอยู่ที่ชั้น 1 ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน
อ่างล้างหน้าและห้องสุขาเรียงเป็นแถว สามารถรองรับคนจำนวนมากเข้ามาใช้งาน
ในแต่ละชั้นมีห้องพักแปดห้อง โดยทั้งหมดเป็นห้องสำหรับ 8 คน มีตู้เสื้อผ้าทั้งสองด้านอยู่ข้างเตียงสองชั้นสี่เตียง ซึ่งวางอยู่ทั้งสองด้านของผนัง และโต๊ะยาวตรงกลางซึ่งนั่งได้แปดคน
ได้ยินมาว่าคนที่มาล้วนเป็นคนหนุ่มสาวที่ยังต้องเรียนหนังสือซึ่งโต๊ะเป็นสิ่งจำเป็น
แต่ละห้องยังมีระเบียงเล็ก ๆ และมีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าอยู่ที่ระเบียง เพียงพอสำหรับแปดคนในหอพัก
ซูเถาคัดลอกอาคารชั้นเดียวนี้ขึ้นไปเจ็ดชั้น เมื่อรวมชั้นหนึ่งแล้วเป็นอาคารทั้งหมดแปดชั้น
ถัดขึ้นไปเป็นดาดฟ้า สามารถใช้เป็นสนามฝึกซ้อมซึ่งสามารถรองรับคนได้เกือบ 200-300 คน
และสุดท้ายคือชั้นใต้ดิน
ชั้นใต้ดินชั้นแรกก็เป็นสนามฝึกซ้อมเช่นเดียวกัน เมื่อรวมกับสนามชั้นดาดฟ้าแล้ว สนามฝึกซ้อมนี้พียงพอต่อความต้องการในการฝึกอบรมของคน 500 คน
ชั้นใต้ดินชั้นสองเป็นโกดังขนาดใหญ่
ตามความต้องการที่ต้องการเว้นไว้เพื่อสร้างห้องขนาดต่าง ๆ กันรวมกว่า 20 ห้อง พร้อมติดเลขที่ห้องไว้ เมื่อถึงเวลาก็จะย้ายของเข้าได้เลย
หลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น ซูเถามองไปที่โกดังชั้นใต้ดินและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
มันให้ความรู้สึกเหมือนโกดังอเนกประสงค์สำหรับเก็บอาหาร เชื้อเพลิง อาวุธ ฯลฯ
บุคคลนี้ฉลาด เขารู้ว่าการซ่อนสิ่งของในอาณาเขตของเธอนั้นปลอดภัยที่สุด
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอควรจะสร้างโกดังลับใต้ดินสำหรับเถาหยางด้วยหรือเปล่า?
เก็บของได้ค่อนข้างเยอะ
ไว้เธอค่อยจัดการหลังจากที่เธอกลับมาจากซินตู อย่างไรก็ตามการขุดชั้นใต้ดินไม่จำเป็นต้องมีผลึกนิวเคลียส
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซูเถาก็ยิ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างคอนเนคชั่นในการประชุมสุดยอดพันธมิตร และกลับมาสร้างสิ่งก่อสร้างมากมาย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็เริ่มง่วงนอน เธอมองไปที่ค่ำคืนอันมืดมิด โดยที่ไม่รู้ว่าคืนนี้ฐานใดจะถูกโจมตีบ้าง
ซอมบี้มักชอบโจมตีฐานทัพมนุษย์เป็นวงกว้างในตอนกลางคืน
เมื่อถึงเวลารุ่งสาง การสู้รบก็จบด้วยการนองเลือด และมีการสูญเสียเกิดขึ้นอย่างมากมาย
ไม่รู้ว่าตงหยางดึงดูดซอมบี้ส่วนใหญ่หรือเปล่า แต่เถาหยางไม่เคยเจอการโจมตีของซอมบี้ขนาดใหญ่ มันเงียบและสงบราวกับอยู่คนละโลก
Comments