กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 843 ไม่ได้ท้องใช่ไหม

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 843 ไม่ได้ท้องใช่ไหม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนค่ำเด็กทั้งสองคนเลิกเรียนกลับมา จงเหยนซีปืนขึ้นไปที่หัวเตียงของจงฉีเฟิง ใช้กระดาษสีพับเป็นนกกระดาษ”คุณครูศิลปะเป็นคน
สอนพวกเราค่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ?” จงฉีเฟิงยื่นมือออกมาลูบหัวของหลานสาว”หลานทำเป็นแล้วยัง?”
“ยังไม่ชำนาญ พับไม่สวยเท่าคุณครู”จงเหยียนซีพับอย่างตั้งใจ
“ปู้เชื่อว่าเสี่ยวลุ่ยจะพับสวย”
จงเหยียนซีเงยหน้าขึ้น”คุณปู่ หนูจะพับเยอะๆเลย”
“ทำไมเหรอ?” จงฉีเฟิงพูดถามขึ้น
เขาพิงที่หัวเตียง สีหน้าเริ่มเหลือง ดูซูบผอม
“อื้อ ในตำนานโบราณบอกว่าถ้าตั้งใจพับนกกระเยนกระดาษได้ถึงหนึ่งพันตัว จะนำพาความสุขและโชคดีมาให้กับคนรักได้ หนูจะพับมา
หนึ่งพันตัวมอบให้กับคุณปู่ ให้คุณปู่หายไวๆ”จงเหยียนซีพูดขึ้นอย่างจริงจัง
จงฉีเฟิงรู้สึกอบอุ่นในใจ เด็กน้อยคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้คนมีความสุขขึ้นเรื่อยๆ”หลานได้ยินมาจากไหน? ไม่ตั้งใจเรียน เรียนเรื่องพวกนี้ไม่มีประโยชน์หรอกนะ”
“คุณครูศิลปะบอกพวกเราตอนที่กำลังสอน ที่คุณครูสอนไม่มีประโยชน์เหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นต่อไปหนูไม่ฟังคุณครูแล้ว แล้วก็จะไม่ตั้งใจ

ทำการบ้านด้วย”จงเหยียนซีฉลาดจริงๆ จงฉีเฟิงพูดด้วยความรักเอ็นดู”ปูผิดไปแล้ว มันมีประโยชน์ต่างหากล่ะ”
จงเหยียนซีเปิดตาสว่างใสแจ๋ว ขนตางอนกระพือ มองจงฉีเฟิงด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง”คุณปู่ หนูจะตั้งใจ ขอให้คุณปูหายไวๆนะคะ”
จงฉีเฟิงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว แต่ที่ปล่อยวางไปไม่ลงก็คือเด็กทั้งสามคนนี้ ก่อนที่เฉิงยู่ซิ่วเกิดก็อยากเห็นพวกเขาเข้าเรียน
หลินซินเหยียนคลอดลูกมา แต่เธอยังไม่ได้เห็นเลย
“หนูเอาไปแขวนก่อนนะคะ”จงเหยียนซีเอานกกระเรียนกระดาษที่พับเสร็จแล้วไปแขวนที่ผ้าม่านตรงหน้าต่าง
หลินซินเหยียนอุ้มลูกน้อยเข้ามา เห็นลูกสาวกำลังเหยียบเก้าอี้ขึ้นไปแขวนนกกระเรียนกระดาษ ก็เข้าไปประคองเธอไว้”ลูกระวังหน่อยสิ”
“ไม่เป็นไร หนูโตแล้ว”จงเหยียนซีแขวนเสร็จก็ปีนลงมา”หม่ามี๊ อุ้มน้องชายมาดูคุณปู่เหรอคะ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า”ใช่น่ะสิ น้องชายคิดถึงคุณปู่”
“แหะๆ”เธอยื่นมือไปหยิกแก้มของน้องชาย”แก้มของเขานิ่มจริงๆ”
หลินซินเหยียนตีมือของเธอ”หยิกไม่ได้นะ เดี๋ยวน้ำลายจะไหล”
จงเหยียนซีเบะปาก บอกว่าหนูจะไปแล้ว
พูดจบก็เดินออกไปจากห้อง ตอนที่กำลังจะปิดประตูนั้น ตรงประตูก็เจอกับจงจิ่งห้าวเข้าพอดี จึงตะโกนขึ้นมาอย่างกระตือรือรัน”แด๊ดดี้”
จงวิ่งห้าวตอบรับ”ไปเล่นกับพี่ชายที่ห้องนั่งเล่นก่อนสิ”
“หนูไม่เล่นกับเขา เขาน่าเบื่อจะตาย”พูดจบก็ต่างคนต่างกลับไปที่ห้องของตัวเอง

จงเยียนเฉินเป็นเด็กแก่แดด ฉลาดเกินอายุมาตั้งแต่หนแต่ไรแล้ว ตอนนี้ในครอบครัวก็มีแต่จงเหยียนซีกับลูกน้อยที่ ไม่รู้สถานการณ์ของจงฉีเฟิง จงเหยียนเฉินรู้สึกเจ็บปวดอยู่ภายในใจ
เขาที่ไม่ค่อยชอบพูดอยู่แล้ว ก็ยิ่งนิ่งเงียบขึ้นไปอีก
จงเหยียนซีบอกว่าเขาแสร้งทำเป็นสงบนิ่งขรึม
จงจิ่งห้าวปิดประตูเดินมาตรงหน้าเตียง ลากเก้าอี้หนึ่งตัวมานั่งลงใกล้ๆหลินซินเหยียน
หลังจากที่จงฉีเฟิงป่วย ก็ไม่ชอบอุ้มลูกน้อยแล้ว แม้ว่าโรคนี้จะไม่ติดต่อ แต่เขาก็กลัวว่าจะติดต่อไปที่เขา กลัวว่าโรคของตัวเองจะแพร่ไปที่ตัวของเขา
เขายังเด็ก ภูมิต้านทานอ่อนแอ
“เธออุ้มเขามาได้ยังไง อย่าเข้าใกล้ฉันขนาดนี้”จงฉีเฟิงโบกมือ
หลินซินเหยียนพูดขึ้น”ฉันกับจิ่งห้าวมีเรื่องอยากจะพูดกับพ่อค่ะ”
“เรื่องอะไร?”
จงฉีเฟิงเงยหน้าขึ้นมองมายังจงจิ่งห้าว
“ฉันกับจิ่งห้าวปรึกษากัน ว่าจะยกลูกน้อยให้กับซูจ้านและฉินยาเป็นคนดูแลเลี้ยงดูค่ะ”หลินซินเหยียนพูดขึ้น
จงฉีเฟิงมองต่ำลง สายตาหันมองไปยังลูกน้อยอย่างช้าๆ พร้อมกับพูดขึ้น”นี่เป็นลูกของพวกเธอ พวกเธอคุยปรึกษากันดีแล้ว ฉันก็ไม่มีข้อลโต้แย้ง”

เขายื่นมือออกไป ลูกน้อยคว้าปลายนิ้วของเขาเอาไว้ ฉีกยิ้มกว้าง แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
ถึงจงฉีเฟิงจะป่วย แต่ในหัวรู้ดี รู้ดีว่าพวกเขาคิดยังไง
“พ่อแม่ของเธอก็มีเธอเป็นลูกสาวคนเดียว เด็กคนนี้ใช้นามสกุลของพ่อเธอ แล้วสีบทอดธุรกิจตระกูลของพ่อแม่เธอด้วย ก็ถือว่าครบ
สมบูรณ์แล้ว ไม่ได้เห็นพวกเขาตอนเกิด ถ้าเกิดได้เจอกับพวกเขาตอนที่ยังไม่ได้มาเกิดบนโลก ฉันก็สามารถพูดคุยกับพวกเขาได้”
จงฉีเฟิงเสียงเบามาก เห็นได้ชัดว่าอ่อนแอมากแล้ว
บรรยากาศก็หนักหน่วงขึ้นมา โดนเฉพาะหลังจากที่ได้ยินคำพูดสองประโยคหลังของจงฉีเฟิง พูดอีกสักพัก จงฉี่เฟิงก็เหนื่อยแล้ว หลินซิ
นเหยียนกับจงจิ่งห้าวออกมาจากห้อง ให้เขาพักผ่อน
ช่วงกลางคืนหลินซินเหยียนพลิกตัว พบว่าคนที่นอนข้างๆไม่อยู่แล้ว ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ มองผ่านผ้าม่านโปร่งๆบางๆ เห็นเงาคนหนึ่งคนยืนอยู่ที่ระเบียง เธอลุกจากเตียงสวมรองเท้าแตะหยิบเสื้อหนึ่งตัวเดินออกไป เอาเสื้อตัวนอกไปคลุมไว้ที่ตัวของเขา”ทำไมถึงไม่นอน?”
ภายใต้แสงจันทร์อันอ่อนโยน พอให้หลินซินเหยียนได้เห็นใบหน้าที่นิ่งลึกของเขาอย่างชัดเจน ในเวลานี้เกิดอารมณ์ความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบาย
จงจิ่งห้าวหยิบเสื้อคลุมที่คลุมอยู่ออกมา ห่มไปที่ร่างกายของเธอ คว้ามือของเธอมากุมเอาไว้”ผมนอนไม่หลับ อยู่เป็นเพื่อนผมสักพักสิ”
หลินซินเหยียนตอบซื้อกลับมาเบาๆ ทั้งสองคนไม่พูดอะไร ยืนเงียบๆอยู่แบบนี้ กลางดึกแสงจันทร์สาดส่องมาคลุมที่ร่างของพวกเขาทั้งสองคน
“อาลัยอาวรณ์ลูกน้อยใช่ไหม?”หลินซินเหยียนหันมองไปที่เขา”ถ้าคุณชอบ ฉันค่อยคลอดให้กับคุณอีกสักคน”

จงจิ่งห้าวกุมมือของเธอเอาไว้อย่างแรง พร้อมกับพูดขึ้น”สุขภาพร่างกายของคุณไม่ไหว พวกเราไม่เอาแล้ว มีเสี่ยวซีกับเสี่ยวลุ่ยอยู่ข้าง
กายของพวกเราก็พอแล้ว พวกเขาเป็นลูกคนแรกของพวกเรา ผมไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจแล้วล่ะ”
มีลูกชายหนึ่งลูกสาวหนึ่งมันก็ดีที่สุดแล้ว
“ฉันเข้าใจที่คุณทำแบบนี้ ก็เพื่อฉัน คุณเห็นด้วยที่จะให้ลูกน้อยนามสกุลจวง ในอนาคตเขาสืบทอดJK เพื่อเป็นทายาทต่อจากพ่อของฉัน
สืบทอดธุรกิจของเขา ไม่ถึงขั้นที่เคยถูกคนลืมว่าเคยมีคนแบบนี้อยู่บนโลก”เธอมองต่ำลง เอามือไปประกบที่หลังมือของเขา”ฉินยากับซูจ้าน
เลี้ยงดูลูกน้อย แค่มีคนที่รักเขามากกว่าเพิ่มขึ้นมาอีกสองคนเท่านั้น มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือไง”
เข้าใจเหตุผลดี แต่แค่รู้สึกอาลัยอาวรณ์
“ไปนอนกันเถอะ”จงจิ่งห้าวกุมมือของเธอเข้าไปในห้อง
นอนลงบนเตียงก็ยากที่จะหลับลูกน้อยจงฉีเฟิง เหล่านี้ล้วนแต่เป็นความเศร้าหมองที่ตราตรึงอยู่ในใจ
ค่ำคืนนี้ยังมีอีกหนึ่งคนที่นอนกลับไม่สนิท
ช่วงนี้ซางหยูมักจะมีอาการคลื่นไส้อยู่บ่อยๆ วันนี้ตอนค่ำเธอไม่ได้กินอะไร ก็ยังรู้สึกอยากจะอาเจียน แต่อาเจียนไม่ออก
อาการคลื่นไส้นี้มีมาตลอด ทำให้เธอไม่สามารถพักผ่อนได้
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็กะจะไปที่คลินิก โรงพยาบาลใหญ่ๆต้องต่อคิว แถมเธอถูกบริษัทแห่งหนึ่งรับไปเป็นเด็กฝึกงานแล้วด้วย จะสายไม่ได้
ไม่อย่างนั้นก็จะถูกหักการประเมินผลการปฏิบัติงาน แถมผลกระทบที่ตามมาก็ไม่ดีด้วย เธอเพิ่งจะถูกรับเข้าทำงานก็มาสายซะแล้ว จะทำให้คน
เขารู้สึกไม่ดีกับเราตั้งแต่แรกไม่ได้
คลินิกคนไม่เยอะ

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ อ่านทั้งวัน.com

ซางหยูบอกอาการของตัวเองให้กับหมอ”ช่วงหลายวันนี้เอาแต่รู้สึกคลื่นไส้อยู่ตลอดเวลา แต่ก็อาเจียนไม่ออก ไม่มีความอยากอาหารด้วย
กินอะไรไม่ลงเลยค่ะ”
หมอพูดถาม”ก่อนหน้านี้มีอาการแบบนี้ไหม?”
ซางหยูส่ายหน้า”สุขภาพร่างกายของฉันดีมาตลอดค่ะ”
“ช่วงนี้มีอดหลับอดนอนไหม?”หมอถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มีค่ะ”
“อาการคลื่นไส้ เมื่ออาหารของคุณนี้อาจมาจากสาเหตุของกะเพาะและลำไส้อักเสบ”หมอพูดขึ้น”เดี๋ยวผมจ่ายยาให้คุณก็แล้วกัน”
ซางหยูพูดขึ้น”ได้ค่ะ ถ้าอย่างคุณหมอจ่ายยาให้เลยแล้วกันค่ะ”
หมอจ่ายยาให้เธอสองสามกล่อง ซางหยูหยิบยาใส่เข้าไปในกระเป๋า ระหว่างทางที่เดินทางไปบริษัท เธอซื้อน้ำเต้าหู้หนึ่งแก้ว แล้วก็ถือโอกาสกินยาไปด้วยเลย
เธอคำนวณเวลาแล้วว่าไปถึงบริษัทก่อนเวลา
เพิ่งมาฝึกงานก็ได้แค่ทำงานง่ายๆ พวกช่วยถ่ายเอกสาร ช่วยติดตารางงาน แต่แค่เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อาการดีขึ้นจากการกินยา
คิดดูแล้วอาจจะเป็นเพราะเพิ่งกินเข้าไป ก็เลยยังไม่ออกฤท ตอนเที่ยงก็กินต่อตามคำสั่งของหมอ
ตอนเย็นเลิกงานเธอก็ยังไม่ดีขึ้น หวางทิงเสโทรศัพท์มาชวนเธอกินข้าว
เธอเหนื่อยกับงานมาทั้งวัน ไม่อยากไป หวางทิงเสว่พูดขึ้น”ถ้าเธอไม่มา เธอไม่ใช่เพื่อนของฉันแล้วนะ”

ซางหยูถอนหายใจออกมา รู้จักนิสัยใจคอของหวางทิงเสว่ดี ต้องไปเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะต้องไม่ยุ่งกับเธอไปอีกนานแน่นอน
“หมี่ของร้านนี้อร่อยมากเป็นพิเศษเลย”ทั้งสองคนเจอกันตรงประตูทางเข้ามหาลัย หวางทิงเสว่ควงแขนของเธอเดินไปอยู่ตรงหน้าร้านซุปวัวหวยหนานร้านหนึ่ง
“นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้มากิน” หวางทิงเสว่จูงเธอเดินเข้าไป พูดกับเถ้าแก่”เอาหมี่สองถ้วย แล้วก็ขนมปังทอดหนึ่งค่ะ”
“ได้ครับ กรุณารอสักครู่”
ผ่านไปสักพักเถ้าแก่ก็เอาหมี่สองถ้วยมาเสิร์ฟ มี่เส้นเล็กๆ แล้วก็ฟองเต้าหู้ที่หั่นเป็นเส้น เนื้อวัวหั่นเป็นแผ่นบางๆ โรยด้วยผักชีและ
หอมแดง แล้วราดด้วยน้ำซุปร้อนๆ นี่แหละอาการอันโอชะ
หวางทิงเสวได้กลิ่นแล้วก็น้ำลายไหล”หอมจัง”
เมื่อก่อนซางหยูก็ชอบกินเหมือนกัน หมี่เนื้อวัวบวกกับขนมปังปิ้งบางๆ อร่อยมากจริงๆ แต่ตอนนี้เธอเห็นแล้วกลับไม่มีความอยากเลยแม้แต่น้อย
หวางทิงเสว่คีบเนื้อขึ้นมาหนึ่งชิ้นยัดเข้าไปในปากพร้อมกับบะหมี่ ได้กินของที่ตัวเองชอบ ในใจรู้สึกเติมเต็มไม่น้อยเลย เธอรู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด

“ซางหยูทำไมเธอเอาแต่มองไม่กินเลยล่ะ?” หวางทิงเสหยิบขนมปังขึ้นมากัดไปหนึ่งคำ พูดขึ้นทั้งที่ในปากยังมีอาหารอยู่
ซางหยูตอบ”ช่วงนี้ฉันรู้สึกไม่สบาย ไม่ค่อยอยาก”
หวางทิงเสว่กลืนอาหารลงไป ก่อนจะถามขึ้น”ไม่สบายยังไง?”

“คลื่นไส้อยากอาเจียน กินยาแล้ว ก็ไม่ได้ช่วย”จู่ๆเธอก็จับตรงหน้าอก เริ่มรู้สึกคลื่นไส้อีกแล้ว
หวางทิงเสว่ถลึงตาโต”ซางหยู นี่เธอคลื่นไส้ คงจะไม่ได้ท้องหรอกใช่ไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 843 ไม่ได้ท้องใช่ไหม

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 843 ไม่ได้ท้องใช่ไหม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนค่ำเด็กทั้งสองคนเลิกเรียนกลับมา จงเหยนซีปืนขึ้นไปที่หัวเตียงของจงฉีเฟิง ใช้กระดาษสีพับเป็นนกกระดาษ”คุณครูศิลปะเป็นคน
สอนพวกเราค่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ?” จงฉีเฟิงยื่นมือออกมาลูบหัวของหลานสาว”หลานทำเป็นแล้วยัง?”
“ยังไม่ชำนาญ พับไม่สวยเท่าคุณครู”จงเหยียนซีพับอย่างตั้งใจ
“ปู้เชื่อว่าเสี่ยวลุ่ยจะพับสวย”
จงเหยียนซีเงยหน้าขึ้น”คุณปู่ หนูจะพับเยอะๆเลย”
“ทำไมเหรอ?” จงฉีเฟิงพูดถามขึ้น
เขาพิงที่หัวเตียง สีหน้าเริ่มเหลือง ดูซูบผอม
“อื้อ ในตำนานโบราณบอกว่าถ้าตั้งใจพับนกกระเยนกระดาษได้ถึงหนึ่งพันตัว จะนำพาความสุขและโชคดีมาให้กับคนรักได้ หนูจะพับมา
หนึ่งพันตัวมอบให้กับคุณปู่ ให้คุณปู่หายไวๆ”จงเหยียนซีพูดขึ้นอย่างจริงจัง
จงฉีเฟิงรู้สึกอบอุ่นในใจ เด็กน้อยคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้คนมีความสุขขึ้นเรื่อยๆ”หลานได้ยินมาจากไหน? ไม่ตั้งใจเรียน เรียนเรื่องพวกนี้ไม่มีประโยชน์หรอกนะ”
“คุณครูศิลปะบอกพวกเราตอนที่กำลังสอน ที่คุณครูสอนไม่มีประโยชน์เหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นต่อไปหนูไม่ฟังคุณครูแล้ว แล้วก็จะไม่ตั้งใจ

ทำการบ้านด้วย”จงเหยียนซีฉลาดจริงๆ จงฉีเฟิงพูดด้วยความรักเอ็นดู”ปูผิดไปแล้ว มันมีประโยชน์ต่างหากล่ะ”
จงเหยียนซีเปิดตาสว่างใสแจ๋ว ขนตางอนกระพือ มองจงฉีเฟิงด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง”คุณปู่ หนูจะตั้งใจ ขอให้คุณปูหายไวๆนะคะ”
จงฉีเฟิงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว แต่ที่ปล่อยวางไปไม่ลงก็คือเด็กทั้งสามคนนี้ ก่อนที่เฉิงยู่ซิ่วเกิดก็อยากเห็นพวกเขาเข้าเรียน
หลินซินเหยียนคลอดลูกมา แต่เธอยังไม่ได้เห็นเลย
“หนูเอาไปแขวนก่อนนะคะ”จงเหยียนซีเอานกกระเรียนกระดาษที่พับเสร็จแล้วไปแขวนที่ผ้าม่านตรงหน้าต่าง
หลินซินเหยียนอุ้มลูกน้อยเข้ามา เห็นลูกสาวกำลังเหยียบเก้าอี้ขึ้นไปแขวนนกกระเรียนกระดาษ ก็เข้าไปประคองเธอไว้”ลูกระวังหน่อยสิ”
“ไม่เป็นไร หนูโตแล้ว”จงเหยียนซีแขวนเสร็จก็ปีนลงมา”หม่ามี๊ อุ้มน้องชายมาดูคุณปู่เหรอคะ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า”ใช่น่ะสิ น้องชายคิดถึงคุณปู่”
“แหะๆ”เธอยื่นมือไปหยิกแก้มของน้องชาย”แก้มของเขานิ่มจริงๆ”
หลินซินเหยียนตีมือของเธอ”หยิกไม่ได้นะ เดี๋ยวน้ำลายจะไหล”
จงเหยียนซีเบะปาก บอกว่าหนูจะไปแล้ว
พูดจบก็เดินออกไปจากห้อง ตอนที่กำลังจะปิดประตูนั้น ตรงประตูก็เจอกับจงจิ่งห้าวเข้าพอดี จึงตะโกนขึ้นมาอย่างกระตือรือรัน”แด๊ดดี้”
จงวิ่งห้าวตอบรับ”ไปเล่นกับพี่ชายที่ห้องนั่งเล่นก่อนสิ”
“หนูไม่เล่นกับเขา เขาน่าเบื่อจะตาย”พูดจบก็ต่างคนต่างกลับไปที่ห้องของตัวเอง

จงเยียนเฉินเป็นเด็กแก่แดด ฉลาดเกินอายุมาตั้งแต่หนแต่ไรแล้ว ตอนนี้ในครอบครัวก็มีแต่จงเหยียนซีกับลูกน้อยที่ ไม่รู้สถานการณ์ของจงฉีเฟิง จงเหยียนเฉินรู้สึกเจ็บปวดอยู่ภายในใจ
เขาที่ไม่ค่อยชอบพูดอยู่แล้ว ก็ยิ่งนิ่งเงียบขึ้นไปอีก
จงเหยียนซีบอกว่าเขาแสร้งทำเป็นสงบนิ่งขรึม
จงจิ่งห้าวปิดประตูเดินมาตรงหน้าเตียง ลากเก้าอี้หนึ่งตัวมานั่งลงใกล้ๆหลินซินเหยียน
หลังจากที่จงฉีเฟิงป่วย ก็ไม่ชอบอุ้มลูกน้อยแล้ว แม้ว่าโรคนี้จะไม่ติดต่อ แต่เขาก็กลัวว่าจะติดต่อไปที่เขา กลัวว่าโรคของตัวเองจะแพร่ไปที่ตัวของเขา
เขายังเด็ก ภูมิต้านทานอ่อนแอ
“เธออุ้มเขามาได้ยังไง อย่าเข้าใกล้ฉันขนาดนี้”จงฉีเฟิงโบกมือ
หลินซินเหยียนพูดขึ้น”ฉันกับจิ่งห้าวมีเรื่องอยากจะพูดกับพ่อค่ะ”
“เรื่องอะไร?”
จงฉีเฟิงเงยหน้าขึ้นมองมายังจงจิ่งห้าว
“ฉันกับจิ่งห้าวปรึกษากัน ว่าจะยกลูกน้อยให้กับซูจ้านและฉินยาเป็นคนดูแลเลี้ยงดูค่ะ”หลินซินเหยียนพูดขึ้น
จงฉีเฟิงมองต่ำลง สายตาหันมองไปยังลูกน้อยอย่างช้าๆ พร้อมกับพูดขึ้น”นี่เป็นลูกของพวกเธอ พวกเธอคุยปรึกษากันดีแล้ว ฉันก็ไม่มีข้อลโต้แย้ง”

เขายื่นมือออกไป ลูกน้อยคว้าปลายนิ้วของเขาเอาไว้ ฉีกยิ้มกว้าง แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
ถึงจงฉีเฟิงจะป่วย แต่ในหัวรู้ดี รู้ดีว่าพวกเขาคิดยังไง
“พ่อแม่ของเธอก็มีเธอเป็นลูกสาวคนเดียว เด็กคนนี้ใช้นามสกุลของพ่อเธอ แล้วสีบทอดธุรกิจตระกูลของพ่อแม่เธอด้วย ก็ถือว่าครบ
สมบูรณ์แล้ว ไม่ได้เห็นพวกเขาตอนเกิด ถ้าเกิดได้เจอกับพวกเขาตอนที่ยังไม่ได้มาเกิดบนโลก ฉันก็สามารถพูดคุยกับพวกเขาได้”
จงฉีเฟิงเสียงเบามาก เห็นได้ชัดว่าอ่อนแอมากแล้ว
บรรยากาศก็หนักหน่วงขึ้นมา โดนเฉพาะหลังจากที่ได้ยินคำพูดสองประโยคหลังของจงฉีเฟิง พูดอีกสักพัก จงฉี่เฟิงก็เหนื่อยแล้ว หลินซิ
นเหยียนกับจงจิ่งห้าวออกมาจากห้อง ให้เขาพักผ่อน
ช่วงกลางคืนหลินซินเหยียนพลิกตัว พบว่าคนที่นอนข้างๆไม่อยู่แล้ว ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ มองผ่านผ้าม่านโปร่งๆบางๆ เห็นเงาคนหนึ่งคนยืนอยู่ที่ระเบียง เธอลุกจากเตียงสวมรองเท้าแตะหยิบเสื้อหนึ่งตัวเดินออกไป เอาเสื้อตัวนอกไปคลุมไว้ที่ตัวของเขา”ทำไมถึงไม่นอน?”
ภายใต้แสงจันทร์อันอ่อนโยน พอให้หลินซินเหยียนได้เห็นใบหน้าที่นิ่งลึกของเขาอย่างชัดเจน ในเวลานี้เกิดอารมณ์ความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบาย
จงจิ่งห้าวหยิบเสื้อคลุมที่คลุมอยู่ออกมา ห่มไปที่ร่างกายของเธอ คว้ามือของเธอมากุมเอาไว้”ผมนอนไม่หลับ อยู่เป็นเพื่อนผมสักพักสิ”
หลินซินเหยียนตอบซื้อกลับมาเบาๆ ทั้งสองคนไม่พูดอะไร ยืนเงียบๆอยู่แบบนี้ กลางดึกแสงจันทร์สาดส่องมาคลุมที่ร่างของพวกเขาทั้งสองคน
“อาลัยอาวรณ์ลูกน้อยใช่ไหม?”หลินซินเหยียนหันมองไปที่เขา”ถ้าคุณชอบ ฉันค่อยคลอดให้กับคุณอีกสักคน”

จงจิ่งห้าวกุมมือของเธอเอาไว้อย่างแรง พร้อมกับพูดขึ้น”สุขภาพร่างกายของคุณไม่ไหว พวกเราไม่เอาแล้ว มีเสี่ยวซีกับเสี่ยวลุ่ยอยู่ข้าง
กายของพวกเราก็พอแล้ว พวกเขาเป็นลูกคนแรกของพวกเรา ผมไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจแล้วล่ะ”
มีลูกชายหนึ่งลูกสาวหนึ่งมันก็ดีที่สุดแล้ว
“ฉันเข้าใจที่คุณทำแบบนี้ ก็เพื่อฉัน คุณเห็นด้วยที่จะให้ลูกน้อยนามสกุลจวง ในอนาคตเขาสืบทอดJK เพื่อเป็นทายาทต่อจากพ่อของฉัน
สืบทอดธุรกิจของเขา ไม่ถึงขั้นที่เคยถูกคนลืมว่าเคยมีคนแบบนี้อยู่บนโลก”เธอมองต่ำลง เอามือไปประกบที่หลังมือของเขา”ฉินยากับซูจ้าน
เลี้ยงดูลูกน้อย แค่มีคนที่รักเขามากกว่าเพิ่มขึ้นมาอีกสองคนเท่านั้น มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือไง”
เข้าใจเหตุผลดี แต่แค่รู้สึกอาลัยอาวรณ์
“ไปนอนกันเถอะ”จงจิ่งห้าวกุมมือของเธอเข้าไปในห้อง
นอนลงบนเตียงก็ยากที่จะหลับลูกน้อยจงฉีเฟิง เหล่านี้ล้วนแต่เป็นความเศร้าหมองที่ตราตรึงอยู่ในใจ
ค่ำคืนนี้ยังมีอีกหนึ่งคนที่นอนกลับไม่สนิท
ช่วงนี้ซางหยูมักจะมีอาการคลื่นไส้อยู่บ่อยๆ วันนี้ตอนค่ำเธอไม่ได้กินอะไร ก็ยังรู้สึกอยากจะอาเจียน แต่อาเจียนไม่ออก
อาการคลื่นไส้นี้มีมาตลอด ทำให้เธอไม่สามารถพักผ่อนได้
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็กะจะไปที่คลินิก โรงพยาบาลใหญ่ๆต้องต่อคิว แถมเธอถูกบริษัทแห่งหนึ่งรับไปเป็นเด็กฝึกงานแล้วด้วย จะสายไม่ได้
ไม่อย่างนั้นก็จะถูกหักการประเมินผลการปฏิบัติงาน แถมผลกระทบที่ตามมาก็ไม่ดีด้วย เธอเพิ่งจะถูกรับเข้าทำงานก็มาสายซะแล้ว จะทำให้คน
เขารู้สึกไม่ดีกับเราตั้งแต่แรกไม่ได้
คลินิกคนไม่เยอะ

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ อ่านทั้งวัน.com

ซางหยูบอกอาการของตัวเองให้กับหมอ”ช่วงหลายวันนี้เอาแต่รู้สึกคลื่นไส้อยู่ตลอดเวลา แต่ก็อาเจียนไม่ออก ไม่มีความอยากอาหารด้วย
กินอะไรไม่ลงเลยค่ะ”
หมอพูดถาม”ก่อนหน้านี้มีอาการแบบนี้ไหม?”
ซางหยูส่ายหน้า”สุขภาพร่างกายของฉันดีมาตลอดค่ะ”
“ช่วงนี้มีอดหลับอดนอนไหม?”หมอถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มีค่ะ”
“อาการคลื่นไส้ เมื่ออาหารของคุณนี้อาจมาจากสาเหตุของกะเพาะและลำไส้อักเสบ”หมอพูดขึ้น”เดี๋ยวผมจ่ายยาให้คุณก็แล้วกัน”
ซางหยูพูดขึ้น”ได้ค่ะ ถ้าอย่างคุณหมอจ่ายยาให้เลยแล้วกันค่ะ”
หมอจ่ายยาให้เธอสองสามกล่อง ซางหยูหยิบยาใส่เข้าไปในกระเป๋า ระหว่างทางที่เดินทางไปบริษัท เธอซื้อน้ำเต้าหู้หนึ่งแก้ว แล้วก็ถือโอกาสกินยาไปด้วยเลย
เธอคำนวณเวลาแล้วว่าไปถึงบริษัทก่อนเวลา
เพิ่งมาฝึกงานก็ได้แค่ทำงานง่ายๆ พวกช่วยถ่ายเอกสาร ช่วยติดตารางงาน แต่แค่เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อาการดีขึ้นจากการกินยา
คิดดูแล้วอาจจะเป็นเพราะเพิ่งกินเข้าไป ก็เลยยังไม่ออกฤท ตอนเที่ยงก็กินต่อตามคำสั่งของหมอ
ตอนเย็นเลิกงานเธอก็ยังไม่ดีขึ้น หวางทิงเสโทรศัพท์มาชวนเธอกินข้าว
เธอเหนื่อยกับงานมาทั้งวัน ไม่อยากไป หวางทิงเสว่พูดขึ้น”ถ้าเธอไม่มา เธอไม่ใช่เพื่อนของฉันแล้วนะ”

ซางหยูถอนหายใจออกมา รู้จักนิสัยใจคอของหวางทิงเสว่ดี ต้องไปเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะต้องไม่ยุ่งกับเธอไปอีกนานแน่นอน
“หมี่ของร้านนี้อร่อยมากเป็นพิเศษเลย”ทั้งสองคนเจอกันตรงประตูทางเข้ามหาลัย หวางทิงเสว่ควงแขนของเธอเดินไปอยู่ตรงหน้าร้านซุปวัวหวยหนานร้านหนึ่ง
“นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้มากิน” หวางทิงเสว่จูงเธอเดินเข้าไป พูดกับเถ้าแก่”เอาหมี่สองถ้วย แล้วก็ขนมปังทอดหนึ่งค่ะ”
“ได้ครับ กรุณารอสักครู่”
ผ่านไปสักพักเถ้าแก่ก็เอาหมี่สองถ้วยมาเสิร์ฟ มี่เส้นเล็กๆ แล้วก็ฟองเต้าหู้ที่หั่นเป็นเส้น เนื้อวัวหั่นเป็นแผ่นบางๆ โรยด้วยผักชีและ
หอมแดง แล้วราดด้วยน้ำซุปร้อนๆ นี่แหละอาการอันโอชะ
หวางทิงเสวได้กลิ่นแล้วก็น้ำลายไหล”หอมจัง”
เมื่อก่อนซางหยูก็ชอบกินเหมือนกัน หมี่เนื้อวัวบวกกับขนมปังปิ้งบางๆ อร่อยมากจริงๆ แต่ตอนนี้เธอเห็นแล้วกลับไม่มีความอยากเลยแม้แต่น้อย
หวางทิงเสว่คีบเนื้อขึ้นมาหนึ่งชิ้นยัดเข้าไปในปากพร้อมกับบะหมี่ ได้กินของที่ตัวเองชอบ ในใจรู้สึกเติมเต็มไม่น้อยเลย เธอรู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด

“ซางหยูทำไมเธอเอาแต่มองไม่กินเลยล่ะ?” หวางทิงเสหยิบขนมปังขึ้นมากัดไปหนึ่งคำ พูดขึ้นทั้งที่ในปากยังมีอาหารอยู่
ซางหยูตอบ”ช่วงนี้ฉันรู้สึกไม่สบาย ไม่ค่อยอยาก”
หวางทิงเสว่กลืนอาหารลงไป ก่อนจะถามขึ้น”ไม่สบายยังไง?”

“คลื่นไส้อยากอาเจียน กินยาแล้ว ก็ไม่ได้ช่วย”จู่ๆเธอก็จับตรงหน้าอก เริ่มรู้สึกคลื่นไส้อีกแล้ว
หวางทิงเสว่ถลึงตาโต”ซางหยู นี่เธอคลื่นไส้ คงจะไม่ได้ท้องหรอกใช่ไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+