เซียนหมากข้ามมิติ 129 เมื่อมีกำยานบูชาเป็นของตัวเอง
ตอนที่ 129 เมื่อมีกำยานบูชาเป็นของตัวเอง
เดิมทีจี้หยวนต้องตอบแทนความเคารพที่มังกรเฒ่ามอบให้ แต่ความจริงแล้วเขาเวียนศีรษะและไม่มีแรงอยู่บ้าง หากไม่ใช่เพราะยันเท้าจนพอจะยับยั้งแรงกดดันไว้ได้ คงจะมีเลือดออกจากทวารใดสักแห่งไปแล้ว จึงไม่อาจทำความเคารพกลับไปได้
คนนอกมองว่า ‘แขกผู้มีเกียรติ’ ผู้นี้กล้านั่งนิ่งรับการทำความเคารพจากประมุขมังกร ราวกับว่าการทำความเคารพนี้สมควรเกิดขึ้นในสายตาของเขา
ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นคือประมุขมังกรเห็นดังนั้นแล้วกลับมีสีหน้ายินดี ไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใด
แต่สำหรับภูตเผ่าวารีส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงนี้ เหตุใดจู่ๆ ประมุขมังกรผู้เป็นเจ้าของงานเลี้ยงก็กล่าวขอบคุณแขกที่อยู่ทางฝั่งขวาล้วนไม่รู้ ทำได้เพียงคาดเดาอยู่ในใจ
เทพแม่น้ำวสันต์ไป๋ฉีเป็นส่วนน้อยที่เข้าใจแจ่มแจ้ง ขณะที่ประหลาดใจก็มีความรู้สึกอื่นด้วย ทว่าประมุขมังกรพูดแล้วไม่มีใครกล้าถาม
เห็นบุตรีของตัวเองอดกลั้นไม่ได้อยู่บ้าง มังกรเฒ่าจึงถลึงตาใส่นางครั้งหนึ่ง
“รั่วหลี เก็บปราณมังกร อย่าทำให้คนในงานเลี้ยงวันเกิดของข้าแตกตื่น!”
“ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ!”
ความจริงแล้วตอนนี้อิงรั่วหลีอยากกลายร่างเป็นมังกรเจียว บินร่อนเหนือแม่น้ำเทียมฟ้าสักครั้งหนึ่ง ทว่าตรงนี้ไม่เหมาะสม ทำได้แค่พยายามเก็บพลังปราณของตัวเอง ไม่กี่ลมหายใจให้หลังลมปราณที่ทำให้ปีศาจนางรำและเหล่าภูตที่ส่งอาหารหวาดกลัวก็หายไปในที่สุด
มังกรเฒ่ามองแขกทุกคนด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า
“ฮ่าๆๆๆ…เพราะบุตรีข้าไม่มีมารยาท ทำให้ทุกท่านหมดสนุกแล้ว บรรเลงดนตรี ดำเนินงานเลี้ยงต่อ!”
เมื่อมังกรเฒ่าสั่ง พวกภูตที่สงบสติอารมณ์ได้แล้วก็กลับไปทำงานต่อ งานเลี้ยงในตำหนักใหญ่หลายหลังมีเสียงดนตรีดังขึ้นอีกครั้ง หลายคนร่ำสุรากัน แต่ที่จริงจิตใจของปีศาจเผ่าวารีไม่น้อยไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานเลี้ยงแล้ว
เมื่อครู่อิงเฟิงอ้าปากตาค้างเพราะสีหน้าของน้องสาวตนเอง คราวนี้ดนตรีบรรเลงขึ้นอีกครั้งพลันรู้สึกนั่งไม่ติดที่ บอกลาเผ่าวารีที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขาเหล่านี้
“ขอทุกท่านให้อภัย จู่ๆ ข้าก็นึกได้ว่ายังไม่ได้ดื่มสุรากับท่านอาจี้ ต้องรีบไปหน่อยแล้ว!”
พูดจบอิงเฟิงก็หยิบจอกสุราตนเองคิดจะลุกขึ้น มังกรเจียวแห่งทะเลสาบวารีนภาคว้ามือเขาไว้ ให้ตายอย่างไรก็ไม่ให้ไป
“องค์ชาย ท่านต้องบอกพวกข้านะว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น ร่างมังกรของเทพีแม่น้ำได้ของดีอะไรใช่หรือไม่”
“ไอ้หยาเกาหมิง เจ้าปล่อยข้าเถอะ ตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ในใจอยากรู้เช่นเดียวกับเจ้า เจ้าให้ข้าไปหาคำตอบก่อนดีกว่า!”
“ได้ๆๆ ท่านได้คำตอบแล้วอย่าลืมบอกพวกข้านะ!”
“ใช่แล้วองค์ชาย!”
อิงเฟิงตอบรับอย่างคลุมเครือครั้งหนึ่ง แล้วรีบถือจอกสุราลุกขึ้น อ้อมเวทีร่ายรำเดินไปหาจี้หยวน
ตอนนี้ธิดามังกรกำลังควบคุมจิตใจและสงบลมปราณ เห็นพี่ชายตัวเองเดินมาแต่ไกล จึงชำเลืองมองจี้หยวนตามสัญชาตญาณ พบว่าท่านอาจี้ผู้นี้น่าจะหมดความสนใจกับงานเลี้ยงไปชั่วคราว เริ่มตั้งใจพินิจอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารของจวนบาดาลแล้ว
อิงเฟิงถือจอกสุรา ครั้นเข้าใกล้จี้หยวนแล้วจึงผ่อนฝีเท้า พร้อมกับมองไปยังเก้าอี้ด้านบน นอกจากบิดาตนเองกำลังชมการร่ายรำแล้วก็คล้ายกับเหลือบมองเขาโดยไม่ได้ตั้งใจครั้งหนึ่ง
เห็นจี้หยวนมีท่าทางเหมือนกับเบื่อหน่ายอะไรสักอย่าง อิงเฟิงก้าวสั้นๆ เข้าไปไกล บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มตีสนิทเล็กน้อย
“ท่านอาจี้ ข้ามัวแต่ยุ่งกับการต้อนรับแขกเต็มงาน ในที่สุดก็จัดการเสร็จได้เสียที ตอนนี้มาอยู่กับญาติที่ค่อนข้างใกล้ชิดกันได้แล้ว!”
ญาติ?
จี้หยวนที่กำลังเหงื่อแตกและปวดเมื่อยเงยหน้ามองบุตรมังกรผู้นี้แล้ว เมื่อครู่เอาแต่เรียกเขาว่า ‘จี้หยวน’ อย่างนั้น ‘จี้หยวน’ อย่างนี้ไม่ใช่หรือ ตอนนี้กลับเรียกว่า ‘ท่านอาจี้’ เฉย?
“มาๆๆ ท่านอาจี้ ข้าเติมสุราให้ท่านเอง!”
อิงเฟิงเทสุราจอกหนึ่งให้จี้หยวนอย่างเป็นอันเอง คราวนี้จี้หยวนพูดตรงไปตรงมากับอิงเฟิง
“องค์ชาย เมื่อครู่ท่านกำชับให้ข้าดื่มน้อยหน่อย ฉะนั้นดื่มจอกนี้แล้วข้าจะไม่ดื่มอีก ส่วนเรื่องเมื่อครู่นี้ ท่านไปถามเทพีแม่น้ำเองน่าจะเหมาะสมกว่า!”
“ใช่ๆๆ ท่านอาจี้พูดถูกต้อง!”
อิงเฟิงเทสุราให้จี้หยวนเรียบร้อย จากนั้นดื่มสุราที่จอกของตนเองจนเกลี้ยง ไม่กล้าอยู่ต่อหน้าจี้หยวนนานโดยสิ้นเชิง ครั้นพยักหน้าให้แล้วถึงย่องไปนั่งร่วมโต๊ะเดียวกับธิดามังกร
“น้องหญิง…เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นหรือ”
อิงเฟิงพูดเสียงเบามาก ธิดามังกรกำลังสนใจปรับสมดุลร่างกายจึงไม่ได้สนใจเขา
“น้องหญิง…เจ้าอย่าทำให้ข้าร้อนใจตายเลยนะ เจ้าได้ของดีอะไรจากท่านอาจี้แล้วกระมัง เป็นอะไรกันแน่ ถึงทำให้ท่านพ่อไม่สนใจบนเวทีแต่กลับกล่าวขอบคุณโดยตรง”
ที่จริงอิงเฟิงอยากถามเพิ่มอีกว่า ‘เหตุใดข้าไม่ได้บ้าง’
ธิดามังกรมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ บ่นใส่เขาเสียงเบา
“เจ้าควรคารวะตรงนี้ก่อนตั้งแต่แรก อย่าไปคิดถึงของดีนั่นเลย ท่านพ่อบอกแล้วว่าของขวัญนี้มากเกินไป ข้าได้รับถือเป็นวาสนาครั้งใหญ่ เจ้ายังคิดจะไปขออีกหรือ…”
คำพูดนี้ทำให้อิงเฟิงแทบจะเป็นบ้า หมายความว่าน้องหญิงได้ของดีมากๆ แต่เขาไม่ได้อย่างนั้นหรือ
จี้หยวนย่อมรู้ว่าองค์ชายมังกรคิดอะไร อย่างไรเสียธิดามังกรก็สามารถเคาะใจได้สำเร็จและบรรลุผลที่เหนือจินตนาการได้ ทั้งนี้เป็นเพราะสอดคล้องกับห้วงจิตใจของนาง วาสนานั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุนี้ หากแสดงอุปสรรคในห้วงจิตใจเช่นเดียวกันให้บุตรมังกร ผลลัพธ์อาจจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ไม่อาจพูดได้
ภายในมุมหนึ่งของตำหนักใหญ่ เทพแม่น้ำวสันต์ไป๋ฉีไม่ได้อ้างว้างเหมือนเมื่อครู่นี้แล้ว เขานั่งไม่ติดที่ ขณะนี้กำลังถือจอกสุราด้วยวิธีที่ไม่คุ้นชินไปสอบถามกับเผ่าวารีที่มีฐานะอยู่บ้าง
ส่วนเรื่องที่ถามนั่นย่อมเกี่ยวกับฐานะของจี้หยวน ปรากฏว่าปีศาจน้ำที่รู้จักกันเหล่านั้นไม่มีใครรู้ว่า ‘แขกผู้มีเกียรติ’ ผู้นั้นเป็นใคร รู้เพียงประมุขมังกรให้ความสำคัญกับเขามาก แต่นี่ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระ นั่งอยู่ฝั่งขวาของตำแหน่งประธานและมีธิดามังกรร่วมโต๊ะด้วย ใครเล่าจะมองไม่ออกบ้าง
งานเลี้ยงนี้ดำเนินต่อไปตลอดทั้งคืน เมื่อแขกทุกคนออกจากงานเลี้ยง ภายในสามวันหลังจากนั้นจวนบาดาลยังคงมีงานเลี้ยงอีก แต่ประมุขมังกรผู้เป็นเจ้าของวันเกิดไม่จำเป็นต้องเผยโฉมหน้าแล้ว ที่จริงส่วนสำคัญของงานเลี้ยงวันเกิดผ่านพ้นไปแล้ว เผ่าวารีมากมายจะกลับไปก่อนจึงไม่เป็นปัญหา
น่าจะเป็นช่วงเที่ยงวันของวันที่สาม ภายในสวนปะการังบางแห่งลึกเข้าในจวนบาดาล จี้หยวนนั่งร่วมโต๊ะอยู่กับมังกรเฒ่า
แม้น้ำที่นี่จะยังคงใสกระจ่างหาใดเปรียบ แต่ว่ากันว่าเป็นน้ำทะเลฝั่งตะวันออกที่หล่อเลี้ยงปะการังสดสวยหลากสีสันทั้งสวนนี้
รอบข้างงดงามเหมือนกับปะการังใต้ทะเลที่เคยเห็นในโทรทัศน์เมื่อชาติก่อน ถึงขนาดมีปลาตัวเล็กๆ หลากสีสันว่ายผ่านไปมาจำนวนหนึ่ง แสงสว่างเพียงพอ สภาพแวดล้อมสะอาดยิ่งกว่า ริ้วน้ำชัดเจนและใสแจ๋วราวกับอากาศ
“ฮ่าๆๆๆ…ท่านจี้ ข้าชนะอีกแล้ว รวมครั้งนี้ก็ชนะเก้าตาครึ่งแล้ว!”
มังกรเฒ่ายิ้มร่าปล่อยให้ปีศาจสาวข้างๆ เก็บกระดานหมาก ส่วนเขาเทสุราให้จี้หยวนด้วยตนเอง ฝ่ายจี้หยวนกำลังมุ่นคิ้วครุ่นคิดอยู่ข้างๆ
ชัดเจนว่าผลแพ้ชนะของหมากกระดานนี้ตัดสินได้ตั้งแต่ช่วงกลางตา จี้หยวนต้องการลงหมาก แต่ให้ตายอย่างไรมังกรเฒ่าก็ไม่ให้ยอมแพ้ ต้องเล่นทุกตาให้จบสิ้นสมบูรณ์
‘มังกรเฒ่าผู้นี้ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับอาจารย์อิ๋นโดยสิ้นเชิง!’
เดิมทีจี้หยวนคิดว่าฝีมือการเล่นหมากล้อมหลังจากพัฒนาหมากด้วยตัวเองแล้วจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ชัดเจนว่ายังไม่เพียงพอเมื่ออยู่ต่อหน้ามังกรเฒ่า อีกทั้งรูปแบบการแปรหมากมีสององค์ประกอบซึ่งเกี่ยวพันซึ่งกันและกัน ส่วนรูปแบบหมากล้อมแบบดั้งเดิมมีสององค์ประกอบที่ขัดแย้งกัน แม้จี้หยวนมีสายตาที่มองทะลุทางหมากอย่างปรุโปร่งก็ยังไม่เพียงพอ
“เล่นอีกตาเถอะ!”
จี้หยวนแก้ไขความผิดพลาดของหมากที่พัฒนาเองและหมากแบบดั้งเดิมอยู่ในใจ หาจุดที่สอดคล้องกัน นับเป็นการเติมเสริมข้อบกพร่องของหมากที่พัฒนาเองจากมุมมองใหม่ กระดานหมากผลึกหินตรงหน้าคล้ายกับทับซ้อนกับเขตแดนบ้างแล้ว
‘ไม่ว่าขัดแย้งหรือให้กำเนิดกันเอง ล้วนต้องครองพื้นที่หมากก่อน’
หมากตาใหม่เริ่มต้นขึ้น มังกรเฒ่าพบว่าชนะมาหลายตาขนาดนี้แล้ว ทางหมากของจี้หยวนเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ได้เดินหมากคล้ายในตำราอีก กลับมีความรู้สึกแปลกๆ ของการเกาะติด ราวกับไม่ได้ต้องการปิดตายหมากดำของตัวเอง แต่เหมือนกับบีบบังคับให้จนมุมมากกว่า ไม่ต่างอะไรกับท่าทางวางหมากมั่วๆ ยามเด็กเรียนเล่นหมาก
วางหมากครั้งแล้วครั้งเล่า มังกรเฒ่าพบว่าทางหมากของตัวเองถูกชักนำแล้ว จู่ ๆ ก็ถูกจี้หยวน ‘บุก’ และพบว่าเขามีหมากกลุ่มหนึ่งไม่สามารถ ‘ติดกัน’ ได้
“ท่านพ่อ ไป๋ฉี เทพแม่น้ำวสันต์ยังไม่กลับไป อีกทั้งอยากพบท่านขอรับ!”
ทันใดนั้นธิดามังกรรีบร้อนเดินมาจากนอกสวน มังกรเฒ่าได้ยินดังนั้นพลันลุกขึ้น
“อย่างไรเสียไป๋ฉีผู้นี้ก็เป็นเทพแม่น้ำตัวจริง ข้าเย็นชากับเขาเช่นนี้ไม่ดีจริงๆ ท่านจี้ ข้าจะไปพบเขาหน่อยนะ!”
จี้หยวน “…”
‘ยากนักกว่าจะได้เห็นสีหน้าคนแพ้ มังกรเฒ่าผู้นี้ก็หนีไปเสียแล้ว’ เขาคิดแล้วก็เตรียมบอกลา
“ท่านอิง ข้าอยู่รบกวนท่านมานานแล้ว ขืนยังไม่กลับไป ชาวประมงที่เช่าเรือผู้นั้นน่าจะไปรายงานทางการ อีกทั้งเจตนาของไป๋ฉีผู้นั้นไม่ใช่การดื่มสุรา ข้าคนแซ่จี้ไม่คิดอยากข้องเกี่ยวกับเรื่องยุ่งยากหรอก”
มังกรเฒ่าหยุดฝีเท้าทัน หันไปมองจี้หยวน ใคร่ครวญเสร็จแล้วก็ยิ้มออกมา
“ท่านจี้พูดถูกต้อง ท่านยังต้องรออาจารย์อิ๋นเข้าเมืองด้วย อยู่ที่นี่นานไม่ได้จริงๆ ทว่าไป๋ฉีผู้นั้นคิดจะตามหาท่านอีกคงไม่ง่ายแล้ว…”
ประโยคสุดท้ายนั้นมังกรเฒ่าพูดด้วยความเห็นใจ การตามหาตัวจี้หยวนไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ชัดเจน ถึงแม้จี้หยวนตกปลาอยู่เหนือแม่น้ำเทียมฟ้า ไป๋ฉีก็ไม่มีทางหาเจอ
จี้หยวนยิ้มพลางกล่าว
“ท่านอิงไปแล้ว ฝากบอกเทพแม่น้ำวสันต์ด้วยว่า ‘เรียกร้องไปอาจไม่มีวาสนา ฝึกฝนตามครรลองถึงจะเป็นเรื่องดี กลายร่างเป็นมังกรย่อมมีหนทาง ด้านหนึ่งเป็นเทพคุ้มครอง จิตใจไร้ข้อบกพร่อง ก็จะถึงเวลาที่มีกำยานบูชาเอง!’”
มังกรเฒ่าฟังจบแล้วขมวดคิ้ว ทว่าไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้าและจากไป ส่วนจี้หยวนให้ธิดามังกรนำทาง นำเรือประทุนออกมาแล้วก็จากจวนบาดาลไป
Comments