กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 772 ขอบคุณที่ขอให้ฉันเป็นกรรยาของคุณ

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 772 ขอบคุณที่ขอให้ฉันเป็นกรรยาของคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

เฉินชื่อหานสวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ รูปแบบเสื้อผ้าดูง่ายดาย แต่ไม่ได้ทำให้ความสวยงามในตัวหญิงสาวดูน้อยลง ชุดเป็นลักษณะ

โชว์ไหล่ครึ่งเดียว อ่านนิยายก่อนใครที่ novelza.com สร้อยคอเพชรที่ถูกแขวนอยู่ตรงหน้าอกเม็ดนั้นดูสะท้อนแสงวับวาว ต่างหูเพชรยาวที่มีสีเดียวกันแกว่งไกวช้าๆตามจังหวะเท้า

ที่ก้าวเดิน ยิ่งไปกว่านั้นที่ขับให้ผิวดูเด่นขึ้นมาก็คือ เกาะอกทรงโค้งสวยงดงามที่มีเชือกพันยาวมาถึงรอบเอว ผมดำหนานั้นถูกม้วนเก็บเข้าไป เมื่อ

เทียบกับชุดแต่งงานสีขาวแล้วทั้งคู่ต่างส่งให้ตัวเจ้าสาวนั้นดูดีและมีเสน่ห์ไปพร้อมกัน

เหวินเสี่ยวจี้ก็ใส่เป็นเครื่องแบบทหร ตัวเขาอายุไม่มากนัก ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มกำลัง ให้ความรู้สึกดูขวยเขิน

แต่ก็ไม่ทิ้งสไตล์ความเป็นชายที่เติบโตอย่างเต็มที่ ให้ความรู้สึกเหมือนดวงอาทิตย์ดวงน้อยอย่างไรอย่างนั้น ดวงตามีประกายแสง และสายตาที่

ดูสะอาดสะอ้าน

เขาใส่เครื่องแบบทหารออกมาได้อย่างหล่อเหลา ขณะที่เดินก็ดูผิวไหวราวกับลมเพลมพัด

เพื่อนทหารพวกเขาต่างใช้มือทั้งประสานกัน ยืนบรรจบกันเป็นสองข้างคล้ายซุ้มประตูช้าๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป

หลินซินเหยียนนั่งอยู่ตรงเก้าอี้แถวหลังสุด เธอมองฉากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

พิธีการแต่งงานของทหารมักจะทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความจริงจัง เธอเอื้อมมือไปกุมมือของจงจิ่งห้าวเอาไว้ ” ฉันเองก็หวังว่าลูกของพวกเรา

เมื่อโตไปแล้วต้องมีสักคนที่เป็นทหาร ”

แต่จงจิ่งห้าวกลับรู้สึกว่าควรจะยอมทำตามในสิ่งที่ลูกหวังมากกว่า การที่พวกเขาหวัง แล้วพวกเขาไม่สามารถทำตามที่เราต้องการได้

หากไม่เป็นดังนั้น เขาก็จะไม่ฝืนใจลูกๆ

” คราวนี้ตอนนี้กับเมื่อก่อนต่างกันราวฟ้ากับเหว ตอนนี้ค่อยๆดูเหมือนเป็นชายขึ้นมาหน่อย ” เมื่อก่อนเป็นดาราไอดอล ถึงจะดูหล่อเหลา

แต่ก็ดูออกจะหวานไปสักนิด ตอนนี้เหมือนมีความแข็งแกร่งเป็นชายมากขึ้น หลินซินเหยียนมองไปบนเวทีแล้วพูดวิจารณ์ออกมา

พิธีกรบนเวทีแนะนำถึงอดีตที่ผ่านมาของทั้งคู่ ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะว่าความสัมพันธ์ของสองตระกูลนี้ดีมาก ทั้งสองคนก็

เปรียบเหมือนดังพี่น้องจนปัจจุบันก็ได้ดำเนินมาถึงตอนนี้ พ่อแม่ของทั้งสองบ้านก็ต่างรู้สึกซึ้งใจเป็นอย่างมาก

ครึ่งชีวิตที่ขึ้นๆลงๆ มาถึงตอนนี้ก็เพิ่งจะเห็นว่า ลาภยศผลประโยชน์ บุญคุณและความแค้น เป็นเพียงสาเหตุของความทุกข์ที่ผู้คนเอาแต่

ใฝ่หา เมื่อได้ปล่อยวางมันลงแล้ว การที่พบว่าตัวเองได้ใช้ชีวิตที่สุขสงบและแข็งแรงถึงเป็นความสุขที่แท้จริง

ถึงทุกวันนี้จะมีหลายคนที่คิดอยากจะมีตำแหน่งที่สูงส่ง อยากได้ชื่อเสียง เพื่อผลประโยชน์มากมาย

คนธรรมดาทั่วไปก็อยากมีเงินมีรถมีบ้าน

แต่ไม่มีใครที่จะฟังงบลงได้แล้วนึกถึงสิ่งที่ตัวเองไม่มีเช่น การไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่เจออุบัติภัย นี่ไม่ใช่ความสุขอีกอย่างหนึ่งหรอกเหรอ?

การที่มีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่พยายามมาทั้งหมดก็ทำให้ได้รู้แล้ว

เฉินชิงกับเหวินชิงเมื่อก่อนยังคงมีความส้มพันธ์ป็นเพื่อนที่ดี ในวันนี้ก็กลายมาเป็นคนบ้านเดียวกันแล้ว ถึงแม้ช่วงระหว่างนั้นจะใช้ชีวิตได้

อย่างไม่ค่อยมีความสุขนัก แต่ก็ยังจับมือรอยยิ้มไปด้วยกันได้ ไม่พูดถึงเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว

เมื่อพิธีกรแนะนำจบ เมื่อเข้าสู่ช่วงกล่าวคำปฏิญาณธีกรก็เชิญให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมากล่าวความในใจแทน หรือพูดง่ายๆว่าไม่มีการกล่าวคำปฏิญาณ

พิธีกรพูดเสียงก้อง ” ต่อไปขอเชิญให้เจ้าบ่าวขึ้นมากล่าวคำปราศรัยครับ ”

ไมค์ถูกยื่นใส่มือเหวินเสี่ยวจี้ เขากำไมค์เอาไว้ อ้นดับแรกคงต้องขอบคุณพ่อแม่ ” ขอบคุณพวกเขาที่เกิดและเลี้ยงดูผมมาด้วยความรัก

ผมเคยใช้ชีวิตในวัยรุ่นอย่างไม่ตระหนัก ทำเรื่องผิดพลาดมากมาย ขอขอบคุณพวกท่านที่ยังยกโทษและให้อภัยผม ”

หลี่จิ้งเอามือปิดตาที่แดงก่ำไว้

ในแววตาของเหวินชิงก็มีประกายเคล้าน้ำตาออกมา แต่ก็ฟอร์มทำเป็นตำหนิภรรยาที่อยู่ข้างๆ” วันมงคลเธอร้องไห้ทำไม?ไม่อนุญาตให้ร้อง ”

หลี่จิ้งพูดว่า ” ฉันร้องไห้ด้วยความดีใจต่างหาก ”

เมื่อก่อนสามีกับลูกชายอยู่กันราวกับเป็นศัตรูคู่อาฆาต พอมาวันนี้ลูกก็อยู่สมกับความเป็นลูก พ่อก็ทำตัวเป็นพ่อที่มีเมตตา นี่มันคือสิ่งที่

เธอหวังให้มันเกิดขึ้นในเมื่อก่อนนี่นา ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เธอจึงรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก

” ดีใจก็ไม่อนุญาตให้ร้อง วันนี้คนเยอะแยะเห็นเข้าทำไง ”

” ถึงเห็นก็ไม่เห็นน่าอายอะไร ” หลี่จิ้งมองไปที่ลูกชายขณะพูดอยู่บนเวที เธอซึ้งใจจนร้องห้ออกมา ใครจะทำตัวไร้สาระมายุ่งเรื่องของเธอกัน?

จากนั้นสายตาของเหวินเสี่ยวจี้ก็มองไปทางหลินซินเหยียน

” นอกจากพ่อแม่แล้วยัง มีคนที่ผมต้องขอบคุณอีกคนหนึ่ง ” หลังจากที่หลินซินเหยียนมาแล้ว เขาจึงรับรู้ว่าหลินซินเหยียนไม่ได้หรอกเขา

ร่างกายของเธอไม่แข็งแรงจริงๆ

” สภาพร่างกายของเธอไม่เหมาะที่จะมางานแต่งของผมในวันนี้ แต่ผมก็ดีใจมาก ”

ดวงตาของหลินซินเหยียนดูแดงขึ้นมา นึกย้อนกลับไปตอนที่เธอแต่งงาน เขาก็ปรากฎตัวในงานแต่งของเธอ เธอพยายามยกมุมปากขึ้นจนเป็นรอยยิ้ม

” ขอบคุณที่มาเป็นพยานให้กับช่วงเวลาสำคัญอีกช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตผม ”

เหวินเสี่ยวจี้โค้งคำนับไปทางเธอ

สุดท้ายเขาลากมือของเฉินชื่อหานมากุมมาไว้ ” ว่าเราเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก ความสัมพันธ์เหมือนคนสนิท และเหมือนพี่ชายน้องสาว

ถึงตอนนี้ก็ได้เดินในเส้นทางเดียวกัน เป็นพรหมลิขิตที่ถูกสร้างขึ้น เพราะเราต่างทะนุถนอมซึ่งกันและกัน ขอบคุณคุณพ่อและคุณแม่ที่ยอมให้ ผมดูแลชื่อหาน ”

เหวินเสี่ยวจี้โค้งคำนับไปทางคู่สามีภรรยาเฉินชิง

เฉินชิงพยักหน้ารับ รู้สึกพึงพอใจในลูกเขยคนนี้มาก

คุณนายเฉินน้ำตาไหลเสียยิ่งกว่า ดูเหมือนเป็นเพราะผิวบริเวณเปลือกตาของผู้หญิงจะบางกว่า เพียงทำอะไรนิดหน่อยน้ำตาก็ตกง่าย

ส่วนผู้ชายในใจก็มีความซาบซึ้ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นก็คงไม่ร้องไห้ง่ายขนาดนั้น

เหวินเสี่ยวจี้พูดกล่าวความในใจจบก็ยื่นใหม่ให้เฉินช็อหาน

เฉินชื่อหานเปลี่ยนไปเยอะมาก เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยการโอ่ตั้งแต่เด็ก โดนตามใจจนเคยตัว แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปจนดูโต

ขึ้นมาก ไม่ได้เป็นคนใจร้อนไม่หนักเล่นเหมือนแต่ก่อนแล้ว

เธอยืนบนเวทีด้วยความนิ่งสงบ เธอหยิบไมค์ขึ้นมาพูดช้าๆ ” คนเราจะต้องผ่านเรื่องราวมามากมายถึงจะสามารถโตขึ้นได้ แต่ตัวฉันเอง

ถูกจัดให้อยู่ในประเภทที่เติบโตขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

เมื่อก่อนได้ทำเรื่องไว้มากมาย รวมถึงได้ก่อเรื่องที่ทำให้คนอื่นเจ็บปวด

อ่านนิยายก่อนใครที่ novelza.com

โอกาสนี้ ฉันอยากขอโทษคนเหล่านั้นที่ฉันได้เคยทำร้ายเขา โปรดให้อภัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของฉันในตอนนั้นด้วยเถอะนะคะ

ขอบคุณที่พวกคุณมางานแต่งของฉันและเสี่ยวจี้ ”

เฉินชือหานหันไปโค้งตัวลงทางหลินซินเหยียนกับจงงห้าว

เมื่อก่อน ใจของเธอผูกติดกับการทำลายครอบครัวคนอื่น และยังทำร้ายหลินซินเหยียนอีก

เธอรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เคยทำ

” เมื่อพระผู้เป็นเจ้าได้ปิดประตูบานหนึ่งของใครบางคน ก็จะมีหน้าต่างบานหนึ่งเปิดไว้ให้เธอเสมอ ” เมื่อเธอพูดก็หันไปมองเหวินเสี่ยวจี้ ”

ขอบคุณความโอบอ้อมที่คุณมีต่อฉัน ขอบคุณที่ในช่วงเวลาที่ฉันไม่สมหวังด้งใจและตกระกำลำบากคุณก็ยังอยู่ข้างกายฉันเสมอ ขอบคุณทั้งที่

คุณรู้ว่าฉันในเมื่อก่อนนั้นแสนสาหัสเพียงใด แต่ก็ยังยอมรับฉัน และขอให้ฉันเป็นกรรยาของคุณ ”

 

อ่านนิยายก่อนใครที่ novelza.com

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 772 ขอบคุณที่ขอให้ฉันเป็นกรรยาของคุณ

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 772 ขอบคุณที่ขอให้ฉันเป็นกรรยาของคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

เฉินชื่อหานสวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ รูปแบบเสื้อผ้าดูง่ายดาย แต่ไม่ได้ทำให้ความสวยงามในตัวหญิงสาวดูน้อยลง ชุดเป็นลักษณะ

โชว์ไหล่ครึ่งเดียว อ่านนิยายก่อนใครที่ novelza.com สร้อยคอเพชรที่ถูกแขวนอยู่ตรงหน้าอกเม็ดนั้นดูสะท้อนแสงวับวาว ต่างหูเพชรยาวที่มีสีเดียวกันแกว่งไกวช้าๆตามจังหวะเท้า

ที่ก้าวเดิน ยิ่งไปกว่านั้นที่ขับให้ผิวดูเด่นขึ้นมาก็คือ เกาะอกทรงโค้งสวยงดงามที่มีเชือกพันยาวมาถึงรอบเอว ผมดำหนานั้นถูกม้วนเก็บเข้าไป เมื่อ

เทียบกับชุดแต่งงานสีขาวแล้วทั้งคู่ต่างส่งให้ตัวเจ้าสาวนั้นดูดีและมีเสน่ห์ไปพร้อมกัน

เหวินเสี่ยวจี้ก็ใส่เป็นเครื่องแบบทหร ตัวเขาอายุไม่มากนัก ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มกำลัง ให้ความรู้สึกดูขวยเขิน

แต่ก็ไม่ทิ้งสไตล์ความเป็นชายที่เติบโตอย่างเต็มที่ ให้ความรู้สึกเหมือนดวงอาทิตย์ดวงน้อยอย่างไรอย่างนั้น ดวงตามีประกายแสง และสายตาที่

ดูสะอาดสะอ้าน

เขาใส่เครื่องแบบทหารออกมาได้อย่างหล่อเหลา ขณะที่เดินก็ดูผิวไหวราวกับลมเพลมพัด

เพื่อนทหารพวกเขาต่างใช้มือทั้งประสานกัน ยืนบรรจบกันเป็นสองข้างคล้ายซุ้มประตูช้าๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป

หลินซินเหยียนนั่งอยู่ตรงเก้าอี้แถวหลังสุด เธอมองฉากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

พิธีการแต่งงานของทหารมักจะทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความจริงจัง เธอเอื้อมมือไปกุมมือของจงจิ่งห้าวเอาไว้ ” ฉันเองก็หวังว่าลูกของพวกเรา

เมื่อโตไปแล้วต้องมีสักคนที่เป็นทหาร ”

แต่จงจิ่งห้าวกลับรู้สึกว่าควรจะยอมทำตามในสิ่งที่ลูกหวังมากกว่า การที่พวกเขาหวัง แล้วพวกเขาไม่สามารถทำตามที่เราต้องการได้

หากไม่เป็นดังนั้น เขาก็จะไม่ฝืนใจลูกๆ

” คราวนี้ตอนนี้กับเมื่อก่อนต่างกันราวฟ้ากับเหว ตอนนี้ค่อยๆดูเหมือนเป็นชายขึ้นมาหน่อย ” เมื่อก่อนเป็นดาราไอดอล ถึงจะดูหล่อเหลา

แต่ก็ดูออกจะหวานไปสักนิด ตอนนี้เหมือนมีความแข็งแกร่งเป็นชายมากขึ้น หลินซินเหยียนมองไปบนเวทีแล้วพูดวิจารณ์ออกมา

พิธีกรบนเวทีแนะนำถึงอดีตที่ผ่านมาของทั้งคู่ ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะว่าความสัมพันธ์ของสองตระกูลนี้ดีมาก ทั้งสองคนก็

เปรียบเหมือนดังพี่น้องจนปัจจุบันก็ได้ดำเนินมาถึงตอนนี้ พ่อแม่ของทั้งสองบ้านก็ต่างรู้สึกซึ้งใจเป็นอย่างมาก

ครึ่งชีวิตที่ขึ้นๆลงๆ มาถึงตอนนี้ก็เพิ่งจะเห็นว่า ลาภยศผลประโยชน์ บุญคุณและความแค้น เป็นเพียงสาเหตุของความทุกข์ที่ผู้คนเอาแต่

ใฝ่หา เมื่อได้ปล่อยวางมันลงแล้ว การที่พบว่าตัวเองได้ใช้ชีวิตที่สุขสงบและแข็งแรงถึงเป็นความสุขที่แท้จริง

ถึงทุกวันนี้จะมีหลายคนที่คิดอยากจะมีตำแหน่งที่สูงส่ง อยากได้ชื่อเสียง เพื่อผลประโยชน์มากมาย

คนธรรมดาทั่วไปก็อยากมีเงินมีรถมีบ้าน

แต่ไม่มีใครที่จะฟังงบลงได้แล้วนึกถึงสิ่งที่ตัวเองไม่มีเช่น การไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่เจออุบัติภัย นี่ไม่ใช่ความสุขอีกอย่างหนึ่งหรอกเหรอ?

การที่มีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่พยายามมาทั้งหมดก็ทำให้ได้รู้แล้ว

เฉินชิงกับเหวินชิงเมื่อก่อนยังคงมีความส้มพันธ์ป็นเพื่อนที่ดี ในวันนี้ก็กลายมาเป็นคนบ้านเดียวกันแล้ว ถึงแม้ช่วงระหว่างนั้นจะใช้ชีวิตได้

อย่างไม่ค่อยมีความสุขนัก แต่ก็ยังจับมือรอยยิ้มไปด้วยกันได้ ไม่พูดถึงเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว

เมื่อพิธีกรแนะนำจบ เมื่อเข้าสู่ช่วงกล่าวคำปฏิญาณธีกรก็เชิญให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมากล่าวความในใจแทน หรือพูดง่ายๆว่าไม่มีการกล่าวคำปฏิญาณ

พิธีกรพูดเสียงก้อง ” ต่อไปขอเชิญให้เจ้าบ่าวขึ้นมากล่าวคำปราศรัยครับ ”

ไมค์ถูกยื่นใส่มือเหวินเสี่ยวจี้ เขากำไมค์เอาไว้ อ้นดับแรกคงต้องขอบคุณพ่อแม่ ” ขอบคุณพวกเขาที่เกิดและเลี้ยงดูผมมาด้วยความรัก

ผมเคยใช้ชีวิตในวัยรุ่นอย่างไม่ตระหนัก ทำเรื่องผิดพลาดมากมาย ขอขอบคุณพวกท่านที่ยังยกโทษและให้อภัยผม ”

หลี่จิ้งเอามือปิดตาที่แดงก่ำไว้

ในแววตาของเหวินชิงก็มีประกายเคล้าน้ำตาออกมา แต่ก็ฟอร์มทำเป็นตำหนิภรรยาที่อยู่ข้างๆ” วันมงคลเธอร้องไห้ทำไม?ไม่อนุญาตให้ร้อง ”

หลี่จิ้งพูดว่า ” ฉันร้องไห้ด้วยความดีใจต่างหาก ”

เมื่อก่อนสามีกับลูกชายอยู่กันราวกับเป็นศัตรูคู่อาฆาต พอมาวันนี้ลูกก็อยู่สมกับความเป็นลูก พ่อก็ทำตัวเป็นพ่อที่มีเมตตา นี่มันคือสิ่งที่

เธอหวังให้มันเกิดขึ้นในเมื่อก่อนนี่นา ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เธอจึงรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก

” ดีใจก็ไม่อนุญาตให้ร้อง วันนี้คนเยอะแยะเห็นเข้าทำไง ”

” ถึงเห็นก็ไม่เห็นน่าอายอะไร ” หลี่จิ้งมองไปที่ลูกชายขณะพูดอยู่บนเวที เธอซึ้งใจจนร้องห้ออกมา ใครจะทำตัวไร้สาระมายุ่งเรื่องของเธอกัน?

จากนั้นสายตาของเหวินเสี่ยวจี้ก็มองไปทางหลินซินเหยียน

” นอกจากพ่อแม่แล้วยัง มีคนที่ผมต้องขอบคุณอีกคนหนึ่ง ” หลังจากที่หลินซินเหยียนมาแล้ว เขาจึงรับรู้ว่าหลินซินเหยียนไม่ได้หรอกเขา

ร่างกายของเธอไม่แข็งแรงจริงๆ

” สภาพร่างกายของเธอไม่เหมาะที่จะมางานแต่งของผมในวันนี้ แต่ผมก็ดีใจมาก ”

ดวงตาของหลินซินเหยียนดูแดงขึ้นมา นึกย้อนกลับไปตอนที่เธอแต่งงาน เขาก็ปรากฎตัวในงานแต่งของเธอ เธอพยายามยกมุมปากขึ้นจนเป็นรอยยิ้ม

” ขอบคุณที่มาเป็นพยานให้กับช่วงเวลาสำคัญอีกช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตผม ”

เหวินเสี่ยวจี้โค้งคำนับไปทางเธอ

สุดท้ายเขาลากมือของเฉินชื่อหานมากุมมาไว้ ” ว่าเราเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก ความสัมพันธ์เหมือนคนสนิท และเหมือนพี่ชายน้องสาว

ถึงตอนนี้ก็ได้เดินในเส้นทางเดียวกัน เป็นพรหมลิขิตที่ถูกสร้างขึ้น เพราะเราต่างทะนุถนอมซึ่งกันและกัน ขอบคุณคุณพ่อและคุณแม่ที่ยอมให้ ผมดูแลชื่อหาน ”

เหวินเสี่ยวจี้โค้งคำนับไปทางคู่สามีภรรยาเฉินชิง

เฉินชิงพยักหน้ารับ รู้สึกพึงพอใจในลูกเขยคนนี้มาก

คุณนายเฉินน้ำตาไหลเสียยิ่งกว่า ดูเหมือนเป็นเพราะผิวบริเวณเปลือกตาของผู้หญิงจะบางกว่า เพียงทำอะไรนิดหน่อยน้ำตาก็ตกง่าย

ส่วนผู้ชายในใจก็มีความซาบซึ้ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นก็คงไม่ร้องไห้ง่ายขนาดนั้น

เหวินเสี่ยวจี้พูดกล่าวความในใจจบก็ยื่นใหม่ให้เฉินช็อหาน

เฉินชื่อหานเปลี่ยนไปเยอะมาก เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยการโอ่ตั้งแต่เด็ก โดนตามใจจนเคยตัว แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปจนดูโต

ขึ้นมาก ไม่ได้เป็นคนใจร้อนไม่หนักเล่นเหมือนแต่ก่อนแล้ว

เธอยืนบนเวทีด้วยความนิ่งสงบ เธอหยิบไมค์ขึ้นมาพูดช้าๆ ” คนเราจะต้องผ่านเรื่องราวมามากมายถึงจะสามารถโตขึ้นได้ แต่ตัวฉันเอง

ถูกจัดให้อยู่ในประเภทที่เติบโตขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

เมื่อก่อนได้ทำเรื่องไว้มากมาย รวมถึงได้ก่อเรื่องที่ทำให้คนอื่นเจ็บปวด

อ่านนิยายก่อนใครที่ novelza.com

โอกาสนี้ ฉันอยากขอโทษคนเหล่านั้นที่ฉันได้เคยทำร้ายเขา โปรดให้อภัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของฉันในตอนนั้นด้วยเถอะนะคะ

ขอบคุณที่พวกคุณมางานแต่งของฉันและเสี่ยวจี้ ”

เฉินชือหานหันไปโค้งตัวลงทางหลินซินเหยียนกับจงงห้าว

เมื่อก่อน ใจของเธอผูกติดกับการทำลายครอบครัวคนอื่น และยังทำร้ายหลินซินเหยียนอีก

เธอรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เคยทำ

” เมื่อพระผู้เป็นเจ้าได้ปิดประตูบานหนึ่งของใครบางคน ก็จะมีหน้าต่างบานหนึ่งเปิดไว้ให้เธอเสมอ ” เมื่อเธอพูดก็หันไปมองเหวินเสี่ยวจี้ ”

ขอบคุณความโอบอ้อมที่คุณมีต่อฉัน ขอบคุณที่ในช่วงเวลาที่ฉันไม่สมหวังด้งใจและตกระกำลำบากคุณก็ยังอยู่ข้างกายฉันเสมอ ขอบคุณทั้งที่

คุณรู้ว่าฉันในเมื่อก่อนนั้นแสนสาหัสเพียงใด แต่ก็ยังยอมรับฉัน และขอให้ฉันเป็นกรรยาของคุณ ”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+