อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 105.3 โชคร้ายครั้งที่ 2 ของไฮรุ (VS สัตว์ประหลาดจ้าวปัญหา)

Now you are reading อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต Chapter 105.3 โชคร้ายครั้งที่ 2 ของไฮรุ (VS สัตว์ประหลาดจ้าวปัญหา) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

โดยปกติแล้วฉันไม่ใช่พวกมีกิจกรรมชมรมอะไร วันหยุดก็เลยมักจะออกไปเที่ยวหรือซื้อของตามประสาวัยรุ่น

 

ฉันสามารถบอกได้เต็มปากเลยว่ารู้สึกมีความสุขกับการใช้ชีวิตธรรมดาของเด็กสาวมอปลาย โดยวันหยุดนี้ฉันก็มีแผนจะออกไปทานขนมหวานกับเอโกะ เพื่อนของฉัน———

 

 

「ในที่สุดเกมที่ฉันรอคอยมานานก็ออกซะที รอแทบไม่ไหวแล้ว มาให้แม่จัดซะดีๆ!!」

 

「พอมาซื้อของกับเธอทีไรชีวิตเด็กมอปลายฉันมันก็แปลกๆไปทุกที」

 

 

การหาของหวานกินมันก็สำคัญสำหรับเธออยู่หรอก แต่เหมือนเป้าหมายหลักเพื่อนของฉันคนนี้คือการลากฉันมาซื้อสินค้าลิมิตที่จำกัดหนึ่งชิ้นต่อหนึ่งคนด้วย

 

ฉันที่หลงเข้ามาในเขตแดนของเธอแล้วก็เลยมีแต่ต้องไหลไปตามน้ำ

 

 

 

「อย่าโมโหไปเลยน่า เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวเธอเอง」

 

「มีเงินเหลือเฟือเชียวนะ」

 

「แล้วเธอคิดว่าคนเราทำงานพาร์ทไทม์ไปเพื่ออะไรล่ะ? ก็ต้องเพื่อหาทุนสำหรับงานอดิเรกอยู่แล้ว!!」

 

 

มันก็ใช่อยู่หรอก เพราะเงินที่เธอหามาได้แทบทั้งหมดก็เอาไปลงกับของพวกนี้แหละ

 

 

 

「ฉันน่ะคือสาวน้อยที่หลงอยู่ในโลกวิชวลเพื่อรอวันหนึ่งเจ้าชายในโลกแห่งความจริงจะปรากฏตัวยังไงล่ะ」

 

「คิดถึงคาโอริชะมัด」

 

「อันที่จริง บางทีฉันอาจจะเข้าแล้วก็ได้นะ……」

 

「เพื่อตัวโฮมุระคุงเองฉันว่าเธอปล่อยเขาไปเถอะ」

 

 

ยัยนี่มีความอันตรายในหลายๆความหมาย ดังนั้นอย่าให้โฮมุระคุงเข้าใกล้จะดีกว่า

 

ว่ากันตามตรงก็เป็นเพื่อนที่ไม่ค่อยอยากจะพาออกไปไหนมาไหนด้วยจริงๆนั่นแหละ…เฮ้อ

 

 

 

「แล้วจะไปกินกันร้านไหนดีล่ะ?」

 

「แถวหน้าสถานีไหม จะได้เดินไปดูร้านนั่นนี่ต่อด้วย」

 

「เอาแบบนั้นละกัน」

 

 

ตอนนี้เป็นช่วงประมาณเที่ยงนิดๆ

 

….ถึงจะมีการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดขึ้นมาบนโลก แต่น่าแปลกคือชีวิตประจำวันของผู้คนไม่ได้เปลี่ยนไป

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพักนี้ไม่เห็นพวกสัตว์ประหลาดโผล่มาเลย หรือรู้สึกปลอดภัยที่อัศวินดำเอาชนะพวกสัตว์ประหลาดที่โผล่มาได้จนหมด

 

แต่ว่าสิ่งที่ฉันสัมผัสได้เลยก็คือผู้คนเหมือนจะลดความระวังตัวกันลงไปมากกว่าที่ควร

 

 

「จะว่าไปทำไมจนถึงตอนนี้พวกสัตว์ประหลาดมันถึงโผล่มาแค่กลางคืนนะ?」

 

「นั่นสินะ แต่เพราะงั้นคนก็เลยมักออกไปไหนมาไหนกันมากขึ้นในช่วงกลางวันนี่เนอะ」

 

「….แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันแปลกๆนา เหมือนมันกำลังทำให้พวกเราประมาท」

 

 

ลองคิดดูสิหากสัตว์ประหลาดโผล่มาตอนกลางวันแสกๆ

 

ชีวิตของคนจำนวนมากที่ไม่ระวังตัวกันเลยจะเป็นยังไง

 

….เอาเถอะ สำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเราคิดมากไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่นี่

 

 

 

「เอ่อ นั่น โฮมุระคุง」

 

「!? อะ เอ๋!? โฮมุระคุงเหรอ!?」

 

 

ฉันหันหน้าไปหาเอโกะ

 

พอมองตามสายตาของเธอไปก็พบเข้ากับโฮมุระคุงที่เดินออกมาจากร้านขายของพร้อมถุงในมือ

 

เสื้อผ้าที่เขาสวมก็ค่อนข้างเรียบง่าย กางเกงยีน เสื้อคลุมสวมหัว ท่าทางจะไม่เห็นพวกเราด้วย

 

 

「เขาอยู่แถวนี้เหรอ…?」

 

「หนุ่มน้อยสายพ่อบ้าน……!?」

 

「หยุดเรียกโฮมุระคุงแบบนั้นได้ไหม……?」

 

 

สมองเธอไปหมดแล้วหรือไง?

 

การจินตนาการอะไรต่างๆของเธอมันชวนให้ปวดหัวจริงๆ

 

แต่ดูจากถุงในมือแล้วท่าทางจะเป็นของสำหรับทำมื้อกลางวัน เอาเป็นว่าอย่าไปกวนเขาดีกว่

 

ในขณะที่ฉันกำลังจะออกจากบริเวณนั้น โฮมุระคุงก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วกับสัมผัสอะไรบางอย่างได้

 

 

 

ทันใดนั้นเอง

 

 

ในอากาศก็มีของเหมือนฟิล์มโปร่งใสกางออกไปล้อมทั่วบริเวณ

 

 

「อะ อะไรกัน!?」

 

「ขะ ขามัน ขยับไม่ได้……」

 

 

ขาของฉันขยับไม่ได้เหมือนถูกเย็บเอาไว้กับพื้น!

 

ไม่ใช่แค่ฉัน แต่เอโกะและคนอื่นๆก็ขยับไม่ได้เหมือนกัน

 

ในขณะที่ฉันกำลังสับสนก็มีของบนอย่างหล่นลงมาที่หัวของฉัน

 

 

 

「มะ หมวก!? เอโกะก็ด้วย!?」

 

「ทำไมกันล่ะ!」

 

 

ผู้คนรอบตัวของเราก็เหมือนจะสวมหมวกสีเหลืองนี้กันทุกคน

 

นี่มันไม่ปกติแล้ว แถมหมวกนี้ยังมีเปลวไฟสีน้ำเงินจุดอยู่ข้างบนชวนให้ขนลุกอีกด้วย

 

 

 

 

『———ยินดีต้อนรับ พวกมนุษย์!』

 

 

 

「เสียงนี้มัน……?」

 

เสียงแหลมๆถูกส่งออกมาจากจอภาพที่ติดอยู่ทั่วตึกและโทรทัศน์ของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า

 

นอกจากเสียงแล้วรูปลักษณ์เจ้าของเสียงนั้นก็ปรากฏขึ้นด้วยเช่นกัน

 

 

『ฮ๊ายทุกคน! ยินดีที่ได้รู้จัก ผมมีชื่อว่า ฮาเทน่าสัตว์ประหลาดจ้าวปัญหา!! สัตว์ประหลาดผู้รักในการทายปัญหาเป็นที่สุด!!』

 

 

 

สัตว์ประหลาด……!?

 

สัตว์ประหลาดที่สวมกางเกงรัดรูปสีดำ พร้อมกับหมวกเครื่องหมายคำถามบนหัวปรากฏตัวขึ้น

 

แม้จะแสดงออกเหมือนเป็นคนขี้เล่น แต่การที่ใช้คำว่าสัตว์ประหลาดมันก็ชัดมากพอแล้วว่าคือตัวอันตราย

 

แถมภาพพื้นหลังที่ฉายในจอยังเป็นภาพของเมืองที่ฉันอยู่อีกต่างหาก

 

 

 

『ภารกิจแรกของวันนี้ ผมตัดสินใจให้ผู้ร่วมแข่งขันในรัศมี 500 เมตรเข้าทำการทดสอบตอบคำถาม!』

 

 

รัศมี 500 เมตร ก็หมายความว่าทุกคนในระยะ 1 กิโลรอบตัวมันกลายเป็นตัวประกันเหรอ?!

 

สาเหตุที่พวกเราขยับไปไหนไม่ได้คงเพราะเรื่องนี้

 

 

 

『อย่าได้กังวลไป ปัญหาที่ผมนำมาทายนั้นไม่ได้มีการโกงใดๆแน่นอน ก่อนอื่นคงต้องอธิบายอะไรเพิ่มอีกสักหน่อย!』

 

『กฏข้อที่ 1 : สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในขอบเขตพลังของผมจะต้องทำตามกฏที่ผมตั้งขึ้น!』

 

 

 

『กฏข้อที่ 2 : การโจมตีทางการภาพทั้งหมดในเขตพื้นที่พลังของผมจะไม่เกิดผลใดๆกับผมเลย!』

 

 

 

『กฏข้อที่ 3 : การสร้างความเสียหายในเขตพื้นที่นี้จะเกิดจากการตอบปัญหาเท่านั้น!!』

 

 

『กฏข้อที่ 4 : กฏแห่งการทายปัญหาคือสิ่งที่ผมและพวกมนุษย์ในพื้นที่ไม่สามารถละเมิดได้!!』

 

 

ไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด

 

นะ นี่มันต้องการจะให้เราตอบปัญหาที่มันสร้างขึ้นเหรอ?

 

 

『ง่ายใช่ไหมล่ะ!! สิ่งที่พวกคุณต้องทำมีเพียงแค่ตอบปัญหาที่ผมสร้างขึ้น ยังไงคนก็มีอยู่ตั้งหลายพัน คงตอบกันได้สบาย!!』

 

 

 

「นะ นั่นสินะ ถ้าเราตอบถูกก็จะรอด……」

 

「มีคนเยอะขนาดนี้อย่างน้อยมันก็ต้องมีสักคนที่ตอบถูกแน่นอน……」

 

「แต่ว่ามันจะทำแบบนี้ไปเพื่อ……」

 

 

『เงื่อนไขการชนะของพวกคุณคือการตอบคำถามให้ถูกและสร้างความเสียหายให้ผมจนกว่าผมจะพ่ายแพ้!』

 

 

หลังได้ยินเงื่อนไขคนรอบๆก็เริ่มแสดงสีหน้าดีขึ้น

 

เพราะเขารู้ว่าตัวเองยังมีโอกาสเอาชนะมันได้….แต่ฉันกลับคิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอสำหรับการเผชิญหน้าสัตว์ประหลาด

 

 

อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ฉันได้เห็นมาจากสัตว์ประหลาดแมงมุม พวกมันไม่ใช่ตัวตนที่ง่ายดาย

 

 

『ทีนี้ก็มาเงื่อนไขในการพ่ายแพ้! ถ้าหากพวกคุณคนใดคนหนึ่งเกิดตอบผิดขึ้นมา ทุกคนจะต้องร่วมกับรับผิดชอบด้วยความตาย!』

 

 

 

「ห๊ะ!? อย่ามาล้อกันเล่นนะยะ……」

 

「พูดบ้าอะไรของแกกัน นี่มันเกมห่วยสุดๆเลยนี่หว่า ขนาดเดธเกมที่วางขายตอนนี้เขายังไม่ทำแบบนั้นกันเลยนะเห้ย……!!」

 

 

สัตว์ประหลาดตัวนี้มันไม่ได้อยากจะให้พวกเรารอดอยู่แล้ว

 

เช่นเดียวกับสัตว์ประหลาดแมงมุม มันก็แค่ตั้งใจจะเล่นกับมนุษย์ก่อนฆ่าทิ้ง

 

ทั่วบริเวณที่ฉันอยู่วุ่นวายทันทีหลังสิ้นเสียงของมัน

 

 

「โฮมุระคุง……」

 

 

ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆฉันก็รีบมองหาโฮมุระคุง

 

เขาก็โดนเหมือนกันสินะ

 

ว่าแต่ทำไมเขาถึงได้……

 

สายตาของฉันจับจ้องไปยังเขาโดยไม่รู้ตัว

 

 

「……」

 

 

เขาแตกต่างกับคนอื่น ไม่ได้รู้สึกตระหนกใดๆเลย แถมยังเอาแต่ต้องไปบนดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่งที่น่าจะเป็นจุดซึ่งสัตว์ประหลาดมันอยู่

 

สายตาของเขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้าจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากสายตาง่วงนอนตอนปกติของเขา

 

 

 

『คำถามแรก!!』

 

 

 

โหมโรงแห่งความสิ้นหวังได้เริ่มขึ้น

 

『』จงตอบคำถามจากสิ่งที่เห็นในช่องว่าง

 

 

『ชิสุเสะโซะ』(いれない)

 

 

เสียงของอะไรกำลังออกปฏิบัติการณ์อยู่เอ่ย?!

 

『มีเวลาจำกัดอยู่ที่ 60 วินาที! ผู้ที่ต้องการตอบยกมือขึ้นมาได้เลย!! แต่คุณมีโอกาสเพียงครั้งเดียว ดังนั้นคิดให้ดีล่ะ!』

 

 

เดี๋ยวสิ มันถามอะไรของมันกัน?!

 

มันจะแปลกเกินไปแล้ว มันคือคำถามที่ต้องทำการบิดคำ หรือต้องตอบอะไรไปตรงๆเลยกันล่ะ?!

 

 

 

『คะ ใครก็ได้ตอบหน่อย!!』

 

『ไม่เห็นจะเข้าใจสักนิด!!』

 

『ตะ แต่ว่าหากตอบผิดทุกคนก็จะตายนะ!? ไม่เอาด้วยหรอก!!』

 

 

โอกาสเพียงครั้งเดียว

 

หากตอบผิดทุกคนก็จะตาย

 

ไม่มีใครกล้าพอจะแบกรับสิ่งที่ไร้เหตุผลนี้ได้หรอก

 

 

『20 19 18 17 เอ้า ไม่มีใครอยากจะตอบเลยเหรอ งั้นผมคงต้องเป็นฝ่ายเลือกคนมาตอบ…หือ?』

 

 

สัตว์ประหลาดที่กำลังนับถอยหลังได้หยุดพูด

 

ฉันที่สงสัยว่าเพราะทำไมก็ได้คำตอบทันทีเพราะว่า….

 

 

 ———โฮมุระคุง ยกมือขึ้นตอบ

 

 

 

『โฮ่ๆๆ ในที่สุดก็มีผู้กล้าแล้ว!! เอาละ ตอบมาสิ!!』

 

 

ภาพของโฮมุระคุงปรากฏขึ้นบนจอ

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังมองด้วยความคาดหวังและหวาดกลัว โฮมุระคุงก็พูดขึ้นโดยไม่ได้รู้สึกประหม่าหรืออะไรเลยสักนิด

 

 

『คำว่า สะ(さ) มันหายไปจากพวก ดังนั้นสิ่งที่ออกไปปฏิบัติการณ์ก็คือ สะ-ไซเรน』

 

 

ความเงียบงันได้เข้ามาปกคลุม

 

ช่วงเวลาชี้เป็นชี้ชาย

 

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วิแต่ก็รู้สึกยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์ ร่างของสัตว์ประหลาดก็ถูกกลืนกินด้วยแรงระเบิด

 

 

 

『นะ นั่นมัน!? ตอบถูกเหรอ!?』

 

 

สำเร็จแล้ว!

 

เขาตอบถูก!! 

 

ไม่น่าเชื่อเลยว่าโฮมุระคุงจะมีความกล้าขนาดนี้!!

 

 

 

「อย่างที่คิดไว้…สมกับเป็นโฮ…หือ ว่าแต่เมื่อกี้ใครเป็นคนตอบนะ?」

 

「คนที่ถูกเลือกมาตอบก็คงเป็นกลุ่มคนเป็นพันๆนี่แหละฉันไม่รู้หรอก!」

 

「นะ นั่นสินะ….」

 

 

ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆฉันก็จำใบหน้าของคนที่ตอบคำถามไม่ได้ซะอย่างงั้น

 

ทั้งที่เขาเป็นผู้ช่วยชีวิตของพวกฉันไว้แท้ๆ ทำไมถึงจำไม่ได้กันนะ?

 

 

 

『ไม่ไหวๆ คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าจะมีคนตอบคำถามถูก ชักไม่ถูกใจแล้วสิ!』

 

 

 

「……อะไรกัน!?」

 

 

แม้ว่าจะตอบคำถามถูก และร่างของมันโดนระเบิดเข้าไป แต่ทำไมมันถึงแทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยล่ะ?!

 

กลับกัน หากพวกเราตอบผิดนิดเดียว ก็จบพอดี….

 

『เอาเถอะ ถ้างั้นก็คำถามถัดไป———』

 

『อยากถามมักเอ็งก็ไปเล่นเองคนเดียวเลยสิฟะ』

 

 

ในขณะที่มันกำลังจะถามต่อ เสียงอีกเสียงหนึ่งก็ดังมาจากจอ

 

มันคือร่างของอัศวินดำที่กำลังประเคนหมัดใส่สัตว์ประหลาดคำถามอย่างรวดเร็ว

 

 

 

『ฮ่าๆๆ กำลังรออยู่เลยอัศวินดำ!! คุณฆ่าพี่น้องสัตว์ประหลาดของผมไปเยอะเหลือเกิน เป็นเกียรติจริงๆที่ได้พบ!!』

 

『……』

 

 

อัศวินดำไม่ได้สนใจคำพูดของสัตว์ประหลาดและรัวหมัดใส่ด้วยความเร็วที่ยากจะตามทัน

 

ทว่าหมัดทั้งหมดนั้นกลับไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับมันได้เลยสักนิด

 

 

『จุ๊ๆๆๆ ไม่มีประโยชน์หรอก การโจมตีทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในเขตของผมมันไร้ผลนะเออ』

 

『……。เป็นงั้นจริงด้วยวุ้ย』

 

『ก็อย่างที่พูด….มันไม่ได้เกี่ยวกับพลังของคุณอ่อนแอหรืออะไร แต่เป็นเงื่อนไขในการเกิดปรากฏการณ์ภายในบริเวณนี้ต่างหาก ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน หมัดของคุณก็ไม่มีวันถึงตัวผมได้หรอก』

 

 

อัศวินดำเงียบไป ในขณะเดียวกันสัตว์ประหลาดคำถามนั่นก็เริ่มพูดต่ออย่างอารมณ์ดี

 

 

『โย้ช ในเมื่อตัวละครหลักมาแล้ว เราก็มาให้อัศวินดำเป็นคนตอบคำถามบ้างดีกว่า!!』

 

『…ก็ได้วะ ฉันจะเล่นไปกับคำถามโง่ๆของแกเอง』

 

『…โห้ ช่างน่าเหลือเชื่อ เอาเถอะ หากคุณเต็มใจจะเข้าร่วมผมก็พร้อมจะถาม แต่ก็ระวังไว้ด้วยล่ะเพราะหากตอบผิดขึ้นมาคุณก็จะตายไปด้วย!!』

 

 

อัศวินดำจะไม่เป็นไรใช่ไหม?

 

เพราะพลังของสัตว์ประหลาดคราวนี้มันไม่เหมือนปกติด้วยสิ

 

ไหนจะเรื่องที่มันโผล่มากลางวันแสกๆอีก

 

 

 

『คำถามที่ 2!』

 

 

ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องมีเนินเขาต่างๆมากมาย!

 

คำถาม ระหว่างขาขึ้นกับขาลงอันไหนมีเยอะกว่ากัน!!

 

คำถามบ้างอะไรของมันกัน?!

 

ญี่ปุ่นมีเขาอยู่เยอะก็แปลว่าทางขึ้นมันต้องเยอะกว่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?!

 

แต่คนตอบก็เป็นอัศวินดำน่านี่ ถึงฉันจะคิดมากไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา

 

ในขณะที่คิดจนปวดหัว ฉันก็มองอัศวินดำที่อยู่ภายในจอ

 

เขาถอนหายใจออกมา เหมือนจะไม่กังวลอะไรเลยสักนิด

 

 

「…มันก็ต้องเท่ากันอยู่แล้วไม่ใช่หรือไงฟะ ถามบ้าอะไรของแกเนี่ย」

 

「!?」

 

「ยังไงทางขึ้นกับทางลงมันก็เป็นทางเดียวกันไม่ใช่หรือไง มันก็ต้องเหมือนกันสิฟะ นี่แกเป็นสัตว์ประหลาดจ้าวปัญหาแน่เหรอ ถามอะไรที่มันสร้างสรรค์หน่อยเถอะ」

 

「อะ อ๊ากกกก!!」

 

 

สัตว์ประหลาดตกใจก่อนจะส่งเสียงร้องเพราะเกิดการระเบิดขึ้น

 

ทว่าไม่กี่วิต่อมามันก็ฟื้นตัวขึ้นมาได้ใหม่เหมือนไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

 

 

『คำถามข้อที่ 3!!』

 

เลือกมา 1 ข้อจากด้านล่างนี้

 

1 หัวหน้าฝ่าย

 

2 ผู้ใหญ่บ้าน

 

3 ผอ.

 

คำถาม ใครมีพลังเยอะที่สุดในโรงเรียน (เป็นการเล่นคำ)

 

『ก็ต้องเป็นหัวหน้าฝ่ายสิฟะ ผู้ใหญ่บ้านนี่ตัดทิ้งได้เลยเพราะไม่เกี่ยวกับโรงเรียน ส่วนผอ. ก็มีแค่คนเดียว ดังนั้นแต่หัวหน้าฝ่ายนั้นมีได้หลายคนเพราะต้องคอยดูแลฝ่ายตัวเอง หากรวมพลังกันก็ต้องมีเยอะสุด』

 

『ม่ายยยยย!?』

 

 

….เดี๋ยวนะทำไมเขาตอบเก่งขนาดนี้กัน?

 

ฉันอดตกใจไม่ได้กับคำตอบของเขา

 

จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังสัตว์ประหลาด

 

 

 

『ดูจากที่ตอบไป เหมือนจะไม่มีทางจัดการแกได้ด้วยการตอบคำถามเลยนี่หว่า』

 

『…ถ้าเป็นแบบนั้นจริงแล้วมันจะทำไมเหรอ? หรือคุณจะหนีไปโดยทิ้งมนุษย์พวกนี้ไว้ข้างหลังดีล่ะ?』

 

『……』

 

 

จากนั้นอัศวินดำก็เงียบไม่พูดอะไร แล้วกระโดดหายไปจากอาคารนั้น

 

 

『เอ๋?』

 

「「「เอ๋?」」」

 

 

ทั้งสัตว์ประหลาดและพวกเราต่างก็ปล่อยเสียงแห่งความสงสัยออกมา

 

พอรู้ว่าไม่สามารถทำอะไรสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้เขาก็จากไปทันที

 

 

 

『ฮะ ฮ่าๆๆๆ!! อัศวินดำหนีหากจุกตูดไปแล้วงั้นเหรอ?!』

 

 

อัศวินดำหนีไปแล้ว?

 

เขาหนีไป?

 

เอาจริงดิ?

 

 

 

 

『สะ สุดท้ายเขาก็ไม่ใช่คนที่อยู่เคียงข้างพวกเรา……』

 

『พอเห็นว่าท่าไม่ดี ก็ทิ้งพวกเราทันที……』

 

『มันจบแล้ว……』

 

 

ความสิ้นหวังได้แพร่กระจายไปทั่วบริเวณ

 

หากปล่อยไว้แบบนี้พวกเราได้ตายกันหมดจริงแน่

 

เพียงแค่ครั้งเดียว ทุกชีวิตในทั่วเขตนี้จะตายจนหมด

 

 

 

「…อัศวินดำ ไม่มีทางทิ้งพวกเราไปหรอก 」

 

「ไฮรุ……?」

 

「เขาจะต้องมีแผนในการช่วยพวกเราอยู่แน่นอน…ฉันมั่นใจ」

 

 

อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ฉันคิดเอาไว้ เขาไม่ใช่พวกที่จะหนีจากสัตว์ประหลาดสักหน่อย

 

ไม่สิ ฉันไม่อยากจะยอมรับมันมากกว่า

 

เพราะเขาคือคนที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้….ฮีโร่ของฉัน

 

 

 

 

『มาทำให้มันจบกันดีกว่า เอาละเริ่มคำถามถัดไปได้!!』

 

 

มันเริ่มถามคำถามถัดไปต่อทันทีด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายตรงข้ามกับน้ำเสียงที่สดใน

 

ทว่า อยู่ดีๆก็มีเสียงสายลมพุ่งผ่าน

 

 

『คำถาม———』

 

 

ฟุ๊บ…..ร่างของสัตว์ประหลาดได้แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆพร้อมเครื่องหมายคำถามบนหัวของมัน

 

 

 

『อุ อะ…ไร?』

 

『เออ ฝีมือฉันเอง』

 

 

อัศวินดำที่หายตัวไปก่อนหน้านี้ไปโผล่อยู่ตรงหน้าของสัตว์ประหลาดที่เหลือแค่หัว

 

โดยมือก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นอยู่ในมือขวาของเขาด้วย

 

 

『ฉันมาลองคิดดูน่ะ…แกบอกเองว่าการโจมตีในระยะรัศมี 500 เมตรจะทำให้ไร้ผล ดังนั้นหากโจมตีจากนอกระยะนั้นมันจะเป็นยังไงกันนะ』

 

『……อั๊ก……』

 

『เอาเป็นว่าขอบคุณไอ้โง่อย่างแกละกันที่ช่วยใบ้ให้』

 

 

ราวกับหมดเรื่องที่จะคุย เขาได้ทำการใช้เท่าขยี้หัวของสัตว์ประหลาดทิ้งทันที

 

จากนั้นหมวกที่สวมบนหัวพวกเราก็สลายหายไป ขาของพวกเรากลับมาขยับได้อีกครั้ง

 

 

「ระ รอดแล้ว….เฮ้อ…ว่าแล้วเชียว……」

 

「ไฮรุ」

 

「เอโกะ ดีใจจริงๆที่ไม่เป็นอะไร…ว่าแต่สายตานั่นมันอะไรน่ะ?」

 

 

ในขณะที่ฉันพูดออกมาด้วยความโล่งใจ เอโกะที่อยู่ข้างๆฉันก็มองไปยังอาคารที่อัศวินดำเคยอยู่

 

สีหน้าและสายตาของเธอช่างดูล่องลอยเหลือเกิน

 

 

「ฉันคงหลงอัศวินดำจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว」

 

「……ก็..ยินดีด้วยละกัน」

 

ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีหรอกมั้ง ยังไงเธอก็เป็นคนที่ถูกเขาช่วยชีวิตเอาไว้นี่เนอะ

 

แต่เป็นอีกครั้งแล้วสินะที่เขาช่วยฉันเอาไว้

 

ขำไม่ออกเลยแฮะที่เกือบจะต้องถูกสัตว์ประหลาดฆ่าตายถึง 2 ครั้ง

 

–จบ–

เดาเลยว่าที่ไฮรุเคยคุยกับคิราระตอนนั้นว่าไม่ค่อยได้คุยอะไรกับคัตสึมิเลยเป็นเพราะอัลฟ่าลบความจำแหง ไหนจะเรื่องที่คัตสึมิบอกพวกอากาเนะไม่ใช่เพื่อนคนแรก แต่เป็นคนที่นั่งข้างๆของเขาอีก

 

มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด