กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 142 ผู้ชายไม่มีดีสักคน

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 142 ผู้ชายไม่มีดีสักคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินลุ่ยซีดูเหมือนจะได้ยินเสียงของเขาเลือนราง นอนอยู่ในอ้อมกอดของหลินเซียนเหยียน และพูดสะลึมสะลือ “ต้องการ”

เธอต้องการพ่อ

เด็กน้อยง่วงนอนเกินไป และไม่มาติดแหง่เขาอีก หลินเซียนเหยียนปิดหูของเธอเพื่อไม่ให้เธอฟัง และตบหลังเธอเบาๆเพื่อกล่อมให้เธอหลับ

หลินลุ่ยซีพูดเสียงงอแงออกมา และแนบในอ้อมกอดของหลินเซียนเหยียน

หลินเซียนเหยียนกอดเธอไว้แน่น

จงจิ่งห้าวเอียงตัวมา ดวงตาจ้องอยู่บนมือของหลินลุ่ยซี มือของเด็กน้อยขาวนุ่ม จ้ำม่ำ และสัมผัสที่หน้าอกของหลินเซียนเหยียน

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สัมผัสมัน แต่ด้วยสายตาของเขารับรู้ความสึกแบบนั้น และหัวใจก็สั่นหวั่นไหว

เมื่อรู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เร่าร้อนของจงจิ่งห้าว หลินเซียนเหยียนรีบดึงผ้าห่ม มาคลุมมือเล็กๆของหลินลุ่ยซีจากนั้นก็หลับตาและแกล้งทำเป็นหลับ

ตอนนี้เธอไม่รู้สึกง่วง แต่ก็ไม่อยากพัวพันกับจงจิ่งห้าว ดังนั้นจึงควรแกล้งหลับจะดีกว่า

จงจิ่งห้าวถอนหายใจยาว ทำไมชะตาชีวิตของเขา ถึงได้ขมขื่นขนาดนี้?!

เห็นได้ชัดว่าของอยู่ตรงหน้า แต่แตะต้องไม่ได้เลย

เขาพลิกตัว ยืดขานอนหงาย มองโคมไฟคริสตัลบนเพดาน นัยน์ตาคมลึกๆ ซ่อนอาการตื่นเต้นไม่ได้

เดิมทีหลินเซียนเหยียนแสร้งทำเป็นหลับ แต่แล้วก็เผลอหลับไปจริงๆ ในขณะที่จงจิ่งห้าวพลิกตัวไปมา แต่ก็นอนไม่หลับเลย

ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่ง เอียงหัวจ้องมองไปที่แม่และลูกสาวที่นอนหลับใหล

ความขมขื่นในใจ ก็บ่นพึมพำกับตัวเองว่า “คุณทั้งสองคนมาที่นี่เพื่อทวงหนี้ใช่ไหม ชาติที่แล้วฉันคงฆ่าคนในครอบครัวของคุณจนหมด ในชาตินี้ พวกคุณมาเพื่อทรมานฉัน”

เขาเป็นผู้ชายปกติ เขาไม่ได้แตะต้องผู้หญิงเป็นเวลานาน เมื่อเห็นหลินเซียนเหยียนนอนอยู่ตรงนี้ ก็ต้องมีความรู้สึก

เขาถอนหายใจยาว ลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ พยายามจะดับไฟเสน่ห์หานั้น

คืนนี้ จนกระทั่งรุ่งสางจงจิ่งห้าวค่อยหลับ

ตอนที่เขาตื่นหลินเซียนเหยียนก็ลุกไปแล้ว และไปที่ร้านเพื่อเตรียมการขั้นตอนสุดท้าย เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเปิดร้าน

ป้าหยูเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว จงจิ่งห้าวไม่ทานก็ออกไป

ป้าหยูบอกว่าอยากพาหลินซีเฉินไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และถามจวงจื่อจิ่นว่าได้ไหม “คุณวางใจได้ปลอดภัยแน่นอน มีคนขับรถตามไปด้วย”

ไหนๆก็อาศัยอยู่ด้วยกันแล้ว จวงจื่อจิ่นไม่สามารถปฏิเสธได้เลยตอบตกลง “หัวของเสี่ยวซียังบาดเจ็บ พวกคุณกลับมาเร็วๆนะ”

“ตกลง ตกลง พวกคุณมีอะไรต้องการซื้อไหม? ฉันจะซื้อมาให้” ป้าหยูยิ้มอย่างมีความสุข

“ไม่มีค่ะ” จวงจื่อจิ่นยิ้ม

หลินซีเฉินกำลังนั่งอยู่บนโซฟา มองไปที่ป้าหยู ตาที่กลมโตของเขากลอกไปมา รู้ทั้งรู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ ยังต้องการพาเขาไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอีก?

ทำไมเขารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ?

เมื่อคืนป้าหยูก็คิดไว้แล้ว รอให้หลินเซียนเหยียนและจงจิ่งห้าวออกจากบ้านไปแล้ว จะพาหลินซีเฉินไปที่บ้านของจงฉีเฟิง

ถ้าไม่ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเด็กสองคนนี้เป็นของจงจิ่งห้าวจริงหรือเปล่า เธอไม่วางใจ

ก็เหมือนความในใจของเธอ อัดแน่นอยู่ในใจตลอด ทานข้าวไม่อร่อย นอนไม่หลับ

“ฉันเตรียมพร้อมแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” ป้าหยูยิ้ม “ฉันอุ้มเธอ เธอยังบาดเจ็บที่ศีรษะอยู่”

“ไม่ต้อง ผมเดินไปเองได้” หลินซีเฉินก็อยากรู้ว่าป้าหยูจะทำอะไร

เขาอาศัยอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว และมั่นจได้ว่าเธอไม่ใช่คนเลว และคงจะไม่ตกอยู่ในอันตราย

“ก็ดี” ป้าหยูจูงมือ พาเขาไปที่ทางเดินห้องโถงเพื่อช่วยเขาเปลี่ยนรองเท้า และพาเขาออกไป

พอขึ้นรถโชว์เฟอร์ถาม “ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ ไปบ้านเก่า”

โชว์เฟอร์หันกลับมามองเธอ แล้วมองไปที่หลินซีเฉิน ซึ่งดูเหมือนจะเข้าใจความตั้งใจของเธอ หันตัวกลับไป และขับรถไปอย่างเงียบๆ

หลินซีเฉินจงใจถามว่า “บ้านเก่าอยู่ที่ไหน?”

“มันเป็นบ้านของคุณปู่” ในสมองของป้าหยู ก็ยอมรับแล้วว่าหลินซีเฉินและหลินลุ่ยซีเป็นลูกของจงจิ่งห้าว

เธอรู้สึกว่าหลินเซียนเหยียนไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายแบบนั้น

ถ้าเธอมีแฟนแล้ว ทำไมยังต้องมาพัวพันกับจงจิ่งห้าว?

หลินซีเฉินเข้าใจแล้ว เป็นบ้านของพ่อผู้ไร้หัวใจ

ตอนนี้เขารู้สึกสบายใจขึ้น

“จริงสิ คุณย่าหยู คุณรู้ไหมว่าทำไมเดิมทีคุณแม่ของหนูถึงต้องหย่ากับเขา?” หลินซีเฉินเรียกจงจิ่งห้าว ยังไงก็คือ “คุณ” และ “เขา” เสมอ

เพราะในใจของเขา แม้จงจิ่งห้าวจะเป็นพ่อของเขา แต่เขาได้ทอดทิ้งเขาและแม่กับน้องสาวของเขา เขาไม่เต็มใจยอมรับเขา

ดังนั้นจึงใช้คำว่า “คุณ” “เขา” มาเรียก

(สีหน้าป้าหยูนิ่ง) เมื่อนึกถึงท่าทีของจงจิ่งห้าวในช่วงที่หย่าร้าง มันพูดยาก ยังไงก็ยังเป็นเด็ก ถ้ารู้แล้วคงจะเสียใจมาก

“คุณย่าหยู บอกฉันสิ” หลินซีเฉินดึงแขนเสื้อของเธอ ขี้อ้อน “โอเคมั้ย ได้โปรดเถอะ ”

ป้าหยูจนปัญญาจริงๆ “ในตอนนั้นพ่อของเธอมีแฟนคนหนึ่ง ดังนั้น……”

“เขาแต่งงานแล้ว ยังมีแฟนอีกเหรอ?” หลินซีเฉินรู้ว่าในตอนนั้นมันต้องมีเหตุผลอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นการนอกใจ แฟนแบบไหน ต้องเป็นเมียน้อยแน่นอน

หลินซีเฉินพูดอย่างโกรธเคือง “ผู้ชายไม่มีดีสักคน!”

ป้าหยูรู้สึกขบขันกับเด็ก และถามว่า “เธอไม่ใช่ผู้ชายเหรอ?”

หลินซีเฉิน “……”

“ผมยังเด็ก แต่ผมจะไม่เป็นเหมือนพ่ออย่างแน่นอน เป็นผู้ชายที่ไร้ความรับผิดชอบ ทิ้งภรรยาและทิ้งลูก”

ป้าหยูเบิกตากว้าง เด็กคนนี้รู้หรือว่าจงจิ่งห้าวเป็นพ่อของเขา?

จริงหรือไม่ที่หลินเซียนเหยียนและจวงจื่อจิ่นปกปิดจงจิ่งห้าว?

แก้แค้นที่ตอนนั้นเขาขอหย่า ฉะนั้นลูกอยู่ต่อหน้าแล้วยังไม่ยอมบอกเขา?

“เธอ เธอรู้เหรอว่าเขาเป็นพ่อของเธอ?”

“แน่นอน เขาเป็นสามีเก่าของแม่ฉัน เขาต้องเป็นพ่อของพวกเราแน่ๆ แม่ของผมไม่เคยมีผู้ชายอื่น”

หลินซีเฉินให้คำมั่นสัญญา และพูดอย่างมั่นใจมาก

ป้าหยูเหยียดมือออกและแตะศีรษะของเขา “เสี่ยวซีเป็นเด็กดี ลำบากพวกเธอจริงๆ”

ผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงดูลูกสองคน สามารถจินตนาการได้ว่ามันลำบากแค่ไหน

“พวกเราไม่ได้ลำบาก พวกเรามีแม่ และยังมียาย” ใบหน้าของหลินซีเฉินหดหู่ลงช้าๆ เมื่อก่อนยังเคยมีลุง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว

ป้าหยูถอนหายใจ “พ่อของเธอจะต้องทนทุกข์ทรมานแน่นอน”

ตอนแรกเขาเป็นคนสร้างขึ้นมา แต่ตอนนี้รู้ว่าลูกเติบโตขนาดนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าในใจของเขาจะรู้สึกอย่างไร

ถือได้ว่าเป็นกรรมของการละทิ้งพวกเขา

ไม่นานรถก็จอดที่บ้านเก่าของตระกูลจง และป้าหยูก็อุ้มหลินซีเฉินลงจากรถ

ยืนอยู่หน้าบ้าน หลินซีเฉินกะพริบตา ตรงนี้ใหญ่มาก และวิลล่าที่พวกเขาอาศัยอยู่ก็ใหญ่เช่นกัน แต่มันก็ค่อนข้างเงียบ เห็นได้ชัดว่าตรงนี้มีสไตล์มากกว่า

ป้าหยูยิ้ม “ฉันจะพาเธอเข้าไป”

หลินซีเฉินลังเลอยู่พักหนึ่ง แม่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับพ่อ เพราะยังโกรธพ่ออยู่หรือเปล่า

เขามาอย่างนี้ ถ้าแม่รู้จะโกรธไหม?

“คิดอะไรอยู่ ป้าหยูเห็นท่าทางที่คิดไม่ตกของเขา และยิ้ม “ไม่ต้องกลัว เธอเป็นหลานชายของพวกเขา พวกเขาจะต้องชอบเธออย่างแน่นอน”

“จริงเหรอ?” หลินซีเฉินรู้สึกคาดหวัง

หัวใจดวงน้อยก็เต้นแรง

เขาตั้งหน้าตั้งตารอญาติๆมาตลอด แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

“จริงสิ” ป้าหยูจับมือเขา “ไปกันเถอะ พวกเราเข้าไปกันเถอะ”

ระหว่างทาง หลินซีเฉินเหมือนวิญญาณออกมาจากร่างของเขา เหมือนหุ่นเชิด เดินตามรอยเท้าของป้าหยู

กดกริ่งที่ประตูใหญ่ ลุงเฟิ๋งกำลังรดน้ำดอกไม้ ได้ยินเสียงกริ่งประตู และกดที่สัญญาณประตู เห็นป้าหยูปรากฏตัวที่ประตู เขาก็ตกตะลึง เพราะหลังจากที่นายหญิงเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นจงจิ่งห้าวยังเรียนอยู่มัธยมต้นก็ย้ายออกจากที่นี่ เธอก็ติดตามไปดูแล

จงจิ่งห้าวไม่ชอบกลับมา ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยปรากฏตัวที่นี่

ทำไมจู่ๆเธอถึงมา? แล้วเด็กน้อยที่อยู่ข้างๆเธอเป็นใคร?

หน้าตาเด็กคนนี้……

ลุงเฟิ๋งปลดล็อคประตูใหญ่ วางถังน้ำลง และไปเรียกจงฉีเฟิงที่ห้องหนังสือ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด