ระบบเติมเงินข้ามภพบทที่ 420 แรดเขามังกร

Now you are reading ระบบเติมเงินข้ามภพ Chapter บทที่ 420 แรดเขามังกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 420

แรดเขามังกร

ในแทบจะขณะเดียวกันกับตอนที่เย่เย่มาถึงบ้านสกุลเซียว จูหลงคงกับพรรคพวกก็พบเซียวอวิ่นที่อยู่ในป่าดินแดงที่ห่างออกไปจากเมืองหลงเจียงเพียงเล็กน้อย

ในเวลานี้เซียวอวิ่นได้ทำการปลุกสัตว์ขี่ของหม่าเจาแรดเขามังกรเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าในขณะที่เขากำลังควบคุมแรดเขามังกรมุ่งหน้าไปยังบ้านสกุลเซียวอยู่นั้นเอง จูหลงคงกับพรรคพวกก็ได้ออกมาขวางทางเขาเอาไว้

“พวกจูหลงคงงั้นเหรอ? ทำไมพวกแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ในตอนที่จูหลงคงกับพวกหยางหลิ่วจือได้ปรากฏตัวออกมานั้น เหล่ายอดฝีมือที่ติดตามเซียวอวิ่นมายังป่าดินแดงนั้นก็ได้พลันออกมายืนเผชิญหน้ากับพวกจูหลงคง แล้วก็ได้มีชายชราผู้หนึ่งถามขึ้นมาอย่างประหลาดใจหลังจากที่เขาจำหน้าของ จูหลงคงได้

อันเนื่องมาจากการสร้างความวุ่นวายของพานโส่ว ทาง 4 ตระกูลใหญ่จึงเหลือยอดฝีมือจอมเทพอยู่แค่เพียงแค่ 3 คนที่ตามเซียวอวิ่นมายังป่าดินแดงด้วย แล้วในเวลานี้พวกเขาก็ถูกขวางทางโดยจูหลงคงกับพรรคพวก ทำให้เซียวอวิ่นนั้นกระวนกระวายไปทั้งตัวและหัวใจ ด้วยความอยากจะรีบกลับออกจากป่าดินแดงไปพร้อมกับแรดเขามังกรโดยไว

“คำถามนั้น เจ้าเก็บลงดินแล้วเอาไปถามกับยมบาลก็แล้วกัน!”

แล้วจูหลงคงก็ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงกับพวกเขา หลังจากที่จับจ้องไปที่เซียวอวิ่นที่เป็นเป้าหมาย เขาก็ได้บอกให้ หยางหลิ่วจือ, โฉวว่านจ้งกับคนอื่นๆลงมือฆ่าทุกคนทันที

ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะตกลงทำสัญญาปากเปล่ากับเย่เย่ และคิดที่จะฉวยโอกาสหนีออกไปจากเมืองหลงเจียง แต่ในท้ายที่สุดพวกจูหลงคงก็ยังไม่ยอมที่จะปล่อยพวก 4 ตระกูลใหญ่ไปง่ายๆเช่นกัน และคิดที่จะรักษาโอกาสที่เย่เย่ได้ให้และจัดการคิดบัญชีกับ 4 ตระกูลใหญ่

แล้วทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้เผชิญหน้ากันทันที และเริ่มลงมือต่อสู้ทันทีโดนไม่คุยอะไรกันทั้งนั้น

“มอบชีวิตพวกแกมาให้หมด!”

เมื่อพวกจูหลงคงต่างก็พากันนึกถึงคำขอของเย่เย่ พวกเขาก็พาเคร่งเครียดขึ้นมาอีกหน และตั้งใจที่จะสังหารพวกเซียวอวิ่นให้ได้โดยไว แล้วจากนั้นก็พาแรดเขามังกรกลับไปไว้ที่จวนเจ้าเมืองหลงเจียง

“อย่าคิดว่าจะเป็นไปตามที่คิดนะ!”

แต่ทว่าพวกเซียวอวิ่นนั้นกลับรีบร้อนยิ่งกว่า ในเวลานี้พวกเขาต้องการที่จะกำจัดพวกจูหลงคงเพื่อขี่แรดเขามังกรไปที่บ้านสกุลเซียวให้สำเร็จ เพราะหากว่าพวกเขาไปไม่ทันการแล้ว ต่อให้พวกเขารอดจากพวกจูหลงคงมาได้ การที่พวกเขาจะต้องตายเมื่อไรหลังจากที่กลับไปถึงบ้านสกุลเซียวนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว

“มู่!”

เมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายเข้าต่อสู้กันตรงหน้า แรดเขามังกรขนาดใหญ่ก็เหมือนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

ถึงแม้ว่ามันจะมีชื่อว่าแรดเขามังกร แต่มันก็มีนออยู่แค่อันเดียวเหมือนกับแรดทั่วๆไป เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่านอของแรกปกติหลายเท่าตัว และเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงได้ถูกเรียกว่าแรดเขามังกรนั้นก็เพราะว่ามันมีสายเลือดของมังกรอยู่ในกายของมัน ดังนั้นมันจึงได้ทรงพลังอย่างสุดๆ อีกทั้งยังแฝงไปด้วยพลังที่เร้นลับที่คาดไม่ถึงอีกด้วย

แรดเขามังกรแม้จะดูเชื่องและไม่มีอันตรายอะไร แต่อย่างไรมันก็ยังเป็นสัตว์อสูรระดับราชันย์เทพอยู่ดี หากว่ามันโกรธเมื่อไรพวกเซียวอวิ่นก็ไม่สามารถจะหยุดมันได้ แต่เพราะในเวลานี้มันถูกควบคุมด้วยแผ่นป้ายสัตว์อสูรอยู่ ทำให้ความดุร้ายของมันลดลงไปอย่างมาก ดังนั้นจูหลงคงกับพรรคพวกถึงได้กล้าที่จะออกมาหาเซียวอวิ่นเพื่อแย่งชิงความเป็นเจ้าของแรดเขามังกร

ในเวลานี้มียอดฝีมือจอมเทพอยู่เพียงแค่ 4 คนอยู่ทางฝั่งของเซียวอวิ่น แต่ทางพวกจูหลงคงนั้นมียอดฝีมือระดับสูงสุดจอมเทพถึง 3 คน แล้วยังมียอดฝีมือระดับจอมเทพอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ความแข็งแกร่งโดยรวมนั้นเหนือกว่าทางฝั่งพวกเซียวอวิ่นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถปราบพวกเซียวอวิ่นทั้ง 4 คนที่กำลังเสียเปรียบได้อย่างรวดเร็ว และทำให้พวกเขาหมดหนทางที่จะพลิกสถานการณ์ได้

“มันจะมากไปแล้วนะ เจ้าบังคับให้ข้าต้องทำแบบนี้เองนะ!”

เมื่อเห็นว่าคนทางฝั่งของเขาถูกสังหารไป 2 คน เซียวอวิ่นจึงได้หยิบแผ่นป้ายสัตว์อสูรมาใช้ท่ามกลางความสิ้นหวัง แล้วสั่งให้แรดเขามังกรเปิดฉากโจมตีใส่พวกจูหลงคง

“มู่!”

หลังจากที่ได้รับคำสั่งมาจากเซียวอวิ่น แรดเขามังกรก็ได้พลันส่งเสียงคำรามขึ้นมา แล้วไล่เหยียบจูหลงคงและพรรคพวกทันที

ตูม!

ราวกับแผ่นดินไหว แรดเขามังกรที่ย่ำพื้นจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่พื้นด้วยการย่ำเพียงครั้งเดียวนั้น ถ้าหากว่าพวกจูหลงคงหลบหนีออกไปไม่ได้ทันการแล้ว ก็เกรงว่าพวกเขาคงได้กลายเป็นบ่อเนื้อไปแล้ว

ต่อให้สัตว์อสูรระดับราชันย์เทพนั้นใช้พลังเพียงแค่เสี้ยวเดียวของมัน แต่ก็ยังยากที่ยอดฝีมือระดับสูงสุดราชันย์เทพอย่างพวกจูหลงคงนั้นจะต้านทานได้อยู่ดี!”

“ฮ่าๆ เก่งนักไม่ใช่รึไง? เข้ามาอีกเซ่!”

เมื่อเห็นการโจมตีที่ทรงพลังของแรดเขามังกรแล้ว เซียวอวิ่นก็ได้เผยสีหน้ายินดีขึ้นมาบนใบหน้าของเขา และรีบเข้าใช้แผ่นป้ายสัตว์อสูรต่อ แล้วสั่งให้แรดเขามังกรพุ่งเข้าไปหาพวก จูหลงคงทันที

เดิมทีตอนที่เขาได้แผ่นป้ายสัตว์อสูรนี้มา เซียงหลิงผู้นำตระกูลเซียวนั้นก็ได้เตือนเซียวอวิ่นเอาไว้แล้วว่า อย่าใช้แผ่นป้ายสัตว์อสูรนี้อย่างสุ่มสี่สุ่มห้าและออกคำสั่งให้แรดเขามังกรกลับมาที่บ้านสกุลเซียวเพียงอย่างเดียว แต่ในเวลานี้ตัวเซียวอวิ่นนั้นไม่มีทางเลือก แม้ว่าตัวเขาจะรู้ดีว่าลำพังตัวเขาแล้วคงไม่สามารถควบคุมแรดเขามังกรผ่านแผ่นป้ายสัตว์อสูรได้อย่างเต็มที่เหมือนกับหม่าเจา แต่เขาก็ทำได้แค่กัดฟันฝืนทนและสั่งให้แรดเขามังกรบุกเข้าโจมตีจูหลงคงและพรรคพวก

ตูม!

เกิดเสียงดังลั่นขึ้นมาอีกหน แล้วแรดเขามังกรก็ได้ไล่เหยียบย่ำยอดฝีมือของฝั่งจูหลงคงจนตาย

เซียวอวิ่นกับพรรคพวกอีกคนที่ยังรอดนั้นก็ได้รู้สึกยินดีขึ้นมาเมื่อเห็นเช่นนี้ แล้วก็ได้รีบควบคุมแรดเขามังกรและใช้นอของมันเล็งไปที่จูหลงคงและพรรคพวก แล้วจากนั้นพุ่งใส่พวกเขาทันที

ตุ้มๆๆๆ! ตุ้มๆๆๆ!

เสียงวิ่งของแรดเขามังกรที่ดังขึ้นมานี้ ทำให้พวกจูหลงคงต้องรู้สึกตกใจ แต่พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าการต่อสู้เกี่ยวพันถึงความอยู่รอดของพวกเขาในเมืองหลงเจียง ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะกลัวแต่พวกเขาก็ต้องกัดฟันฝืนทน และเผชิญหน้ากับความยากลำบากโดยปราศจากความคิดที่จะหนี

“ตั้งสมาธิไว้! เจ้าแรดเขามังกรตัวนี้มันยังไม่ได้แสดงพลังของมันอย่างเต็มที่ เมื่อใดที่มันหยุดวิ่งก็เป็นคราวเอาคืนของพวกเราแล้ว!”

หลังจากที่จูหลงคงตะโกนบอกกับคนรอบๆแล้ว พวกเขาต่างก็จับจ้องไปที่แรดเขามังกรที่กำลังพุ่งมาหาพวกเขา

ซึ่งในตอนที่แรดเขามังกรกำลังวิ่งมาทางพวกเขานั้น ทุกคนก็ได้พากันแยกย้ายไปทุกทิศทุกทางด้วยเสียงตะโกนดังลั่นของจูหลงคง ดังนั้นแรดเขามังกรจึงได้วิ่งออกไปโดยไม่ได้ปะทะกับใครเลย

ทันทีที่แรดเขามังกรหยุดวิ่งจูหลงคงก็ได้ตะโกนอีกหน แล้วเหล่ายอดฝีมือรอบๆก็ได้ฉวยโอกาสนี้เข้าล้อมแรดเขามังกรอย่างกล้าหาญทันที

ทางด้านพวกจูหลงคงที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดราชันย์เทพทั้ง 3 คนนั้น ก็ได้พุ่งเข้าไปหาเซียวอวิ่นกับอีกคนอย่างสุดกำลัง หมายที่จะแย่งชิงแผ่นป้ายสัตว์อสูรมาและสั่งให้แรดเขามังกรหยุดเคลื่อนไหว

“แย่แล้ว!”

เมื่อเซียวอวิ่นมองเห็นถึงเจตนาของจูหลงคงและพรรคพวก ก็ได้รีบถอยห่างออกมาพร้อมกับอีกคน และพยายามทิ้งระยะห่างระหว่างตัวเขากับจูหลงคงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่ทว่าด้วยวรยุทธ์ที่ต่างกันเกินไปกับพวกจูหลงคงทั้ง 3 ทำให้ก่อนทั้งคู่จะทันหนีไปได้ไกล จูหลงคง, หยางหลิ่วจือและ โฉวว่านจ้ง 3 ยอดฝีมือระดับสูงสุดราชันย์เทพนั้นก็ได้เข้าล้อมพวกเขาเอาไว้แล้ว

“จัดการพวกมัน!”

โดยปราศจากซึ่งการพูดมาก พวกจูหลงคงทั้ง 3 คนก็ได้ลงมือแย่งชิงแผ่นป้ายสัตว์อสูรมาเพื่อลดความเสียหายของฝั่งพวกเขา

“ไปให้พ้น!”

เมื่อเห็นเช่นนี้เซียวอวิ่นก็ได้รีบหนีอย่างสุดกำลัง และได้พยายามฝ่าวงล้อมออกมาทันที และแม้แต่ที่จะใช้ร่างของพรรคพวกเป็นโล่เพื่อสร้างโอกาสหนีรอดให้กับตัวเอง

แต่ทว่าเพราะความห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นมีมากจนเกินไป รวมกับพวกจูหลงคงที่กังวลว่าหากปล่อยให้ช้าไปมากกว่านี้แล้ว ความเสียหายของลูกน้องของพวกเขานั้นก็จะสาหัสยิ่งไปขึ้นไปอีก พวกเขาจึงต่างก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อโจมตีใส่เซียวอวิ่นแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม จนสามารถสังหารเซียวอวิ่นได้สำเร็จ

ทันทีที่เขาได้แผ่นป้ายสัตว์อสูรมาจากเซียวอวิ่นแล้ว จูหลงคงก็ได้ไม่รอช้ารีบใช้งานมันเพื่อสั่งการให้แรดเขามังกรหยุดโจมตีลูกน้องของพวกเขาทันที

แล้วการต่อสู้เพื่อแย่งชิงแรดเขามังกรนั้นก็ได้จบลงด้วยชัยชนะของจูหลงคงและพรรคพวก!

หลังจากที่พวกจูหลงคงได้ทำการปฐมพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ใช้แผ่นป้ายสัตว์อสูรและสั่งให้แรดเขามังกรมุ่งหน้าไปที่จวนเจ้าเมืองหลงเจียง ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาผ่านไปเพียงชั่วก้านธูปเท่านั้นนับตั้งแต่ที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นมาขวางพวกเซียวอวิ่น

ที่ห้องรับรองแขกในบ้านสกุลเซียวนั้น เย่เย่ก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาหลังจากที่เขาเห็นพวกหม่าเจายอมแพ้แต่โดยดีแล้ว

เมื่อเห็นว่าหม่าเจายอมทำตามคำแนะนำของเขาและนั่งลงอย่างช้าๆแล้ว เย่เย่ก็ได้กล่าวกับหม่าเจาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ไม่ต้องกังวลเรื่องสัตว์ขี่ของเจ้าหรอก ในเวลานี้แรดเขามังกรน่าจะอยู่ที่จวนเจ้าเมืองของข้าแล้ว ขอเพียงเจ้ายินดีทำตามข้อตกลงของข้า ข้าก็จะคืนแรดเขามังกรให้แก่เจ้าของเดิมของมันอย่างแน่นอน ข้าเย่เย่พูดคำไหนคำนั้นเสมอ!”

“แล้วเจ้าต้องการอะไรจากข้า?”

หลังจากที่ได้ยินที่เย่เย่กล่าวแล้ว หม่าเจาก็เหมือนรู้สึก โล่งอกแล้วถามเย่เย่อย่างใจเย็น

อย่างที่เย่เย่คาดเดา แรดเขามังกรนั้นน่าจะมีความหมายที่พิเศษกับหม่าเจา เขาคงเลือกที่จะล้มเลิกภารกิจนี้เจ้าสำนักแก้วหลากสีให้มามากกว่าที่จะสูญเสียพาหนะของเขาแรดเขามังกรไป ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินข้อเสนอของเย่เย่แล้ว หม่าเจาก็ได้ยินดีที่จะเจรจากับเย่เย่อย่างแทบไม่ต้องคิด

เซียวหลิงกับพรรคพวกที่อยู่ไม่ไกลนั้นต่างก็มีความกระวนกระวายขึ้นมา และดวงตาก็เต็มไปด้วยความกังวล

พวกเขานั้นพอจะเดาได้เลยว่า เงื่อนไขที่เย่เย่เสนอมานั้นจะต้องไม่ส่งผลดีกับ 4 ตระกูลของพวกเขาเป็นแน่ แต่ก็เสียดายที่พวกเขาอีกฝ่ายนั้นคือมีดและพวกเขาเป็นปลานอนอยู่บนเขียง ในเวลานี้พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมต่อรองอะไรกับทั้ง 2 ฝ่ายได้เลย

แต่เย่เย่นั้นไม่ได้สนใจความคิดของทั้ง 4 ตระกูลแต่อย่างใด หลังจากที่ได้ยินคำตอบจากหม่าเจาแล้ว เขาก็ได้บอกกับ หม่าเจาถึงเงื่อนไขที่เขาคิดเอาไว้นานแล้ว “ข้าได้ยินมาว่าท่านหม่าเจานั้นมีสถานะที่ไม่ค่อยดีนักในสำนักแก้วหลากสี และภารกิจนี้ก็ไม่ใช่เพื่อทำให้ท่านกลับมามีชื่อเสียงในสำนักอีกครั้ง แต่เป็นการใช้ประโยชน์จากของไม่ใช้แล้วมากกว่า ต่อให้ภารกิจของท่านล้มเหลวและตายด้วยน้ำมือของข้า เจ้าสำนักแก้วหลากสีซูเทียนอวี้ก็คงจะไม่รู้สึกเสียใจอะไรทั้งนั้น สำนักแก้วหลากสีนั้นสมควรแก่การที่ท่านจะภักดีต่อจริงๆเหรอ?”

มียอดฝีมืออยู่มากมายในสำนักแก้วหลากสี แต่ส่วนใหญ่นั้นล้วนแต่ถูกจับตาดูโดยสำนักต่างไฟ มีเพียงหม่าเจาที่เรียกได้ว่าเกือบไร้ตัวตนนั้น ที่จะไม่เสี่ยงต่อการถูกล้อมโดยสำนักต่างไฟ ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ซูเทียนอวี้ได้ส่งหม่าเจามาที่เมืองหลงเจียงเพื่อจัดการกับเย่เย่ แต่หม่าเจานั้นก็ไม่ใช่คนโง่ หลังจากที่ได้รู้ถึงประวัติที่สุดยอดของเย่เย่แล้ว ตัวเขาก็พอจะเดาถึงท่าทีที่แท้จริงของซูเทียนอวี้โดยผ่านภารกิจนี้ได้ ดังนั้นสิ่งที่เย่เย่กล่าวนั้นจึงไม่อาจทำให้เขาโต้แย้งได้เลย และบรรยากาศในห้องนั้นก็ได้เริ่มหนักอึ้งขึ้นมาทันที

“เจ้ากำลังจะเกลี้ยกล่อมให้ข้าทรยศต่อสำนักแก้วหลากสีแล้วเข้ากับสมาพันธ์โม่ไห่อย่างนั้นเหรอ?”

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก หม่าเจาก็ได้เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่เย่เย่ โดยที่ไม่มีความตื่นเต้นหรือประชดประชันในดวงตาของเขา

“นกฉลาดย่อมเลือกไม้เกาะ! ขอเพียงท่านยอมเข้าร่วมกับสมาพันธ์โม่ไห่ ข้าก็ขอรับรองว่าทางสมาพันธ์จะมอบหมายงานอันสำคัญให้! แทนที่จะต้องทนอยู่ในสำนักแก้วหลากสีต่อด้วยความรู้สึกบาดหมาง ก็สู้เข้าร่วมกับสมาพันธ์โม่ไห่ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่ดีกว่าเหรอ?”

เย่เย่นั้นไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่เขาตั้งใจจะเอาชนะใจหม่าเจา อีกทั้งยังมีเงื่อนไขที่จะคืนแรดเขามังกรให้กลับเขาด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเย่เย่นั้นให้ความสำคัญกับหม่าเจามาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด