Chapter 29 : ฮิวงะ VS อุจิฮะ – ตอน 1 คุโรโตะ รู้ว่าในขณะนี้ ชิซุย จะไม่ใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาหรือความสามารถใดๆที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องแข่งขันกันก็คือ ทักษะพื้นฐาน คุโรโตะ มั่นใจว่าเขามีปริมาณจักระที่ เท่ากันหรือสูงกว่า ชิซุย และ เนตรจุติของเขาก็สามารถต่อต้านคาถาลวงตาได้แม้ว่าทักษะด้านคาถานินจาของเขาจะไม่คอยดีนักแต่ก็สามารถทดแทนด้วย ความสามารถด้านวิชากระบวนท่านมวยอ่อนของเขาได้ ดังนั้นโอกาสชนะของเขาจึงมีอยู่ไม่ น้อย ขณะที่ ชิซุย ค่อย ๆ เดินเข้ามาใน สนามประลอง เขาก็โค้งคํานับให้คุโรโตะเล็กน้อยอย่างสุภาพและพูดอย่างสุภาพว่า“รุ่นพี่คุโรโตะ ฝากด้วยนะครับ” คุโรโตะ พยักหน้าให้กับคําพูดของ ชิ ซุย และหลังจากที่ทั้งคู่ก็ประสานอินเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความพร้อม กรรมการให้คําแนะนําในการเริ่ มการต่อสู้ จากนั้นก็ประกาศ “เริ่มการทดสอบได้” ทันทีที่เสียงของกรรมการดังขึ้น คุโร โตะ และ ชิซุย ก็เริ่มการต่อสู้ทันที ชิซุย เริ่มโจมตีก่อน เข้าขว้างดาวกระ จายไปประมาณ 1 โหลในทิศทางที่ต่างกัน เป็ง…เป็ง…เป็ง… ดาวกระจายบางอันชนกันกลางอากาศ และเปลี่ยนทิศทางของพวกมันแต่ไม่ว่าจะไปชนกันตรงไหน ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย หรือด้านขวา พวกมันทั้งหมดก็เปลี่ยนทิศทางและพุ่งตรงไปยังคุโรโตะ แม้ว่า คุโรโตะ จะเคยเห็นทักษะการ ปาดาวกระจายที่ยอดเยี่ยมของอิทาจิระหว่างที่ทําภารกิจร่วมกัน แต่เขาก็ยัง ตกตะลึงอยู่ดีเมื่อได้เห็นทักษะการปาดาวกระจายของชิซุย ไม่ว่าจะเป็นองศาในการปา หรือแรงที่ใช้ในการปาทุกครั้งนั้นไร้ที่ติ แม้ว่า คุโร โตะ จะมองด้วย เนตรจุติ เขาก็ไม่พบกับ เส้นทางหลบหนีใดๆ เมื่อเห็นแบบนี้คุโรโตะจึงตัดสินใจปา ดาวกระจายออกไป 8 อัน เป็ง…เป็ง…เป้ง…แป้ง…แป้ง…เป้ง… ทันใดนั้น ดาวกระจายก็ชนกันกลาง อากาศและส่งเสียงดังก้องไปทั่วทั้งสนาม การต่อสู้ด้วยดาวกระจายที่ตระการตา เกือบทําให้ จูนิน หลายคนลืมหายใจทักษะการใช้ดาวกระจายแบบนี้ถือได้ว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาปาดาวกระจายและเห็นได้ชัดว่าทั้งคู่เป็นแบบนั้น “ดูสิ ดาวกระจายของ ชิซุย ที่ คุโรโตะ ป้องกันได้ เริ่มเคลื่อนไหวอีกแล้ว!” อย่างไรก็ตามจู่ๆ ไกก็อุทานขึ้นมา อาสึมะ พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “มันคือ ลวดสลิง ชิซุย ใช้ลวดสลิงที่ผ่านการเคลือบพิเศษมัดติดกับดาวกระจาย เอาไว้ ถ้าไม่สังเกตดีๆก็มองไม่เห็นหรอก!” ผู้ชมต่างอุทานออกมา แต่ก็ไม่ได้ส่งผ ลกระทบต่อ คุโรโตะ ที่อยู่ในสนาม
คุโรโตะ รู้ดีเกี่ยวกับวิชาปาดาวกระจาย พิเศษของ อุจิฮะ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจดาวกระจายที่เปลี่ยนทิศทางและพุ่งตรง เข้าหาเขาอีกครั้งแต่เขามุ่งการโจมตีไปที่ลวดสลิงที่มัดติดดาวกระจายเหล่านั้นอยู่ ลวดสลิงถูกทําขึ้นมาเป็นพิเศษ มันไม่ เพียงแต่จะมีความทนทานมากกว่าลวนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังมองเห็นได้ยาก มากเพราะมันไม่สะท้อนแสงใด ๆ แม้แต่กับเนตรจุติก็แทบจะมองไม่เห็นเมื่อมัน เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงแบบนี้ นอกจากนี้ทักษะการใช้ดาวกระจาย ของ ชิซุย ก็ซับซ้อนมาก ทําให้หลังจากที่คุโรโตะปาดาวกระจายเพื่อไปตัดลวดเหล่านั้นเขาก็ตัดพลาดไป 2 – 3 เส้น ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ทํา ให้เขาตกอยู่ในความเสียเปรียบอย่างรวดเร็ว ความผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุโร โตะ พกดาวกระจายมาไม่มากนักและหลังจากการต่อสู้ไม่กี่วินาที่ดาวกระจาย ของเขาก็หมด ในทางกลับกันชิซุยก็หยิบเอาม้วนผนึกออกมาและจู่ ๆ ดาวก ระจายจํานวนมากก็โผล่ออกมาจากควัน ดาวกระจายเหล่านี้ถูกมัดไว้กับลวดส ลิง พวกมันลอยขึ้นลงในอากาศราวกับ เป็นตาข่ายดาวกระจาย ในวินาทีนี้ คุโรโตะ นึกว่า ชิซุย กําลัง ควบคุมพวกมันด้วยพลังจิตแทนที่จะใช้ลวดสลิง! คุโรโตะ พิมพ์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “วิชาดาวกระจายสามารถใช้ประโยชน์ได้ขนาดนี้เลยเหรอ?” ที่ข้างสนาม อาสึมะ ส่ายหัวเมื่อเห็นสถานการณ์ที่ เสียเปรียบของ คุโรโตะ “คุโรโตะกําลังจะแพ้ชิซุยแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้อีก!” ไก จ้องไปที่ทั้ง 2 คนในสนามที่กําลัง เผชิญหน้ากันและพูดโดยไม่หันหัว“อย่าเพิ่งด่วนตัดสินไปสิพวกเขาแค่อุ่นเครื่องกันแค่นั้นมองดูพวกเขาสิคุโรโตะยังไม่ได้ขยับจากจุดเดิมเลยด้วย ซ้ํา” อย่างที่ ไก พูด ทันทีที่ คุโรโตะ รู้ตัว ว่าการมี เนตรจุติ เพียงอย่างเดียวไม่สามารเอาชนะชิซุยที่ได้พัฒนาและเชี่ยว ชาญในทักษะวิชาปาดาวกระจายจากการฝึกฝนนับไม่ถ้วนได้ดังนั้นเขาจึง เลิกสนใจวิชาปาดาวกระจายและพุ่งตรง เข้าหา ชิซุย และเริ่มการต่อสู้ด้วยวิชากระบวนท่าที่ เขาได้เปรียบ! เมื่อเห็น คุโรโตะ พุ่งเข้าหาเขาอย่างดุ ดัน นิ้วของ ชิซุย ก็ขยับเล็กน้อยจากนั้นดาวกระจายทั้งหมดก็พุ่งเข้าหา คุโรโตะ จากทุกทิศทาง “มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์!” หลังจากฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นเวล าหลายเดือน คุโรโตะ ก็เชี่ยวชาญวิชามวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์และตอนนี้เขาก็ สามารถใช้มันได้ทันทีที่เขาต้องการทุกที่ทุกเวลาทุกวินาที กริ้ง…กริ้ง…กริ้ง… ผลของมวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ทําให้ ดาวกระจายที่พุ่งเข้ามาปะทะกระเด็นออกไปทั่วทุกทิศทางและพุ่งเข้าหาผู้ชมที่ชมอยู่ข้างสนามทั้ง 4 ทิศ “คาถาดิน : กําแพงดินซับซ้อน!” โฮคาเงะรุ่น 3 ใช้คาถาดินอย่างรวดเร็ว และกําแพงดิน 4 อันก็ถูกสร้างขึ้นที่ขอบสนามรบเพื่อป้องกันดาวกระจายเหล่านั้นเอาไว้ไม่ให้ผู้ชมได้รับบาดเจ็บ จูนิน ที่กําลังดูการต่อสู้อยู่ก็กระโดด ถอยห่างออกไป 10 เมตรทันที ในกลุ่มคนดู อาสึมะ ถอนหายใจใน ขณะที่เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา “เจ้า 2 คนนี้!” ไก ไม่สนใจและหัวเราะ “มันก็ช่วยไม่ ได้นี่น่า นี่คือพลังวันรุ่น!”
“นี่ นี่ ในสนามรบ โดยไม่เสียเสียเวลา หลังจากที่ใช้ มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ เปิดทางแล้วคุโรโตะก็เข้าประชิดชิซุยและผลักฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็วด้วยกําลังทั้งหมด! ชิซุย ไม่กลัวและดึงดาบสั้นที่ด้านหลัง ของเขาออกมาทันที และจุดหยดน้ําทั้ง 3 จุดในตาของเขาก็หมุนอย่างรวดเร็วขณะที่เขาสกัดการโจมตีของคุโรโตะ ในชั่วพริบตา ทั้ง 2 ก็เริ่มต่อสู้กันด้วยก ระบวนท่า การเคลื่อนไหวนั้นเร็วมากจนเกิดเป็น เหมือนกับภาพลวงตาปรากฏขึ้นรอบๆสนาม จูนินคนหนึ่งในกลุ่มผู้ชมตกใจและ พึมพํา “นั้นพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรกัน…? ฉันคิดไปเองหรือว่าพวกเขาดูแป ลูกๆจริงๆ?” จูนิน อีกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่เห็น ด้วยและพยักหน้า การต่อสู้ด้วยกระบวนท่าที่ดุเดือดของ คุโรโตะ และ ชิซุย ดูแปลก ๆ จริง ๆ การโจมตีของพวกเขาจะหยุดอย่างกะทัน หันกลางทางก่อนที่จะปะทะกันเสมอและเปลี่ยนทิศทางการโจมตีให้แล้วก็จะหยุดเหมือนการโจมตีก่อนหน้านี้และจะเป็นแบบนี้ไปทุกครั้ง แม้หลังจากการโจมตีอยู่หลายครั้ง แต่ ทั้งคู่ก็ยังไม่ถูกตัวกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว พวกเขาเปลี่ยนทางเลือกของการ โจมตีซ้ํา ๆ เปลี่ยนการโจมตี หรือหยุดกลางทางสิ่งเหล่านี้ทําให้ผู้ชมมองว่าการ ต่อสู้ด้วยกระบวนท่าของทั้งคู่ดูแปลกมาก อาสึมา ก็พูดด้วยความไม่เชื่อ “ประสาทสัมผัสเฉียบคมมาก! พวกเขา ตรวจจับและตอบโต้กันได้รวดเร็วขนา ดนี้เลยเหรอ?! หรือว่าพวกเขาจะอ่านการโจมตีไปไกลแล้วในขณะที่พวกเขา ต่อสู้อยู่?!” คําพูดของ อาสึมะ ดูเหมือนจะพูด แทนความคิดของทุกคนได้ และทันใดนั้นทุกคนก็เกิดความคิดว่า“หรือว่าวิชาเนตรของพวกเขาจะทําได้ทุกอย่าง??!!” โฮคาเงะรุ่น 3 หลับตาและดูเหมือนจะ ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
หน่วยลับที่ยืนอยู่ด้านข้างถามอย่างแผ่วเบาว่า“ท่านรุ่น 3 นี่พวกเขาเป็นจนิน จริง ๆ ใช่ไหมครับ?” โฮคาเงะรุ่น 3 พยักหน้าตามคําพูด ของหน่วยลับคนนั้น เขาต้องการอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดของเขาในเรื่อง นี้ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดออกมาทั้ง 2 คนในสนามประลองก็ถอยห่างออกจากกันและถอยไปอยู่กันคนละมุม…

Chapter 29 : ฮิวงะ VS อุจิฮะ – ตอน 1

คุโรโตะ รู้ว่าในขณะนี้ ชิซุย จะไม่ใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาหรือความสามารถใดๆที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องแข่งขันกันก็คือ ทักษะพื้นฐาน

คุโรโตะ มั่นใจว่าเขามีปริมาณจักระที่ เท่ากันหรือสูงกว่า ชิซุย และ เนตรจุติของเขาก็สามารถต่อต้านคาถาลวงตาได้แม้ว่าทักษะด้านคาถานินจาของเขาจะไม่คอยดีนักแต่ก็สามารถทดแทนด้วย ความสามารถด้านวิชากระบวนท่านมวยอ่อนของเขาได้

ดังนั้นโอกาสชนะของเขาจึงมีอยู่ไม่ น้อย

ขณะที่ ชิซุย ค่อย ๆ เดินเข้ามาใน สนามประลอง เขาก็โค้งคํานับให้คุโรโตะเล็กน้อยอย่างสุภาพและพูดอย่างสุภาพว่า“รุ่นพี่คุโรโตะ ฝากด้วยนะครับ”

คุโรโตะ พยักหน้าให้กับคําพูดของ ชิ ซุย และหลังจากที่ทั้งคู่ก็ประสานอินเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความพร้อม

กรรมการให้คําแนะนําในการเริ่ มการต่อสู้ จากนั้นก็ประกาศ

“เริ่มการทดสอบได้”

ทันทีที่เสียงของกรรมการดังขึ้น คุโร โตะ และ ชิซุย ก็เริ่มการต่อสู้ทันที

ชิซุย เริ่มโจมตีก่อน เข้าขว้างดาวกระ จายไปประมาณ 1 โหลในทิศทางที่ต่างกัน

เป็ง…เป็ง…เป็ง…

ดาวกระจายบางอันชนกันกลางอากาศ และเปลี่ยนทิศทางของพวกมันแต่ไม่ว่าจะไปชนกันตรงไหน ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย หรือด้านขวา พวกมันทั้งหมดก็เปลี่ยนทิศทางและพุ่งตรงไปยังคุโรโตะ

แม้ว่า คุโรโตะ จะเคยเห็นทักษะการ ปาดาวกระจายที่ยอดเยี่ยมของอิทาจิระหว่างที่ทําภารกิจร่วมกัน แต่เขาก็ยัง ตกตะลึงอยู่ดีเมื่อได้เห็นทักษะการปาดาวกระจายของชิซุย

ไม่ว่าจะเป็นองศาในการปา หรือแรงที่ใช้ในการปาทุกครั้งนั้นไร้ที่ติ แม้ว่า คุโร โตะ จะมองด้วย เนตรจุติ เขาก็ไม่พบกับ เส้นทางหลบหนีใดๆ

เมื่อเห็นแบบนี้คุโรโตะจึงตัดสินใจปา ดาวกระจายออกไป 8 อัน

เป็ง…เป็ง…เป้ง…แป้ง…แป้ง…เป้ง…

ทันใดนั้น ดาวกระจายก็ชนกันกลาง อากาศและส่งเสียงดังก้องไปทั่วทั้งสนาม

การต่อสู้ด้วยดาวกระจายที่ตระการตา เกือบทําให้ จูนิน หลายคนลืมหายใจทักษะการใช้ดาวกระจายแบบนี้ถือได้ว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาปาดาวกระจายและเห็นได้ชัดว่าทั้งคู่เป็นแบบนั้น

“ดูสิ ดาวกระจายของ ชิซุย ที่ คุโรโตะ ป้องกันได้ เริ่มเคลื่อนไหวอีกแล้ว!” อย่างไรก็ตามจู่ๆ ไกก็อุทานขึ้นมา

อาสึมะ พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “มันคือ ลวดสลิง ชิซุย ใช้ลวดสลิงที่ผ่านการเคลือบพิเศษมัดติดกับดาวกระจาย เอาไว้ ถ้าไม่สังเกตดีๆก็มองไม่เห็นหรอก!”

ผู้ชมต่างอุทานออกมา แต่ก็ไม่ได้ส่งผ ลกระทบต่อ คุโรโตะ ที่อยู่ในสนาม
คุโรโตะ รู้ดีเกี่ยวกับวิชาปาดาวกระจาย พิเศษของ อุจิฮะ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจดาวกระจายที่เปลี่ยนทิศทางและพุ่งตรง เข้าหาเขาอีกครั้งแต่เขามุ่งการโจมตีไปที่ลวดสลิงที่มัดติดดาวกระจายเหล่านั้นอยู่

ลวดสลิงถูกทําขึ้นมาเป็นพิเศษ มันไม่ เพียงแต่จะมีความทนทานมากกว่าลวนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังมองเห็นได้ยาก มากเพราะมันไม่สะท้อนแสงใด ๆ แม้แต่กับเนตรจุติก็แทบจะมองไม่เห็นเมื่อมัน เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงแบบนี้

นอกจากนี้ทักษะการใช้ดาวกระจาย ของ ชิซุย ก็ซับซ้อนมาก ทําให้หลังจากที่คุโรโตะปาดาวกระจายเพื่อไปตัดลวดเหล่านั้นเขาก็ตัดพลาดไป 2 – 3 เส้น

ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ทํา ให้เขาตกอยู่ในความเสียเปรียบอย่างรวดเร็ว

ความผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุโร โตะ พกดาวกระจายมาไม่มากนักและหลังจากการต่อสู้ไม่กี่วินาที่ดาวกระจาย ของเขาก็หมด ในทางกลับกันชิซุยก็หยิบเอาม้วนผนึกออกมาและจู่ ๆ ดาวก ระจายจํานวนมากก็โผล่ออกมาจากควัน

ดาวกระจายเหล่านี้ถูกมัดไว้กับลวดส ลิง พวกมันลอยขึ้นลงในอากาศราวกับ เป็นตาข่ายดาวกระจาย

ในวินาทีนี้ คุโรโตะ นึกว่า ชิซุย กําลัง ควบคุมพวกมันด้วยพลังจิตแทนที่จะใช้ลวดสลิง!

คุโรโตะ พิมพ์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “วิชาดาวกระจายสามารถใช้ประโยชน์ได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”

ที่ข้างสนาม

อาสึมะ ส่ายหัวเมื่อเห็นสถานการณ์ที่ เสียเปรียบของ คุโรโตะ “คุโรโตะกําลังจะแพ้ชิซุยแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้อีก!”

ไก จ้องไปที่ทั้ง 2 คนในสนามที่กําลัง เผชิญหน้ากันและพูดโดยไม่หันหัว“อย่าเพิ่งด่วนตัดสินไปสิพวกเขาแค่อุ่นเครื่องกันแค่นั้นมองดูพวกเขาสิคุโรโตะยังไม่ได้ขยับจากจุดเดิมเลยด้วย

ซ้ํา”

อย่างที่ ไก พูด ทันทีที่ คุโรโตะ รู้ตัว ว่าการมี เนตรจุติ เพียงอย่างเดียวไม่สามารเอาชนะชิซุยที่ได้พัฒนาและเชี่ยว ชาญในทักษะวิชาปาดาวกระจายจากการฝึกฝนนับไม่ถ้วนได้ดังนั้นเขาจึง เลิกสนใจวิชาปาดาวกระจายและพุ่งตรง เข้าหา ชิซุย

และเริ่มการต่อสู้ด้วยวิชากระบวนท่าที่ เขาได้เปรียบ!

เมื่อเห็น คุโรโตะ พุ่งเข้าหาเขาอย่างดุ ดัน นิ้วของ ชิซุย ก็ขยับเล็กน้อยจากนั้นดาวกระจายทั้งหมดก็พุ่งเข้าหา คุโรโตะ จากทุกทิศทาง

“มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์!”

หลังจากฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นเวล าหลายเดือน คุโรโตะ ก็เชี่ยวชาญวิชามวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์และตอนนี้เขาก็ สามารถใช้มันได้ทันทีที่เขาต้องการทุกที่ทุกเวลาทุกวินาที

กริ้ง…กริ้ง…กริ้ง…

ผลของมวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ทําให้ ดาวกระจายที่พุ่งเข้ามาปะทะกระเด็นออกไปทั่วทุกทิศทางและพุ่งเข้าหาผู้ชมที่ชมอยู่ข้างสนามทั้ง 4 ทิศ

“คาถาดิน : กําแพงดินซับซ้อน!”

โฮคาเงะรุ่น 3 ใช้คาถาดินอย่างรวดเร็ว และกําแพงดิน 4 อันก็ถูกสร้างขึ้นที่ขอบสนามรบเพื่อป้องกันดาวกระจายเหล่านั้นเอาไว้ไม่ให้ผู้ชมได้รับบาดเจ็บ

จูนิน ที่กําลังดูการต่อสู้อยู่ก็กระโดด ถอยห่างออกไป 10 เมตรทันที

ในกลุ่มคนดู อาสึมะ ถอนหายใจใน ขณะที่เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา “เจ้า 2 คนนี้!”

ไก ไม่สนใจและหัวเราะ “มันก็ช่วยไม่ ได้นี่น่า นี่คือพลังวันรุ่น!”
“นี่ นี่

ในสนามรบ

โดยไม่เสียเสียเวลา หลังจากที่ใช้ มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ เปิดทางแล้วคุโรโตะก็เข้าประชิดชิซุยและผลักฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็วด้วยกําลังทั้งหมด!

ชิซุย ไม่กลัวและดึงดาบสั้นที่ด้านหลัง ของเขาออกมาทันที และจุดหยดน้ําทั้ง 3 จุดในตาของเขาก็หมุนอย่างรวดเร็วขณะที่เขาสกัดการโจมตีของคุโรโตะ

ในชั่วพริบตา ทั้ง 2 ก็เริ่มต่อสู้กันด้วยก ระบวนท่า

การเคลื่อนไหวนั้นเร็วมากจนเกิดเป็น เหมือนกับภาพลวงตาปรากฏขึ้นรอบๆสนาม

จูนินคนหนึ่งในกลุ่มผู้ชมตกใจและ พึมพํา “นั้นพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรกัน…? ฉันคิดไปเองหรือว่าพวกเขาดูแป ลูกๆจริงๆ?”

จูนิน อีกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่เห็น ด้วยและพยักหน้า

การต่อสู้ด้วยกระบวนท่าที่ดุเดือดของ คุโรโตะ และ ชิซุย ดูแปลก ๆ จริง ๆ การโจมตีของพวกเขาจะหยุดอย่างกะทัน หันกลางทางก่อนที่จะปะทะกันเสมอและเปลี่ยนทิศทางการโจมตีให้แล้วก็จะหยุดเหมือนการโจมตีก่อนหน้านี้และจะเป็นแบบนี้ไปทุกครั้ง

แม้หลังจากการโจมตีอยู่หลายครั้ง แต่ ทั้งคู่ก็ยังไม่ถูกตัวกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

พวกเขาเปลี่ยนทางเลือกของการ โจมตีซ้ํา ๆ เปลี่ยนการโจมตี หรือหยุดกลางทางสิ่งเหล่านี้ทําให้ผู้ชมมองว่าการ ต่อสู้ด้วยกระบวนท่าของทั้งคู่ดูแปลกมาก

อาสึมา ก็พูดด้วยความไม่เชื่อ “ประสาทสัมผัสเฉียบคมมาก! พวกเขา ตรวจจับและตอบโต้กันได้รวดเร็วขนา ดนี้เลยเหรอ?! หรือว่าพวกเขาจะอ่านการโจมตีไปไกลแล้วในขณะที่พวกเขา ต่อสู้อยู่?!”

คําพูดของ อาสึมะ ดูเหมือนจะพูด แทนความคิดของทุกคนได้ และทันใดนั้นทุกคนก็เกิดความคิดว่า“หรือว่าวิชาเนตรของพวกเขาจะทําได้ทุกอย่าง??!!”

โฮคาเงะรุ่น 3 หลับตาและดูเหมือนจะ ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
หน่วยลับที่ยืนอยู่ด้านข้างถามอย่างแผ่วเบาว่า“ท่านรุ่น 3 นี่พวกเขาเป็นจนิน จริง ๆ ใช่ไหมครับ?”

โฮคาเงะรุ่น 3 พยักหน้าตามคําพูด ของหน่วยลับคนนั้น เขาต้องการอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดของเขาในเรื่อง นี้ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดออกมาทั้ง 2 คนในสนามประลองก็ถอยห่างออกจากกันและถอยไปอยู่กันคนละมุม…