สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 27
“อดทนไว้ อีกนิดเดียว ถ้านายหลับนายตายแน่ ลืมตาไว้”
บนเปลหามมีทหารที่แขนขาดและกำลังคร่ำครวญและหอบ
เพื่อนทหารเฟอร์เรียสปิดแผลด้วยสายรัดเป็นการปฐมพยาบาลและกดอีกมือไว้ใต้รักแร้ของแขนที่เลือดออกเพื่อห้ามเลือด
บนต้นแขนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นวงที่เกิดจากเวทมนตร์น้ำ หอกน้ำแข็ง พวกเขาต่อสู้อย่างดุเดือดกับกองพันทหารม้าจาฟฟ์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน และชนะอย่างฉิวเฉียด ปัญหาคือราคาของมัน
มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และมีจำนวนเท่าหรือมากกว่านั้นที่ได้รับบาดจ็บ สหายของทหารเฟอร์เรียสที่ซึ่งอยู่บนเปลหามเป็นอย่างหลัง ยังมีความเป็นไปได้ที่เขาจะรอดซึ่งแตกต่างจากพวกที่ได้เผยอวัยวะภายในของพวกเขาออกมาหรือถูกโจมตีในจุดสำคัญอื่นๆ
“ไม่มีนักเวทย์รักษา!? เลือดเขาออกเยอะมากแล้ว ถ้ามันไม่หยุดตอนนี้เขาจะตาย!!”
ทหารเฟอร์เรียสแผดเสียงออกมา แต่คำตอบที่ได้นั้นไร้ปรานี
“พวกเขาหมดมานาแล้ว นักเวทย์รักษาไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไปแล้ว”
“ขอโทษนะ มันเป็นไปไม่ได้แล้ว”
เทหารที่รีบไปที่ฐานและมองหานักเวทย์รักษา แต่พวกเขาทั้งหมดใช้มานาหมดแล้วในการรักษาบาดแผลร้ายแรง
“ไม่มีผู้ใช้เวทย์รักษาอยู่เลยเหรอ.”
ชายคนนั้นดูเหมือนจะไม่มีแรงและเลือดเพียงพอ ถ้าเลือดยังไหลจะต้องทำการจี้ด้วยเวทมนตร์ไฟ แต่มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเสียชีวิตจากอาการช็อก แต่ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว เลือดยังคงไหลออกมาจากแผลที่กดไว้
“บ้าเอ้ย มีเวลาไม่มากแล้ว”
ทหารเริ่มมองหานักเวทย์ไฟ แต่แล้วอัศวินของอาณาจักรไครซิทที่อยู่ใกล้ๆก็หยุดทหารเฟอร์เรียส
“ฉันสามารถให้การรักษาได้นะ ตามฉันมา”
“จะ-จริงเหรอ?”
ทหารตามอัศวินไปอย่างเร่งรีบ เป็นที่ว่างที่มีเต็นท์อยู่ท่ามกลางเกวียนมากมาย มีการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ธรรมดา อัศวินติดอาวุธครบมือสิบสองคนกำลังเฝ้าระวังอยู่
อัศวินที่อยู่ในภาคีอัศวินเรฮาเซนเปิดปากกับทหารที่กำลังมองมาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เอาดาบไว้ที่นี่”
มอบดาบให้กับอัศวินที่เอื้อมมือออกมาและก้าวเข้าไปในเต็นท์ที่น่าสะพรึง
มันเป็นสถานบำบัดตามที่คุณคาดไว้ในสนามรบ มีคราบเลือดติดเต็มไปหมดและทิ้งกลิ่นคาวไว้ ทหารเฟอร์เรียสที่หายใจสูดอากาศก็รู้สึกอึดอัด
“เอาเขานอนไว้ตรงนั้น”
เป็นร่างหนึ่งที่ปรากฏต่อหน้าทหารเฟอร์เรียสที่ทำตามคำแนะนำโดยไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของความรู้สึกไม่สบาย
สิ่งที่ทหารเฟอร์เรียสเห็นคือเด็กสาวที่มีดวงตาและผมสีดำที่หาได้ยาก ดวงตากลมโตที่อ่อนโยนของเธอหรี่ลงอย่างมากและผมยาวของเธอถูกมัดไว้เพื่อไม่ให้ขวางการรักษา
ทหารเฟอร์เรียสรู้สึกว่าเด็กสาวคนนั้นไม่ได้อยู่ในสนามรบ แน่นอนว่าเธอจะต้องเป็นผู้ช้วยหรือผู้ฝึกหัด ดังนั้นเขาจึงเรียกอัศวิน
“ข-ขอโทษนะ นักเวทย์รักษาอยู่ไหน?”
“เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรือไง”
แสงอุ่นๆ รั่วไหลข้างในเต็นท์ก่อนที่อัศวินจะพูดจบ ทหารเฟอร์เรียสหมดคำพูด เสียงของเขากลับมาเมื่อเขาได้เห็นบาดแผลของสหายของเขาปิดลงและแม้แต่ส่วนที่ขาดหายไปก็กลับมา
“เป็นไปไม่ได้ มันรักษาส่วนบกพร่องได้!?”
“ด้วยสิ่งนี้อาการบาดเจ็บจะเรียบร้อย นายเห็นไหมว่ายังไม่มีใครตายในหมู่ทหารที่เข้ามาเลย”
อัศวินพูดกับทหารเฟอร์เรียสอย่างภาคภูมิใจ เมื่อทหารเฟอร์เรียสหันมามองรอบๆ พวกเขาทั้งหมดหายใจด้วยใบหน้าที่สงบแม้ว่าจะมีเลือดเปือนอยู่ก็ตาม
“ขอบคุณ ขอบคุณมาก! อย่างกับนักบุญแน่ะ”
นักเวทย์รักษาสาวหัวเราะทหารเฟอร์เรียสอยู่ครู่หนึ่งแล้วกลับมามีสมาธิกับการรักษาอีกครั้ง
ไม่ใช่ครั้งเดียวหรือสองครั้งที่ทหารที่ควรจะตายได้รับการช่วยเหลือในวันนั้น และเลี่ยงไม่ได้ที่ข่าวลือจะแพร่กระจายไปว่ามีผู้รักษาภาคสนามในอาณาจักรไครซิท (battlefield healer น่ะ)
◆
ซูกิโมโตะ อายาเนะ เป็นนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาที่เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยม เพลิดเพลินไปกับวัยเยาว์ของเธอ จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอได้เห็นเลือดเพียงระหว่างซ้อมและจังหวะที่โชคร้ายเท่านั้น และเธอไม่เคยเห็นใครต้องตาย
ญาติของเธอหลายคนเป็นหมอและพยาบาล และอายาเนะก็กำลังเรียนเพื่อที่จะเป็นพยาบาลในอนาคต
จนกระทั่งเธอถูกส่งไปต่างโลกกับเพื่อสมัยเด็ก ตอนนั้นชะตาของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างเด็ดขาด
สับสนกับวัฒนธรรม ประเพณีและสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นบางอย่างทีปกติ หลังจากฝ่าฟันมันมา ในที่สุดอายาเนะได้เริ่มปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่นี้และได้รับหน้าที่ของเธอ
ไม่เหมือนเพื่อนสมัยเด็กของเธอ ยูโตะและมาโคโตะ อายาเนะไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้
อายาเนะที่ทำได้แต่มองทั้งสองปกป้องผู้คนจากมอนสเตอร์และได้รับบาดเจ็บ และเธอได้ตกลงไปในความรู้สึกไร้ประโยชน์และหงุดหงิด แต่เป็นเพื่อสมัยเด็กทั้งสองคนที่ช่วยเธอไว้
มันเป็นความบังเอิญที่พรสวรรค์สำหรับเวทมนตร์รักษาได้เบ่งบานขึ้น เมื่อตอนที่ยูโตะได้รับบาดเจ็บจากการปราบปรามโจร อายาเนะกดที่ไหล่ของอย่างแรงแล้วเวทมนตร์รักษาก็ได้เปิดใช้งานโดยไม่ต้องร่าย
มันไม่ถูกกับคาแรคเตอร์ของเธอ แต่อายาเนะก็หลั่งน้ำตาเมื่อเธอสามารถช่วยเพื่อนๆและคนที่กำลังทุกข์มรมานจากความเจ็บปวดได้ ไม่ต้องถึงกับเพื่อนสมัยเด็กของเธอ อัศวินทั้งหมดที่อยู่ในภาคีอัศวินเรฮาซานก็ยินดี
อายาเนะพบกับความสุขในหน้าที่ของเธอ เธออุทิศตนเพื่อสนับสนุน ด้วยเวทมนตร์รักษาของเธอ พวกเขาสามารถขูดดินแดนปีศาจและปราบมังกรทะเลสาบได้
สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปเมื่อประเทศรอบๆได้เปิดสงครามพร้อมกัน ในการต่อสู้ระหว่างเฟอร์เรียสและจักรวรรดิไฮเซิร์ค
ตามเรื่องราวที่อายาเนะได้ยินมาจากอัศวิน จักรวรรดิไฮเซิร์คมีอำนาจทางทหารที่ยิ่งใหญ่และอาจกล่าวได้ว่าเป็นประเทศที่ทรงอำนาจที่ทำสงครามรุกรานหลายครั้งในนามของ “ศึกป้องกัน”
หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการจัดการ ประเทศรอบๆจะถูกกลืนกินในทางกลับกัน พันธมิตรสี่ดินแดนที่มีศูนย์กลางอยู่บนเกาะที่อยู่ในทะเลสาบขนาดใหญ่ จะทำลายจักรวรรดิไฮเซิร์ค
ตามตรง อายาเนะเกลียดสงคราม เธอไม่ต้องการให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือไปทำร้ายผู้อื่น เหนื่อสิ่งอื่นใดเธอไม่ต้องการให้เพื่อนสมัยเด็กทั้งสองและอัศวินต้องตกอยู่ในอันตรายและสึกหรอทั้งกายและใจ
อายาเนะรู้ว่าพวกเขายังคงต้องสู้ เธอยังเข้าใจว่าโลกนี้มีด้านที่ยังไม่บรรลุและรุนแรง
วันแล้ววันเล่าอายาเนะยังคงทำการรักษาในเต็นท์ต่อไป มีหลายครั้งที่หัวใจของเธอต้องเจ็บปวด จากการเห็นอาการบาดเจ็บที่เกินกว่าจะช่วยชีวิตได้และชีวิตก็ได้หายไป มันทำให้เธอต้องการปิดตา หัวใจของเธอแทบแตกสลาย
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าที่สงบของคนเจ็บ คำพูดขอบคุณของเหล่าทหาร และเพื่อนๆของเธออนุญาตให้อายาเนะทำการรักษาในสนามรบต่อไป
“ก่อนอื่น การรักษาจับลงแล้ว”
ไมอา นักเวทย์รักษาที่เป็นผู้ช่วยในการรักษาที่พูดกับอายาเนะ
“ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ ฉันมีแค่พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งเท่านั้นและขาดประสบการณ์ เหตุผลที่ฉันสามารถรักษาพวกเขาได้เป็นเพราะไมอาซัง”
แม้ว่าอายาเนะจะมีความรู้เรื่องการรักษา แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ามือสมัครเล่นมากนัก อายาเนะรู้ดีว่าเธอแค่ทำตามคำสั่งของไมอาเท่านั้น เช่นการเตรียมพร้อมและรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเหมาะสม
“ท่านอายาเนะอย่าได้ประเมินตัวเองต่ำเกินไป โปรดมั่นใจมากขึ้นเถอะค่ะ”
ไมอาพูดอย่างเจ็บปวด
“อ้อ ใช่ ยูโตะซังและมาโคโตะซังได้ไปที่แนวหน้าค่ะ”
“พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหมคะ”
“ค่ะ พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทหารและอัศวินต่างยกย่องพวกเขาที่ทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อทหารม้าจาฟฟ์ที่สร้างปัญหาให้พวกเขาตั้งแต่เข้าสู่สงครามได้”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของไมอา อายาเนะก็หัวเราะออกมา
“บางทีฉันควรจะไปพบพวกเขาหลังจากเก็บกวาดเสร็จแล้วล่ะค่ะ”
“มันเป็นความคิดที่ดีค่ะ โปรดให้ฉันไปด้วยนะคะ”
แม้ว่าเวทมนตร์รักษาของอายาเนะจะอยู่นอกเหนือตรรกะ แต่มันก็ไม่ได้มีอำนาจไปซะทุกอย่าง มีหลายๆสิ่งเช่นอุปกรณ์สำหรับปิดปากแผล อ่างที่ใช้สำหรับทำความสะอาดและผ้า อายาเนะคิดว่าการทิ้งการทำความสะอาดให้กับไมอาที่ช่วยเหลือเธอในการรักษาเป็นเรื่องหยาบคาย ดังนั้นเธอจึงช่วยไมอาด้วยสิ่งอื่นๆ เช่นการทำความเข้าใจอุปกรณ์และตรวจสอบสภาพ
ไมอาเริ่มล้างอุปกรณ์ด้วยเวทย์น้ำและอายาเนะก็เช็ดสิ่งสกปรกบนอุปกรณ์แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเวทย์
ทำอยู่เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ทำเสร็จ เมื่ออายาเนะออกไป ก็พบกับเพื่อนสมัยเด็กทั้งสอง
“ได้จังหวะดีจริงๆ ฉันกำลังว่าจะไปพบเธอพอดีเลย”
“เพราะการประชุมเสร็จแล้ว โจฮานน่าซีงและคนอื่นๆกำลังคุยถึงกลยุทธ์อยู่ เราเลยถูกบอกให้ไปพักก่อนน่ะ”
“วันนี้เหนื่อยมากเลย ทหารม้าจาฟฟ์ทุกๆคนแข็งแกร่นเกินไปแล้ว มันไม่ได้ขนาดระดับอัศวินแต่มันก็คล้ายๆกัน”
มาโคโตะพูดออกมาและดูเหนื่อย
“ใช่ พวกมันลื่นผ่านเวทมนตร์ของพวกเราแล้วฟันใส่คนอื่นมากมาย โจฮานน่าซังและคนอื่นๆทำให้พวกมันหันกลับไปใด้ แต่ก็นั่นแหละ…ฉันเหงื่อตกเลยล่ะ”
“อื่ม…น่าทึ่งดี”
ยูโตะพูดออกมาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ในความจริง เมื่อเขาเห็นทหารม้าใกล้เข้ามาขณะที่โปรยอวัยวะภายในไปทั่ว เขารู้สึกหวาดกลัว
หากไม่มีการฝึกและสหายอัศวินที่อยู่ที่นั่น ยูโตะก็คงจะรู้สึกหกหู่มากขึ้น แตกต่างจากการต่อสู้กับพวกปีศาจ เขาตระหนักว่าเขาได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั้งกายและใจ
เมื่อหัวข้อกำลังจะไหลไปสู่ทิศทางของการต่อสู้ ไมอาที่อยู่ด้านหลังอายาเนะก็เปิกปาก
“ทั้งสองกินอะไรหรือยังคะ”
“ไม่ ยังเลย”
“ใช่เรายังไม่ได้กินอะไรเลย”
“กองทัพเฟอร์เรียสมีอาหารมากมาย เห็นใด้ชัดว่าในบรรดาคนที่ได้รับการช่วยเหลือจากพวกคุณทั้งสามมีคนที่เป็นชนชั้นสูงและได้ให้อาหารเราเป็นการขอบคุณ มีทั้งขนมปังขาว ชีส และไส้กรอกด้วยนคะ”
” ” ” เอ๊ะ!? ” ” ”
ทั้งสามที่ได้ยินสิ่งนั้นเดินเข้ามาโดยเอนไปข้างหน้า กิจวัตรการกินของพวกนั้นแย่ลงเรื่อยๆตั้งแต่ที่พวกเขามาที่โลกนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าร่วมสงคราม
นอกเหนือจากความจริงที่ว่าพวกเขายังอยู่ในวัยเติบโต ทั้งสามใช้เวทมนตร์ไปหลายครั้งดังนั้นพวกเขาจึงต้องการอาหารจำนวนมากในท้องของพวกเขา บางทีความต้องการแคลอรี่ของพวกเขาอาจเทียบได้กับนักรบตัวใหญ่ล่ำๆ
“อยากกิน อยากกิน!!”
“น-เนื้อและขนมปังขาว!? ทุกวันมานี้เราได้กินแต่ถั่วกับมันฝรั่งมาตลอดเลย”
“ฉัน..ก็อยากกิน”
ผู้กล้าทั้งสามที่ซึ่งชื่อเริ่มดังก้องในประเทศรอบๆก็สามารถแสดงปฏิกิริยาที่เหมาะสมกับวัยได้เช่นกัน เมื่อเห็นเช่นนั้นไมอาก็ยิ้มและในขณะเดียวกันก็กังวลว่าพวกเขาจะถูกล่อลวงไปได้อย่างง่ายดาย
―――――――――――――――――――――――――――――――――――――――――
จบ –
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
Comments
สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 27
“ทำลายมันซะ!! กองมันไว้!!! ยังไงก็เอามันมาไม่ได้อยู่แล้ว”
วอล์มทุบถุงใส่หินที่เขาแบกอยู่บนหลังลงพื้น
หัวหน้าหน่วยกำลังรื้อถอนรถเข็นบรรทุกแร่ นอกจากนี้วัสดุซ่อมอุโมงค์และอาคารสำรับคนงานเหมืองจะต้องถูกทำลายและกองไว้บนถนน
สมาชิกหน่วยคนอื่นๆ ขุดพื้นด้วยพรั่วและเทน้ำลงบนทางน้ำสำหรับแร่ ทำให้พื้นกลายเป็นเหมือนกับโคลน
เนื่องจากการต่อสู้และการก่อวินาศกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหล่าทหารรวมถึงวอล์มจึงสกปรกเนื่องจากของเสียจากร่างกายและเหงื่อและฝุ่น อยู่ทั่วร่างกายของพวกเขา
“อย่าให้เสาล้มลง ฝังมันครึ่งหนึ่งแล้วตั้งมันไว้ แค่นั้นก็จะเป็นสิ่งกีดขวางแล้ว”
จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อน หน่วยของดูเวยยังคงยึดตำแหน่งป้องกันชั่วคราวด้วยเศษวัสดุและอุปกรณ์ แต่การโตมตีจากกองกำลังที่มากกว่าของพวกเขายังคงดำเนินต่อไปและในที่สุดก็ถึงขีดจำกัดของพวกเขา
กองพันพยายามที่จะซื้อเวลาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยทำลายถนนเลียบภูเขาขณะที่ล่าถอย พวกเขายังคงทำแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างรีบร้อน
กองทัพสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ยังคงมีผู้ใช้เวทมนตร์ธาตุดิน แน่นอนว่าจะซ่อมทางได้ด้วยระยะเวลาอันสั้นและพยายามที่จะเดินทัพอีกครั้ง
ผู้บาดเจ็บและเสบียงถูกรวมไว้ที่จุดนัดพบที่ด้านหลัง อดีตพื้นที่ชายแดนไมยาร์ดที่ซึ่งถูกครอบคลุมด้านหนึ่งด้วยดินแดนปีศาจที่ทรงพลัง เป็นคอขวดและทำหน้าที่เป็นพื้นที่ป้องกัน
วอล์มไม่ได้หยุดปฏิบัติงานแม้ว่าเขาต้องการที่จะสบถและด่าก็ตาม เขารู้ว่าแม้แต่กองสิ่งกีดขวาง ด้วยก้อนดิน ก็สามารถชะลอทหารศัตรูหลายพันและสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้
“หยุด หยุดงานซะ! ทหารลิเบอริโต้จะมาแล้ว!! ถึงเวลาต้องถอนตัวแล้ว”
หัวหน้าหมวดโคซูรุพร้อมด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนประกาศถอนตัวสู่รอบๆ ทันทีที่ได้รับคำสั่งทหารก็หยุดงานและถือกระเป๋าไว้บนหลังแล้วถอนตัว
วอล์มยังอยู่ท่ามกลางหมู่ผู้คนจากหมวดอื่นๆที่จะถอนตัว
“โอ้ย เกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นๆ”
เมื่อวอล์มเรียกหาหนึ่งในนั้น ชายคนนั้นก็ตอบราวกับกำลังจะกรีดร้อง
“พวกเขาหายไปหมดแล้ว! ไอ้พวกนั้นโจมตีด้วยเวทมนตร์มากมาย ถนนยังไม่ได้ถูกซ่อม แต่ในครึ่งชั่วโมงพวกมันจะท่วมมาจนที่นี่ เราต้องรับไหนให้เร็ว”
แล้วทหารก็ได้วิ่งลงมาจากเหมืองครึ่งหนึ่ง
“เฮ้ย เร็วเข้า ถ้าช้าจะโดนแทงตูดเอานะเว้ย”
โจเซ่เรียกขณะที่สวมชุดเกราะ เมื่อได้มีส่วนร่วมในงานก่อสร้างเำกราะจะกีดขวางการเคลื่อนไหวและทำให้แรงลดลง ดังนั้นในวันนี้วอล์มจึงดูเหมือนที่เขาเคยเป็นในฐานะชาวนา
วอล์มสวมสนับเข่าที่วางอยู่บนพื้นและส่วนอื่นๆจากส่วนล่างของร่างกายและหมวกกับกระเป๋าบนหลังของเขา ทั้งหมดพร้อมแล้วยกเว้นทั้งสองที่มาใหม่
หัวหน้าดูเวยที่ได้เห็นนัวร์และบาริโต้มารวมตัวกับหน่วยในประมาณ 10 วินาทีต่อมา ก็มองไปที่พวกเขาและพูดว่า
“ไม่มีไอ้โง่คนไหนหายไปใช่มั้ย? เอาหล่ะ ลาก่อนไอ้เหมืองเวร ไปกันเถอะ”
ไม่มีใครคัดค้าน เพื่อตอบสนองต่อเสียงของหัวหน้าหน่วย ทั้งหน่วยได้ออกจาเหมืองในครั้งเดียว
◆
ในฐานะของหัวหอกแห่งจักรวรรดิไฮเซิร์ค กองพันทหารม้าจาฟฟ์ที่ซึ่งยังคงสนับสนุนจากอันตรายรอบๆ ได้ใช้ประโยชน์จากความคล่องตัวและแรงกระแทกอย่างเต็มที่
พวกเขาโจมตีส่วนสำคัญของศัตรูขณะที่กำลังโจมตีด้านข้าง ได้ซื้อเวลาอันมีค่า แต่ความเสียหายก็ไม่ได้เล็กน้อย
จาฟฟ์ที่เป็นผู้บัญชาการทหารม้า ได้กระจายกองพันเป็นหมวด และทุ่มเทให้กับการขยายเวลาขณะที่โจมตีก่อกวน และพลิกความด้อยกว่าด้วยกองกำลังขนาดกองร้อยที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อตอนศัตรูติดอยู่ในกับดับ
แต่วันนี้แผนของพวกเขากำลังจะล้มเหลว ในแง่ของจำนวน มีทหารจำนวนมากขึ้นที่ได้สูญเสียไปโดยจากทหารของอาณาจักรไครซิทและเฟอร์เรียส
ปัญหาคือแม้ในกองทัพจักวรรดิไฮเซิร์ค ที่ทหารม้าที่บัญชาโดยจาฟฟ์ถูกเรียกว่ากองกำลังที่แข็งแกร่ง สองหมวดของหัวกะทิล้ำค่าที่ภาคภูมิใจในฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ของพวกเขาได้หายไป
“…พวกมันเป็นผู้มาเยือนจากต่างโลกในปัจจุบันใช่หรือเปล่า”
อาณาจักรไครซิทเป็นที่รู้จักสำหรับผู้มาเยือนและสิ่งของมากมายจากต่่างโลก จาฟฟ์ยังได้รับรายงานถึงข่าวลือเกี่ยวกับผู้มาเยือนเช่นกัน แต่เพื่อให้ชัดเจน มันเป็นมากกว่าข่าวลือ
จากระยะห่างหลายร้อยเมตรมีได้มีแสงจ้าเกิดขึ้นและได้พัดมนุษย์และม้าปลิวออกไปพร้อมกับพื้นดิน เป็นภาพที่จะงดงามจากระยะไกล แต่ในบริเวณใกล้ๆได้มีนรกเกิดขึ้น
ไฟ น้ำแข็ง ลม ดิน และเวทมนตร์ทุกประเภทได้ไล่ตามทหารม้าที่จากไป ไม่มีผู้ใช้เวทมนตร์ในกองพันทหารม้าของเขา ที่มีคนที่มีหนึ่งหรือสองคุณสมบัติจะสามารถทนต่อคุณสมบัติทั้งสี่ได้
“แค่ข่มขู่จากระยะไกลก็พอแล้ว ผู้ใช้เวทและนักธนูจะต้องสนับสนุนทหารม้าที่ออกมา และอย่าเข้าใกล้มากเกินความจำเป็น”
ตามคำสั่งของจาฟฟ์ทหารก็เปิดการโจมตีทั้งหมดในครั้งเดียว เป็น เวทมนตร์และลูกศรที่ลงจอดในระยะไกล แต่ก็เพียงพอที่จะสร้างช่องว่างเพื่อป้องกันการไล่ล่า
มันควรจะเกินพอ แต่ในช่วงกลางของการโจมตี กำแพงดินถูกสร้างขึ้นทันทีและการโจมตีที่เข้าไปถูกสกัดกั้นด้วยเวทมนตร์คุณสมบัติธาตุแสง
ในตอนจบ พวกเขาได้รับเวลาเพียงประมาณ 10 วินาที แต่มันก็เป็นเวลาที่พอแล้วสำหรับกองพันทหารม้าจาฟฟ์ที่หลบหนี ทหารเฟอร์เรียสที่ได้ออกไปอยู่ในจุดที่ไม่ดีได้ยิงธนู แต่ก็ไม่มีทหารม้าคนใดล้มลง
“หมวดที่เหลือถูกเรียกไปที่จุดนัดพบแล้ว ผู้บัญชาการคุณไม่จำเป็นที่จะต้องเสี่ยง….”
เสนาธิการคนหนึ่งที่มากับจาฟฟ์พูดจากหลังม้า จาฟฟ์เป็นหนึ่งในสามผู้บัญชาการแนวหน้าอันดับต้นๆในกองทัพไฮเซิร์ค แต่เสนาธิการทุกคนรู้ว่าเขามีนิสัยที่ชอบไปไกลเกินไปในแนวหน้า
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้จะไปหามัน มันเป็นการเปลืองทหาร”
จาฟฟ์แทบจะไม่เห็นเด็กหนุ่มที่มีคุณสมบัติธาตุแสงที่ทรงพลังและเด็กสาวที่มีเวทมนตร์หลายธาตุ แต่ทั้งสองจะต้องมีอายุมากพอที่จะเข้าร่วมกองทัพจักรวรรดิไฮเซิร์คได้ในฐานะทหารหนุ่ม
“ถ้าฉันไม่ได้เห็นภัยคุกคามแบบนี้โดยตรง ฉันก็ไม่สามารถสั่งการอย่่างถูกต้องได้”
จาฟฟ์เริ่มประเมินความแข็งแกร่งของศัตรู ในแง่ของพลังทำลายมันจะเท่ากับหมวดนักเวทมนตร์สองหมวด นั่นเป็นเพียงแค่มานาของพวกเขา ความสามารถทางกายภาพและบาร์เรียเวทจะต้องค่อนข้างแข็งแกร่งแน่
“ฉันไม่คิดว่าการต่อสู้ระยะประชิดตัวของพวกมันจะเป็นชั่นหนึ่ง แต่ก็ควรพิจารณาถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดไว้”
ตามการคำนวณของจาฟฟ์ วิธีเดียวที่จะฆ่าพวกเขาได้คือการเร่งหมวดทหารม้าสองสามเพื่อเป็นเครื่องสังเวย ปัญหาคือรอบๆ
“แล้ว ภาคีอัศวินเรฮาเซนกำลังเลี้ยงดูเด็กพวกนั้น ฮึ?”
มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝ่าภาคีอัศวินเรฮาเซนไปในขณะที่ต้องเผชิญกับไฟที่ดุเดือด ผมที่ตามมาของการกระจายกองกำลังของเขา กองกำลังของจาฟฟ์นั้นเหลือน้อยกว่ากองร้อย
เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเสียใจที่ได้พลาดไป แต่การมีอยู่ของมันเองก็เป็นเหยื่อเช่นกัน ในฐานะจาฟฟ์ที่ซึ่งล่อเหยื่อมามากมายจนถึงตอนนี้ เขาต้องการหลีกเลี่ยงการถูกตกซะเอง
“สนามรบนั้นไม่ใช่ที่นี่ ผู้บัญชาการเบเกอร์ของเราได้ตั้งเวทีที่เหมาะสมสำหรับมันแล้วในไมยาร์ด เขาจะผิดหวังเอาถ้าฉันไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้”
ไม่ใช่แค่กองพันทหารม้าจาฟฟ์เท่านั้นที่จะเข้าร่วมปาร์ตี้ กองพันทหารราบชั้นยอดลิกูเรียก็จะเข้าร่วมด้วย
ตอนนี้จาฟฟ์ไม่ต้องก้าวไปข้างหน้าก่อนและเต้นรำกับพวกมันเพียงผู้เดียว
“ปล่อยให้พวกมันเข้ามา และเราควรที่จะบอกพวกมันว่า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจะกลับไป”
เสนาธิการที่ดูเหมือนจะเป็นห่วงก็อ้าปากราวกับโล่งใจ หลังจากได้ยินคำพูดของจาฟฟ์
“ฮ่าฮ่า มันเหมือนกับที่คุณพูดเลย ผู้บัญชาการ…เอาล่ะ ได้เวลาแล้วที่เราถึงขีดจำกัด ถอนตัวได้”
หลังจากยืนยันว่าลูกน้องทั้งหมดของเขาถอนตัวสำเร็จแล้ว จาฟฟ์ก็หันม้าของเขาไปที่จุดนัดพบ
เวทมนตร์จากระยะไกลก็ได้เริ่มตงลงมาในพื้นที่ใกล้ๆจาฟฟ์ แต่ก็ไม่มีอันไหนที่ระเบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
―――――――――――――――――――――――――――――――――――――――――
จบ – จะเห็นได้เลยว่าคุณภาพทหารและแผนของไฮเซิร์คนี่โคตรเถื่อน แต่ก็นะประเทศอื่นเขาเน้นบัค ถ้าไม่ติดว่ามันมีบัคไฮเซิร์คก็คงไม่ต้องลำบาก
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
Comments