กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 235 ความจริงในตอนนั้น

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 235 ความจริงในตอนนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เธอพาลูกทั้งสองคนไปเจอยู่ซิ่วจริงๆ พวกเธอดูไปมาหาสู่กันดีมาก”

ตระกูลเฉิง คฤหาสน์ใหญ่ขนาดนั้น ง่ายมากที่จะถูกพบ ครั้งนี้คนที่เสิ่นเผยซวนพามา ไม่เพียงแต่ยื่นมือมาช่วยได้ดี ความสามารถในการพิสูจน์ก็แข็งแกร่งมาก

อยากจะแน่ใจว่าวันนี้หลินซินเหยียนไปไหน ก็ง่ายมาก

แค่พวกเขาเคยเจอกันไม่กี่ครั้ง จู่ๆจะสนิทกันขนาดนี้ได้ไง?

จุดนี้เสิ่นเผยซวนยังไม่เข้าใจ

“ผมว่าอาจารย์ที่ทำผ้าไหมกวางตุ้งได้นั้น น่าจะเกี่ยวข้องกับยู่ซิ่ว เขาเลยกระชับความสัมพันธ์ ……”

จงจิ่งห้าวส่ายหน้า เขาไม่คิดเช่นนั้น ที่หลินซินเหยียนกับยู่ซิ่วสนิทกันเพราะว่าอาจารย์ที่ทำผ้าไหมกวางตุ้งได้

“เมื่อก่อนพวกเขาก็มีการติดต่อกัน เธอยังเอากำไรหยกให้หลินซินเหยียน บอกว่าเป็นของตระกูลจง แต่ว่าผมไม่เคยได้ยินว่าตระกูลจงมีของแบบนี้ด้วย”

ถึงแม้ตระกูลจงจะมีกำไรหยกที่เป็นของประจำตระกูล แต่นั่นไม่ควรจะเป็นของเหวินเสียนแม่เขาเหรอ?แล้วจะไปอยู่ในมือของยู่ซิ่วได้ไง?

“งั้นเธอก็จงใจ เอาใจคุณหลิน พยายามลดความรุนแรงความสัมพันธ์กับคุณ ยังไง เธอก็ไม่ได้มีลูกเอง……”เสิ่นเผยซวนคิดเหตุผลอื่นไม่ออก ถึงยู่ซิ่วบอกว่าเป็นลูกคนที่สาม แต่ก็ไม่เคยทำทารุณจงจิ่งห้าว ที่มากที่สุดคือ แต่งเข้าตระกูลจงไม่ถูกเวลา

จงจิ่งห้าวไม่คิดว่าจะธรรมดาอย่างนี้ ครอบครัวของหลินซินเหยียนก็ถูกมือที่สามมาทำลาย แม่เธอถูกส่งกลับประเทศ เธอไม่มีความอดทนต่อมือที่สามมากขนาดนั้น และก็ยิ่งไม่มีทางถูกซื้อตัวแค่เพราะกำไรหยกอันหนึ่งแน่

และเขาก็ยิ่งไม่เชื่อว่า หลินซินเหยียนจะเป็นคนที่ถูกซื้อได้ด้วยเงินทอง

“เรื่องนี้ คุณก็ทำเป็นไม่รู้”สีหน้าของเขาที่สดใสใต้แสงไฟ ก็หม่นลงไปเล็กน้อย

เขากลับอยากดูว่าหลินซินเหยียนจะปิดบังเขาได้นานแค่ไหน

ถ้าหากหลินซินเหยียนสารภาพกับเขา เขาจะไม่ต่อว่าเธอ และจะไม่โกรธเธอด้วย

ยังไง ทุกคนก็มีความคิดและจุดยืนของทุกคน

เขาไม่เคยคิดว่าหลินซินเหยียนต้องยืนอยู่ในจุดยืนของเขา

เขาโกรธที่หลินซินเหยียนปิดบัง

สำหรับเขาแล้ว ปิดบังก็คือไม่เชื่อใจ

หลินซินเหยียนไม่เชื่อใจเขา!

แม้แต่เขายังไม่เชื่อใจ แล้วจะคบกันได้ไง?

เสิ่นเผยซวนตอบไป และก็ไม่กล้าพูดมาก เห็นได้ชัดเจนว่าอารมณ์ของจงจิ่งห้าวไม่ดี เขาก็ไม่กล้าโน้มน้าวอะไร สันนิษฐานว่าในใจเขาเองก็มีมาตรฐานในความคิด สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้

เวลานี้จงจิ่งห้าวอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ว่าพอคิดแล้วยังมีลูกอีกสองคน เขาได้แต่กลับไปก่อน เสิ่นเผยซวนก็ไปปิดไฟรถ

พวกเขากลับไปด้วยทางเดิม

“ผมคิดว่าคุณหลิน บางทีทำแบบนี้อาจจะมีเหตุผลของเธอ ตั้งแต่สมัยโบราณแล้วแม่ผัวลูกสะใภ้เข้ากันได้ยาก บางทีเธออยากจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนในครอบครัว?”

เสิ่นเผยซวนยังอยากชี้นำเขาสักหน่อย

นี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่แย่

ไม่แน่หลินซินเหยียนอาจจะทำเพื่อเขา ถึงได้เข้าใกล้กับยู่ซิ่ว

จงจิ่งห้าวไม่พูดอะไร เขามีความคิดไตร่ตรองของเขาเอง จากที่เขาเข้าใจหลินซินเหยียน เธอไม่มีทางเป็นคนที่ขี้ประจบคนแน่

“ประธานจง สนใจคุยกันหน่อยไหม?”ไป๋ยิ่นหนิงนั่งรถเข็นอยู่หน้าประตู เหมือนว่ากำลังรอเขา

เห็นเขากับเสิ่นเผยซวนเดินเข้ามา ก็พูด

จงจิ่งห้าวส่งสายตาให้เสิ่นเผยซวน ให้เขาไปก่อน เขากลับอยากฟังว่าไป๋ยิ่นหนิงจะพูดอะไร

เสิ่นเผยซวนมองไป๋ยิ่นหนิง ก้าวเท้าเข้ามาลานบ้าน

ไป๋ยิ่นหนิงหมุนรถเข็นเดินไปทางริมแม่น้ำ แม่น้ำไหลริน เป็นประกาย เหมือนดาวตกลงมา โผล่ออกมาจากแม่น้ำ เพื่อสอดแนมวิวทิวทัศน์ของโลกนี้

“ประธานไป๋อยากจะพูดอะไรกับผม?”จงจิ่งห้าวเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า ยืนอยู่ริมแม่น้ำ ในแม่น้ำสะท้อนร่างที่แข็งตรง

ไป๋ยิ่นหนิงมองไป สองมืออดไม่ได้ที่จะกำแน่น เขาก็เป็นผู้ชายที่สง่างาม แต่ตอนนี้กลับได้แต่พึ่งรถเข็นนี้ไปวันๆ

ถ้าบอกว่าในใจไม่รู้สึกอะไร ก็คงโกหก

ไม่มีใครไม่สนใจว่าตัวเองเป็นคนพิการ!

“ผมเล่านิทานให้ประธานจงฟังเป็นไง?”ไป๋ยิ่นหนิงเงยหน้า

เขาไม่ชอบที่ต้องเงยมองคน แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นแบบนี้ ก็ต้องเงยมอง

สายตาจงจิ่งห้าวดูคาดไม่ถึง เหลือบมองเขาเบาๆ“ประธานไป๋มีความสนใจ ผมก็จะตั้งใจฟังด้วยความเคารพ”

ไป๋ยิ่นหนิงมองไปที่ท้องฟ้า พูดอย่างคิดดีๆ“เดาว่าตัวตนของผม ประธานจงคงสืบเรียบร้อยแล้วสินะครับ?”

ถึงจะเป็นคำถาม แต่เป็นน้ำเสียงที่มั่นใจ

จงจิ่งห้าวไม่ยอมรับ เขามั่นใจว่าเข้าใจไป๋ยิ่นหนิงดี

เขาให้กวนจิ้งสืบ

ไป๋ยิ่นหนิงเป็นเด็กกำพร้า ถูกไป๋หงเฟยรับเลี้ยงไว้ ต่อมาหลังจากไป๋หงเฟยตาย เขาก็รับไป๋ซื่อกรุ๊ปต่อ

เขาก็ถือว่าโชคดี ได้เจอไป๋หงเฟย

ไม่งั้นเขาจะมีตัวตนและตำแหน่งในวันนี้อย่างง่ายดายได้อย่างไร

อย่าเชื่อคำว่าสร้างตัวจากมือเปล่า บนโลกนี้ ถ้าคนๆหนึ่งไม่มีพื้นหลังหรือตัวตนใดๆ ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จในเวลาสั้นๆได้

เขาอายุเท่านี้ ไม่มีทางที่จะมีความสำเร็จในวันนี้ได้

เขาเอารูปของไป๋หงเฟยใบหนึ่งจากโทรศัพท์ให้จงจิ่งห้าวดู“นี่คือพ่อเลี้ยงผม ไป๋หงเฟย”

จงจิ่งห้าวเหลือบมอง เขาไม่สนใจพวกนี้ แค่คิดว่าไป๋ยิ่นหนิงให้เขาดู จะต้องมีจุดประสงค์แน่

“เห็นไหม นิ้วเขาหายไปสองนิ้ว?”

นิ้วก้อยกับนิ้วนางถูกตัดออก

จงจิ่งห้าวหรี่ตาลงหน่อยๆ“คุณจะพูดอะไร?”

“เขาไม่ได้นิ้วพิการไปสองนิ้วแต่กำเนิด แต่ถูกคนตัด”

หลังจากไป๋ยิ่นหนิงถูกไป๋หงเฟยรับเลี้ยง เขาก็เรียนรู้การทำธุรกิจกับไป๋หงเฟยมาตลอด ต่อมาโตขึ้น เขาก็แปลกใจ ทำไมผู้ชายคนนี้ไม่แต่งงานมีลูก แต่รับเลี้ยงเขาไว้

จากตัวตนของเขาแล้ว ถึงแม้จะไม่มีนิ้วสองนิ้ว แต่อยากหาผู้หญิงสักคนก็ง่ายดายมาก คาดว่าผู้หญิงที่อยากแต่งกับเขาก็ไม่น้อย

ต่อมาเขาก็พบว่าที่ไป๋หงเฟยไม่แต่งงาน เพราะว่าใจเขามีผู้หญิงคนหนึ่งมาตลอด

ผู้หญิงคนนี้ก็คือเฉิงยู่ซิ่ว

ต่อมาเขาป่วย อยู่ในช่วงกำลังจะตายนั้น ก็บอกไป๋ยิ่นหนิงว่า ชีวิตนี้เขามีความเสียใจอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือเขาพลาดรักแท้ในชีวิตนี้ไป

ไป๋ยิ่นหนิงยังจำได้ว่าตอนนั้นเขาคว้ามือของเขา ทิ้งความปรารถนาในช่วงที่จะตายนั้นไว้ “ผมรู้ว่า หลังจากเธอคลอดลูกมาแล้ว พวกเราก็ตัดความเป็นไปได้ออกไป เธอบอกว่าเธอชอบลูกสาว ผมว่าเธอจะต้องคลอดลูกสาวแน่ อนาคต ผมแค่หวังว่าคุณจะแต่งงานกับลูกสาวเธอมาเป็นภรรยาให้ได้ และดีต่อเธอ ถือว่าชดเชยให้ความเสียใจของผมในชีวิตนี้ ……”

ชีวิตนี้ผมได้เจอกับเฉิงยู่ซิ่วแต่ไม่มีวาสนาต่อกัน หวังว่าลูกเลี้ยงจะสามารถแต่งงานกับลูกสาวของเฉิงยู่เวินได้

และก็ถือว่าต่อวาสนาของทั้งสองคนต่อไป

แล้วเครื่องตรวจหัวใจ ก็ส่งเสียงแล้วเปลี่ยนเป็นเส้นตรง

ไป๋หงเฟยทิ้งไว้แค่นี้ก็จากไป

เขาไม่เข้าใจมาตลอด ลูกที่ไป๋หงเฟยบอกว่ายู่ซิ่วคลอดออกมา เด็กที่เธอคลอดนั้นอยู่ไหน?

หลังจากที่ไป๋หงเฟยเสียไป เขาก็สืบเรื่องเฉิงยู่ซิ่ว รู้ว่าเธอแต่งงานกับจงฉีเฟิง และไม่เคยคลอดลูกออกมา

“เมื่อก่อน พ่อเลี้ยงผมถูกคนกักขังหกปี มือของเขา ก็ถูกตัดในตอนนั้น”เวลาหกปีนั้นไม่สั้น ตอนนั้นพ่อเลี้ยงเขาถึงถูกคนกักขัง

และยังตัดนิ้วมือของเขาอย่างโหดเหี้ยม

เรื่องเมื่อก่อนเหมือนว่ามีคนจงใจปิดมันไว้ สิ่งที่เขาสืบเจอนั้นก็มีข้อจำกัดจริงๆ

เขาพาจงจิ่งห้าวมาที่นี่ เพราะอยากให้เขาสืบเรื่องนี้

ไป๋หงเฟยเลี้ยงดูเขา และเอาทั้งตระกูลไป๋ให้เขาหมด เขารู้สึกขอบคุณพระคุณในการเลี้ยงดูของไป๋หงเฟย เขาอยากล้างแค้นให้คนที่ตัดนิ้วมือพ่อเลี้ยง

แต่ว่าเขาหัวเดียวกระเทียมลีบ

ตอนนั้นตระกูลไป๋ก็ไม่ใช่คนทั่วไป สามารถกักขังเขาได้ และยังให้ใครก็ตามสืบไม่เจออีก พอคิดดูแล้ว อำนาจของอีกฝ่ายต้องน่ากลัวแค่ไหนกันนะ

ตอนนี้ เขาก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนนั้น

ถ้าเขาเดาไม่ผิด เป็นไปได้ที่จงจิ่งห้าวจะเป็นลูกที่เฉิงยู่ซิ่วคลอด

แน่นอนว่า เขาไม่มีหลักฐาน ตอนนี้ยังได้แค่เดา

แต่ว่า ตอนนี้จงจิ่งห้าวเกี่ยวพันเข้ามาแล้ว สันนิษฐานว่า เขาคำนึงถึงแต่ประโยชน์ของตนเองก็ไม่พอแน่

มีความแข็งแกร่งของเขา คิดดูแล้ว ถ้าสืบหาความจริง ความหวังก็คงจะมีในไม่ช้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด