กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 528 พระจันทร์แทนใจของฉัน

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 528 พระจันทร์แทนใจของฉัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เอาไป” จงเหยียนเฉินดันถ้วยไปตรงหน้าของซูจ้าน

ซูจ้านเบิกตากว้างออกมา “นายทำอะไร?”

“คุณอาเหยียบลงไปบนถ้วยนี้ ร้องเพลงหมูออกมาให้ครบทั้งเพลง แล้วผมจะบอกคุณอาว่าน้าฉินยาอยู่ที่ไหน” จงเหยียนเฉินเอ่ยออกมาอย่างไม่รีบร้อน

ซูจ้าน “…”

“ถ้วยใบนี้แม้แต่หนูก็ยังเหยียบแตกได้เลยมั้ยล่ะ?” เหยียนซีพูดแทรกออกมา ถ้วยนี้เป็นพอร์ซเลน ดูแล้วมันก็ไม่ได้หนา เป็นชั้นบางๆ ขาแค่ข้างเดียวจะยังเหยียบไม่แตกอีก?

“นายดูสิ น้องสาวของนายก็รู้อย่างนี้มันเป็นการบังคับใจคนอื่นอยู่นะ” ซูจ้านมองไปทางเหยียนซีไปด้วยความซาบซึ้งใจ ยังดีที่มีคนยืนอยู่ฝั่งเขาด้วย

เขาไม่ได้ตัวคนเดียว

“พี่ชาย หนูคิดว่าพี่ควรจะให้คุณอาซูสวมถ้วยนี้เอาไว้บนหัว ยืนอยู่ห้องโถง ร้องแสดงเพลงจิตใจที่ไม่สงบ ถ้าเขาร้องจบ ไม่มีใครหัวเราะเขา พี่ก็บอกเขาไปว่าน้าฉินยาอยู่ที่ไหน”

สีหน้าของซูจ้านตอนที่จงเหยียนซีพูดอยู่นั้น มืดมนลงทีละนิดๆ

ถ้าเขาทำอย่างนั้นไปจริงๆ คนอื่นเขาจะไม่คิดว่าเขาเป็นบ้าเอาหรือไง?

ยิ่งไปกว่านั้น คนอื่นเขาจะไม่หัวเราะกันได้ยังไง?

แค่เขาสวมถ้วยเอาไว้บนหัว มันก็สามารถทำให้คนอื่นเขาหัวเราะกันฟันร่วงกันแล้วมั้ยล่ะ?

ทำไมอันนึงโหดร้ายกว่าอีกอันนึงอีก?

“คุณอาจะทำตามใคร?”

จงเหยียนซีเบียดเข้าไปในอ้อมแขนของจงจิ่งห้าว ขยิบตาออกมา แสดงสีหน้าตื่นกลัวออกมา “ครั้งที่แล้วคุณอาบอกว่าหนูโง่นี่นา”

ซูจ้าน “…”

เด็กคนนี้ทำไมถึงยังเก็บความแค้นอยู่อีก?

หลินซินเหยียนเป็นคนที่อ่อนโยนนี่ ทำไมถึงได้คลอดลูกที่จิตใจชั่วร้ายสองคนนี้ออกมาได้?

โตขึ้นจะชั่วร้ายไปกว่านี้มั้ยเนี่ย?

จงเหยียนเฉินยกนิ้วโป้งให้กับน้องสาว สุดยอดจริงๆ ความคิดนี้มันช่างถูกใจเขาเสียเหลือเกิน

เทียบกันดูแล้ว ความคิดของเขามันเล็กน้อยไปเลย โหดเหี้ยมสู้เธอไม่ได้เลย

“คุณอาซู คุณอายังจำตอนที่คุณอาแต่งงานกับน้าฉินยาได้หรือเปล่าว่าผมบอกว่าอะไร?” เขามองซูจ้าน เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง “ถ้าคุณอารังแกน้าฉินยา พวกเราจะจัดการคุณ”

ซูจ้าน “…”

ความจำของเขาทำไมถึงได้ดีขนาดนี้?

นี่ยังจำได้หมดเลย?

“คุณอาไม่ยินดีที่จะทำก็ไม่เป็นไร นั่นก็เป็นที่ยืนยันแล้วว่าคุณอาไม่ได้แคร์น้าฉินยาอะไรขนาดนั้น ไม่ยอมเสียสละเลยสักนิดเดียว อย่างนั้นแล้วต่อจากนี้ไป คุณอาก็ช่วยอย่ารบกวนคุณน้าอีก ถ้าคุณน้ามีแฟนใหม่ คุณอาก็ต้องยินดีกับเธอ” จงเหยียนเฉินพูดคำที่ต้องการจะพูดออกไปจนจบในรวดเดียว

จากประเทศAมายังในประเทศ สองเดือนนี้ฉินยาก็ยังอาศัยร่วมชายคาเดียวกันกับพวกเขาอีกด้วย เดิมทีก็เป็นคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเหมือนญาติคนสนิทกันอยู่แล้ว ในสายตาของเขานั้น ฉินยาก็คือน้าแท้ๆของเขา

เขาก็คือญาติคนสนิทของน้าฉินยา เธอไม่มีพี่น้อง ไม่มีญาติสนิททางสายเลือดคอยปกป้อง ก็ให้เขาได้มาปกป้องน้าที่แสนใจดี คนที่คอยดูแลเขากับน้องสาวมาโดยตลอดคนนี้เอง

จะต้องให้คุณอาซูได้ลิ้มลองรสชาติความทรมานให้ได้ อย่างนี้แล้วมันถึงจะสามารถระบายความแค้นออกไปได้บ้าง

ซูจ้านอ้าปากค้าง นึกไม่ถึงเลยว่าไม่อาจตอบโต้ออกไปได้เลยสักคำเดียว แต่ละคำที่พูดมาถูกต้องทั้งนั้น

ส่วนเขา ก็แค่ไอ้สารเลวคนนึง!

สายตาของเขาหันไปยังฉินยาที่อยู่ข้างๆ เธอสงบนิ่งอย่างมาก ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาเลย คือมีท่าทางเหมือนกำลังดูเรื่องสนุกๆอยู่

นอกจากฉินยาก็ไม่มีใครที่จะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับหลินซินเหยียนได้ถึงขนาดนี้แล้ว ทั้งยังสามารถปิดบังหลินซินเหยียนพาเด็กทั้งสองคนออกมาได้

เธอเปลี่ยนรูปลักษณ์หน้าตาไปเขาเข้าใจได้ เพราะถึงยังไงก็เป็นบาดแผลจากการระเบิด แต่เสียงทำไมถึงได้เปลี่ยนไปกัน?

บาดเจ็บไปถึงกล่องเสียงเลยเหรอ?

อันที่จริงเขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นฉินยาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นแล้วจงจิ่งห้าวไม่มีทางวางแผนจัดดินเนอร์นี้ขึ้นมาหรอก จากนิสัยของจงจิ่งห้าว เขาจะแค่ไปเจอลูกทั้งสองคนเท่านั้น ไม่มีทางจะทำอะไรที่มันเกินความจำเป็น โดยการเอาคนมารวมตัวอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว

เขารู้ว่าฉินยาจะต้องทุกข์ทรมานมาก ได้รับความเจ็บปวดมามากมาย บางทีคงอาจจะตัดใจจากเขาไปแล้วถึงได้ทำตัวเย็นชาและเมินเฉยไม่สนใจอย่างตอนนี้ได้

บนโลกนี้ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนที่น่าปวดใจที่สุดก็คือคุณพูดออกมาอย่างเย็นชาว่าคุณไม่แคร์กันแล้ว

เขาปิดซ่อนความเจ็บปวดภายในใจเอาไว้ในดวงตา ยิ้มแล้วมองจงเหยียนเฉิน “อยากเห็นอาทำเรื่องน่าอายออกไปขนาดนั้นเลยเหรอ?”

จงเหยียนเฉินส่ายหน้าปฏิเสธออกมา “ไม่ได้อยากเห็นคุณอาทำเรื่องน่าอาย แต่อยากเห็นคุณอาถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ แล้วจดจำความรู้สึกคันยุบยิบในใจในตอนนั้นเอาไว้”

“คุณอาคิดดูสิว่า น้าฉินยาแต่งงานกับคุณอา ก็เพราะอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับคุณอา แต่คุณอากลับทำให้เธอเสียใจ ทำร้ายเธอ เธอต้องเศร้าเสียใจมากแค่ไหน? จะต้องจำฝังลึกไปมากแค่ไหน?”

ฉินยานั่งเท้าคาง ในเหตุการณ์อย่างนี้เธอไปไม่ได้ ถ้าไปแล้วจะเป็นการบอกซูจ้านไปอย่างชัดเจนว่าเธอก็คือฉินยา ถึงแม้ว่าในตอนนี้คำพูดของจงเหยียนเฉินจะซึ้งจนเธออยากจะร้องไห้ออกมา เธอก็ต้องกลั้นมันเอาไว้

เธอมองไปทางจงเหยียนเฉิน อยากจะกอดเขา จุ๊บเขา เจ้าเด็กหน้าเหม็นคนนี้ทำเอาใจเธออุ่นวาบไปหมด

“เธอพูดถูก” ซูจ้านค้นพบว่าตัวเขาเองนั้นแท้จริงแล้วยังมีความเป็นผู้ใหญ่สู้เด็กคนนึงไม่ได้เลย

“วันนี้อาจะสนองความต้องการของพวกเธอ” ซูจ้านยืนขึ้นมา หยิบถ้วยใบนั้นขึ้นมาครอบไปบนหัวเหมือนกับสวมหมวก

ท่าทางดูตลกสุดๆ เสียงหัวเราะหลุดออกมา จงเหยียนซีกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ ท่าทางอย่างนี้มันตลกเกินไปแล้ว

บรรยากาศที่จากเดิมกดดันและหนักอึ้ง เพียงแค่ชั่วแวบเดียวก็ได้เปลี่ยนรื่นรมย์ขึ้นมา ซูจ้านยิ้มแล้วมองจงเหยียนซี “อาสวมแล้วดูดีมั้ย?”

จงเหยียนซีหยุดหัวเราะไม่ได้ “คุณอาหล่อ สวมอะไรมันก็ดูดีไปหมด”

ฮ่าๆ—

“หนูเปลี่ยนเพลงไปเป็นเพลงที่อาร้องได้ให้อาหน่อย เพลงจิตใจที่ไม่สงบ อาร้องไม่เป็น”

จงเหยียนซีเองหัวออกมา นึกเพลงดีๆที่จะเอามาแทนไม่ออกเลยสักที

“ไม่งั้นก็ร้องเพลงพระจันทร์แทนใจของฉันดีมั้ย?” ซูจ้านยังคงยิ้มออกมาอย่างคนไม่คิดอะไรมาก

แต่ถ้ามองอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าในรอยยิ้มของเขานั้นมีบาดแผลที่ไม่อาจพูดออกมาได้

รู้ทั้งรู้ว่าเธอก็คือฉินยา แต่ก็ไม่อาจเปิดเผยออกไปได้ เขากลัว กลัวว่าฉินยาจะหลบซ่อนให้เขาตามหาไม่เจอขึ้นมา

เธอเปลี่ยนรูปลักษณ์ เปลี่ยนเสียง แล้วยังตั้งใจเปลี่ยนชื่ออีก ก็เพราะไม่อยากถูกเขาค้นพบเอาได้

เขาหยิบช้อนขึ้นมา เอามาทำเป็นไมค์ เขาแสดงท่าทางเป็นพ่อพวงมาลัย ยิ้มไปทางฉินยา “คุณฉินใช่มั้ย ผมสามารถมองคุณได้หรือเปล่า?”

ฉินยามองถ้วยที่อยู่บนหัวของเขา กรอบดอกไม้ที่พับอยู่ที่ขอบถ้วยเหมือนกับตัวตลกที่สวมผมหยิกจำพวกนั้น เทียบกับความแข็งกร้าวของจงจิ่งห้าว ซูจ้านนั้นค่อนข้างจะอ่อนโยนไปเลย ผิวขาวนวลของเขา โครงหน้าชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ดูผอมแห้ง ดวงตาที่อยู่ใต้คิ้วทั้งสองข้างมักจะกระเพื่อมมาอย่างนุ่มนวล ราวกับว่าประดับไปด้วยรอยยิ้ม สดใสอยู่ตลอด เหมือนกับพระจันทร์ข้างขึ้นที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ในตอนนี้ได้มองเธอมา เหมือนกับเด็กที่ตั้งใจแกล้งทำตัวน่าเกลียด เพียงแค่อยากแหย่ให้เธอหัวเราะเพียงเท่านั้น

เธอเบือนสายตาออกไป เอ่ยออกไปอย่างเยือกเย็น “มองฉันไปเพื่ออะไร?”

“ที่นี่มีเพียงแค่คุณฉินที่เหมาะที่จะฟังผมร้องเพลง ผมจะร้องเพลงรักให้เด็กกับผู้ชายฟังคงไม่ได้หรอกมั้ง? ผมคิดว่าคุณฉินคงจะไม่ใช่คนที่ใจน้อยขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย? คุณฉินวางใจได้ ผมไม่มีความสนใจต่อคุณ ในใจของผมมีคนอื่นอยู่แล้ว เพียงแต่ลักษณะของคุณเหมือนเธออยู่นิดหน่อย คุณลองทำเรื่องดีๆดูหน่อย ให้ผมได้ยืมตัวคุณมาฝากฝังความทุกข์ทรมานจากไข้ใจของผมลงไปสักหน่อย?”

ในใจของฉินยาบีบรัดแน่นอยู่สักพักนึง พยายามแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง “ประสาท!”

“คงอย่างนั้นแหละมั้ง คุณก็คิดเสียว่าผมบ้าไปแล้ว ผมสร้างความขบขันให้กับเด็กๆ ถ้ามีจุดที่ล่วงเกินไป ผมก็ต้องขอโทษเอาไว้ก่อนเลย” ซูจ้านหยิบช้อนบนโต๊ะขึ้นมา จ้องมองฉินยา ถึงแม้ว่าเธอจะหันหน้าไม่เคยจะมองตนเลย แต่เขาก็ยังคงจ้องมองลึกเข้าไป

ใบหน้าของเธอไม่เหลือภาพเดิมอีกแล้ว ทั้งแปลกหน้าและทั้งคุ้นเคย

ซูจ้านเสียงดี ไปร้านคาราโอเกะกับจงจิ่งห้าวและเสิ่นเผยซวน พวกเขาทั้งสองคนต่างดื่มเหล้ากัน เขาใช้เทคนิคการร้องเพลงได้ เพราะว่าร้องได้ไม่แย่ ดังนั้นแล้วจึงไม่มีใครว่าเขา

ในใจของเขาบรรจุเรื่องราวลงไป ลำคอพูดไม่ออกนิดหน่อย ตอนที่เอ่ยปากพูดก็ได้ให้ความรู้สึกเปล่งเสียงออกมาได้ไม่คล่อง

คุณถามว่าผมรักคุณลึกซึ้งแค่ไหน ผมรักคุณมากแค่ไหน

ความรู้สึกของผมเป็นของจริง ความรักของผมเองก็เป็นของจริง

พระจันทร์สื่อแทนใจของผม

คุณถามว่าผมรักคุณลึกซึ้งแค่ไหน ผมรักคุณมากเท่าไหร่

ความรู้สึกของผมจะไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ความรักของผมจะไม่เปลี่ยนไป

พระจันทร์สื่อแทนใจของผม

จุมพิตเบาๆไปแค่ครั้งนึงมันก็ตราตรึงหัวใจของผมเอาไว้แล้ว…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด