กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 990 ผิดเป็นครู

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 990 ผิดเป็นครู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อ่านนิยายเรื่องนี้ก่อนใครได้ที่ อ่านทั้งวัน.com

” พี่คะ คนเมื่อกี้คือใครเหรอ? ” เธอยืนอยู่ในร้านค้าร้านหนึ่ง จะได้ดูของที่ต้องใช้บนเตียงวันงานพิธี เหมือนมองผ่านกระจกไกลๆ เธอเห็นว่าจงเหยียนซีกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ ตอนนั้นเหมือนมี

ใครบังสายตาของเธอเลยมองไม่ค่อยชัดเจน เพราะเธอวิ่งมาถึงตรงนี้ก็เพราะว่าคนคนนั้นหายไปแล้ว

“ไม่มีนะ ไปกันเถอะ เราไปซื้อของกันต่อดีกว่า เธอแต่งงานทั้งที ฉันควรให้อะไรดีล่ะ? ” งเยียนซีลากเธอไปเดินซื้อของต่อ

เสิ่นซินเหยาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะหันมามองข้างหลัง เพราะเธอแน่ใจว่าเธอเห็นใครบางคนตรงนี้

แต่ทำไมตอนนี้ไม่อยู่แล้วนะ?

หรือเธอมองผิดไป? เสิ่นซินเหยาคิดด้วยความมึนงง

” ไปเถอะเราไปดูร้านนั้นกัน ” จงเหยียนซีลากเธอไปร้านเสื้อผ้าผู้หญิง แล้วจงใจพูดกับเธอว่า ” งั้นพี่ซื้อเสื้ออะไรให้เธอดีไหม ”

เสิ่นซินเหยายิ้มแล้วถามว่า ” ของขวัญแต่งงานเหรอ? ”

” แน่นอนว่าไม่ใช่ ” จงเหยียนซีมองไปที่เธอ ” ถ้าไม่แต่งงานกับลูกน้อย แน่นอนว่าฉันต้องซื้อของที่ดีที่สุดให้ และเป็นของที่แพงที่สุด ”

เสั่นซินเหยาพูดล้อเล่น ” คุณอาฉินยา คุณแม่ก็ให้ พี่ก็ให้อีก ถึงตอนนั้นฉันไม่กลายเป็นเศรษฐินีไปแล้วเหรอ?”

” จริงๆ แล้วเธอก็เป็นเศรษฐินีอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง? งั้นของของ ลูกน้อยก็ไม่ใช่ของเธอน่ะสิ ”

“ดูเหมือนว่าจะใช่เสียด้วยเนอะ”

ทั้งสองหัวเราะกันไปมา เสิ่นชินเหยาเหมือนจะลืมเรื่องที่เห็นเธอคุยกับใครบางคนไปเสียสนิทแล้ว

เมื่อเดินห้างเสร็จ พวกเธอก็ไปดูหนังกันสักเรื่องถึงจะกลับบ้าน

จงเหยียนซีไม่ได้กลับพร้อมเสิ่นชินเหยา บอกว่าต้องไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากช็อปปิ้งเสร็จเธอจงใจที่จะไปดูหนังต่อ เพราะเธอจะยื้อเวลาให้มันยาวไปจนถึงกลางคืน จากนั้นก็หาข้ออ้างไม่กลับไป

เสิ่นซินเหยาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เลยกลับกับคนขับรถไปก่อน

เมื่อแยกกับเสิ่นซินเหยาแล้วก็ยังไม่ถึงเวลาสองทุ่ม เธอจึงเดินทอดน่องไปตามถนนที่ดูเจริญหูเจริญตาของเมืองCฟ้าเริ่มจะมีดแล้ว ก็เริ่มมีผู้คนบนถนนมากขึ้น

ริมถนนมีขายของเล่นกระจั๊กกระจิ๊ก เด็กน้อยจูงมือพ่อแม่เข้าไปซื้อ บรรยากาศดูคึกคัก

ใต้สะพานมีศิลปินวัยรุ่นคนหนึ่ง กำลังอุ้มกีตาร์ไว้ เขาไว้ผมยาวและสวมแว่นตา และขับกล่อมบรรเลงกลอนออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำที่กังวาน

“เมื่อได้ยินว่าที่ที่ไกลออกไปมีคุณอยู่ ผมจึงออกเดินทางด้วยความยากลำบาก

ลมได้พัดผ่านผมเหมือนที่พัดผ่านคุณ นี่นับว่าการโอบกอดระหว่างกันหรือเปล่า

ผมเคยเหยียบถนนเส้นเดียวกับที่คุณเหยียบ นี่นับว่าเป็นการพบพานหรือเปล่า

ผมแค่ชอบคุณ มีเพียงใจเดียว และมั่นคงต่อความรู้สึก

ผมยังชอบคุณ เหมือนดวงอาทิตย์ขึ้น แม้ว่าจะเช้าหรือค่

ผมยังชอบคุณ เหมือนแม่ที่ร่อนเร่ไปไกลเก้าหมื่นสี้ และไม่เคยได้พักผ่อน

ผมยังชอบคุณ เหมือนกับดวงดาวที่พุ่งลงบนพื้นอันกว้างใหญ่ จนกระทั่งดับไป

ผมยังชอบคุณ เหมือนสายลมอ่อนๆที่พัดเข้ามาในใจ ที่เบาหวิวและอ่อนแอ

ผมยังชอบคุณ มันลมที่พัดมาถึงแปดหมื่นลี้ ไม่ถามถึงวันกลับ ” tode1.co

รู้ตัวอีกที่ จงเหยียนซีก็ชะงักฝีเท้าลง แล้วหยุดฟังบทกลอนที่ศิลปีนวัยรุ่นคนนั้นได้ขับขานออกมาอย่างตั้งใจความทุกข์ระทมใจน้อยๆ นั้นช่างงดงาม น้ำตาของเธอค่อยๆไหลลงมา จนทำให้หางตา

นั้นเปียกชื้น ในขณะที่เธอกำลังควักแบงก์ร๊อยออกมาแล้วโค้งตัวเพื่อจะวางมันลงในหีบกีตาร์ ก็มีใครบางคนชิวางแบงก์ร้อยนั้นลงไปเสียก่อน เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ก็สบตาเข้ากับสายตาอันนิ่งสนิทของใคร

บางคน ณ เวลานี้เขาก็มองเธอเช่นกัน

เหมือนเวลาได้หยุดเดิน ทั้งสองนิ่งสนิทไม่มีการตอบโต้อยู่นาน สติทั้งคู่ได้หลุดลอยไป เมื่อผ่านไปสักพัก จงเหยียนซีก็ออกจากภวังค์มาก่อน เธอวางเงินในมือลงแล้วลุกขึ้น

เจียงโม่หานมองไปที่เธอ ” ไปเดินเล่นกันไหม?”

จงเหยียนซียกมือขึ้นแล้วดูนาฬิกา ก่อนจะพูดด้วยความห่างเหิน ” ยังไม่ถึงสองทุ่ม ”

” ผมชวนคุณกินข้าว “เจียงโม่หานพูดด้วยน้ำเสียงที่สุขุม ” คุณคงยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม ”

” ฉันกินมาแล้ว “จงเหยียนซีทำสีหน้าเย็นชา เหมือนจะพยายามตีตัวออกห่างให้ไกล

เจียงโม่หานไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่เดินตามจงเหยียนซี

” อย่าตามฉันมา ” เธอหันหน้ากลับไปมองเขา

เจียงโม่หานตอบนิ่งๆ ” ผมก็จะเดินถนนสายนี้เหมือนกัน ”

จงเหยียนซีทำเป็นเดินกลับไป ” คุณอย่ามาบอกฉันแล้วกันว่า คุณก็เดินถนนสายนี้……”

เธอยังไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกเจียงโม่หานดึงเข้ามาในอ้อมกอด สองมือนั้นกอดเธอไว้แน่น ” ขอโทษ ”

จงเหยียนซีทุบตีเขาจนแทบจะเป็นบ้า ” ฉันไม่ต้องการคำขอโทษของคุณ สิ่งที่คุณติดค้างต่อฉันคือชีวิต!”

เจียงโม่หานไม่ขยับ ให้เธอได้ระบายอารมณ์ เมื่อผ่านไปสำกพักใหญ่จงเหยียนซีรู้สึกเหนื่อยจึงพูดขึ้นว่า ” ปล่อยฉัน ”

เธอพูดเสียงเย็น ” คุณทำแบบนี้ ก็มีแต่จะยิ่งทำให้ฉันดูทุกคน กล้าทำแต่ไม่กล้ารับเหรอ? ”

” ถ้าเลือกได้ ผมก็อยากให้ผมเป็นคนที่เจอคุณคนแรก จากนั้นก็อยากให้คนที่รักคุณก่อนเป็นผมเหมือนกัน ”

เจียงโม่หานพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ สิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขาก็คือการที่ไม่รู้ใจตัวเอง

ตอนนี้เขาได้รับรู้ด้วยตัวเองแล้วว่าเธอเคยผ่านความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานนั้นมาอย่างไร เพราะว่าตอนนี้เขาได้ประสบมันกับตัวแล้ว

เขาไม่คิดจะแก้ตัวอะไร ผิดก็ว่าไปตามผิด

เขาไม่ต้องการความเห็นใจหรือความสงสาร เพียงแค่เขาตั้งใจที่จะเอาเธอกลับขึ้นมาเท่านั้น

เขาอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา ทะนุกนอมคนที่เขาอยากจะรักษาไว้

” คุณ คือคนเดียวที่ผมรัก”

จงเหยียนซีไม่ได้อยากจะฟังคำพูดพวกนี้เลยสักนิด เธอเมื่อนหน้าหนี ออกไปทางแม่น้ำ ลมอ่อนๆ ได้พัดผมของเธอ เวลานี้ในใจเธอยังคงเต้นด้วยความกลัว

ไม่ใช่เป็นเพราะเจียงโม่หาน แต่เป็นเพราะตัวเองเคยมีความรู้สึกที่ร้อนรุ่มและแผดเผา

ผิดก็ทำให้เราได้เรียนรู้

ไม่มีอะไรทำให้เธอตาสว่างไปมากกว่านี้

เธอยกมือขึ้นมาดูนาฬิกา ” สองทุ่มแล้ว มีเรื่องอะไร คุณก็พูดมาเถอะ ”

ทั้งหมดเป็นคำพูดที่ใช้ถูไถไป

เจียงโม่หานเก็บสีหน้าและอารมณ์ จากนั้นก็พูดว่า ” ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย ”

” ฉันตกลงแค่ว่าจะคุยกับคุณเท่านั้น ” จงเหยียนซีพูดเสียงเข้ม

” นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการพูดคุยกัน ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 990 ผิดเป็นครู

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 990 ผิดเป็นครู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อ่านนิยายเรื่องนี้ก่อนใครได้ที่ อ่านทั้งวัน.com

” พี่คะ คนเมื่อกี้คือใครเหรอ? ” เธอยืนอยู่ในร้านค้าร้านหนึ่ง จะได้ดูของที่ต้องใช้บนเตียงวันงานพิธี เหมือนมองผ่านกระจกไกลๆ เธอเห็นว่าจงเหยียนซีกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ ตอนนั้นเหมือนมี

ใครบังสายตาของเธอเลยมองไม่ค่อยชัดเจน เพราะเธอวิ่งมาถึงตรงนี้ก็เพราะว่าคนคนนั้นหายไปแล้ว

“ไม่มีนะ ไปกันเถอะ เราไปซื้อของกันต่อดีกว่า เธอแต่งงานทั้งที ฉันควรให้อะไรดีล่ะ? ” งเยียนซีลากเธอไปเดินซื้อของต่อ

เสิ่นซินเหยาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะหันมามองข้างหลัง เพราะเธอแน่ใจว่าเธอเห็นใครบางคนตรงนี้

แต่ทำไมตอนนี้ไม่อยู่แล้วนะ?

หรือเธอมองผิดไป? เสิ่นซินเหยาคิดด้วยความมึนงง

” ไปเถอะเราไปดูร้านนั้นกัน ” จงเหยียนซีลากเธอไปร้านเสื้อผ้าผู้หญิง แล้วจงใจพูดกับเธอว่า ” งั้นพี่ซื้อเสื้ออะไรให้เธอดีไหม ”

เสิ่นซินเหยายิ้มแล้วถามว่า ” ของขวัญแต่งงานเหรอ? ”

” แน่นอนว่าไม่ใช่ ” จงเหยียนซีมองไปที่เธอ ” ถ้าไม่แต่งงานกับลูกน้อย แน่นอนว่าฉันต้องซื้อของที่ดีที่สุดให้ และเป็นของที่แพงที่สุด ”

เสั่นซินเหยาพูดล้อเล่น ” คุณอาฉินยา คุณแม่ก็ให้ พี่ก็ให้อีก ถึงตอนนั้นฉันไม่กลายเป็นเศรษฐินีไปแล้วเหรอ?”

” จริงๆ แล้วเธอก็เป็นเศรษฐินีอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง? งั้นของของ ลูกน้อยก็ไม่ใช่ของเธอน่ะสิ ”

“ดูเหมือนว่าจะใช่เสียด้วยเนอะ”

ทั้งสองหัวเราะกันไปมา เสิ่นชินเหยาเหมือนจะลืมเรื่องที่เห็นเธอคุยกับใครบางคนไปเสียสนิทแล้ว

เมื่อเดินห้างเสร็จ พวกเธอก็ไปดูหนังกันสักเรื่องถึงจะกลับบ้าน

จงเหยียนซีไม่ได้กลับพร้อมเสิ่นชินเหยา บอกว่าต้องไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากช็อปปิ้งเสร็จเธอจงใจที่จะไปดูหนังต่อ เพราะเธอจะยื้อเวลาให้มันยาวไปจนถึงกลางคืน จากนั้นก็หาข้ออ้างไม่กลับไป

เสิ่นซินเหยาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เลยกลับกับคนขับรถไปก่อน

เมื่อแยกกับเสิ่นซินเหยาแล้วก็ยังไม่ถึงเวลาสองทุ่ม เธอจึงเดินทอดน่องไปตามถนนที่ดูเจริญหูเจริญตาของเมืองCฟ้าเริ่มจะมีดแล้ว ก็เริ่มมีผู้คนบนถนนมากขึ้น

ริมถนนมีขายของเล่นกระจั๊กกระจิ๊ก เด็กน้อยจูงมือพ่อแม่เข้าไปซื้อ บรรยากาศดูคึกคัก

ใต้สะพานมีศิลปินวัยรุ่นคนหนึ่ง กำลังอุ้มกีตาร์ไว้ เขาไว้ผมยาวและสวมแว่นตา และขับกล่อมบรรเลงกลอนออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำที่กังวาน

“เมื่อได้ยินว่าที่ที่ไกลออกไปมีคุณอยู่ ผมจึงออกเดินทางด้วยความยากลำบาก

ลมได้พัดผ่านผมเหมือนที่พัดผ่านคุณ นี่นับว่าการโอบกอดระหว่างกันหรือเปล่า

ผมเคยเหยียบถนนเส้นเดียวกับที่คุณเหยียบ นี่นับว่าเป็นการพบพานหรือเปล่า

ผมแค่ชอบคุณ มีเพียงใจเดียว และมั่นคงต่อความรู้สึก

ผมยังชอบคุณ เหมือนดวงอาทิตย์ขึ้น แม้ว่าจะเช้าหรือค่

ผมยังชอบคุณ เหมือนแม่ที่ร่อนเร่ไปไกลเก้าหมื่นสี้ และไม่เคยได้พักผ่อน

ผมยังชอบคุณ เหมือนกับดวงดาวที่พุ่งลงบนพื้นอันกว้างใหญ่ จนกระทั่งดับไป

ผมยังชอบคุณ เหมือนสายลมอ่อนๆที่พัดเข้ามาในใจ ที่เบาหวิวและอ่อนแอ

ผมยังชอบคุณ มันลมที่พัดมาถึงแปดหมื่นลี้ ไม่ถามถึงวันกลับ ” tode1.co

รู้ตัวอีกที่ จงเหยียนซีก็ชะงักฝีเท้าลง แล้วหยุดฟังบทกลอนที่ศิลปีนวัยรุ่นคนนั้นได้ขับขานออกมาอย่างตั้งใจความทุกข์ระทมใจน้อยๆ นั้นช่างงดงาม น้ำตาของเธอค่อยๆไหลลงมา จนทำให้หางตา

นั้นเปียกชื้น ในขณะที่เธอกำลังควักแบงก์ร๊อยออกมาแล้วโค้งตัวเพื่อจะวางมันลงในหีบกีตาร์ ก็มีใครบางคนชิวางแบงก์ร้อยนั้นลงไปเสียก่อน เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ก็สบตาเข้ากับสายตาอันนิ่งสนิทของใคร

บางคน ณ เวลานี้เขาก็มองเธอเช่นกัน

เหมือนเวลาได้หยุดเดิน ทั้งสองนิ่งสนิทไม่มีการตอบโต้อยู่นาน สติทั้งคู่ได้หลุดลอยไป เมื่อผ่านไปสักพัก จงเหยียนซีก็ออกจากภวังค์มาก่อน เธอวางเงินในมือลงแล้วลุกขึ้น

เจียงโม่หานมองไปที่เธอ ” ไปเดินเล่นกันไหม?”

จงเหยียนซียกมือขึ้นแล้วดูนาฬิกา ก่อนจะพูดด้วยความห่างเหิน ” ยังไม่ถึงสองทุ่ม ”

” ผมชวนคุณกินข้าว “เจียงโม่หานพูดด้วยน้ำเสียงที่สุขุม ” คุณคงยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม ”

” ฉันกินมาแล้ว “จงเหยียนซีทำสีหน้าเย็นชา เหมือนจะพยายามตีตัวออกห่างให้ไกล

เจียงโม่หานไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่เดินตามจงเหยียนซี

” อย่าตามฉันมา ” เธอหันหน้ากลับไปมองเขา

เจียงโม่หานตอบนิ่งๆ ” ผมก็จะเดินถนนสายนี้เหมือนกัน ”

จงเหยียนซีทำเป็นเดินกลับไป ” คุณอย่ามาบอกฉันแล้วกันว่า คุณก็เดินถนนสายนี้……”

เธอยังไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกเจียงโม่หานดึงเข้ามาในอ้อมกอด สองมือนั้นกอดเธอไว้แน่น ” ขอโทษ ”

จงเหยียนซีทุบตีเขาจนแทบจะเป็นบ้า ” ฉันไม่ต้องการคำขอโทษของคุณ สิ่งที่คุณติดค้างต่อฉันคือชีวิต!”

เจียงโม่หานไม่ขยับ ให้เธอได้ระบายอารมณ์ เมื่อผ่านไปสำกพักใหญ่จงเหยียนซีรู้สึกเหนื่อยจึงพูดขึ้นว่า ” ปล่อยฉัน ”

เธอพูดเสียงเย็น ” คุณทำแบบนี้ ก็มีแต่จะยิ่งทำให้ฉันดูทุกคน กล้าทำแต่ไม่กล้ารับเหรอ? ”

” ถ้าเลือกได้ ผมก็อยากให้ผมเป็นคนที่เจอคุณคนแรก จากนั้นก็อยากให้คนที่รักคุณก่อนเป็นผมเหมือนกัน ”

เจียงโม่หานพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ สิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขาก็คือการที่ไม่รู้ใจตัวเอง

ตอนนี้เขาได้รับรู้ด้วยตัวเองแล้วว่าเธอเคยผ่านความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานนั้นมาอย่างไร เพราะว่าตอนนี้เขาได้ประสบมันกับตัวแล้ว

เขาไม่คิดจะแก้ตัวอะไร ผิดก็ว่าไปตามผิด

เขาไม่ต้องการความเห็นใจหรือความสงสาร เพียงแค่เขาตั้งใจที่จะเอาเธอกลับขึ้นมาเท่านั้น

เขาอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา ทะนุกนอมคนที่เขาอยากจะรักษาไว้

” คุณ คือคนเดียวที่ผมรัก”

จงเหยียนซีไม่ได้อยากจะฟังคำพูดพวกนี้เลยสักนิด เธอเมื่อนหน้าหนี ออกไปทางแม่น้ำ ลมอ่อนๆ ได้พัดผมของเธอ เวลานี้ในใจเธอยังคงเต้นด้วยความกลัว

ไม่ใช่เป็นเพราะเจียงโม่หาน แต่เป็นเพราะตัวเองเคยมีความรู้สึกที่ร้อนรุ่มและแผดเผา

ผิดก็ทำให้เราได้เรียนรู้

ไม่มีอะไรทำให้เธอตาสว่างไปมากกว่านี้

เธอยกมือขึ้นมาดูนาฬิกา ” สองทุ่มแล้ว มีเรื่องอะไร คุณก็พูดมาเถอะ ”

ทั้งหมดเป็นคำพูดที่ใช้ถูไถไป

เจียงโม่หานเก็บสีหน้าและอารมณ์ จากนั้นก็พูดว่า ” ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย ”

” ฉันตกลงแค่ว่าจะคุยกับคุณเท่านั้น ” จงเหยียนซีพูดเสียงเข้ม

” นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการพูดคุยกัน ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+