กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 803 เห็นแก่ตัวหน่อย

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 803 เห็นแก่ตัวหน่อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉินยาพยักหน้าเบาๆ พอได้รับอนุญาตจากเธอ ซูจ้านใช้มือข้างหนึ่งค้ำยันเอาไว้ ยื่นมือออกไปสัมผัสแก้มของเธอ ดวงตาของเธอ จมูกของเธอ ริมฝีปากของเธอ เหมือนกำลังใช้นิ้ววาดภาพหน้าของเธอ อยากจะจดจำรูปลักษณ์ของเธอไว้ในใจ จะได้ไม่มีวันลบเลือน ริมฝีปากของเขาค่อยๆประกบปิดลง ฉินยาปิดตาลงอย่างช้าๆ

ซูจ้านค่อยๆจูบเธอ ไม่ได้รีบร้อยทำอะไร เขารู้ว่าฉินยาในตอนนี้นั้นบอบบาง ต้องการการบำรุง เขาเอนตัวไปข้างๆใบหูของเธอกระซิบเบาๆ “เสี่ยวยา ต่อไปนี้คุณมีความเห็นหรือไม่สบายใจอะไรให้พูดกับผมนะ อยากเก็บไว้ในใจ”

ความจริงแล้วตอนที่เห็นรอยยิ้มแบบนั้นเวลาที่เธอเผชิญหน้ากับคนอื่น เขารู้สึกอิจฉา

ไม่รู้ว่าเริ่มต้นเมื่อไหร่ เธอจึงเห็นว่ารอยยิ้มของตัวเองนั้นน้อยลงไป และยิ่งดูหลอกขึ้นทุกที เธอปิดบังไว้ในใจของตัวเอง ไม่กล้าที่จะเปิดเผยกับเขา

ฉินยาลืมตาขึ้นอย่างประหลาดใจ

ซูจ้านจูบที่ดวงตาของเธอ จูบของเขานั้นอ่อนโยนมาก พอสัมผัสที่เปลือกตาฉินยากลับรู้สึกคันจึงปิดตาอีกครั้ง

เขาจูบเธออย่างอ่อนโยนและนุ่มนวลอยู่เป็นเวลานาน นานจนฉินยันนั้นเริ่มที่จะชินกับการกระทำแบบนี้แล้ว

ขณะที่ซูจ้านปลดกระดุมเสื้อผ้าของเธอ เธอนั้นไม่ได้มีความคิดที่จะต่อต้าน เผชิญหน้ากับเขาอย่างสงบ

เสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่บนพื้นอย่างรวดเร็ว มีทั้งของซูจ้านแล้วฉินยา

……

ตอนที่ฉินยาตื่นขึ้นมานั้นก็นอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว เธอจำได้อย่างเลือนรางว่าซูจ้านอุ้มเธอกลับมาที่ห้องนอน ปลายเตียงมีเสื้อเชิ้ตของซูจ้านอยู่ตัวหนึ่ง เธอคว้ามาคลุมตัว เธอสวมเสื้อผ้าของซูจ้านแล้วรู้สึกว่าค่อนข้างใหญ่ เหมือนกับกระโปรงที่สั้นมากๆ ปิดบังส่วนสำคัญเอาไว้ เผยให้เห็นขาทั้งคู่ที่เรียวยาว

เธอเดินออกมา เห็นซูจ้านอยู่ที่ห้องครัว สวมผ้ากันเปื้อนอยู่ที่เอว ฉินยาพิงประตูมองด้านหลังของเขา เขากำลังสวมชุดลำลองใส่อยู่บ้าน เอวบางขายาว มองดูผอมมาก แต่ว่าไม่ได้ถึงขนาดไม่มีแรง เพียงแต่ดูอ่อนแอเท่านั้นเอง เหมือนกับหน้าตาของเขา

เสิ่นเผยซวนทำให้คนรู้สึกเหมือนแข็งแรงบึกบึน แต่เขานั้นเป็นหล่อเหลารูปงาม ผิวของเขานั้นขาวนวล ประสาทสัมผัสทั้งห้าแยกออกได้อย่างชัดเจน เวลาที่ยิ้มแบบไม่เป็นทางการดูอิสระเปิดเผย เวลาที่จริงจังสายตาก็เปล่งประกายสว่างสดใส

เขาดูเด็กเป็นพิเศษ อายุเข้าเลขสามแล้วแต่หน้าเหมือนอายุยี่สิบต้นๆ การแสดงออกเวลาที่ไม่ได้ใส่สูทผูกเนกไทเพื่อต้องการที่จะให้ดูมีความเคร่งขรึม จะเหมือนคำที่ใช้บ่อยในโลกออนไลน์คำหนึ่ง ‘หนุ่มน้อยขี้อ้อน’

ช่วงเวลาที่ย้ายออกมานั้นฉินยารู้สึกเป็นอิสระอย่างมาก รอยยิ้มบนใบหน้าปรากฏให้เห็นเพิ่มขึ้น เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างแผ่วเบา กอดเอวซูจ้านจากทางด้านหลัง ยื่นหัวออกไปมองในหม้อ “ทำอะไรน่ากินจัง?”

“กุ้งผัดซอสมะเขือเทศ” มีกุ้งขนาดใหญ่เท่านิ้วมือขดอยู่ในกระทะสองตัวแดงไปทั้งตัว ดูท่าทางว่าสุกเรียบร้อยแล้ว ได้กลิ่นของรสชาติสดอร่อยหอมกรุ่น

ฉินยาเม้มปากแน่น พูดกับซูจ้านด้วยความสงบว่า “ช่วงก่อนหน้านี้ทุกวันฉันจะต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก ตื่นตระหนกไม่สบายใจ หวาดกลัวอย่างมาก”

ซูจ้านปิดไฟหันตัวกลับมา ตอนแรกอยากจะลูบแก้มของเธอ แต่เห็นว่ามือนั้นสกปรก จึงจูบเธอบนหน้าผากแทน พูดเบาๆ “ผมรู้”

เขานั้นเห็นทั้งหมด

แต่ว่าไม่มีวิธีที่จะปลอบโยนเธอได้เลย

เพราะว่าความหวาดกลัวและกังวลของเธอนั้นล้วนมาจากเขาที่ให้กับเธอ

“เรื่องตั้งครรภ์ พวกเราไม่ทำแล้ว”การแสดงออกของซูจ้านนั้นจริงจังเป็นอย่างมาก

ฉินยาสัมผัสคิ้วของเขา “ฉันชอบให้คุณยิ้ม”

ซูจ้านยิ้มไม่ออก

ฉินยาลังเลสักพักแล้วจึงพูดออกมา “ลองอีกสักครั้งละกัน ถ้าไม่สำเร็จค่อยยอมแพ้ ไม่เพิ่มไม่ลด”

ซูจ้านโอบกอดเธอไว้ พูด “ตกลง ลองกันอีกทีเป็นครั้งสุดท้าย ไม่สำเร็จฉันก็ไม่เสียใจแล้ว……” เขานิ่งไปสักพัก “พวกเราไม่ต้องกลับไปอยู่ที่นั่นแล้ว ฝั่งคุณย่าเดี๋ยวผมรับมือเอง”

ฉินยาตกลง เธอรับมือกับท่านย่าไม่ไหว สู้อยู่ด้านนอกน่าจะดีกว่า

“งั้นฉันตามใจตัวเองหน่อย เอาเรื่องทั้งหมดให้คุณจัดการ ฉันจะหลบอยู่หลังคุณ” ยากที่จะได้เห็นฉินยายิ้มออกมาต่อหน้าเขาด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงแบบนี้

ซูจ้านชอบเธอที่เป็นแบบนี้ ชอบให้เธอยิ้ม ชอบที่เธอเป็นตัวของตัวเอง

สิ้นเดือน ฉินยาทำเป็นครั้งที่สอง กระบวนการนั้นเธอยังคงกระวนกระวายใจ มีความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ เช่น กลัวว่าจะไม่สำเร็จ กินอยู่ลำบากนั้นเธอนั้นทนได้ กลัวที่สุดก็คือคุณหมอมาบอกตอนสุดท้ายว่าล้มเหลว

หลังจากที่ดูดไข่ออกไปแล้ว ฉินยาก็ถูกซูจ้านพากลับมาที่ที่พัก ภายในโรงพยาบาลนั้นมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเต็มไปหมด ฉินยาดมจนกลัวไปหมดแล้ว ทุกวินาทีที่อยู่โรงพยาบาลนั้นทำให้รู้สึกหดหู่ การหายใจนั้นรู้สึกไม่ค่อยสะดวก

ดีที่สามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้

ซูจ้านอยู่ข้างๆเธอตลอด

ฉินยาไม่ถามถึงเรื่องของท่านย่าฝั่งนั้น ทั้งหมดให้ซูจ้านเป็นคนจัดการ เธอพยายามอย่างหนักให้ตัวเองไม่ไปคิดถึงมัน

สิ้นเดือนเสิ่นเผยซวนก็กลับมาแล้ว

วันนั้นซางหยูอ้างว่ามีเรียนหนักมากไม่มีเวลากลับ อยากจะย้ายไปอยู่ที่โรงเรียน ดังนั้นพอเสิ่นเผยซวนกลับมาเย็นวันนั้นซางหยูก็ออกไปแล้ว

เสิ่นเผยซวนนั้นเชื่ออย่างสนิทใจ คิดว่าซางหยูนั้นยุ่งกับการเรียนจริงๆ จงจิ่งห้าวรู้ว่าเขากลับมา เลยให้เขามากินข้าวที่บ้าน เสิ่นเผยซวนก็ไปตอนกลางวัน

หลินซินเหยียนเห็นเขามาคนเดียว เลยถาม “ซางหยูทำไมไม่มากับคุณด้วยล่ะ? คุณไปทำงานข้างนอกนานๆทีจะกลับมา”

สองคนเพิ่งจะแต่งงานกัน น่าจะชอบอยู่ด้วยกันจนเลี่ยน ทำไมเขาถึงมาคนเดียว

หลินซินเหยียนเองก็ออกมารอบหนึ่งก็คือเมืองC เธอกำลังโน้มน้าวจงจิ่งห้าวอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะอนุญาตให้เธอพาลูกมาที่เมืองC กิจการของเธออยู่ที่นั่น ตอนนี้เธอคลอดลูกแล้ว และออกจากอยู่เดือนแล้ว ไม่อยากจะละทิ้งอาชีพที่ตัวเองรัก

จงจิ่งห้าวนั้นไม่เห็นด้วย หาเงินคนเดียวก็เพียงพอแล้ว และพวกเขาเองก็เงินไม่ขาด เธอไปเมืองCก็เท่ากับว่าครอบครัวแตกกระจายเป็นสองทาง

หลินซินเหยียนเองก็เข้าใจในจุดนี้ชัดเจน ดังนั้นก็เลยไม่ดื้อแพ่งที่จะไป แต่ก็รอให้จงจิ่งห้าวใจอ่อน

เธออุ้มลูกชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด ตอนนี้เริ่มโตแล้วหน้าตาไม่ยับยู่ยี่อีกต่อไป รูปร่างหน้าตาเหมือนหยกสีชมพู น่ารักมาก ตอนนี้คลับคล้ายคลับคลาว่าเขาโตมาน่าจะเหมือนกับหลินซินเหยียน จงเหยียนเฉินตอนนี้ยิ่งโตยิ่งเหมือนจงจิ่งห้าว แต่ว่าลูกชายตัวน้อยคนนี้กลับเหมือนเธอ

เสิ่นเผยซวนพูด “เธอเรียนหนักมาก ไปอยู่ที่หอพักแล้ว”

หลินซินเหยียนยิ่งฟังยิ่งรู้สึกไม่ถูกต้อง วันก่อนซางหยูมาที่นี่ บอกว่าไม่ค่อยมีเรียนแล้ว ตอนนี้กำลังหาที่ฝึกงานอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 803 เห็นแก่ตัวหน่อย

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 803 เห็นแก่ตัวหน่อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉินยาพยักหน้าเบาๆ พอได้รับอนุญาตจากเธอ ซูจ้านใช้มือข้างหนึ่งค้ำยันเอาไว้ ยื่นมือออกไปสัมผัสแก้มของเธอ ดวงตาของเธอ จมูกของเธอ ริมฝีปากของเธอ เหมือนกำลังใช้นิ้ววาดภาพหน้าของเธอ อยากจะจดจำรูปลักษณ์ของเธอไว้ในใจ จะได้ไม่มีวันลบเลือน ริมฝีปากของเขาค่อยๆประกบปิดลง ฉินยาปิดตาลงอย่างช้าๆ

ซูจ้านค่อยๆจูบเธอ ไม่ได้รีบร้อยทำอะไร เขารู้ว่าฉินยาในตอนนี้นั้นบอบบาง ต้องการการบำรุง เขาเอนตัวไปข้างๆใบหูของเธอกระซิบเบาๆ “เสี่ยวยา ต่อไปนี้คุณมีความเห็นหรือไม่สบายใจอะไรให้พูดกับผมนะ อยากเก็บไว้ในใจ”

ความจริงแล้วตอนที่เห็นรอยยิ้มแบบนั้นเวลาที่เธอเผชิญหน้ากับคนอื่น เขารู้สึกอิจฉา

ไม่รู้ว่าเริ่มต้นเมื่อไหร่ เธอจึงเห็นว่ารอยยิ้มของตัวเองนั้นน้อยลงไป และยิ่งดูหลอกขึ้นทุกที เธอปิดบังไว้ในใจของตัวเอง ไม่กล้าที่จะเปิดเผยกับเขา

ฉินยาลืมตาขึ้นอย่างประหลาดใจ

ซูจ้านจูบที่ดวงตาของเธอ จูบของเขานั้นอ่อนโยนมาก พอสัมผัสที่เปลือกตาฉินยากลับรู้สึกคันจึงปิดตาอีกครั้ง

เขาจูบเธออย่างอ่อนโยนและนุ่มนวลอยู่เป็นเวลานาน นานจนฉินยันนั้นเริ่มที่จะชินกับการกระทำแบบนี้แล้ว

ขณะที่ซูจ้านปลดกระดุมเสื้อผ้าของเธอ เธอนั้นไม่ได้มีความคิดที่จะต่อต้าน เผชิญหน้ากับเขาอย่างสงบ

เสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่บนพื้นอย่างรวดเร็ว มีทั้งของซูจ้านแล้วฉินยา

……

ตอนที่ฉินยาตื่นขึ้นมานั้นก็นอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว เธอจำได้อย่างเลือนรางว่าซูจ้านอุ้มเธอกลับมาที่ห้องนอน ปลายเตียงมีเสื้อเชิ้ตของซูจ้านอยู่ตัวหนึ่ง เธอคว้ามาคลุมตัว เธอสวมเสื้อผ้าของซูจ้านแล้วรู้สึกว่าค่อนข้างใหญ่ เหมือนกับกระโปรงที่สั้นมากๆ ปิดบังส่วนสำคัญเอาไว้ เผยให้เห็นขาทั้งคู่ที่เรียวยาว

เธอเดินออกมา เห็นซูจ้านอยู่ที่ห้องครัว สวมผ้ากันเปื้อนอยู่ที่เอว ฉินยาพิงประตูมองด้านหลังของเขา เขากำลังสวมชุดลำลองใส่อยู่บ้าน เอวบางขายาว มองดูผอมมาก แต่ว่าไม่ได้ถึงขนาดไม่มีแรง เพียงแต่ดูอ่อนแอเท่านั้นเอง เหมือนกับหน้าตาของเขา

เสิ่นเผยซวนทำให้คนรู้สึกเหมือนแข็งแรงบึกบึน แต่เขานั้นเป็นหล่อเหลารูปงาม ผิวของเขานั้นขาวนวล ประสาทสัมผัสทั้งห้าแยกออกได้อย่างชัดเจน เวลาที่ยิ้มแบบไม่เป็นทางการดูอิสระเปิดเผย เวลาที่จริงจังสายตาก็เปล่งประกายสว่างสดใส

เขาดูเด็กเป็นพิเศษ อายุเข้าเลขสามแล้วแต่หน้าเหมือนอายุยี่สิบต้นๆ การแสดงออกเวลาที่ไม่ได้ใส่สูทผูกเนกไทเพื่อต้องการที่จะให้ดูมีความเคร่งขรึม จะเหมือนคำที่ใช้บ่อยในโลกออนไลน์คำหนึ่ง ‘หนุ่มน้อยขี้อ้อน’

ช่วงเวลาที่ย้ายออกมานั้นฉินยารู้สึกเป็นอิสระอย่างมาก รอยยิ้มบนใบหน้าปรากฏให้เห็นเพิ่มขึ้น เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างแผ่วเบา กอดเอวซูจ้านจากทางด้านหลัง ยื่นหัวออกไปมองในหม้อ “ทำอะไรน่ากินจัง?”

“กุ้งผัดซอสมะเขือเทศ” มีกุ้งขนาดใหญ่เท่านิ้วมือขดอยู่ในกระทะสองตัวแดงไปทั้งตัว ดูท่าทางว่าสุกเรียบร้อยแล้ว ได้กลิ่นของรสชาติสดอร่อยหอมกรุ่น

ฉินยาเม้มปากแน่น พูดกับซูจ้านด้วยความสงบว่า “ช่วงก่อนหน้านี้ทุกวันฉันจะต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก ตื่นตระหนกไม่สบายใจ หวาดกลัวอย่างมาก”

ซูจ้านปิดไฟหันตัวกลับมา ตอนแรกอยากจะลูบแก้มของเธอ แต่เห็นว่ามือนั้นสกปรก จึงจูบเธอบนหน้าผากแทน พูดเบาๆ “ผมรู้”

เขานั้นเห็นทั้งหมด

แต่ว่าไม่มีวิธีที่จะปลอบโยนเธอได้เลย

เพราะว่าความหวาดกลัวและกังวลของเธอนั้นล้วนมาจากเขาที่ให้กับเธอ

“เรื่องตั้งครรภ์ พวกเราไม่ทำแล้ว”การแสดงออกของซูจ้านนั้นจริงจังเป็นอย่างมาก

ฉินยาสัมผัสคิ้วของเขา “ฉันชอบให้คุณยิ้ม”

ซูจ้านยิ้มไม่ออก

ฉินยาลังเลสักพักแล้วจึงพูดออกมา “ลองอีกสักครั้งละกัน ถ้าไม่สำเร็จค่อยยอมแพ้ ไม่เพิ่มไม่ลด”

ซูจ้านโอบกอดเธอไว้ พูด “ตกลง ลองกันอีกทีเป็นครั้งสุดท้าย ไม่สำเร็จฉันก็ไม่เสียใจแล้ว……” เขานิ่งไปสักพัก “พวกเราไม่ต้องกลับไปอยู่ที่นั่นแล้ว ฝั่งคุณย่าเดี๋ยวผมรับมือเอง”

ฉินยาตกลง เธอรับมือกับท่านย่าไม่ไหว สู้อยู่ด้านนอกน่าจะดีกว่า

“งั้นฉันตามใจตัวเองหน่อย เอาเรื่องทั้งหมดให้คุณจัดการ ฉันจะหลบอยู่หลังคุณ” ยากที่จะได้เห็นฉินยายิ้มออกมาต่อหน้าเขาด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงแบบนี้

ซูจ้านชอบเธอที่เป็นแบบนี้ ชอบให้เธอยิ้ม ชอบที่เธอเป็นตัวของตัวเอง

สิ้นเดือน ฉินยาทำเป็นครั้งที่สอง กระบวนการนั้นเธอยังคงกระวนกระวายใจ มีความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ เช่น กลัวว่าจะไม่สำเร็จ กินอยู่ลำบากนั้นเธอนั้นทนได้ กลัวที่สุดก็คือคุณหมอมาบอกตอนสุดท้ายว่าล้มเหลว

หลังจากที่ดูดไข่ออกไปแล้ว ฉินยาก็ถูกซูจ้านพากลับมาที่ที่พัก ภายในโรงพยาบาลนั้นมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเต็มไปหมด ฉินยาดมจนกลัวไปหมดแล้ว ทุกวินาทีที่อยู่โรงพยาบาลนั้นทำให้รู้สึกหดหู่ การหายใจนั้นรู้สึกไม่ค่อยสะดวก

ดีที่สามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้

ซูจ้านอยู่ข้างๆเธอตลอด

ฉินยาไม่ถามถึงเรื่องของท่านย่าฝั่งนั้น ทั้งหมดให้ซูจ้านเป็นคนจัดการ เธอพยายามอย่างหนักให้ตัวเองไม่ไปคิดถึงมัน

สิ้นเดือนเสิ่นเผยซวนก็กลับมาแล้ว

วันนั้นซางหยูอ้างว่ามีเรียนหนักมากไม่มีเวลากลับ อยากจะย้ายไปอยู่ที่โรงเรียน ดังนั้นพอเสิ่นเผยซวนกลับมาเย็นวันนั้นซางหยูก็ออกไปแล้ว

เสิ่นเผยซวนนั้นเชื่ออย่างสนิทใจ คิดว่าซางหยูนั้นยุ่งกับการเรียนจริงๆ จงจิ่งห้าวรู้ว่าเขากลับมา เลยให้เขามากินข้าวที่บ้าน เสิ่นเผยซวนก็ไปตอนกลางวัน

หลินซินเหยียนเห็นเขามาคนเดียว เลยถาม “ซางหยูทำไมไม่มากับคุณด้วยล่ะ? คุณไปทำงานข้างนอกนานๆทีจะกลับมา”

สองคนเพิ่งจะแต่งงานกัน น่าจะชอบอยู่ด้วยกันจนเลี่ยน ทำไมเขาถึงมาคนเดียว

หลินซินเหยียนเองก็ออกมารอบหนึ่งก็คือเมืองC เธอกำลังโน้มน้าวจงจิ่งห้าวอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะอนุญาตให้เธอพาลูกมาที่เมืองC กิจการของเธออยู่ที่นั่น ตอนนี้เธอคลอดลูกแล้ว และออกจากอยู่เดือนแล้ว ไม่อยากจะละทิ้งอาชีพที่ตัวเองรัก

จงจิ่งห้าวนั้นไม่เห็นด้วย หาเงินคนเดียวก็เพียงพอแล้ว และพวกเขาเองก็เงินไม่ขาด เธอไปเมืองCก็เท่ากับว่าครอบครัวแตกกระจายเป็นสองทาง

หลินซินเหยียนเองก็เข้าใจในจุดนี้ชัดเจน ดังนั้นก็เลยไม่ดื้อแพ่งที่จะไป แต่ก็รอให้จงจิ่งห้าวใจอ่อน

เธออุ้มลูกชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด ตอนนี้เริ่มโตแล้วหน้าตาไม่ยับยู่ยี่อีกต่อไป รูปร่างหน้าตาเหมือนหยกสีชมพู น่ารักมาก ตอนนี้คลับคล้ายคลับคลาว่าเขาโตมาน่าจะเหมือนกับหลินซินเหยียน จงเหยียนเฉินตอนนี้ยิ่งโตยิ่งเหมือนจงจิ่งห้าว แต่ว่าลูกชายตัวน้อยคนนี้กลับเหมือนเธอ

เสิ่นเผยซวนพูด “เธอเรียนหนักมาก ไปอยู่ที่หอพักแล้ว”

หลินซินเหยียนยิ่งฟังยิ่งรู้สึกไม่ถูกต้อง วันก่อนซางหยูมาที่นี่ บอกว่าไม่ค่อยมีเรียนแล้ว ตอนนี้กำลังหาที่ฝึกงานอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+