หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 27 : วิชาดาบสะบั้นสามชีพจร

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 27 : วิชาดาบสะบั้นสามชีพจร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย อ่านนิยาย

ตอนที่ 27 : วิชาดาบสะบั้นสามชีพจร

“งั้นถ้าข้าทำไม่ได้ ข้าจะสอนวิชาจิตดาบคู่ โดยที่เจ้าไม่จำเป็นต้องให้ข้าเป็นอาจารย์ด้วย เอามั้ยล่ะ?”

โจวฉวนจีถอนหายใจ ศิษย์คนนี้ของเขาสมควรได้รับบทเรียนจากการที่ไม่เชื่อในตัวเขาซะบ้าง

ดวงตาของเสี่ยวจิงหงเปล่งประกาย และเขาก็พยักหน้ารับทันที

โดยไม่ต้องพูดอะไร เขาก็ดึงดาบออกมา และเริ่มสาธิตวิชาดาบให้ดู

มุมปากของโจวฉวนจีกระตุกเล็กน้อย ไอหมอนี่มันไม่ได้อยากเป็นศิษย์ด้วยใจจริงนี่หว่า

เขาเลิกคิดอะไรต่อ ก่อนจะเริ่มมุ่งสังเกตเสี่ยวจิงหงอย่างเต็มที่แทน

เจียงฉือน้อยเดินไปหาน้องสอง และอาใหญ่ก็ร่อนลงมาอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นด้วย

ทั้งสองคน และ 2 วิหคมังกรมองไปยังเสี่ยวจิงหงโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ต้องยอมรับเลยว่า สมกับที่ได้ฉายา จอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ จริง ท่วงท่าในวิชาดาบของเขาทั้งสง่างามและทรงพลัง ซึ่งมันช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการฝีกให้กับผู้คนจริง ๆ

เจ้าต้องไม่ต่อสู้กับศัตรูด้วยความป่าเถื่อน!

การเคลื่อนไหวดาบของเสี่ยวจิงหงไม่ได้เร็วมากนัก แต่นั่นก็เพียงพอที่จะกระตุ้นความคิดเช่นนั้นให้โจวฉวนจีรู้สึกภายในใจได้

วิชาดาบนี้ประกอบไปด้วย 49 กระบวนท่า โดยแต่ละกระบวนท่านั้นทั้งต่อเนื่องและสร้างการโจมตีที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา และยังสามารถโจมตีศัตรูได้ทุกทิศทางโดยไร้ซึ่งช่องโหว่ด้วย

เผื่อกรณีที่โจวฉวนจีจะจำไม่ได้ เสี่ยวจิงหงเลยตั้งใจว่าจะสาธิตวิชานี้ 2 ครั้ง เขาทำให้ช้าพอทั้ง 2 ครั้งเพื่อให้โจวฉวนจีจำได้

แต่เมื่อเสี่ยวจิงหงกำลังจะเตรียมสาธิตวิชาอีกครั้ง โจวฉวนจีก็พลิกมือขวาของเขา และเอาดาบเด็ดสุกรออกมา

การฝึกด้วยดาบเด็ดสุกรทำให้ตัวเขาดูน่าทึ่งมา

โจวฉวนจีที่ตอนนี้อายุ 7 ขวบ และอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 2 แล้ว โดยปกติ การฝึกดาบจะไม่ยากเท่าเมื่อก่อน

เสี่ยวจิงหงรู้สึกตกใจ ก่อนจะดึงดาบลงช้า ๆ

“ใช่แล้ว คนตรงหน้าข้าเป็นถึงคนที่สามารถใช้ 2 จิตดาบได้พร้อมกัน ยังไงก็ต้องมีพรสวรรค์และจำทุกสิ่งที่ผ่านตาได้อยู่แล้วสิ”

เสี่ยวจิงหงส่ายหัวพลางยิ้มแห้ง ต้องไม่เอาเจ้าเด็กนี่ไปเทียบกับเด็ก 7 ขวบธรรมดาทั่วไปสิ

ระหว่างความพยายามในรอบแรก การเคลื่อนไหวดาบของเขายังช้ากว่าเสี่ยวจิงหงนัก

เสี่ยวจิงหงไม่ได้พูดหยอกอะไร แต่เริ่มพูดแนะนำถึงวิชาดาบให้ฟัง “นี่คือวิชาดาบสะบั้นสามชีพจร เมื่อเจ้าฝึกฝนจนสำเร็จลุล่วง เจ้าจะสามารถสะบั้นทุกช่องทางทวารที่สำคัญของร่างอีกฝ่ายอย่างรดวเร็วได้”

หลังจากที่ฝึกรอบแรกเสร็จ โจวฉวนจีก็เริ่มฝึกรอบที่สองต่อ โดยทำได้เร็วกว่ารอบแรกมาก

เสี่ยวจิงหงมองไปยังเจียงฉือน้อยและพูดว่า “แล้วนี่เจ้าทั้งสองมาจากตระกูลหรือสำนักไหนกันล่ะ?”

ด้วยพรสวรรค์แบบนี้ของโจวฉวนจี พวกเขาต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดามากแน่นอน

เจียงฉือน้อยเบ้ปากก่อนจะตอบว่า “ข้าบอกเจ้าไม่ได้หรอก”

นี่เป็นอะไรที่โจวฉวนจีเคยสอนเธอไว้ ต้องเก็บความลับไว้จากคนอื่นเสมอ

เสี่ยวจิงหงยิ้มพลางส่ายหัว และไม่ได้พูดอะไรต่อ

สายตาของเขากลับไปจดจ่ออยู่กับโจวฉวนจีอีกครั้ง

ถึงท่วงท่าของโจวฉวนจีจะถูกต้อง เเต่การจะบรรลุจิตดาบได้นั้นก็ยังคงเป็นเรื่องเพ้อฝันอยู่ดี

การจะบรรลุจิตดาบจำเป็นต้องเข้าใจถึงแก่นแท้ ดังนั้นการฝึกเพียงอย่างเดียวจึงไม่อาจทำได้

รอบที่ 3

รอบที่ 4

รอบที่ 5

ความเร็วของเขาเริ่มมากขึ้นและมากยิ่งขึ้น ภายในครึ่งชั่วโมง เขาก็ฝึกไปได้ถึง 10 รอบแล้ว

และเสี่ยวจิงหงก็เริ่มแสดงสีหน้าเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนว่า โจวฉวนจีใกล้จะสำเร็จวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรได้แล้วเลยล่ะ?

รอบที่ 15

รอบที่ 20

รอบที่ 30

รอบที่ 40

รอบที่ 50

สำเร็จวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรได้ระดับนึงแล้ว!

เสี่ยวจิงหงเบิกตากว้าง เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง

กลับกัน เจียงฉือน้อยที่เห็นจนชินแล้ว ก็นอนพิงหลังสองพลางหาวออกมา

จู่ ๆ ความเร็วดาบของเขาก็เพิ่มมากขึ้น จนสามารถฝึกหนึ่งรอบจบได้ภายใน 10 ลมหายใจเท่านั้น

หลักพื้นฐานของวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรคือ ความเร็ว และ ความแม่นยำ เพื่อที่จะสะบั้นทุกช่องทางทวารที่สำคัญของร่างอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็วที่สุด หากใช้ร่วมกับปราณกระบี่ด้วยแล้ว ก็สามารถตัดได้แม้กระทั่งภูเขาหรือแหวกแม่น้ำเลยทีเดียว

หลังจากครบ 100 รอบ โจวฉวนจีก็สำเร็จวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรได้อีกขั้นหนึ่ง

เสี่ยวจิงหงแทบจะอ้าปากค้างจนคางลากถึงพื้น

ไอเด็กบ้านี่มันเป็นใครกันแน่?

นี่เขาเป็นจักรพรรดิดาบสมัยโบราณกลับชาติมาเกิดรึไง?

หรือจริง ๆ แล้วเขาสำเร็จวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรด้วยตัวเองมาก่อนแล้วกันแน่?

โจวฉวนจียังคงฝึกต่อไป และสามารถฝึกครบ 49 กระบวนท่าได้ภายใน 10 ลมหายใจเท่านั้น

ยิ่งเขาฝึกมากเท่าไหร่ เวลาที่ใช้ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น

เมื่อเขาฝึกไปได้ครบ 120 รอบ เขาก็สามารถฝึกเสร็จได้ภายใน 7 ลมหายใจเท่านั้น

เขาเคลื่อนไหวดาบด้วยแรงที่มากพอจะสร้างลมแรงและพัดฝุ่นบนหน้าดินได้ อาใหญ่และน้องสองก็ถูกกดดันให้ถอยออกเช่นกัน

เมื่อครบ 150 รอบ โจวฉวนจีก็ใช้เวลาเพียง 3 ลมหายใจเท่านั้น

และเมื่อครบถึง 199 รอบ โจวฉวนจีก็ใช้เพียงลมหายใจเดียวเท่านั้น

200 รอบ!

เมื่อหลับตาลงทั้งสองข้าง เขาก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วทั้ง 49 กระบวนท่าภายในพริบตา

นี่มันจิตดาบ!

จิตดาบสะบั้นสามชีพจร!

ดาบเด็ดสุกรที่อยู่ในมือของเขากลายเป็นลำแสงสีดำ และสร้างภาพซ้อนจำนวนนับไม่ถ้วน ปราณกระบี่ที่ออกมาในรูปร่างกรงเล็บ 3 เส้นถูกฟาดตรงไปข้างหน้า และสลายหายไปหลังจากที่ไปไกลกว่า 100 หลา

เจียงฉือน้อยเบิกตากว้างและรู้สึกชื่นชม เขาเท่สุด ๆ ไปเลย!

เสี่ยวจิงหงตกอยู่ในความสับสน

เขาบรรลุจิตดาบได้จริง ๆ…

แถมยังในเวลาสั้น ๆ อีก…

จริง ๆ แล้วเวลาผ่านไปนานแค่ไหนกันนะ?

ห๊ะ 4 ชั่วโมง?

นี่ยังไม่ถึงค่ำด้วยซ้ำ…

โจวฉวนจีเก็บดาบกลับไป ก่อนจะเดินไปหาเสี่ยวจิงหง และพูดว่า “ข้าดูเป็นยังไงบ้างล่ะ?”

ใบหน้าของเขาดูนิ่งมาก แต่ในใจกำลังดีใจโลดเต้นอยู่

ช่างเป็นวิชาดาบที่สุดยอดอะไรขนาดนี้!

มันทรงพลังยิ่งกว่าวิชาดาบกระเรียนขาวหรือวิชากระบี่เพลิงกัลป์ซะอีก!

แค่วิชานี้ก็มากพอที่จะเพิ่มพลังการต่อสู้ให้เขาได้พอตัวเลย

เสี่ยวจิงหงสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางกำหมัดแน่น ก่อนจะพูดว่า “ท่านอาจารย์ผู้น่านับถือ นั่นช่างน่าประทับใจจริง ๆ”

จากอาจารย์ธรรมดา ๆ กลายเป็นอาจารย์ที่น่านับถือ แค่ท่าทีของเขาก็ชัดเจนพอแล้ว

เขายอมรับโจวฉวนจีจากใจจริง

หลังจากที่มีชีวิตมาหลายทศวรรษ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้พบกับคนที่มีความสามารถมากกว่าเขาในวิถีกระบี่

และคน ๆ นี้ไม่ได้เพียงแค่แข็งแกร่งเท่านั้น

เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโจวฉวนจีเป็นแค่เด็กอายุ 7 ขวบเท่านั้น

เด็กคนนี้ต้องเป็นคนที่ทรงพลังอำนาจจากสมัยโบราณกลับชาติมาเกิดอย่างแน่นอน

เขาเคยได้ยินตำนานมากมาย และรู้ว่าเมื่อผู้ทรงอำนาจทั้งหลายได้สิ้นอายุขัยไป วิญญาณของพวกเขาจะกลับชาติมาเกิด ซึ่งโจวฉวนจีต้องเป็น 1 ในนั้นแน่

ในชาติก่อนของเด็กคนนี้ ต้องเป็นจ้าวกระบี่ที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

โจวฉวนจีหันกลับไป และเห็นว่าตอนนี้ยังค่ำอยู่ เลยพูดขึ้นว่า “พวกเราจะมาเจอกันที่นี่อีกทีตอนเที่ยงวันพรุ่งนี้นะ”

หลังจากที่พูดจบ เขาก็หันกลับไปและเดินตรงไปหาอาใหญ่

เสี่ยวจิงหงไม่ได้เรียกร้องให้โจวฉวนจีอยู่ต่อหรืออะไร เพราะเขาเชื่อใจโจวฉวนจี

เขาเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้พิจารณาแล้วว่า ถึงแม้โจวฉวนจีจะยังเด็ก แต่เขาจะทำตามสัญญาณแน่นอน

เสี่ยวจิงหงนั่งลงกับพื้น ก่อนจะเริ่มฝึกวรยุทธต่อ

โจวฉวนจีกระโดดขึ้นคร่อมหลังอาใหญ่ และเจียงฉือน้อยก็กระโดดขึ้นตามด้วย ก่อนจะโอบแขนไว้รอบเอวโจวฉวนจี

วิหคมังกรทั้ง 2 ตัวเริ่มกระพือปีกและบินตรงไปยังบ้าน

โจวฉวนจีมองลงไป ก่อนจะเห็นเสี่ยวจิงหงนั่งลงกับพื้น และไม่ขยับเขยื้อนตัวเลยแม้แต่นิ้วเดียวราวกับรูปปั้น

“จอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ ท่านสมควรกับฉายานี้จริง ๆ”

โจวฉวนจีบ่นพึมพำกับตนเอง หลังจากที่ผ่านการต่อสู้กับเขามา เขาช่างน่านับถือจริง ๆ

ตลอดทาง โจวฉวนจียังคงเฝ้าระวัง เผื่อเสี่ยวจิงหงจะคิดไล่ตามพวกเขามา

และเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งหลังจากที่กลับเข้ามาในหุบเขาแล้ว และหมอกพิษก็เริ่มกลับมาปกคลุมข้างหลังพวกเขา

เจียงฉือน้อยกระโดดกระเด้งขณะที่เดินตามโจวฉวนจี และถามขึ้นว่า “ฉวนจี นี่เจ้าได้ท่านจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์มาเป็นศิษย์จริง ๆ หรอ?”

หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้น เพราะแม้แต่กั๋วไป่หลี่ก็ยังเคารพบุคคลคนนี้

โจวฉวนจีพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “ก็เขาทำพิธีฝากตัวเป็นศิษย์กับข้าแล้ว เพราะงั้น ทำไมจะไม่ล่ะ?”

“แต่ยังไงเจ้าก็ต้องระวังตัวไว้เสมอล่ะ”

“ไม่มีใครในโลกนี้ที่เป็นคนดีจริง ๆ หรอกนะ”

เธอพยักหน้าตอบ ถึงเเม้ว่าโจฉวนจีจะยังเด็ก เเต่ที่เขาพูดออกมามันเป็นหลักการใช้ชีวิตที่จำเป็นหลายอย่าง เธอจึงนับว่าเขาเป็นคนที่พึ่งพาได้

เธอรีบเดินไปกอดคอเขาจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว พลางหัวเราะคิกคัก “ฉวนจี เจ้าอยากกินอะไรเป็นมื้อเย็นล่ะ?”

วันนี้โจวฉวนจีเป็นจุดสนใจมาก และเธอรู้สึกนับถือสุด ๆ

ในสายตาของเธอเเล้ว เเค่เขามีความสุข เธอเองก็มีความสุขด้วยเหมือนกัน

ดูท่าทั้งสองจะแยกจากกันไม่ได้แล้วจริง ๆ

เขาเอียงหัวก่อนจะพูดพึมพำ “ซุปปลาได้รึเปล่านะ”

“ได้เลย งั้นข้าจะไปล่าปลากับน้องสองนะ”

เธอพูดพลางยิ้ม ก่อนจะจูบที่แก้มของเขาและวิ่งหนีไป

โจวฉวนจีขมวดคิ้ว ก่อนจะเช็ดน้ำลายออกจากใบหน้า

ยัยเด็กนี่เริ่มมีนิสัยไม่ดีตั้งแต่เด็กเลยหรอ

แล้วอย่างงี้ใครจะไปแต่งงานกับเธอล่ะเนี่ย?

เฮ้อ แต่ก็ดีถ้าเธอจะแต่งไม่ได้ เพราะเธออาจจะต้องตามเขาไปชั่วชีวิตยังไงล่ะ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด