ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลกบทที่ 619 พลังของวิชากระบี่สายฟ้าอินทนิล
บทที่ 619 พลังของวิชากระบี่สายฟ้าอินทนิล
…………….
บทที่ 619 พลังของวิชากระบี่สายฟ้าอินทนิล
“ตายซะ!”
เคอซาร์เตะดาบเล่มใหญ่ของตนขึ้นจากพื้นก่อนจะคว้าด้ามจับเอาไว้ ชั่วพริบตานั้นก็พุ่งกายโถมเข้าหาเป้าหมาย ขณะนี้ความคิดของมันเหลือเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการสังหารศัตรูตรงหน้าให้จงได้!
อู๋ฝานไม่ดำลงดินอีก เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ยังใช้วิชาดำดิน เขาพอจะมีโอกาสลองโจมตีเคอซาร์ไปบ้างแล้ว แม้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวได้ไม่เร็ว แต่ความเร็วการตอบสนองต่ออันตรายก็ไม่ได้ช้า การลอบโจมตีจึงไม่ประสบความสำเร็จ
ดังนั้นการคิดใช้กลยุทธ์เดิมสังหารเคอซาร์อีกครั้งจึงเป็นไปได้ยาก
นับจากนี้เขาก็ไม่คิดใช้แผนลอบโจมตี เนื่องจากต่างฝ่ายต่างเหลือแค่หนึ่ง ตนสามารถทุ่มเทกำลังจัดการกับอีกฝ่ายได้
“เคร้ง!”
เคอซาร์ตะโกนขณะเข้ามาใกล้ พร้อมฟาดดาบเล่มใหญ่ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลเหมือนเคย
อู๋ฝานไม่คิดรับดาบดังกล่าวไว้ จึงขยับหลบไปด้านข้าง กระทั่งเข้าถึงสีข้างของศัตรู ในขณะเดียวกันนี้เองที่กระบี่เล่มยาวของเขาแทงออกไปที่เอวของเคอซาร์
“เคร้ง!”
เคอซาร์ไม่ได้ตอบสนองช้า ภายในชั่วพริบตาจึงหันปลายดาบในมือเข้าไปต้านรับการโจมตีของชายหนุ่มไว้ พร้อมกันนั้นยังถอนดาบกลับคืนมาพร้อมฟาดเข้าใส่ชายหนุ่ม
อู๋ฝานฝืนต้านรับเอาไว้ ทั้งสองฝ่ายปะทะต่ออีกครั้ง ผลลัพธ์ยังคงเป็นเขาต้องถอยเท้าไปไกลพร้อมแขนเป็นเหน็บชาเหมือนเช่นเคย
เคอซาร์ไม่คิดเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้หายใจ เขาบุกทะยานออกอีกครั้งพร้อมตวัดดาบใหญ่ในมือ
ชายหนุ่มก้มตัวลงต่ำเพื่อหลบการโจมตี ขณะเดียวกันก็ยังใช้เท้าซ้ายพยุงร่างกายเอาไว้ ก่อนจะขยับเท้าขวาเตะศัตรู
“ตึง! ตึง! ตึง!”
เพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ อู๋ฝานเตะออกไปมากกว่าสิบครั้ง มันคือลูกเตะขาห่วงโซ่ที่กำลังแสดงพลังออกมาอย่างเต็มที่
แต่เคอซาร์ไม่ได้มีเพียงพละกำลังที่แข็งแกร่ง การตั้งป้องกันของเขาก็ยอดเยี่ยม แม้ลูกเตะขาห่วงโซ่ของอู๋ฝานจะแข็งแกร่ง ทว่าก็ไม่อาจสร้างความเสียหายให้ได้มากนัก ทำได้เพียงแค่ให้อีกฝ่ายต้องถอยเท้ากลับไปบ้างเท่านั้น
เคอซาร์จับคอตนเองก่อนจะเอียงเล็กน้อยราวกับคลายเครียด ขณะนี้มันกำลังเผยยิ้มชั่วร้ายและเตรียมลงมือสังหารอีกครั้ง
อู๋ฝานลอบขมวดคิ้ว เขาเพิ่งใช้วิชานางแอ่นถลาลมหลบการโจมตีของศัตรู ทว่าก็ทำได้แค่หลบ มันไม่มีประสิทธิภาพมากพอจะใช้สังหารเคอซาร์
เขาต้องคิดหาวิธีการอื่น
ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงไพ่ตายที่ตนเองมี พร้อมพบว่าแท้จริงแล้วก็มีอยู่พอสมควร แต่ภายหลังไตร่ตรอง เขาก็ตัดสินใจไม่ใช้ป้ายพาหนะ แต่เลือกใช้วิชาอื่นแทน
วิชากระบี่สายฟ้าอินทนิล!
มันคือวิชาที่อู๋ฝานได้รับมาจากแดนลับแห่งภูเขาเทียนเหลียง เป็นวิชาระดับสวรรค์ จากคำอธิบายของวิชา หากฝึกฝนได้สำเร็จย่อมมีพลังอำนาจมากพอจะสะท้านฟ้าทำลายดิน
เขาทราบดีว่ามันคงเป็นคำกล่าวที่เกินเลย แต่ในเมื่อมันเป็นถึงวิชาระดับสวรรค์ มันย่อมต้องไม่เลวร้ายอย่างแน่นอน
หลังได้รับวิชากระบี่สายฟ้าอินทนิลมาครอบครอง เขาเรียนรู้มันจากโลกแห่งเกม ทว่าระยะเวลาที่เรียนรู้ครั้งนั้น ความเข้าใจที่มีต่อตัววิชายังเป็นเพียงขั้นที่หนึ่ง
‘ลองดูก่อนก็แล้วกัน ยังไงก็มีวิชานางแอ่นถลาลมอยู่ เราคงไม่ตายใต้ดาบของมันแน่’ อู๋ฝานครุ่นคิดในใจ ก่อนจะตัดสินใจทำท่าประสานมือตามคำอธิบายของวิชากระบี่สายฟ้าอินทนิล
กระบี่เล่มยาวตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าอู๋ฝาน เหนือปลายกระบี่ยาวกำลังปรากฏสายฟ้าสีม่วงเป็นประกาย สายฟ้าเหล่านี้เริ่มส่งเสียงเลื่อนลั่น ก่อนจะระเบิดห้วงอากาศอันว่างเปล่าออกมา
“ตาย!”
ดาบใหญ่ของเคอซาร์ไม่คิดรีรอ มันบุกเข้ามาฟันจากบนลงล่าง พลังของดาบยังคงรุนแรงเช่นที่เคยเป็น ทว่าครั้งนี้อู๋ฝานไม่หลบเลี่ยง แต่แทงกระบี่เล่มยาวออกไปเป็นเส้นทแยงจากซ้ายไปขวา
“เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!”
กระบี่เล่มยาวของอู๋ฝานและดาบเล่มใหญ่ของเคอซาร์ปะทะกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่การปะทะซึ่งหน้า เนื่องจากคมกระบี่ไถลไปตามแนวดาบของคู่ต่อสู้ ระหว่างไถลไปนั้นมันก็เกิดการเสียดสีกันจนเกิดประกายสายฟ้าสีม่วงแปลบปลาบออกมา
“แปล๊บ! แปล๊บ! แปล๊บ!”
สายฟ้าสีม่วงทะยานโลดแล่นออกมาจากกระบี่ของอู๋ฝาน มันไม่ได้สร้างความเสียหายแก่กระบี่และผู้ใช้วิชา ทว่าเมื่อข้ามไปยังดาบของเคอซาร์ มันกลับเริ่มปรากฏร่องรอยบนตัวดาบ ยิ่งร่องรอยแห่งสายฟ้าปรากฏมากเท่าไหร่ ดาบของเคอซาร์ก็เริ่มมีสายฟ้าสีม่วงออกมาให้เห็น
แกร๊ก!
ขณะสายฟ้าสีม่วงทะยานไปจนถึงด้ามดาบ ทันใดนั้นเองที่ใบดาบส่งเสียงแตกร้าวให้ได้ยิน ดาบเล่มนี้ตนพกพาไปยังสมรภูมิรบทั่วสารทิศและทุกดินแดน มันนำพาความสำเร็จมาให้เคอซาร์หลายต่อหลายครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับแตกออกเป็นชิ้นส่วนและกระจัดกระจายลงไปกับพื้นดิน
เคอซาร์ยังคงถือด้ามดาบเอาไว้ในมือ สายตาจับจ้องด้วยความงุนงงและนิ่งงัน เขายังไม่ทันตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ ดาบของเขาที่ปะทะกับกระบี่ของอู๋ฝานมาแล้วหลายครั้ง เพราะอะไรถึงแตกกระจายออกอย่างกะทันหันได้
เคอซาร์นิ่งงัน แต่อู๋ฝานไม่ใช่ แม้จะประหลาดใจกับพลังอำนาจของวิชากระบี่สายฟ้าอินทนิลเช่นเดียวกัน ทว่าเวลานี้คือโอกาสดีให้ลงมือ เขาไม่มีทางปล่อยมันหลุดลอยไปอย่างแน่นอน
ขณะเคอซาร์ชะงัก กระบี่เล่มยาวในมือของอู๋ฝานก็แทงเข้าสู่ใส่หัวใจ หากมันแทงเข้าไปสำเร็จย่อมไม่อาจรอดชีวิต
แต่แม้เคอซาร์จะชะงักและตกใจ ทว่าร่างกายยังคงมีสัญชาตญาณรับรู้และต่อต้านอันตรายที่คืบคลานเข้าหา ชั่วพริบตาร่างพลันขยับหลบเลี่ยง ถึงไม่อาจหลบพ้นการโจมตี อย่างน้อยก็หลีกเลี่ยงจุดตายไปได้
อู๋ฝานลอบถอนหายใจ เคอซาร์ที่ได้สติพยายามตอบโต้กลับคืนโดยไม่รีรอ
ในเมื่อไม่มีดาบให้ใช้งาน เขาก็คงต้องใช้กำปั้นทุบอีกฝ่ายจนถึงแก่ความตายแทน!
ทว่าช่วงที่กำปั้นของเคอซาร์จะยกขึ้นมาลงมือ เขากลับรับรู้ได้ถึงอาการเหน็บชาไร้ความรู้สึกจากปากแผล ก่อนที่อาการเหน็บชาดังกล่าวจะโลดแล่นไปทั่วร่างกาย แขนของเขาสั่นอย่างไม่อาจควบคุม ส่วนเรื่องการโจมตีตอบโต้อู๋ฝานนั้น เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ชั่วพริบตานี้เองที่ทั้งอู๋ฝานและเคอซาร์ต่างเห็นและประหลาดใจ ว่ามันมีสายฟ้าสีม่วงโลดแล่นบริเวณปากแผลของเคอซาร์พร้อมกับเผาไหม้ พื้นที่บริเวณใกล้เคียงปากแผลเริ่มโดนผลกระทบ จนสุดท้ายมันถูกเผา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นบาดแผลสีม่วงที่มีเลือดไหลทะลัก
“อั่ก!” เคอซาร์อ้าปากราวคิดจะกล่าวอะไร แต่สุดท้ายที่ออกมาไม่ใช่คำพูด เรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของเขาไปมากมายนัก และไม่ทราบด้วยซ้ำว่าสายฟ้าสีม่วงเหล่านี้คืออะไรกันแน่ ตอนแรกมันทำลายอาวุธของเขา ภายหลังยังแผดเผาผิวหนัง พลังอำนาจนี้แข็งแกร่งจนมันไม่อาจต้านทาน
อู๋ฝานเองก็ชะงักไปเช่นกัน แม้จะทราบมาก่อนว่าวิชากระบี่สายฟ้าอินทนิลเป็นถึงระดับสวรรค์ ยังไงก็ไม่มีทางมีพลังอ่อนด้อย แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดผลลัพธ์แบบนี้ขึ้น
ชายหนุ่มเป็นเพียงขอบเขตมืดขั้นสูงสุด วิชากระบี่สายฟ้าอินทนิลก็ฝึกแค่ขั้นที่หนึ่ง ด้วยปัจจัยเหล่านี้ไม่มีทางจะชักนำพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ออกมาสำแดงได้ แต่แม้แบบนั้น สิ่งที่ได้เห็นตอนนี้ก็ยังมากพอที่จะทำให้เขาตื่นตกใจอย่างที่ไม่เคยเป็น
“วิชาระดับสวรรค์แข็งแกร่งแบบนี้นี่เอง” อู๋ฝานลอบถอนหายใจก่อนจะแทงกระบี่ใส่เป้าหมายอีกครั้งหนึ่ง
สร้างโอกาสได้แล้วก็ต้องฉกฉวย!
ชายหนุ่มไม่มีความเห็นใจแก่ศัตรูแต่ประการใด ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อาจตอบโต้ เขาก็ยิ่งยินดีและไม่คิดปล่อยโอกาสนี้หลุดลอย เพื่อจะได้จบชีวิตอีกฝ่ายให้สิ้นเรื่องสิ้นราวซะที
…………….
Comments