กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 687 ของฉันก็เหมือนของเขา

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 687 ของฉันก็เหมือนของเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซางหยูถามอีกครั้ง “นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”

พอเห็นว่าซางหยูเป็นห่วงตัวเอง เสิ่นเผยซวนอยากจะหาปี๊บมาคลุมหัวตัวเองจริงๆ

เสิ่นเผยซวนดื่มน้ำเย็นบนโต๊ะหนึ่งแก้ว “ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ”

ซางหยูก็ถึงวางใจ เธอจำได้ว่าในบ้านมีแปรงสีฟันใหม่เลยเอาออกมาให้เสิ่นเผยซวนใช้ก่อน “นายใช้แก้วของฉันแล้วกัน” พูดจบธอก็เดินออกไป ให้เสิ่นเผยซวนล้างหน้าแปรงฟัน เธอไปทอดไข่ต่อ ตอนนี้เองโจ๊กก็ต้มเสร็จแล้วเหมือนกัน

ตอนที่กินข้าวซางหยูก็ถามเขาว่า “นายจะกินไก่ไหม?”

เสิ่นเผยซวน……???

ซางหยูทำปากจู๋ให้เขามองไปที่ประตู มีไก่เดินไปมาอยู่ตรงนั้นหนึ่งตัว “ครูใหญ่ส่งมาให้นายกินน่ะ พวกเขาดีกับนายไหมล่ะ?”

เมื่อคืนก็มีคนส่งแตงโมมาให้ ตอนเช้าก็มีคนส่งไก่มาให้อีก

เสิ่นเผยซวนรู้ว่าพวกเขาส่งของมา เพราะเห็นแก่ซางหยู แววตาที่เขามองซางหยูนั้นยิ่งอบอุ่นเข้าไปใหญ่

ผู้หญิงคนนี้มีเมตตามาก จริงใจย่อมแลกมาด้วยความจริงใจอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคนที่นี่ล้วนแต่เป็นคนที่เรียบง่าย ไม่มีการคิดร้ายอะไรกันด้วย

พอกินเสร็จแล้วซางหยูกับเสิ่นเผยซวนก็เข้าเมือง ไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน และยังซื้อเสื้อผ้าให้เสิ่นเผยซวนได้ซักเปลี่ยนบ้าง

เพราะเสิ่นเผยซวนใส่เสื้อผ้าของหวางเหวิ่น ซางหยูซื้อเสื้อผ้าให้หวางเหวิ่นใหม่ ตามไซซ์ที่เสิ่นเผยซวนใส่อยู่

เธอก็ไม่ค่อยชอบที่เสิ่นเผยซวนติดค้างน้ำใจคนอื่น เธอตอบแทนเขาไปเลยดีกว่า

แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ก็ยังต้องคืนอยู่ดี

พวกเขากลับมาจากตัวเมือง วางของไว้ที่บ้านเสร็จแล้ว ก็ไปที่โรงเรียน ซางหยูยังซื้ออุปกรณ์การเรียนมาให้พวกนักเรียน แล้วยังไปแจกให้นักเรียนกับมือตัวเองอีกด้วย

หวางเหวิ่นอยู่ที่นั่นพอดี ซางหยูเลยเอาเสื้อคืนเขา “ขอบใจสำหรับเสื้อผ้านายนะ”

หวางเหวิ่นไม่ได้รับไว้ “แค่เสื้อชุดเดียวเอง ไม่มีค่าอะไรหรอก ไม่ต้องคืนหรอกนะ”

“ต้องคืนสิ” ซางหยูยื่นของไปอีกครั้ง “แม้ฉันจะไม่ร่ำรวยอะไร แต่ฉันก็ไม่ชอบเอาเปรียบใคร แฟนฉันก็เหมือนกัน”

ซางหยูเป็นคนที่แบ่งแยกได้ชัดเจน ถ้าหวางเหวิ่นไม่ชอบเธอและไม่ได้พูดมันออกมา เธออาจจะใช้วิธีอื่นในการตอบแทนได้ แต่ว่า เขาชอบตัวเอง เธอจะต้องตอบแทนน้ำใจทุกอย่างที่ติดค้างเขาไว

ไม่ให้เสิ่นเผยซวนติดค้างน้ำใจเขา

หวางเหวิ่นยื่นมือรับมันมา “เธอคิดเผื่อแฟนตัวเองขนาดนี้เลย? เธอจ่ายเงินซื้อเองเหรอ?”

ซางหยูคล้องแขนเสิ่นเผยซวนและพูดว่า “เขาเป็นแฟนของฉัน ของฉันก็เหมือนของเขา”

ถ้าหวางเหวิ่นไม่รู้ตำแหน่งของเสิ่นเผยซวน คงจะพูดไปแล้วว่า เสิ่นเผยซวนเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกิน

แต่คนอื่นเขามีตำแหน่งที่สูงซะด้วย ถึงแม้เขาจะจบจากมหาวิทยาลัย ชีวิตหรือหน้าที่การงานอาจจะไม่ดีกว่าเขาก็ได้

เขาจำใจต้องยอมแพ้ และรับเสื้อมา “ฉันไปสอนก่อนนะ”

ซางหยูพยักหน้า

“เอาถุงให้ฉัน” เธอยื่นมือไปที่เสิ่นเผยซวน ด้านในมีของที่ซื้อให้พวกนักเรียน ให้เสิ่นเผยซวนถือไว้ตลอด

เสิ่นเผยซวนไม่ได้ยื่นให้เธอ แต่กลับพูดว่า “ฉันเข้าไปพร้อมเธอนะ”

ซางหยูหัวเราะและถามว่า “นายชอบเด็กๆไหม?”

เสิ่นเผยซวนไม่รู้ ยังไงเขาก็ชอบเด็กสองคนในบ้านจงจิ่งห้าวนะ เด็กคนอื่นเขาก็เคยคุยมาก่อน ดังนั้นเลยไม่แน่ใจ

ซางหยูหัวเราะ “ฉันชอบ ต่อไปถ้าฉันมีลูก ฉันจะมอบทุกอย่างที่ดีที่สุดกับเขา จะรักเขาดีๆ ให้เขาได้รับความรักทั้งหมดจากฉัน”

เสิ่นเผยซวนก้มหน้าลง เขารู้ว่าเธอขาดความรักจากครอบครัว มีชีวิตที่ยากลำบากมาแต่เล็ก เขายื่นมือไปลูบผมเธอ “เธอก็ยังเป็นเด็กนี่”

ซางหยูมองค้อนเขา “นายสิเด็ก”

พูดจบก็ก้าวเดินเข้าไปในห้องเรียนทันที เสิ่นเผยซวนหัวเราะและเดินตามไป

ซางหยูถือถุงเข้าไป แล้วตะโกนเรียกทุกคนเข้ามา พอเห็นของในถุงทุกคนก็ต่างสงสัย และรีบเข้ามามุงดูทันที

ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ของเล่นเล็กๆน้อยๆ ยางลบที่มีรูปร่างเป็นผลไม้ เด็กผู้หญิงชอบสมุดสีชมพู แล้วก็มีกล่องดินสอรูปร่างรถ เป็นต้น

แค่ของเล็กๆน้อยๆพวกนี้ ก็ทำให้ทุกคนดีใจมากแล้ว

เด็กที่ไม่มีแม่คนหนึ่ง กอดซางหยูแล้วร้องไห้ เธอไม่เคยเห็นรูปร่างหน้าตาของแม่ตัวเอง ได้ยินว่าเป็นเด็กหญิงจากต่างถิ่น มาที่บ้านพร้อมกับพ่อ แม่ของเด็กหญิงรังเกียจที่บ้านยากจน คลอดเธอแล้วก็หนีไปเลย

พ่อออกไปทำงานด้านนอก ทิ้งให้ตายายเลี้ยงแทน

ตายายก็อายุมากแล้ว แรงมีจำกัด ตั้งแต่เด็กก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าที่สะอาดเลย ตอนนี้ซางหยูเห็นเด็กคนนี้ครั้งแรก ทั้งดำทั้งผอม เสื้อผ้าที่ใส่นั้น ก็สกปรกจนไม่เห็นสีเสื้อผ้าเดิม ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนดูไม่ได้

ซางหยูพาเด็กคนนี้กลับบ้าน อาบน้ำสระผมให้เธอ พยายามซักเสื้อผ้าเธอให้สะอาดมากที่สุด

ครั้งนี้ เธอตั้งใจซื้อกระโปรงให้เด็กคนที่ไม่มีแม่คนนี้

เด็กหญิงแทบจะไม่เคยใส่เสื้อผ้าใหม่ๆเลย เสื้อผ้าของเธอก็มีแต่ของคนอื่นที่ใส่แล้วให้เธอ

ในตอนที่เห็นกระโปรงตัวนั้น เธอทั้งซาบซึ้งและรู้สึกน้อยใจในชีวิต

น้อยใจที่บุคคลเป็นแม่คลอดเธอแล้วกลับทิ้งเธอไป ซาบซึ้งที่บุคคลที่ไม่ใช่แม่ ให้ความรักและทำดีกับเธอเหมือนเป็นแม่แท้ๆ

ซางหยูลูบหลังเธอเบาๆ “หนูเย่ไม่ร้องนะ”

เธอมีนามสกุลว่าเย่ มีชื่อว่าเย่เซวียนเซวียน แต่ทุกคนต่างก็ชอบเรียกเธอว่าหนูเย่ เธอเป็นคนตัวเล็กและผอม ทั้งที่อายุเจ็ดขวบแล้วแต่ส่วนสูงกลับดูเหมือนเด็กอายุห้าหกขวบ

ซางหยูเช็ดน้ำตาให้เธอ เห็นเธอแล้วก็มักจะนึกถึงอดีตความหลังในวัยเด็กที่โชคร้ายของตัวเอง

เป็นเพราะเธอรู้ดีว่าความลำบากมันเป็นยังไง ถึงได้อยากช่วยเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ยากจน แต่ความสามารถเธอมีขีดจำกัดเหมือนกัน

สิ่งที่ทำได้ก็น้อยมากจริงๆ

เสิ่นเผยซวนพูดถูก เธอต้องดีกว่านี้ ถึงจะช่วยได้มากกว่านี้ และให้พวกเขาได้มากกว่านี้

เธอตัดสินใจกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยให้จบก่อน จากนั้นค่อยกลับมาช่วยพวกเขา

“ครูซางคะ ครูร้องไห้เหรอคะ?” หนูเย่เช็ดน้ำตาให้ซางหยู

เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่แค่ตอนที่นึกถึงตัวเองตอนยังเด็ก น้ำตาก็จะเอ่อล้นขึ้นมาทุกครั้ง เธอมีครอบครัวหรือไม่มีก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่เลย เธอไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นในครอบครัว ทุกวันเห็นแต่พ่อที่เอาแต่ด่าและตบตีแม่ไม่หยุด

เสิ่นเผยซวนเดินเข้าไป โอบไหล่เธอไว้แล้วตบไหล่เธอเบาๆ และพูดอย่างปวดใจว่า “อย่าร้องเลยนะ”

ตอนแรกเธอไม่ได้ร้องไห้หรอก แต่พอเสิ่นเผยซวนมากอดแบบนี้ ก็เหมือนเธอได้มีที่พึ่งพิง เธอโผล่เข้าอ้อมกอดเขาและร้องไห้โดยที่ไม่สนใจอะไรอีก

หวางห้าวหนานเดินขากะเผลกมาที่ห้องอย่างเชื่องช้า ยังปวดเข่าไม่หาย และขมวดคิ้วเบาๆ เข้ามาเห็นซางหยูร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเสิ่นเผยซวน ก็เข้าไปถามว่า “นายรังแกคุณซานของพวกเราเหรอ?”

“ผมจะบอกให้นะ อย่าคิดว่าพวกเราเป็นเด็กแล้วเราจะทำอะไรลุงไม่ได้นะ เคยได้ยินเรื่องมดตัวเล็กรวมตัวกันแล้วก็สามารถทำลายช้างตัวใหญ่ได้ไหม?” หวางห้าวหนานเงยหน้ามองและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

ซางหยูเช็ดน้ำตา แล้วผละออกมาจากอ้อมกอดเสิ่นเผยซวน และพูดว่า “ไม่มีใครรังแกครูหรอก”

“งั้นครูร้องไห้ทำไมครับ?” หวางห้าวหนานถาม

“มีทรายกระเด็นเข้าตาครูน่ะ” ซางหยูยื่นกล่องดินสอรถให้เขา “อันนี้ให้เธอนะ”

หวางห้าวหนานดีใจจนลืมว่าตัวเองเจ็บเข่า เขารีบวิ่งไปเอามาเปิดดู เป็นกล่องดินสอรถสองชั้นที่เขาอยากได้พอดีเลย

“ขอบคุณครับครูซาง” ตอนนี้ก็ลืมเรื่อง ‘แก้แค้น’ ไปซะสนิทเลย

ดีใจจนกะพริบตามองซางหยูและถามว่า “ครูซางกำลังคบกับคุณลุงคนนี้อยู่เหรอครับ?”

เมื่อกี้ครูซางร้องไห้ในอ้อมกอดของคุณลุง

ที่ร้องไห้ไม่เพียงแค่ถูกรังแก อาจจะมีน้ำตาแห่งความสุขก็ได้ ไม่งั้นคงไม่กอดคนอื่นร้องไห้โฮแบบนี้หรอก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด