กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ 13 : 9 หางอาละวาด

Now you are reading กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ Chapter 13 : 9 หางอาละวาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Chapter 13 : 9 หางอาละวาด

 

เวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ในชั่วพริบตา

 

และเขาก็คิดผิดที่คิดว่าหมู่บ้านจะส่งทีมสนับสนุนมาเพราะดาน ชายแดนแห่งนี้อ่อนกําลังลง

 

คุโรโตะ สงสัยว่าทําไม หมู่บ้านโคโนฮะ ถึงไม่ส่งทีมสนับสนุนมา และเขากับ อังโกะ ก็ไม่ได้รับภารกิจที่เรียกว่าภารกิจพิเศษ ใด ๆเลย

 

เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เขาคิด

 

ถ้าเป็นความล่าช้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่นี้ช้า ถึง 3 อาทิตย์? มันจะเป็นไปได้ยังไง?เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล เลยที่ปล่อยให้ด่านชายแดนกําลังไม่เพียงพอนานขนาดนี้

 

สิ่งนี้นําไปสู่สถานการณ์ที่เป็นไปได้เพียงสถานการณ์เดียว อย่าง น้อยก็เป็นสิ่งที่ คุโรโตะคิดได้ในตอนนี้

 

“หรือว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน??

 

จากนั้น คุโรโตะ ก็ค้นหาในความทรงจําของเขาเพื่อค้นหาเบาะ แสเพื่อดูว่ามีเหตุการณ์สําคัญอะไรเกิดขึ้น ณ เวลานี้หรือไม่ แต่เขาก็จําไม่ได้เพราะความทรงจําของเขาคลุมเครือเกินไป

 

แต่ทันใดนั้นภาพหนึ่งก็แวบเข้ามาในความคิดของเขา และทําให้ เหงื่อของเขาไหลออกมาตอนนี้เขาได้คําตอบแล้วและสิ่งเดียวที่เขา ทําได้ก็คือพึมพําเบา ๆ “9 หาง…อาละวาด?”

 

แม้ว่าเขาจะจําเวลาที่แน่นอนของเหตุการณ์นี้ไม่ได้ แต่ คุโรโตะ ก็รู้ว่ามันเกิดขึ้นในคืนวันเกิดของ อุซึมากิ นารูโตะ

 

แม่ของ นารูโตะ , อุซึมากิ คุชินะ ซึ่งเป็นพลังสถิตร่างของ 9 หางคนปัจจุบัน ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเธอถือเป็นความลับอย่างสูง และคนที่ไม่มีบทบาทสําคัญอย่าง คุโรโตะ ก็ไม่สามารถสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลของเธอได้

 

แต่สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่เขาคาดเดาได้ เพราะ ฮินาตะ อายุไล่เลี่ยกับ นารูโตะ และเขาก็ได้รับข่าวมาแล้วว่าภรรยาของผู้นําตระกูลฮิวงะ ตั้งครรภ์ก่อนที่เขาจะออกจากหมู่บ้าน ถ้า นารูโตะ อายุมากกว่า ฮินาตะ ไม่กี่เดือนการเกิดของ นารูโตะ ก็น่าจะประมาณนี้

“ทําไมฉันถึงลืมเรื่องนี้ไปได้ละเนี่ย?!.”

 

คุโรโตะ โทษตัวเองจนถึงก้นบึงของหัวใจ

 

ในความเป็นจริง สิ่งนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาก็ อยู่ในโลกของนินจามานานกว่า 10 ปีแล้วและความทรงจําของเขาก็เลือนรางเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ก่อนหน้านี้เขาก็อยู่ใกล้กับความตายมาโดยตลอดเพราะความอ่อนแอของเขา ทําให้เขาไม่อยากเข้าไปแทรกแซงในเหตุการณ์สําคัญต่าง ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อย สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนินจาสักเท่าไรหากเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้ ทําให้เขาแข็งแกร่งขึ้น

 

ตอนนี้มันแตกต่างออกไปแล้ว เมื่อ เนตรจุติ ของเขาตื่นขึ้นมา เขาจึงมีความสามารถในการแทรกแซงในหลาย ๆ สิ่งได้แล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงต้องให้ความสนใจกับเหตุการณ์สําคัญทุกอย่างในโลกของนินจาเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ได้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ เพื่อที่ จะได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์นั้น ๆ

 

หลังจากจดจ่อกับตัวเองแล้ว คุโรโตะ ก็วิเคราะห์สถานการณ์ที่ เป็นไปของหมู่บ้านในปัจจุบัน

 

หากเกิดเหตุการณ์ที่ 9 หางอาละวาดจริง นั้นก็หมายความว่าค วามแข็งแกร่งของหมู่บ้านกําลังจะลดลงอย่างมหาศาล

 

โฮคาเงะรุ่น 4 ซึ่งอยู่ในช่วงที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา แต่เขาก็ต้อง มาเสียชีวิตไปพร้อมกับ อุซึมากิ คุชินะ ภรรยาของเขา ซึ่งเป็นพลังสถิตร่างของ 9 หาง การสูญเสียนินจาที่มีพลังระดับ คาเงะ ไปถึง 2 คนในเวลาเดียวกัน นําไปสู่สภาวะตกต่ําด้านกําลัง ทหารในปัจจุบันของ โคโนฮะ

 

ในทศวรรษนี้ โคโนฮะ ได้สูญเสียบุคคลที่มีสําคัญไปมากมายอย่า งเช่น ฮาตาเคะ ซาคุโมะ ฆ่าตัวตาย , เซนจู ซึนาเดะ ที่ออกจากหมู่ บ้านเพราะประสบกับบาดแผลทางจิตใจอย่างรุนแรงเนื่องจากการ ตายของ เซนจู นาวากิ น้องชายของเธอ และ คาโต้ ดันคนรักของ เธอ , จากนั้นไม่นาน โอโรจิมารุ ก็ถอนตัวออกจากหมู่บ้านและ จิไร ยะ ก็ออกจากหมู่บ้านเพื่อไล่ล่า โอโรจิมารุ และตอนนี้นินจาที่ทรงพลังที่สุด 2 คนก็ได้จากไปอีก

 

ทําให้โคโนฮะ ในตอนนี้ ถ้าไม่นับรวมนินจารุ่นใหม่ ๆ ถ้าไม่ นับรวม จิไรยะ ที่ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านในตอนนี้ ก็แทบจะเหลือใครที่มี พลังระดับ คาเงะ อยู่อีกแล้ว

 

ในตอนนี้ โฮคาเงะรุ่น 3 และ ชิมูระ ดันโซ เป็นเพียง 2 คนที่มี พลังสูงสุด

 

นอกจากนี้ การอาละวาดของ 9 หางในครั้งนี้ยังถูกสงสัยว่าถูก ควบคุมโดย เนตรวงแหวนทําให้คนระดับสูงสงสัยว่าเป็นฝีมือของ ตระกูลอุจิฮะ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ

 

สมาชิกระดับสูงของตระกูลอุจิฮะ อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวัง และ จากความทรงจํา คุโรโตะ เดาได้ว่าการทะเลาะกันของ อุจิฮะ กับ หมู่บ้านจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

หลังจากวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนถึงสถานการณ์ของ โคโนฮะ คุโร โตะ ก็เริ่มวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ของตัวเอง

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับ โอโรจิมารุ ไม่ได้เป็นภัยคุก คามต่อหมู่บ้านอีกต่อไปเมื่อเทียบกับตระกูลอุจิฮะ ที่ทรงอํานาจที่ ถูกสงสัยว่าเป็นสาเหตุของการอาละวาดของ 9 หาง

 

ยิ่งไปกว่านั้น นินจาธรรมดาจํานวนมากก็ถูกสังหาร เพราะการ อาละวาดของ 9 หาง ดังนั้นหมู่บ้านจึงสูญเสียกําลังพลไปจํานวนมา ก ไม่ใช่แค่ต้องใช้นินจาควบคุมเขตการต่อสู้ไม่ให้ลุกลามออกไป แต่ ยังต้องใช้นินจาชั้นยอดเพื่อจับตาดู ตระกูลอุจิฮะ อีกด้วยแม้ว่า โคโนฮะ จะเป็นหมู่บ้านที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 5 หมู่บ้านใหญ่ แต่กําลังพลของพวกเขาก็มีไม่มากพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะสูญเสียกําลังพลจํานวนมากไปในมหาสงครามโลกนิน จาครั้งที่ 3 ดังนั้นบางที่พวกเขาจึงต้องเพิกเฉยต่อด่านชายแดน

 

หลังจากนั้นไม่นาน การคาดเดาของ คุโรโตะ ก็ได้รับการยืนยัน ว่าเป็นความจริง

 

หมู่บ้านส่งข้อความมาว่า “ละทิ้งด่านชายแดน” และมีคําสั่งให้ เจ้าหน้าที่ทุกคนกลับหมู่บ้านทันที

 

หลังจากจัดการทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 4 คนที่ด่า นชายแดนก็เดินทางกลับหมู่บ้านทันทีระหว่างทาง คุโรโตะ แอบดี ใจ เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ ซาโซริ หาเขาไม่เจอนานขนาดนี้

 

ที่จริงแล้ว คุโรโตะ กําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่

 

จริง ๆ แล้วมันเป็นเหตุบังเอิญที่ทําให้เขาชิง หุ่นคาเสะคาเงะ รุ่น3 มาได้ เห็นได้ชัดว่า คุโรโตะไม่ได้ตั้งใจทําแบบนั้นและแม้ว่า เขาจะทําเขาก็ไม่คิดว่าจะทําได้สําเร็จ

 

คุโรโตะ มีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่รู้ว่า ซาโซริ จะ เข้าใจเขาในเรื่องนี้หรือเปล่า

 

ในสายตาของ ซาโซริ การที่ คุโรโตะ ใช้วิชา จุติเหนียวสวรรค์ และวิธีที่ คุโรโตะ ใช้ในการบังคับหุ่นโดยไม่ต้องใช้จักระหรือการประสานอิน มันเป็นเรื่องแปลกมาก ๆ ซึ่งทําให้เขาประเมินความแข็งแกร่งของ คุโรโตะ ผิดพลาดโดยเข้าใจผิดว่าความแข็งแกร่งของ คุโรโตะ นั้นอย่างน้อยก็อยู่ในระดับ โจนินขั้นสูง ดังนั้น ซาโซริ จึงไม่ สนใจด่านชายแดนเล็ก ๆ ที่ไม่มีนินจาระดับหัวกะทิเป็นหัวหน้า

 

เนื่องจากโดยปกติแล้ว ด่านชายแดนส่วนใหญ่จะใช้สําหรับ การเตือนภัยล่วงหน้า จึงจะไม่มี โจนิน ที่มีความสามารถอยู่

 

เป็นผลให้ด่านชายแดนที่ คุโรโตะ อยู่กลายเป็นสถานที่ที่ปลอด ภัยที่สุดสําหรับเขา นี่คือสาเหตุที่ทําให้ ซาโซริ หาเขาไม่เจอจนถึงต อนนี้

 

ในที่สุด ทั้ง 4 ก็กลับมาถึงหมู่บ้านในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา

 

หมู่บ้านในเวลานี้เป็นเหมือนกับสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ สา มารถมองเห็นคนงานพลุกพล่านได้ทุกที่นั่งร้านต่าง ๆ กระจายไป ทั่วบริเวณ และมีรถขนส่งเข้ามาเรื่อย ๆ

 

อังโกะ ถาม คุโรโตะ ด้วยความสับสนเล็กน้อยขณะชี้ไปที่กําแพง เมืองที่เสียหายในระยะไกล “เกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านกันเนี่ย?”

 

นินจาหน่วยรากที่เดินทางมากับพวกเขาดูเหมือนจะรู้ข่าวบางอ ย่างก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อเขามาเห็นภาพตรงหน้า พวกเขาก็ยัง คงแสดงความประหลาดใจออกมาอยู่ดี

 

เห็นได้ชัดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านนั้นเกินความคาด

 

หมายของพวกเขามาก

 

คุโรโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

 

แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าการอาละวาดของ 9 หางได้สร้างความ เสียหายให้กับ โคโนฮะ เป็นอย่างมากแต่ภาพที่พังพินาศของหมู่บ้า นที่อยู่ตรงหน้าก็ยังคงทําให้เขาตกใจจนนิ่งไปอยู่ระยะหนึ่ง

 

แม้แต่ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 โคโนฮะ ก็ไม่เคยประส บกับความสูญเสียที่รุนแรงแบบนี้มาก่อน!

 

หลังจากไปรายงานตัวแล้ว ทั้ง 4 ก็แยกย้ายกันไป

 

ในที่สุด คุโรโตะ ก็ได้รับอิสระเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน เขาไม่ได้อยู่เฉยๆ แต่ไปสอบถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิด ขึ้นในหมู่บ้าน

 

เขาได้รับข้อมูลมามากมาย

 

อย่างแรก ช่วงเวลาที่แน่ชัดของการอาละวาดของ 9 หางก็คือป ระมาณ 1 เดือนที่แล้ว ถ้านับเวลาดี ๆ แล้ว มันเกิดขึ้น 2 – 3 วัน ก่อนที่ คุโรโตะ ได้พบกับ ซาโซริ ใน แคว้นแห่งลม

 

อย่างที่ 2 ก็คือ ในความวุ่นวายเพียงคืนเดียว หมู่บ้านได้สูญเสีย โจนิน ระดับสูงไปมากกว่า 20 คนและ จูนิน กับ แกะนิน รวมอีกห ลายร้อยคน ครอบครัวนินจาเกือบทั้งหมดในหมู่บ้านต้องบา ดเจ็บล้มตาย ว่ากันว่ากว่าจะจัดงานศพจนครบก็กินเวลาทั้งสัปดาห์

 

อย่างสุดท้ายคือ ตึกและอาคารหลายหลังถูก 9 หางทําลายจน ไม่เหลือซาก การบาดเจ็บล้มตายของชาวบ้านมากจนยากที่จะประเมินได้ และจนถึงตอนนี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่พบศพ

 

หลังจากรวบรวมข้อมูลเพียงพอแล้ว คุโรโตะ ก็กลับบ้านด้วย ความคิดมากมาย

 

โอบิโตะ คนนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสําหรับ คุโรโตะ เพราะในบรร ดาเพื่อนร่วมชั้นเรียน มีไม่กี่คนที่แทบจะไม่สามารถเอาชนะ คุโร โตะ ได้และ โอบิโตะ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

ตอนนี้ โอบิโตะ ได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนมีความสามารถพ อที่จะต่อสู้กับ โฮคาเงะรุ่น 4 ไปพร้อม ๆ กับควบคุม 9 หางได้ และ ควบคุมโลกนินจาทั้งหมดให้อยู่ในกํามือในฐานะหัวหน้าใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังด้วย เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา

 

บอกตามตรงว่า คุโรโตะ อารมณ์เสียมาก มันน่าหงุดหงิดเกินไป ที่ โอบิโตะ เก่งขึ้นมากขนาดนั้นแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาในต อนนี้จะเป็นเพราะมรดกของ อุจิฮะ มาดาระ และได้รับความช่วยเหลือจาก เซ็ตสีขาว ก็ตาม

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่า คุโรโตะ จะรู้สึกอารมณ์เสีย แต่เขาก็รู้อยู่ ในใจว่าตอนนี้ โอบิโตะ มีเซลล์ของฮาชิรามะ และ เนตรวงแหวนก ระจกเงาหมื่นบุปผา อยู่และ โอบิโตะ ก็ไม่ใช่พวกปลายแถวอีกต่อ ไปแล้วดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมอง โอบิโตะ แบบเดิมเหมือนตอนที่อยู่ในโรงเรียนนินจาได้อีกแล้ว

 

ในขณะเดียวกัน คุโรโตะ ก็มีความทะเยอทะยานในใจเช่นกัน

 

ถ้า โอบิโตะ สามารถปั่นป่วนโลกนินจาได้ด้วย เนตรวงแหวนก ระจกเงาหมื่นบุปผา เพียงข้างเดียวแล้วทําไมเขาที่ปลุก เนตรจุติ ขึ้นมาได้จะก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดและควบคุมโลกนินจาตามที่เขาต้องการไม่ได้ล่ะ?

 

กําหนดการไหลของเหตุการณ์ให้เป็นไปตามความปรารถนาของเขา?

 

หรือ.

 

เพียงแค่เปลี่ยนโฉมหน้าของโลกที่ถูกทอดทิ้งนี้ให้เป็นแบบที่เขา เขาต้องการ?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ 13 : 9 หางอาละวาด

Now you are reading กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ Chapter 13 : 9 หางอาละวาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Chapter 13 : 9 หางอาละวาด

 

เวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ในชั่วพริบตา

 

และเขาก็คิดผิดที่คิดว่าหมู่บ้านจะส่งทีมสนับสนุนมาเพราะดาน ชายแดนแห่งนี้อ่อนกําลังลง

 

คุโรโตะ สงสัยว่าทําไม หมู่บ้านโคโนฮะ ถึงไม่ส่งทีมสนับสนุนมา และเขากับ อังโกะ ก็ไม่ได้รับภารกิจที่เรียกว่าภารกิจพิเศษ ใด ๆเลย

 

เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เขาคิด

 

ถ้าเป็นความล่าช้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่นี้ช้า ถึง 3 อาทิตย์? มันจะเป็นไปได้ยังไง?เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล เลยที่ปล่อยให้ด่านชายแดนกําลังไม่เพียงพอนานขนาดนี้

 

สิ่งนี้นําไปสู่สถานการณ์ที่เป็นไปได้เพียงสถานการณ์เดียว อย่าง น้อยก็เป็นสิ่งที่ คุโรโตะคิดได้ในตอนนี้

 

“หรือว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน??

 

จากนั้น คุโรโตะ ก็ค้นหาในความทรงจําของเขาเพื่อค้นหาเบาะ แสเพื่อดูว่ามีเหตุการณ์สําคัญอะไรเกิดขึ้น ณ เวลานี้หรือไม่ แต่เขาก็จําไม่ได้เพราะความทรงจําของเขาคลุมเครือเกินไป

 

แต่ทันใดนั้นภาพหนึ่งก็แวบเข้ามาในความคิดของเขา และทําให้ เหงื่อของเขาไหลออกมาตอนนี้เขาได้คําตอบแล้วและสิ่งเดียวที่เขา ทําได้ก็คือพึมพําเบา ๆ “9 หาง…อาละวาด?”

 

แม้ว่าเขาจะจําเวลาที่แน่นอนของเหตุการณ์นี้ไม่ได้ แต่ คุโรโตะ ก็รู้ว่ามันเกิดขึ้นในคืนวันเกิดของ อุซึมากิ นารูโตะ

 

แม่ของ นารูโตะ , อุซึมากิ คุชินะ ซึ่งเป็นพลังสถิตร่างของ 9 หางคนปัจจุบัน ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเธอถือเป็นความลับอย่างสูง และคนที่ไม่มีบทบาทสําคัญอย่าง คุโรโตะ ก็ไม่สามารถสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลของเธอได้

 

แต่สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่เขาคาดเดาได้ เพราะ ฮินาตะ อายุไล่เลี่ยกับ นารูโตะ และเขาก็ได้รับข่าวมาแล้วว่าภรรยาของผู้นําตระกูลฮิวงะ ตั้งครรภ์ก่อนที่เขาจะออกจากหมู่บ้าน ถ้า นารูโตะ อายุมากกว่า ฮินาตะ ไม่กี่เดือนการเกิดของ นารูโตะ ก็น่าจะประมาณนี้

“ทําไมฉันถึงลืมเรื่องนี้ไปได้ละเนี่ย?!.”

 

คุโรโตะ โทษตัวเองจนถึงก้นบึงของหัวใจ

 

ในความเป็นจริง สิ่งนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาก็ อยู่ในโลกของนินจามานานกว่า 10 ปีแล้วและความทรงจําของเขาก็เลือนรางเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ก่อนหน้านี้เขาก็อยู่ใกล้กับความตายมาโดยตลอดเพราะความอ่อนแอของเขา ทําให้เขาไม่อยากเข้าไปแทรกแซงในเหตุการณ์สําคัญต่าง ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อย สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนินจาสักเท่าไรหากเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้ ทําให้เขาแข็งแกร่งขึ้น

 

ตอนนี้มันแตกต่างออกไปแล้ว เมื่อ เนตรจุติ ของเขาตื่นขึ้นมา เขาจึงมีความสามารถในการแทรกแซงในหลาย ๆ สิ่งได้แล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงต้องให้ความสนใจกับเหตุการณ์สําคัญทุกอย่างในโลกของนินจาเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ได้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ เพื่อที่ จะได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์นั้น ๆ

 

หลังจากจดจ่อกับตัวเองแล้ว คุโรโตะ ก็วิเคราะห์สถานการณ์ที่ เป็นไปของหมู่บ้านในปัจจุบัน

 

หากเกิดเหตุการณ์ที่ 9 หางอาละวาดจริง นั้นก็หมายความว่าค วามแข็งแกร่งของหมู่บ้านกําลังจะลดลงอย่างมหาศาล

 

โฮคาเงะรุ่น 4 ซึ่งอยู่ในช่วงที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา แต่เขาก็ต้อง มาเสียชีวิตไปพร้อมกับ อุซึมากิ คุชินะ ภรรยาของเขา ซึ่งเป็นพลังสถิตร่างของ 9 หาง การสูญเสียนินจาที่มีพลังระดับ คาเงะ ไปถึง 2 คนในเวลาเดียวกัน นําไปสู่สภาวะตกต่ําด้านกําลัง ทหารในปัจจุบันของ โคโนฮะ

 

ในทศวรรษนี้ โคโนฮะ ได้สูญเสียบุคคลที่มีสําคัญไปมากมายอย่า งเช่น ฮาตาเคะ ซาคุโมะ ฆ่าตัวตาย , เซนจู ซึนาเดะ ที่ออกจากหมู่ บ้านเพราะประสบกับบาดแผลทางจิตใจอย่างรุนแรงเนื่องจากการ ตายของ เซนจู นาวากิ น้องชายของเธอ และ คาโต้ ดันคนรักของ เธอ , จากนั้นไม่นาน โอโรจิมารุ ก็ถอนตัวออกจากหมู่บ้านและ จิไร ยะ ก็ออกจากหมู่บ้านเพื่อไล่ล่า โอโรจิมารุ และตอนนี้นินจาที่ทรงพลังที่สุด 2 คนก็ได้จากไปอีก

 

ทําให้โคโนฮะ ในตอนนี้ ถ้าไม่นับรวมนินจารุ่นใหม่ ๆ ถ้าไม่ นับรวม จิไรยะ ที่ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านในตอนนี้ ก็แทบจะเหลือใครที่มี พลังระดับ คาเงะ อยู่อีกแล้ว

 

ในตอนนี้ โฮคาเงะรุ่น 3 และ ชิมูระ ดันโซ เป็นเพียง 2 คนที่มี พลังสูงสุด

 

นอกจากนี้ การอาละวาดของ 9 หางในครั้งนี้ยังถูกสงสัยว่าถูก ควบคุมโดย เนตรวงแหวนทําให้คนระดับสูงสงสัยว่าเป็นฝีมือของ ตระกูลอุจิฮะ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ

 

สมาชิกระดับสูงของตระกูลอุจิฮะ อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวัง และ จากความทรงจํา คุโรโตะ เดาได้ว่าการทะเลาะกันของ อุจิฮะ กับ หมู่บ้านจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

หลังจากวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนถึงสถานการณ์ของ โคโนฮะ คุโร โตะ ก็เริ่มวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ของตัวเอง

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับ โอโรจิมารุ ไม่ได้เป็นภัยคุก คามต่อหมู่บ้านอีกต่อไปเมื่อเทียบกับตระกูลอุจิฮะ ที่ทรงอํานาจที่ ถูกสงสัยว่าเป็นสาเหตุของการอาละวาดของ 9 หาง

 

ยิ่งไปกว่านั้น นินจาธรรมดาจํานวนมากก็ถูกสังหาร เพราะการ อาละวาดของ 9 หาง ดังนั้นหมู่บ้านจึงสูญเสียกําลังพลไปจํานวนมา ก ไม่ใช่แค่ต้องใช้นินจาควบคุมเขตการต่อสู้ไม่ให้ลุกลามออกไป แต่ ยังต้องใช้นินจาชั้นยอดเพื่อจับตาดู ตระกูลอุจิฮะ อีกด้วยแม้ว่า โคโนฮะ จะเป็นหมู่บ้านที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 5 หมู่บ้านใหญ่ แต่กําลังพลของพวกเขาก็มีไม่มากพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะสูญเสียกําลังพลจํานวนมากไปในมหาสงครามโลกนิน จาครั้งที่ 3 ดังนั้นบางที่พวกเขาจึงต้องเพิกเฉยต่อด่านชายแดน

 

หลังจากนั้นไม่นาน การคาดเดาของ คุโรโตะ ก็ได้รับการยืนยัน ว่าเป็นความจริง

 

หมู่บ้านส่งข้อความมาว่า “ละทิ้งด่านชายแดน” และมีคําสั่งให้ เจ้าหน้าที่ทุกคนกลับหมู่บ้านทันที

 

หลังจากจัดการทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 4 คนที่ด่า นชายแดนก็เดินทางกลับหมู่บ้านทันทีระหว่างทาง คุโรโตะ แอบดี ใจ เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ ซาโซริ หาเขาไม่เจอนานขนาดนี้

 

ที่จริงแล้ว คุโรโตะ กําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่

 

จริง ๆ แล้วมันเป็นเหตุบังเอิญที่ทําให้เขาชิง หุ่นคาเสะคาเงะ รุ่น3 มาได้ เห็นได้ชัดว่า คุโรโตะไม่ได้ตั้งใจทําแบบนั้นและแม้ว่า เขาจะทําเขาก็ไม่คิดว่าจะทําได้สําเร็จ

 

คุโรโตะ มีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่รู้ว่า ซาโซริ จะ เข้าใจเขาในเรื่องนี้หรือเปล่า

 

ในสายตาของ ซาโซริ การที่ คุโรโตะ ใช้วิชา จุติเหนียวสวรรค์ และวิธีที่ คุโรโตะ ใช้ในการบังคับหุ่นโดยไม่ต้องใช้จักระหรือการประสานอิน มันเป็นเรื่องแปลกมาก ๆ ซึ่งทําให้เขาประเมินความแข็งแกร่งของ คุโรโตะ ผิดพลาดโดยเข้าใจผิดว่าความแข็งแกร่งของ คุโรโตะ นั้นอย่างน้อยก็อยู่ในระดับ โจนินขั้นสูง ดังนั้น ซาโซริ จึงไม่ สนใจด่านชายแดนเล็ก ๆ ที่ไม่มีนินจาระดับหัวกะทิเป็นหัวหน้า

 

เนื่องจากโดยปกติแล้ว ด่านชายแดนส่วนใหญ่จะใช้สําหรับ การเตือนภัยล่วงหน้า จึงจะไม่มี โจนิน ที่มีความสามารถอยู่

 

เป็นผลให้ด่านชายแดนที่ คุโรโตะ อยู่กลายเป็นสถานที่ที่ปลอด ภัยที่สุดสําหรับเขา นี่คือสาเหตุที่ทําให้ ซาโซริ หาเขาไม่เจอจนถึงต อนนี้

 

ในที่สุด ทั้ง 4 ก็กลับมาถึงหมู่บ้านในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา

 

หมู่บ้านในเวลานี้เป็นเหมือนกับสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ สา มารถมองเห็นคนงานพลุกพล่านได้ทุกที่นั่งร้านต่าง ๆ กระจายไป ทั่วบริเวณ และมีรถขนส่งเข้ามาเรื่อย ๆ

 

อังโกะ ถาม คุโรโตะ ด้วยความสับสนเล็กน้อยขณะชี้ไปที่กําแพง เมืองที่เสียหายในระยะไกล “เกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านกันเนี่ย?”

 

นินจาหน่วยรากที่เดินทางมากับพวกเขาดูเหมือนจะรู้ข่าวบางอ ย่างก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อเขามาเห็นภาพตรงหน้า พวกเขาก็ยัง คงแสดงความประหลาดใจออกมาอยู่ดี

 

เห็นได้ชัดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านนั้นเกินความคาด

 

หมายของพวกเขามาก

 

คุโรโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

 

แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าการอาละวาดของ 9 หางได้สร้างความ เสียหายให้กับ โคโนฮะ เป็นอย่างมากแต่ภาพที่พังพินาศของหมู่บ้า นที่อยู่ตรงหน้าก็ยังคงทําให้เขาตกใจจนนิ่งไปอยู่ระยะหนึ่ง

 

แม้แต่ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 โคโนฮะ ก็ไม่เคยประส บกับความสูญเสียที่รุนแรงแบบนี้มาก่อน!

 

หลังจากไปรายงานตัวแล้ว ทั้ง 4 ก็แยกย้ายกันไป

 

ในที่สุด คุโรโตะ ก็ได้รับอิสระเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน เขาไม่ได้อยู่เฉยๆ แต่ไปสอบถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิด ขึ้นในหมู่บ้าน

 

เขาได้รับข้อมูลมามากมาย

 

อย่างแรก ช่วงเวลาที่แน่ชัดของการอาละวาดของ 9 หางก็คือป ระมาณ 1 เดือนที่แล้ว ถ้านับเวลาดี ๆ แล้ว มันเกิดขึ้น 2 – 3 วัน ก่อนที่ คุโรโตะ ได้พบกับ ซาโซริ ใน แคว้นแห่งลม

 

อย่างที่ 2 ก็คือ ในความวุ่นวายเพียงคืนเดียว หมู่บ้านได้สูญเสีย โจนิน ระดับสูงไปมากกว่า 20 คนและ จูนิน กับ แกะนิน รวมอีกห ลายร้อยคน ครอบครัวนินจาเกือบทั้งหมดในหมู่บ้านต้องบา ดเจ็บล้มตาย ว่ากันว่ากว่าจะจัดงานศพจนครบก็กินเวลาทั้งสัปดาห์

 

อย่างสุดท้ายคือ ตึกและอาคารหลายหลังถูก 9 หางทําลายจน ไม่เหลือซาก การบาดเจ็บล้มตายของชาวบ้านมากจนยากที่จะประเมินได้ และจนถึงตอนนี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่พบศพ

 

หลังจากรวบรวมข้อมูลเพียงพอแล้ว คุโรโตะ ก็กลับบ้านด้วย ความคิดมากมาย

 

โอบิโตะ คนนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสําหรับ คุโรโตะ เพราะในบรร ดาเพื่อนร่วมชั้นเรียน มีไม่กี่คนที่แทบจะไม่สามารถเอาชนะ คุโร โตะ ได้และ โอบิโตะ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

ตอนนี้ โอบิโตะ ได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนมีความสามารถพ อที่จะต่อสู้กับ โฮคาเงะรุ่น 4 ไปพร้อม ๆ กับควบคุม 9 หางได้ และ ควบคุมโลกนินจาทั้งหมดให้อยู่ในกํามือในฐานะหัวหน้าใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังด้วย เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา

 

บอกตามตรงว่า คุโรโตะ อารมณ์เสียมาก มันน่าหงุดหงิดเกินไป ที่ โอบิโตะ เก่งขึ้นมากขนาดนั้นแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาในต อนนี้จะเป็นเพราะมรดกของ อุจิฮะ มาดาระ และได้รับความช่วยเหลือจาก เซ็ตสีขาว ก็ตาม

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่า คุโรโตะ จะรู้สึกอารมณ์เสีย แต่เขาก็รู้อยู่ ในใจว่าตอนนี้ โอบิโตะ มีเซลล์ของฮาชิรามะ และ เนตรวงแหวนก ระจกเงาหมื่นบุปผา อยู่และ โอบิโตะ ก็ไม่ใช่พวกปลายแถวอีกต่อ ไปแล้วดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมอง โอบิโตะ แบบเดิมเหมือนตอนที่อยู่ในโรงเรียนนินจาได้อีกแล้ว

 

ในขณะเดียวกัน คุโรโตะ ก็มีความทะเยอทะยานในใจเช่นกัน

 

ถ้า โอบิโตะ สามารถปั่นป่วนโลกนินจาได้ด้วย เนตรวงแหวนก ระจกเงาหมื่นบุปผา เพียงข้างเดียวแล้วทําไมเขาที่ปลุก เนตรจุติ ขึ้นมาได้จะก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดและควบคุมโลกนินจาตามที่เขาต้องการไม่ได้ล่ะ?

 

กําหนดการไหลของเหตุการณ์ให้เป็นไปตามความปรารถนาของเขา?

 

หรือ.

 

เพียงแค่เปลี่ยนโฉมหน้าของโลกที่ถูกทอดทิ้งนี้ให้เป็นแบบที่เขา เขาต้องการ?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+