กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 365 สามีของฉัน

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 365 สามีของฉัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จึงได้เริ่มอ่านประวัติส่วนตัวของเขาขึ้นมา

ชื่อภาษาจีน: หลี่จ้าน

ชื่อภาษาอังกฤษ: SeanXiao

เพศ: ชาย

ส่วนสูง: 180เซินติเมตร

น้ำหนัก: 56กิโลกรัม

ราศี: ตุลย์

หลี่จ้าน เกิดวันที่5 ตุลาคม 1992 สถานที่เกิดเมืองB เป็นนักร้องและนักแสดงชาย

ปี2015 เข้าร่วมรายการtalent show [Hello young ]ด้วยฐานะผู้เข้าแข่งขันและได้อันดับที่3

เดือนมีนาคม ปี2016 แสดงซีรีส์ออนไลน์【คุณคือชีวิตของฉัน】

ปี2017 หลี่จ้านอาศัยตัวละครหานเทียนหยูในเรื่อง【ไกลแค่ไหนคือคุณ】ที่แสดงพรสวรรค์ของเขาออกมา

วันที่28ตุลา ปี2018 【โอ้ว! ที่รัก】ที่เขาแสดงได้ออกอากาศทางช่องทีวีไลฟ์ มียอดวิวเกินห้าร้อยล้านครั้งแล้ว เขาได้รับความชื่นชอบจากตัวเอกที่แสดงเป็นหยูเฉิงเจ๋อจากผู้คนเป็นอย่างมาก

ละคร【โอ้ว! ที่รัก】ด้อวสานด้วยยอดยิวหนึ่งหมื่นห้าพันล้านยอดวิว หลี่จ้านก็ได้ดังเปรี้ยงเพราะละครเรื่องนี้

ได้กลายเป็นดาราชายที่มียอดวิวสูงสุดไม่แพ้ใครๆ

หลินซินเหยียนเอามือท้าวคาง หลี่จ้านคนนี้เป็นหนุ่มน้อยที่ดังสมชื่อจริงๆ อายุยังไม่ถึง30เลยก็โด่งดังมากแล้ว

ไม่ว่าทำเรื่องอะไรก็ต้องอยู่ที่ถูกชะตา เธอรู้สึกหลี่จ้านคนนี้ตรงตามความต้องการของเธอมาก

เธอได้ตัดสินใจ ณ ที่นี้เลย ตัดสินใจจะไปหาเขา

เธอล้วงมือถือออกมาโทรหากวนจิ้ง เธอต้องการให้กวนจิ้งช่วยเธอตรวจสอบต้นสังกัดที่หลี่จ้านอยู่

ที่เหลือเธอคุยเอง

เวลานี้กวนจิ้งเพิ่งถึงหน่วยงาน ยังไม่ได้ส่งเอกสารให้เหวินชิงเลย ทันใดนั้นมือถือที่อยู่ในกระเป๋าดังขึ้น เขาล้วงมือถือออกมารับสาย

“กวนจิ้ง นายช่วยฉันตรวจสอบคนๆนึงหน่อย”

กวนจิ้งอึ้ง จงจิ่งห้าวเพิ่งให้เขาตรวจสอบเหวินชิง ตอนนี้หลินซินเหยียนก็โทรหาเขาบอกให้เขาตรวจสอบคน สองสามีภรรยาคู่นี้นี่ปรึกษากันมาเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยเนี่ย?

“คุณอยากให้ผมตรวจสอบใครครับ?” กวนจิ้งถาม

“ต้นสังกัดที่หลี่จ้านอยู่” หลินซินเหยียนพูด

กวนจิ้งชักจะยุ่งเหยิงไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

คนนึงจะตรวจสอบพ่อ คนนึงจะตรวจสอบลูก

สองสามีภรรยาคู่นี้ช่างใจตรงกันจริงๆ

ชื่อเดิมของหลี่จ้านคือเหวินเสี่ยวจี้ เป็นลูกชายของเหวินชิงกับหลี่จิ้งหลังจากเป็นดาราแล้วได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นหลี่จ้าน

มีน้อยคนที่รู้เรื่องนี้ เพราะความสัมพันธ์ของจวจิ่งห้าวกวนจิ้งถึงได้รู้เรื่องนี้

“เขาไม่มีต้นสังกัดครับ” หลี่จ้านไม่ได้เซ็นสัญญากับต้นสังกัด ข้างกายมีแค่ผู้จัดการส่วนตัวคนนึง

“คุณอยากหาเขาทำไมเหรอครับ?” กวนจิ้งถาม

หลินซินเหยียนก็ไม่ได้ปิดบัง “ฉันอยากให้เขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ นายสามารถหาวิธีติดต่อของเขามาให้ได้มั้ย?”

เธอถาม

กวนจิ้งตอบด้วยความแน่ใจ “ได้ครับ”

ก๊อกๆ—

ประตูของทางฝั่งหลินซินเหยียนถูกเคาะดังขึ้น ตามมาด้วยพนักงานต้อนรับของชั้นล่างผลักประตูออกและยืนอยู่หน้าห้อง “ใต้ตึกมีคนหาคุณค่ะ”

หลินซินเหยียนพยักหน้าพร้อมบอกว่ารู้แล้ว เธอพูดกับกวนจิ้งที่อยู่ในสาย “นายหาวิธีติดต่อได้แล้วส่งมาให้ฉันนะ ตอนนี้ฉันมีธุระต่อ วางสายก่อนแล้ว”

หลินซินเหยียนพูดจบได้วางมือถือลง แล้วลุกขึ้นถามว่า “เขาได้บอกหรือเปล่าว่าเป็นใคร?”

“ไม่ได้บอกค่ะ แต่เขานั่งรถเข็นค่ะ”

สีหน้าของหลินซินเหยียนชะงักไว้ นั่งรถเข็น ในบรรดาคนที่เธอรู้จัก หาคนที่นั่งรถเข็นคนที่สองไม่เจอเลย

ไม่มีใครนอกเหนือจากไป๋ยิ่นหนิง

หลินซินให้พนักงานต้อนรับเอาน้ำไปเสิร์ฟที่ห้องรับแขกสองแก้ว จากนั้นได้เดินลงไป

ไป๋ยิ่นหนิงนั่งอยู่บนรถเข็น หันหลังให้กับบันได เหมือนเขาจะได้ยินเสียงฝีเท้า พอหมุนรถเข็นมาก็เห็นหลินซินเหยียนที่เดินลงมาจากชั้นบน

หลินซินเหยียนก็ได้มองเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ด้านขวาของหน้าผากติดผ้าก๊อซไว้ ใต้ตามีรอยเขียวช้ำ

ในใจเธอรู้ดีว่าเรื่องมันเป็นมายังไง

ก็เลยไม่ได้ถาม เธอเดินลงมาจากบันได

ไป๋ยิ่นหนิงมองหน้าเธอ แววตามีความผิดหวังซ่อนอยู่ “คุณไม่เป็นห่วงผมหน่อยเลยเหรอว่าได้รับบาดเจ็บยังไง?”

เขาผิดหวัง ที่หลินซินเหยียนเอาเรื่องที่เหวินชิงเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปบอกกับจงจิ่งห้าว

ถ้าหลินซินเหยียนไม่พูด เขามั่นใจว่าจงจิ่งห้าวไม่มีทางรู้ไวขนาดนี้หรอกว่าเขาเป็นคนทำ

ทั้งสองรู้ดีแก่ใจ

หลินซินเหยียนแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ แค่ถามเขาว่าอาการบาดเจ็บรุนแรงมั้ย

“ไม่ถึงขั้นตายครับ” ไป๋ยิ่นหนิงพูดอย่างเรียบเฉย

หลินซินเหยียนฟังออกว่าเขาโกรธ

ถอนหายใจเบาๆทีนึง เธอเคยเตือนตั้งนานแล้วว่าให้เขาจากไป แต่เขาดันจะอยู่ที่นี่ต่อเอง

หลินซินเหยียนไปนั่งที่โซฟา พนักงานต้อนรับได้ยกน้ำมาเสิร์ฟสองแก้ว เธอยกขึ้นมาแก้วนึง อีกแก้วผลักไปที่ตรงหน้าของไป๋ยิ่นหนิง “ดื่มน้ำดับไฟหน่อยค่ะ”

ไป๋ยิ่นหนิงไม่ได้ยกแก้วขึ้นมา แต่ได้มองหน้าหลินซินเหยียนอย่างจริงจัง “บอกผมได้มั้ยว่าคุณเป็นคนไปพูดเอง หรือว่าเขาพบเบาะแสอะไร คุณถึงจำใจ……”

“ฉันเป็นคนพูดเองค่ะ” หลินซินเหยียนขัดจังหวะเขา และมองหน้าเขาอย่างจริงจัง “เขาเป็นพ่อของลูกฉัน และเป็นสามีของฉัน ฉันไม่ควรปิดบังเขาค่ะ”

นี่เป็นความในใจของเธอ ถึงแม้ตอนนั้นก็ลังเลอยู่เหมือนกัน แต่ที่มากกว่าคือ เธออยากซื่อสัตย์และจริงใจกับจงจิ่งห้าว

ไม่ปิดบังอีกฝ่าย ไม่โกหกอีกฝ่าย เธอรู้สึความรักต่างก็ต้องทุ่มเทกันทั้งสองฝ่าย ถึงจะสามารถมีผลลัพธ์ที่ดี

ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ของเธอกับจงจิ่งห้าวก็ค่อนข้างพิเศษ

บางครั้งเธอจะคิดว่าที่จงจิ่งห้าวอยากอยู่กับเธอเพราะลูกทั้งสอง แต่ว่า ความรู้สึกลึกซึ้งที่เขาเผยออกมาก็ทำให้เธอหลงใหล

เธอชอบจงจิ่งห้าว อยากใช้ชีวิตสงบสุขกับเขา

ถ้าเป็นไปได้ เธอยังอยากมีลูกให้เขาอีก แต่แค่ร่างกาย……

ไป๋ยิ่นหนิงรู้สึกแน่นหน้าอกและเจ็บแปล๊บๆ

ที่จริงเขารู้ตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังอดถามไม่ได้อยู่ดี สุดท้ายก็จบด้วยความผิดหวังจริงๆด้วย

เขายับยั้งความขมขื่นใจไว้ ยิ้มขมขื่นแล้วพูด “คุณไม่แคร์ความเป็นความตายของผมจริงเหรอ”

“ฉันรู้ว่าเขามีขอบเขตอยู่ค่ะ” เธออยู่ข้างกายจงจิ่งห้าวมานานขนาดนี้ รู้นิสัยของเขาดี เขาไม่ใช่คนวู่วาม แน่นอนว่าก็ไม่ใช่คนที่จะยอมเสียเปรียบ

“ฮ่าๆ—”ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะเสียงดัง “คุณแน่ใจขนาดนี้เลยเหรอครับ?”

“ฉันรู้จักเขาดีค่ะ” แค่คำพูดเดียวก็ทำเอาเขาพูดไม่ออกอีกเลย

เชื่อใจ

เป็นถ้อยคำที่ล้ำค่ามาก โดยเฉพาะกับสามีภรรยากัน

ไป๋ยิ่นหนิงเก็บอารมณ์ไว้ “ก็ไม่รู้ว่าถ้าเขารู้คนที่เขาเคารพมาโดยตลอด ที่จริงคือศัตรูของเขา เขาจะมีสีหน้ายังไงน้อ”

สีหน้าของหลินซินเหยียนเปลี่ยนไปทันที เขาหมายความว่ายังไง?

เขารู้แล้วเหรอ?

เรื่องในอดีตถูกขจัดจนหมดเกลี้ยง มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ ไป๋ยิ่นหนิงไม่มีทางตรวจสอบเจอไวขนาดนี้หรอก

เธอมองไป๋ยิ่นหนิงอย่างสงบนิ่ง “คุณหมายความว่ายังไงคะ? ฉันไม่เข้าใจคุณกำลังพูดอะไรอยู่”

ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะ “คุณไม่รู้จริงเหรอครับ?”

ตอนนี้สิ่งที่เขาขาดก็คือหลักฐาน

ความปรารถนาก่อนที่ไป๋หงเฟยจะตายคือให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเฉิงยู่ซิ่ว นั่นก็แสดงว่า เฉิงยู่ซิ่วเคยผ่านการมีบุตรมาก่อน

แต่ว่า ตอนนี้มีปริศนาข้อนึง

ลูกที่เธอคลอดล่ะ?

หลินซินเหยียนวางแก้วน้ำในมือลง ตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองไป๋ยิ่นหนิง “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงคะ?”

สรุปก็คือ เธอไม่ยอมรับว่าตัวเองรู้

ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะ “ผมว่า อีกไม่นานความจริงก็จะกระจ่างเอง”

เรื่องที่เหวินชิงให้คนไปตรวจสอบผ้าไหมกวางตุ้งที่ไป๋เฉิง เขารู้ในเวลาแรกเลย เพราะยังไงซะไป๋เฉิงคือถิ่นของเขา

เพราะฉะนั้นตอนที่คนของเหวินชิงกำลังตรวจสอบเรื่องผ้าไหมกวางตุ้ง เขายังแกล้งปล่อยข่าวลือออกมาว่าเฉิงยู่ซิ่วเคยผ่านการมีบุตรมาก่อน

เหวินชิงคือบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ ถ้าเขารู้เรื่องที่เฉิงยู่ซิ่วเคยมีบุตร จะต้องตรวจสอบเจาะลึกเข้าไปแน่นอน ถึงเวลา……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด