กำเนิดดาบปีศาจ 35 – ข้อสงสัย

Now you are reading กำเนิดดาบปีศาจ Chapter 35 - ข้อสงสัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กําเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 35 – ข้อสงสัย

 

เมื่อโนอาห์ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย ก่อนเข้านอนเมื่อคืน เขาอาบน้ำเพื่อชําระล้างสิ่งสกปรกตามร่างกายที่ไหลออกมาระหว่างการเปลี่ยนอันดับ และตอนนี้เขาก็กําลังยืนอยู่ในห้องเพื่อสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลง สิ่งแรกที่รู้สึกเลยก็คือกล้ามเนื้อที่ขยายใหญ่และชัดเจนขึ้น ไม่มีชั้นไข มันแม้เล็กน้อยปรากฏให้เห็น ทําให้ร่างกายของโนอาห์ดูเพรียวและแข็งแรงถึงแม้ว่าส่วนสูงจะยังไม่มากก็ตาม

 

แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดกว่านั้นเกิดขึ้นในร่างกายของเขา

 

จุดฝังเข็มทั้งเจ็ดบนแผ่นหลังดูดซับ “ลมหายใจ” ด้วยความเร็วที่มากกว่าถึงสองเท่าจากวัฏจักรก่อนหน้า ปริมาณที่ร่างกายสามารถรับไว้ได้ก็เพิ่มขึ้นถึงสามเท่า!

 

‘ด้วยปริมาณเท่านี้ ฉันสามารถปล่อยการโจมตีแบบเต็มกําลังได้อย่างน้อยก็หกครั้งก่อนที่ “ลมหายใจ” จะหมดเกลี้ยง! ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีความเร็วในการฟื้นฟูที่เพิ่มขึ้น แต่อาจได้พลังงานสําหรับการโจมตีครั้งอื่นๆ หลังจากที่ใช้ไปแล้วหกครั้ง และทั้งหมดนี่จะเกิดขึ้นถึงแม้วัฏจักรที่สี่จะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม!’

 

การค้นพบพลังใหม่นี้ทําให้โนอาห์กระหายที่จะฝึกฝนการต่อสู้กับอาจารย์ ดังนั้นเขาจึงรีบสวมชุดกิโมโนและพร้อมที่จะออกจากห้อง แต่ทันใดนั้นก็หยุดลง

“จริงสิ วันนี้ต้องไปทําความสะอาดห้องทรมานก่อนนี่นา”

 

เพล้ง!

 

เสียงของดาบเหล็กปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วตึกผู้พิทักษ์ โนอาห์กําลังต่อสู้อยู่กับวิลเลียมด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่น ขณะกําลังคุ้นชินกับร่างกายใหม่นี้เรื่อย ๆ

 

วิลเลียมจําเป็นต้องทิ้งดาบไม้และหยิบดาบจริงขึ้นมาป้องกันการโจมตีของโนอาห์บ้างในบางครั้ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โนอาห์ไม่สามารถทําลายการป้องกันของอาจารย์เขาได้ วิลเลียมเพียงป้องกันทุกการโจมตีที่โถมเข้ามาพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นถึงกระบวนท่านั้นๆไปด้วย

 

แต่ความสุขที่ได้เห็นร่างกายพัฒนานั้นยังคงไม่ได้แสดงออกผ่านสีหน้าและอารมณ์ของโนอาห์เลย ปรากฏชัดเพียงแค่ความเย็นชาและสมาธิเท่านั้น เขาได้พบแม่ก่อนจะลงมาฝึกฝนการต่อสู้และรู้สึกจิตตกที่ได้พบรอยช้ําขนาดใหญ่บนใบหน้าบริเวณใต้ตาขวาของเธอ ความกดดันบางอย่างก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขาและบังคับให้เขารีบเร่งพัฒนาตนก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่อาจสายเกินแก้ขึ้น

 

วิลเลียมสังเกตสภาพจิตใจของลูกศิษย์จึงยกระดับการฝึกฝนขึ้น เพื่อให้เกียรติต่อความตั้งใจของเขา แต่เมื่อเห็นว่าโนอาห์หายใจหอบอย่างรุนแรงและมีเหงื่อออกมาก อาจารย์ของเขาจึงตัดสินใจหยุดซ้อมและนั่งลงกับพื้นเพื่อพูดคุยกับเขา

 

โนอาห์นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าวิลเลี่ยมและเรียบเรียงคําถามที่เขาคิดอยู่ในใจ

 

“ร่างกายอันดับสองเป็นยังไงบ้าง?” วิลเลียมเริ่มการสนทนา

 

“มันยอดเยี่ยมมากขอรับ! ความแข็งแกร่งและความเร็วเพิ่มขึ้นเยอะมาก ข้ามั่นใจว่าตอนนี้ข้าสามารถเอาชนะสัตว์เวทมนตร์อันดับสามได้แล้ว”

 

วิลเลี่ยมพยักหน้า เขารู้ว่าทุกการเปลี่ยนอันดับจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และยิ่งไปอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นก็ยิ่งเห็นถึงความแตกต่างจากระดับก่อนหน้าได้อย่างชัดเจน

 

โนอาห์เลือกที่จะเอ่ยคําถามออกมา “ท่านอาจารย์ ผู้ฝึกตนทุกคนล้วนเป็นคนเขลาหรือ?”

 

วิลเลียมประหลาดใจกับคําถามและอดไม่ได้ที่จะถามกลับว่ามันสื่อถึงอะไร “เจ้าหมายความว่ายังไง?”

 

“ภารกิจที่ต้องต่อสู้กับออร์สัน ข้าตระหนักได้ว่าผู้ฝึกตนมี เอ่อ… นิสัยที่ประหลาด”

 

วิลเลียมสับสนใจตอนแรกแต่จากนั้นก็เข้าใจบางอย่างเมื่อได้เห็นอารมณ์ที่ซับซ้อนและอาการเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองของศิษย์

 

“เจ้าคือเด็กอายุแปดขวบคนนั้นที่หลอกผู้พิทักษ์เพื่อเอาเคล็ดวิชา คือเด็กอายุสี่ขวบคนนั้นที่เอาแต่ฝึกฝนและต่อสู้ คือเด็กคนนั้นที่วันๆ ไม่คิดสิ่งใดนอกเสียจากการฝึกตน และเจ้ายังมาพูดว่าผู้ฝึกตนประหลาดอีกงั้นหรือ?”

 

ดูเหมือนโนอาห์จะตกตะลึงกับคําพูดเหล่านี้ไปชั่วครู่ แต่ไม่นาน รอยยิ้มเล็กๆก็ปรากฏเป็นคําตอบ

 

วิลเลียมส่ายหน้าและว่าต่อ “ไม่ใช่เพราะขั้นตอนของการฝึกตนหรอกที่ทําให้เกิดความประหลาดเช่นนี้ หากแต่เป็นเพราะผู้คนต่างหากที่เอาแต่ไขว่คว้าไล่ตามพลัง มีเพียงแค่ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้เดินบนเส้นทางนี้ต่อ อุปสรรคมากมายที่เข้ามาก็มิอาจทําอะไรพวกเขาได้”

 

โนอาห์ตรัสรู้แล้ว กระบวนการบํารุงรักษาร่างกายต้องการการฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องและใช้ความอดทนอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการฝึกฝน คนส่วนมากมักเบื่อและหน่ายกับวิธีเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมพวกเขาถึงไม่สามารถได้มาซึ่งพลังที่สูงกว่า ใครกันที่จะมุ่งมั่นเอาแต่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทั้งวันจนร่างกายหมดแรง? ใครกันที่จะเอาแต่นั่งจ้องอักษรรูนจนทําให้เขาเจ็บปวดและหมดสติไป? มีเพียงผู้ที่ตั้งใจแน่วแน่เท่านั้น! และพวกเขามักจะมีความประหลาดเหล่านี้ในตัวซึ่งไม่ถูกลบออกไปง่ายๆ เช่นความดื้อรั้นของโนอาห์ในการเสาะหาพลัง

 

“ข้าคิดว่าข้าเข้าใจแล้ว แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”

 

โนอาห์กําลังจะถามเกี่ยวกับสํานักในเมืองหลวง แต่จากนั้นก็มีข้อสงสัยเกิดขึ้นในใจ เขายั้งที่จะถามคําถามแรกออกไปและเปลี่ยนหัวข้อที่จะถามในที่สุด

 

“ข้าขอดูข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฝึกตนในเมืองได้หรือไม่ขอรับ? ท่านก็รู้ว่าหัวข้อนี้ไม่ค่อยเป็นที่เปิดเผยนัก และข้าไม่รู้เลยว่าจะไปหาอ่านได้จากที่ใด”

 

วิลเลียมรู้สึกประหลาดใจแต่ก็พยักหน้าพร้อมกับเผยรอยยิ้ม “ท้ายที่สุดเจ้าก็อยากรู้ประวัติศาสตร์ประเทศเพิ่มเติมจนได้สินะ! ไม่ต้องห่วง นัดหมายครั้งหน้าข้าจะนำตําราจากเขตในมาให้ ฉันจะขอมีชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าเจ้าจะขอบางสิ่งจากข้า ซึ่งแน่นอนว่า บางสิ่งที่ว่าย่อมไม่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝน!”

 

โนอาห์ยิ้มกว้าง ไม่นานเขาก็ออกมาจากห้องและคลายรอยยิ้ม

 

“เกือบพลาดไปแล้วไหมล่ะ ฉันรู้ว่าอาจารย์ใส่ใจฉันมากแค่ไหน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขารู้ว่าฉันคิดที่จะไปจากตระกูลนี้? เขาจะช่วยหรือลงโทษฉัน? เพื่อให้มั่นใจ คงจะเป็นการดีกว่าถ้าไม่เปิดเผยอะไรกับเขาจนกว่าการหลอมรวมนรกเจ็ดขั้นจะเสร็จ สมบูรณ์ นอกจากนี้ก็ยังไม่รู้ด้วยว่าแท้จริงแล้วเมืองหลวงนั้นเป็นยังไง

 

ขณะกําลังครุ่นคิด โนอาห์ก็กลับมาถึงห้อง เขาไม่ชอบปกปิดอะไรต่อวิลเลียมเนื่องจากวิลเลียมช่วยเหลือเขามาตลอด แต่อนาคตของเขาย่อมมาก่อน เขาไม่อาจยอมรับการที่ต้องเป็นแค่ผู้พิทักษ์ไปตลอดชีวิตได้ เขาอยากมีอิสระที่จะได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้า โดยไม่มีผู้มีอํานาจขัดขวางเขาได้และต้องการพลังที่แม้แต่การอยู่ในคฤหาสน์ทั้งชีวิตก็มิอาจหาได้

 

“ดูเหมือนว่าการทําให้คนที่รักต้องรู้สึกผิดหวังมันจะเป็นสันดานของฉันไปแล้วจริงๆ ขอโทษนะท่านอาจารย์ แต่ไม่มีทางที่ฉันจะยอมรับฐานะของฉันว่าเป็นเพราะโชคชะตาได้หรอก หวังว่าท่านคงจะเข้าใจ”

 

เมื่อละทิ้งต่อความคิด เขาก็หยิบดาบขึ้นมาและฝึกฝน “ลมหายใจ” ในร่างกายได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง หลังจากที่หนึ่งในสี่ถูกใช้ไประหว่างการฝึกฝนการต่อสู้กับวิลเลียม

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กำเนิดดาบปีศาจ 35 – ข้อสงสัย

Now you are reading กำเนิดดาบปีศาจ Chapter 35 - ข้อสงสัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กําเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 35 – ข้อสงสัย

 

เมื่อโนอาห์ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย ก่อนเข้านอนเมื่อคืน เขาอาบน้ำเพื่อชําระล้างสิ่งสกปรกตามร่างกายที่ไหลออกมาระหว่างการเปลี่ยนอันดับ และตอนนี้เขาก็กําลังยืนอยู่ในห้องเพื่อสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลง สิ่งแรกที่รู้สึกเลยก็คือกล้ามเนื้อที่ขยายใหญ่และชัดเจนขึ้น ไม่มีชั้นไข มันแม้เล็กน้อยปรากฏให้เห็น ทําให้ร่างกายของโนอาห์ดูเพรียวและแข็งแรงถึงแม้ว่าส่วนสูงจะยังไม่มากก็ตาม

 

แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดกว่านั้นเกิดขึ้นในร่างกายของเขา

 

จุดฝังเข็มทั้งเจ็ดบนแผ่นหลังดูดซับ “ลมหายใจ” ด้วยความเร็วที่มากกว่าถึงสองเท่าจากวัฏจักรก่อนหน้า ปริมาณที่ร่างกายสามารถรับไว้ได้ก็เพิ่มขึ้นถึงสามเท่า!

 

‘ด้วยปริมาณเท่านี้ ฉันสามารถปล่อยการโจมตีแบบเต็มกําลังได้อย่างน้อยก็หกครั้งก่อนที่ “ลมหายใจ” จะหมดเกลี้ยง! ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีความเร็วในการฟื้นฟูที่เพิ่มขึ้น แต่อาจได้พลังงานสําหรับการโจมตีครั้งอื่นๆ หลังจากที่ใช้ไปแล้วหกครั้ง และทั้งหมดนี่จะเกิดขึ้นถึงแม้วัฏจักรที่สี่จะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม!’

 

การค้นพบพลังใหม่นี้ทําให้โนอาห์กระหายที่จะฝึกฝนการต่อสู้กับอาจารย์ ดังนั้นเขาจึงรีบสวมชุดกิโมโนและพร้อมที่จะออกจากห้อง แต่ทันใดนั้นก็หยุดลง

“จริงสิ วันนี้ต้องไปทําความสะอาดห้องทรมานก่อนนี่นา”

 

เพล้ง!

 

เสียงของดาบเหล็กปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วตึกผู้พิทักษ์ โนอาห์กําลังต่อสู้อยู่กับวิลเลียมด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่น ขณะกําลังคุ้นชินกับร่างกายใหม่นี้เรื่อย ๆ

 

วิลเลียมจําเป็นต้องทิ้งดาบไม้และหยิบดาบจริงขึ้นมาป้องกันการโจมตีของโนอาห์บ้างในบางครั้ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โนอาห์ไม่สามารถทําลายการป้องกันของอาจารย์เขาได้ วิลเลียมเพียงป้องกันทุกการโจมตีที่โถมเข้ามาพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นถึงกระบวนท่านั้นๆไปด้วย

 

แต่ความสุขที่ได้เห็นร่างกายพัฒนานั้นยังคงไม่ได้แสดงออกผ่านสีหน้าและอารมณ์ของโนอาห์เลย ปรากฏชัดเพียงแค่ความเย็นชาและสมาธิเท่านั้น เขาได้พบแม่ก่อนจะลงมาฝึกฝนการต่อสู้และรู้สึกจิตตกที่ได้พบรอยช้ําขนาดใหญ่บนใบหน้าบริเวณใต้ตาขวาของเธอ ความกดดันบางอย่างก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขาและบังคับให้เขารีบเร่งพัฒนาตนก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่อาจสายเกินแก้ขึ้น

 

วิลเลียมสังเกตสภาพจิตใจของลูกศิษย์จึงยกระดับการฝึกฝนขึ้น เพื่อให้เกียรติต่อความตั้งใจของเขา แต่เมื่อเห็นว่าโนอาห์หายใจหอบอย่างรุนแรงและมีเหงื่อออกมาก อาจารย์ของเขาจึงตัดสินใจหยุดซ้อมและนั่งลงกับพื้นเพื่อพูดคุยกับเขา

 

โนอาห์นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าวิลเลี่ยมและเรียบเรียงคําถามที่เขาคิดอยู่ในใจ

 

“ร่างกายอันดับสองเป็นยังไงบ้าง?” วิลเลียมเริ่มการสนทนา

 

“มันยอดเยี่ยมมากขอรับ! ความแข็งแกร่งและความเร็วเพิ่มขึ้นเยอะมาก ข้ามั่นใจว่าตอนนี้ข้าสามารถเอาชนะสัตว์เวทมนตร์อันดับสามได้แล้ว”

 

วิลเลี่ยมพยักหน้า เขารู้ว่าทุกการเปลี่ยนอันดับจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และยิ่งไปอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นก็ยิ่งเห็นถึงความแตกต่างจากระดับก่อนหน้าได้อย่างชัดเจน

 

โนอาห์เลือกที่จะเอ่ยคําถามออกมา “ท่านอาจารย์ ผู้ฝึกตนทุกคนล้วนเป็นคนเขลาหรือ?”

 

วิลเลียมประหลาดใจกับคําถามและอดไม่ได้ที่จะถามกลับว่ามันสื่อถึงอะไร “เจ้าหมายความว่ายังไง?”

 

“ภารกิจที่ต้องต่อสู้กับออร์สัน ข้าตระหนักได้ว่าผู้ฝึกตนมี เอ่อ… นิสัยที่ประหลาด”

 

วิลเลียมสับสนใจตอนแรกแต่จากนั้นก็เข้าใจบางอย่างเมื่อได้เห็นอารมณ์ที่ซับซ้อนและอาการเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองของศิษย์

 

“เจ้าคือเด็กอายุแปดขวบคนนั้นที่หลอกผู้พิทักษ์เพื่อเอาเคล็ดวิชา คือเด็กอายุสี่ขวบคนนั้นที่เอาแต่ฝึกฝนและต่อสู้ คือเด็กคนนั้นที่วันๆ ไม่คิดสิ่งใดนอกเสียจากการฝึกตน และเจ้ายังมาพูดว่าผู้ฝึกตนประหลาดอีกงั้นหรือ?”

 

ดูเหมือนโนอาห์จะตกตะลึงกับคําพูดเหล่านี้ไปชั่วครู่ แต่ไม่นาน รอยยิ้มเล็กๆก็ปรากฏเป็นคําตอบ

 

วิลเลียมส่ายหน้าและว่าต่อ “ไม่ใช่เพราะขั้นตอนของการฝึกตนหรอกที่ทําให้เกิดความประหลาดเช่นนี้ หากแต่เป็นเพราะผู้คนต่างหากที่เอาแต่ไขว่คว้าไล่ตามพลัง มีเพียงแค่ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้เดินบนเส้นทางนี้ต่อ อุปสรรคมากมายที่เข้ามาก็มิอาจทําอะไรพวกเขาได้”

 

โนอาห์ตรัสรู้แล้ว กระบวนการบํารุงรักษาร่างกายต้องการการฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องและใช้ความอดทนอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการฝึกฝน คนส่วนมากมักเบื่อและหน่ายกับวิธีเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมพวกเขาถึงไม่สามารถได้มาซึ่งพลังที่สูงกว่า ใครกันที่จะมุ่งมั่นเอาแต่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทั้งวันจนร่างกายหมดแรง? ใครกันที่จะเอาแต่นั่งจ้องอักษรรูนจนทําให้เขาเจ็บปวดและหมดสติไป? มีเพียงผู้ที่ตั้งใจแน่วแน่เท่านั้น! และพวกเขามักจะมีความประหลาดเหล่านี้ในตัวซึ่งไม่ถูกลบออกไปง่ายๆ เช่นความดื้อรั้นของโนอาห์ในการเสาะหาพลัง

 

“ข้าคิดว่าข้าเข้าใจแล้ว แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”

 

โนอาห์กําลังจะถามเกี่ยวกับสํานักในเมืองหลวง แต่จากนั้นก็มีข้อสงสัยเกิดขึ้นในใจ เขายั้งที่จะถามคําถามแรกออกไปและเปลี่ยนหัวข้อที่จะถามในที่สุด

 

“ข้าขอดูข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฝึกตนในเมืองได้หรือไม่ขอรับ? ท่านก็รู้ว่าหัวข้อนี้ไม่ค่อยเป็นที่เปิดเผยนัก และข้าไม่รู้เลยว่าจะไปหาอ่านได้จากที่ใด”

 

วิลเลียมรู้สึกประหลาดใจแต่ก็พยักหน้าพร้อมกับเผยรอยยิ้ม “ท้ายที่สุดเจ้าก็อยากรู้ประวัติศาสตร์ประเทศเพิ่มเติมจนได้สินะ! ไม่ต้องห่วง นัดหมายครั้งหน้าข้าจะนำตําราจากเขตในมาให้ ฉันจะขอมีชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าเจ้าจะขอบางสิ่งจากข้า ซึ่งแน่นอนว่า บางสิ่งที่ว่าย่อมไม่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝน!”

 

โนอาห์ยิ้มกว้าง ไม่นานเขาก็ออกมาจากห้องและคลายรอยยิ้ม

 

“เกือบพลาดไปแล้วไหมล่ะ ฉันรู้ว่าอาจารย์ใส่ใจฉันมากแค่ไหน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขารู้ว่าฉันคิดที่จะไปจากตระกูลนี้? เขาจะช่วยหรือลงโทษฉัน? เพื่อให้มั่นใจ คงจะเป็นการดีกว่าถ้าไม่เปิดเผยอะไรกับเขาจนกว่าการหลอมรวมนรกเจ็ดขั้นจะเสร็จ สมบูรณ์ นอกจากนี้ก็ยังไม่รู้ด้วยว่าแท้จริงแล้วเมืองหลวงนั้นเป็นยังไง

 

ขณะกําลังครุ่นคิด โนอาห์ก็กลับมาถึงห้อง เขาไม่ชอบปกปิดอะไรต่อวิลเลียมเนื่องจากวิลเลียมช่วยเหลือเขามาตลอด แต่อนาคตของเขาย่อมมาก่อน เขาไม่อาจยอมรับการที่ต้องเป็นแค่ผู้พิทักษ์ไปตลอดชีวิตได้ เขาอยากมีอิสระที่จะได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้า โดยไม่มีผู้มีอํานาจขัดขวางเขาได้และต้องการพลังที่แม้แต่การอยู่ในคฤหาสน์ทั้งชีวิตก็มิอาจหาได้

 

“ดูเหมือนว่าการทําให้คนที่รักต้องรู้สึกผิดหวังมันจะเป็นสันดานของฉันไปแล้วจริงๆ ขอโทษนะท่านอาจารย์ แต่ไม่มีทางที่ฉันจะยอมรับฐานะของฉันว่าเป็นเพราะโชคชะตาได้หรอก หวังว่าท่านคงจะเข้าใจ”

 

เมื่อละทิ้งต่อความคิด เขาก็หยิบดาบขึ้นมาและฝึกฝน “ลมหายใจ” ในร่างกายได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง หลังจากที่หนึ่งในสี่ถูกใช้ไประหว่างการฝึกฝนการต่อสู้กับวิลเลียม

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+