ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 124.3

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 124.3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 124 – 3 ปีใหม่

 

 

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นกลับมา เมิ่งชื่อบอกเรื่องนี้กับเขา เมิ่งเอ้ออิ๋นก็ดีใจมาก “หลายปีมานี้ พี่ใหญ่เกียจคร้าน ไม่ทำการทำงาน คนในหมู่บ้านมีแต่หลบลี้หนีห่างเขา ไหนเลยจะมีใครยินดีให้ลูกหลานญาติตัวเองมาเกี่ยวข้องด้วย ส่งผลให้จนถึงตอนนี้เหรินเอ๋อร์ยังไม่มีใครมาพูดทาบทาม ท่านพ่อท่านแม่และพี่สะใภ้ใหญ่ต่างก็กลัดกลุ้ม ตอนนี้ดีแล้ว พี่ใหญ่ปรับปรุงตัว ในที่สุดก็มีคนมาพูดทาบทามแล้ว หากว่าสำเร็จ ท่านพ่อท่านแม่จะถือว่าโล่งใจไปอีกเปราะ” 

 

 

เมิ่งชื่อตอบ “ใช่ เหรินเอ๋อร์เป็นเด็กดี หากไม่เพราะติดที่พี่ใหญ่ ไม่แน่ว่าตอนนี้จะมีลูกแล้ว” 

 

 

เช้าวันถัดมา เมิ่งชื่อกินอาหารเช้าเสร็จแต่เช้า นั่งกระวนกระวายรอภรรยาเมิ่งต้าจินเข้ามาร้องเรียกนางไปดูอีกฝ่าย 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะนาง “ท่านแม่ ไปดูหญิงสาวให้พี่ใหญ่ เหตุใดต้องร้อนรนเช่นนี้” 

 

 

เมิ่งชื่อตอบ “แม่ต้องร้อนรนสิ พี่ใหญ่เจ้าอายุสิบแปดปีแล้ว แม่แทบอยากจะให้เขาแต่งงานเดี๋ยวนี้เลย” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวคิดจะกระเซ้าเย้าแหย่นางอีก ภรรยาเมิ่งต้าจินก็เดินเข้ามาในลานบ้าน 

 

 

เมิ่งชื่อรีบเข้าไปต้อนรับ “พี่สะใภ้ใหญ่ เหตุใดถึงเพิ่งมา ข้าร้อนใจจะแย่แล้ว เด็กสาวคนนั้นมาหรือยัง พวกเราจะไปดูกันเมื่อไหร่” 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินหัวเราะตอบ “มาแล้วๆ เมื่อครู่สะใภ้ซุนให้เด็กวิ่งไปส่งข่าวบอกว่าญาติเพิ่งมาถึง ให้พวกเรารออีกประเดี๋ยวค่อยไป ข้าถึงได้รีบมาหาเจ้าอย่างไร” 

 

 

พูดจบ ลูบคลำเสื้อผ้าบนตัว ถามขึ้น “น้องสะใภ้รอง เจ้าว่าเสื้อผ้าที่ข้าใส่มาวันนี้ใช้ได้หรือไม่ จะไม่ทำให้เด็กสาวคนนั้นเกิดความรู้สึกไม่ดีใช่หรือไม่” 

 

 

เมิ่งชื่อพยักหน้า “ชุดที่เจ้าใส่วันนี้ดีมาก มองดูแล้วทั้งอ่อนเยาว์และดูมีอันจะกิน หากเด็กสาวคนนั้นรู้ว่าเจ้าเป็นแม่สามีในอนาคตของนาง จักต้องดีใจยิ่ง” 

 

 

“จริงหรือ” ภรรยาเมิ่งต้าจินถามอย่างดีใจ 

 

 

เมิ่งชื่อพยักหน้า “จริงๆ” พูดจบก็ถามต่อ “พี่สะใภ้ใหญ่ท่านว่าข้าแต่งกายเป็นอย่างไร ไม่ทำให้เหรินเอ๋อร์ขายหน้าใช่หรือไม่” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะพรืด “ท่านแม่ เรื่องของท่านป้าใหญ่ยังไม่มีเค้าลางเลย พวกท่านจะรีบตื่นเต้นไปไหน” 

 

 

เมิ่งชื่อตอบนาง “สำหรับแม่และป้าใหญ่ นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก พวกเราจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร” 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินพยักหน้าเห็นพ้อง 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกลอกกลิ้งแววตา พูดกับภรรยาเมิ่งต้าจินและเมิ่งชื่อ “ท่านป้าใหญ่ ท่านแม่ ไม่อย่างนั้นข้าช่วยไปดูให้พวกท่านก่อน หากข้าเห็นว่าดี พวกท่านก็ไป หากว่าไม่ดี พวกท่านก็ไม่จำเป็นต้องไปอีก เลี่ยงไม่ให้คำพูดไม่ดีเกี่ยวกับหญิงสาวคนนั้นแพร่งพรายออกไป” 

 

 

เมิ่งชื่อพูด “เจ้าจะไปรู้เรื่องอันใด ยังคิดจะไปช่วยดู” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ “ข้ามองคนเป็นนะ คนดีหรือไม่ดี ข้ามองแวบเดียวก็รู้แล้ว” 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินครุ่นคิด พยักหน้าเห็นด้วย “ก็ดี ให้โยวเอ๋อร์ไปช่วยดูก่อน เช่นนี้พวกเราจะได้เตรียมรับได้ทัน” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่คิดว่าภรรยาเมิ่งต้าจินจะเห็นด้วย ดีใจเป็นอย่างยิ่ง หันไปร้องเรียกเมิ่งอี้เซวียน “อี้เซวียน เจ้าไปกับข้า บอกว่าพวกเรามาเล่นกับลูกของสะใภ้ซุน” 

 

 

ลูกของสะใภ้ซุนโตพอๆ กับเขา พูดเช่นนี้ค่อยสมเหตุสมผล ภรรยาเมิ่งต้าจินพยักหน้าพูด “พวกเจ้ารีบไปรีบกลับ ข้ากับแม่เจ้ายังรออยู่ที่บ้าน” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งอี้เซวียนพยักหน้า มุ่งหน้าตรงไปบ้านซุน 

 

 

สะใภ้ซุนให้ลูกมาส่งข่าว ให้ภรรยาเมิ่งต้าจินเข้าไปช้าหน่อย เพราะอยากให้หลานสาวตัวเองได้เตรียมเนื้อเตรียมตัว อยากสร้างภาพประทับใจให้นาง 

 

 

หลานสาวฝ่ายบ้านแม่นางไม่รู้ ยังแคลงใจว่า ปีก่อนๆ เวลามาสวัสดีปีใหม่บ้านท่านน้าไม่เห็นจะต้องมาแต่งหน้าแต่งตัวเช่นนี้ 

 

 

สะใภ้ซุนเพิ่งจะให้หลานสาวตัวเองล้างหน้าหวีผมเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งอี้เซวียนก็เดินเข้ามาในลานบ้านพวกเขา ร้องตะโกนเรียก “มีคนอยู่บ้านหรือไม่” 

 

 

สะใภ้ซุนเดินออกมาจากบ้าน เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวก็สะดุ้งตกใจ รีบร้อนพูดขึ้น “นายหญิง มาได้อย่างไร เข้ามานั่งในบ้านก่อน” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มตาหยีตอบกลับ “น้องชายข้าต้องการมาเล่นกับกังจื่อบ้านท่าน ข้าจึงพาเขามา” พูดจบแอบขยิบตาให้สะใภ้ซุน 

 

 

สะใภ้ซุนนิ่งอึ้ง พลันได้สติกลับมา รีบร้องเรียก “กังจื่อ รีบออกมาเร็ว อี้เซวียนมาเล่นกับเจ้า” 

 

 

กังจื่อส่งเสียงตอบรับ ดึงเมิ่งอี้เซวียนเข้าไปเล่นในบ้านอย่างชื่นบาน 

 

 

สะใภ้ซุนพูดขึ้น “พวกเขาคงจะเล่นกันสักพักหนึ่ง เจ้าเข้าไปนั่งในบ้านก่อนเถอะ พอดีวันนี้หลานสาวฝ่ายแม่ข้ามาสวัสดีปีใหม่ ให้นางอยู่คุยเป็นเพื่อนเจ้า” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า เดินตามสะใภ้ซุนเข้าไปในบ้าน 

 

 

หลานสาวฝ่ายแม่ของสะใภ้ซุนเห็นมีคนเข้ามา ก็ลุกขึ้นยืน 

 

 

สะใภ้ซุนกล่าวแนะนำ “อิงจื่อ นี่คือนายหญิงที่เวลาพวกเรากลับไปบ้านมักจะเอ่ยถึงบ่อยๆ วันนี้นางพาน้องชายมาเล่นพอดี เจ้าช่วยต้อนรับหน่อยเถิด” พูดจบก็หันไปพูดกับเมิ่งเชี่ยนโยว “นายหญิง นี่คือหลานสาวฝ่ายแม่ของข้า อิงจื่อ พวกเจ้าคุยกันก่อน ข้าจะไปทำอาหาร” 

 

 

ทั้งสองพยักหน้า สะใภ้ซุนเดินออกไปนอกบ้าน หันกลับมามองอย่างเป็นห่วงแวบหนึ่ง ไม่รู้ว่าอิงจื่อจะถูกตาต้องใจหรือไม่ 

 

 

รอจนสะใภ้ซุนไปแล้ว อิงจื่อก็พูดอย่างกระตือรือร้น “เจ้าก็คือนายหญิงของท่านน้าข้า มักจะได้ยินท่านน้าเอ่ยถึงเจ้า บอกว่าเจ้าอายุยังน้อยก็เก่งกล้าสามารถ ข้าสงสัยมากว่าเจ้าจะเป็นคนอย่างไร อยากเห็นเจ้ามานานแล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะบังเอิญได้เจอเจ้าจริงๆ” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวประเมินอิงจื่อเล็กน้อย เห็นนางเพียงถักผมเปียสีดำขลับสองข้าง แต่งกายด้วยผ้าเนื้อหยาบชุดใหม่ ดูมีความกระตือรือร้นทำงานคล่องแคล่ว ลอบพยักหน้าพอใจ พูดด้วยรอยยิ้ม “ครานี้ได้เห็นแล้ว ข้าก็เหมือนกับเจ้า มีสองดวงตาหนึ่งปาก ไม่มีอะไรมากไปกว่าเจ้า” 

 

 

อิงจื่อหัวเราะร่วน ลักยิ้มบนใบหน้ายิ่งทำให้น่าหลงใหล 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเอ่ยถาม “บ้านพวกเจ้าห่างจากที่นี่ไกลหรือไม่ เจ้ามาที่นี่อย่างไร” 

 

 

อิงจื่อตอบอย่างเปิดเผย “บ้านพวกเราอยู่ห่างจากที่นี่สิบกว่าลี้ ข้าเดินเท้ามา” 

 

 

“เช่นนั้นเจ้าเหนื่อยหรือไม่” เมิ่งเชี่ยนโยวถาม 

 

 

อิงจื่อส่ายหน้า “ระยะทางมากกว่านี้ข้าก็เดินมาแล้ว ระยะทางเท่านี้ไม่เป็นอะไรเลย” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถามอีก “เช่นนั้นเจ้ามาคนเดียวหรือ” 

 

 

อิงจื่อพยักหน้า “น้องชายและน้องสาวยังเล็ก ท่านพ่อท่านแม่กลัวพวกเขาเหนื่อย จึงไม่ได้ให้พวกเขามา” 

 

 

“เจ้าเป็นพี่สาวคนโตของบ้าน” เมิ่งเชี่ยนโยวถามต่อ 

 

 

อิงจื่อพยักหน้าอีกเล็กน้อย “อือ ข้ายังมีน้องชายสองคนและน้องสาวอีกหนึ่งคน” พูดจบถามเมิ่งเชี่ยนโยว “เจ้าล่ะ เจ้าเป็นคนที่เท่าไหร่ของบ้าน มีพี่น้องหรือไม่” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวแย้มยิ้มตอบ “ข้ามีพี่ชายสองคน และน้องชายสองคน ข้าอยู่ตรงกลางพอดี” 

 

 

อิงจื่อพูดอิจฉา “เป็นเจ้าดีนัก ในบ้านมีเจ้าเป็นผู้หญิงคนเดียว พวกเขาจะต้องทะนุถนอมเจ้ายิ่งนัก” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า 

 

 

อิงจื่อพูดต่อ “ข้าก็รักน้องชายน้องสาวข้ามาก โดยเฉพาะน้องชาย ตอนที่ท่านแม่คลอดเขาได้รับบาดเจ็บ สุขภาพไม่ค่อยดี ข้าเป็นคนเลี้ยงดูเขาจนโตแทบจะทั้งหมด” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวย่นหัวคิ้ว “ท่านแม่เจ้าสุขภาพไม่ค่อยดี รุนแรงหรือไม่” 

 

 

อิงจื่อตอบ “ไม่รุนแรงมาก เพียงแค่ทำงานหนักมากไม่ได้” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวโล่งใจ ถามต่อ “เจ้าน่าจะอายุมากกว่าข้าสองสามปี เจ้ามีแม่สามีหรือยัง” 

 

 

อิงจื่อหน้าแดง ส่ายหน้า ไม่พูดอะไร 

 

 

“เพราะเหตุใด ข้าเห็นเจ้าเป็นคนร่าเริงเปิดเผย หน้าตาก็น่าพิศ และจะต้องทำงานเก่ง เหตุใดถึงไม่มีแม่สามี” 

 

 

อิงจื่อตอบเสียงเบา “ข้าเป็นลูกคนโตของครอบครัว ท่านแม่สุขภาพไม่ค่อยดี ครอบครัวปกติทั่วไปกลัวแต่งข้าเข้าไปจะเป็นภาระให้พวกเขา ส่วนครอบครัวที่ไม่ดีพ่อแม่ข้ากลัวข้าแต่งไปแล้วจะลำบาก จึงยืดเยื้อมาถึงตอนนี้” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้าเข้าใจแจ่มแจ้ง พูดขึ้น “ไม่ต้องใจร้อน เจ้าเป็นหญิงสาวที่ดีเช่นนี้จะต้องมีคนดียินดีแต่งกับเจ้า” 

 

 

อิงจื่อหน้าแดงกว่าเดิม พูดเสียงแผ่ว “ข้าไม่รีบ เพียงแต่ท่านพ่อท่านแม่กลัวข้าโตกว่านี้จะไม่ได้เจอคนดีๆ คอยเที่ยวสืบข่าว หาบ้านสามีให้ข้า” 

 

 

ทั้งสองคุยกันอีกครู่หนึ่ง เมิ่งเชี่ยนโยวก็ลุกขึ้นพูด “ข้ามานานแล้ว ควรพาน้องชายกลับได้แล้ว ภายหน้าเจ้ามีเวลา มานั่งเล่นบ้านข้าได้” 

 

 

อิงจื่อรับคำอย่างยินดี ออกไปส่งนางด้วยมิตรไมตรี 

 

 

สะใภ้ซุนที่อยู่ในครัวเอาแต่ชะเง้อชะแง้มองไม่หยุด เห็นอิงจื่อออกมาส่งเมิ่งเชี่ยนโยว ก็รีบเดินออกมา พูดขึ้น “นายหญิง เจ้าจะไปแล้ว ข้าไปส่ง” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า ร้องตะโกนเรียกไปทางห้องกังจื่อ “อี้เซวียน พวกเรากลับบ้านได้แล้ว” 

 

 

เมิ่งอี้เซวียนรับคำเดินออกมา 

 

 

อิงจื่อร้องอุทาน “เขาคือน้องชายของเจ้าหรือ หน้าตางดงามนัก” 

 

 

เมิ่งอี้เซวียนชักสีหน้า 

 

 

สะใภ้ซุนรีบพูดกับอิงจื่อ “อิงจื่อ เจ้าเข้าไปช่วยทำอาหารในครัว ข้าจะไปส่งนายหญิง ประเดี๋ยวกลับ” 

 

 

อิงจื่อพยักหน้า บอกลาเมิ่งเชี่ยนโยว หันหลังเดินเข้าครัว 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมุ่งหน้าเดินออกไปพร้อมสะใภ้ซุนพร้อมกับพูดขึ้น “หลานสาวท่านคนนี้ไม่เลว อีกประเดี๋ยวข้าจะให้ท่านป้าใหญ่และท่านแม่ข้ามา พวกเขาจะต้องถูกใจ” 

 

 

สะใภ้ซุนยินดีปรีดา พูดขอบคุณเป็นพัลวัน 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวแย้มยิ้มโบกมือ เดินกลับบ้านไปพร้อมกับเมิ่งอี้เซวียน 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินและเมิ่งชื่อกำลังรออย่างกระสับกระส่ายอยู่ที่บ้าน เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวกลับมา เมิ่งชื่อรีบร้อนถาม “โยวเอ๋อร์ เด็กสาวคนนั้นหน้าตาน่าพิศหรือไม่ ลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะตอบ “หน้าตาน่าพิศยิ่ง มีดวงตากลมโตระยิบระยับหนึ่งคู่ กับลักยิ้มงดงามหนึ่งคู่ ยามแย้มยิ้มยิ่งน่าหลงใหลเป็นพิเศษ เพียงแต่ดำคล้ำไปเสียหน่อย คงเพราะปกติต้องลงนาทำงานหนัก” 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินวางใจลง พูดอย่างไม่ใส่ใจ “คนชนบททำงานทั้งปี มีใครไม่ดำบ้าง นี่ไม่ใช่ข้อบกพร่อง” 

 

 

เมิ่งชื่อก็พยักหน้าเห็นด้วย 

 

 

ได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวพูดดีเช่นนี้ ภรรยาเมิ่งต้าจินนั่งไม่ติดแล้ว ลนลานลุกขึ้นยืน พูดขึ้น “น้องสะใภ้รอง พวกเราสองคนรีบไปดูเถอะ” 

 

 

เมิ่งชื่อพยักหน้า ทั้งสองสาวเท้าออกไปด้านนอก ท่าทีร้อนรนนั้น ราวกับว่าหากไปช้าเพียงก้าวเดียวเด็กสาวคนนั้นจะถูกคนอื่นแย่งไป 

 

 

เมิ่งอี้เซวียนกลับเข้าห้องอย่างไม่สบอารมณ์ เมิ่งเสียนเห็นท่าทางเขา เอ่ยปากถาม “อี้เซวียน เป็นอะไร” 

 

 

เมิ่งอี้เซวียนส่ายหน้าตอบ “พี่ใหญ่ ไม่เป็นอันใด” พูดจบก็ทิ้งตัวนอนบนเตียงเตา เหม่อมองหลังคาอย่างเลื่อนลอย 

 

 

เมิ่งเสียนไม่ถามอีก เพียงแค่มองเขาอย่างประหลาดใจอีกแวบหนึ่ง 

 

 

ไม่กี่อึดใจต่อมาเมิ่งชื่อก็กลับมาอย่างมีความสุข พ้นประตูเข้ามาก็พูดกับเมิ่งเชี่ยนโยวว่า “โยวเอ๋อร์ เจ้าพูดไม่ผิดเลย อิงจื่อเป็นเด็กสาวที่ดีมากจริงๆ ข้ากับป้าใหญ่เจ้าพอใจเป็นอย่างมาก รอตอนบ่ายให้อิงจื่อกลับไปก่อน พวกเราจะเรียกสะใภ้ซุนเข้ามาหารือเรื่องหมั้นหมาย” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถามอย่างประหลาดใจ “ไม่รอให้พี่ใหญ่ได้พบหน้าก่อนหรือ” 

 

 

เมิ่งชื่อตอบ “เจ้าลูกโง่ ยังไม่หมั้นหมาย หญิงชายสองฝ่ายจะพบหน้ากันก่อนได้อย่างไร ขอเพียงพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ เลือกวันหมั้นหมายให้ก็พอ” 

 

 

“พ่อแม่ของอิงจื่อยังไม่รู้ไม่ใช่หรือ” เมิ่งเชี่ยนโยวพูด 

 

 

เมิ่งชื่อตอบนาง “สะใภ้ซุนเป็นน้าของนาง พ่อแม่ของอิงจื่อพูดไว้แต่แรกแล้วให้นางเป็นคนตัดสินใจ รอพวกเราหารือเรื่องวันเสร็จ นางกลับไปพูดก็ได้แล้ว” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไร้คำพูดอย่างสิ้นเชิง 

 

 

พอภรรยาเมิ่งต้าจินกลับมาถึงบ้าน ก็บอกกับคนทั้งบ้านว่าตนเองพอใจอิงจื่อ เตรียมจะเลือกวันให้เมิ่งเหรินและนางได้หมั้นหมายกันไว้ก่อน ทั้งครอบครัวต่างยินดีปรีดา เมิ่งจงจวี่พลิกปฏิทินหวงลี่[1] ตรวจหาวัน กล่าวว่าวันที่สิบเป็นวันดี ให้เลือกเป็นวันหมั้นหมายได้ 

 

 

หลังจากสะใภ้ซุนมาถึง ภรรยาเมิ่งต้าจินก็บอกเรื่องวันกับนาง ตอนที่นางกลับไปสวัสดีปีใหม่บ้านฝ่ายแม่ให้นางลองถามพี่ชายพี่สะใภ้ดู ว่าวันนี้ได้หรือไม่ 

 

 

สะใภ้ซุนรับปากเต็มปากเต็มคำ บอกว่าพรุ่งนี้ตนเองจะกลับบ้านแม่ นำข่าวดีนี้ไปบอกพี่ชายพี่สะใภ้และพ่อแม่ 

 

 

เมิ่งชื่อไปบ้านใหญ่กลับมา มีความสุขจนปากหุบไม่ลง รอคอยให้พรุ่งนี้มาถึงโดยไว 

 

 

วันรุ่งขึ้น หลังจากสะใภ้ซุนไปเยี่ยมบ้านแม่กลับมา ก็ไปบ้านใหญ่สกุลเมิ่ง บอกพวกเขา พ่อแม่และพี่ชายพี่สะใภ้นางเห็นดีด้วย ให้พวกเขาเตรียมของหมั้นหมายให้พร้อม วันที่สิบนางพาคนไปก็ได้แล้ว 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินและเมิ่งชื่อถามอย่างละเอียดว่าบ้านฝั่งแม่ของสะใภ้ซุนหมั้นหมายมีประเพณีแบบไหน 

 

 

สะใภ้ซุนหัวเราะเอื้อนเอ่ย 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินพอได้ฟังว่าใกล้เคียงกับทางฝั่งตนเอง ก็วางใจลง ให้เมิ่งชื่อช่วยนางจัดเตรียมของหมั้นหมาย 

 

 

เมิ่งชื่อยิ้มพูด “พี่สะใภ้ใหญ่ วันนี้เพิ่งจะวันที่สาม รอให้พวกเรากลับไปสวัสดีปีใหม่บ้านแม่กลับมาจัดเตรียมก็ยังไม่สาย” 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินตีหน้าผากตนเอง หัวเราะพูด “ข้าดีใจจนเลอะเลือนไปหมดแล้ว พวกเรากลับไปสวัสดีปีใหม่บ้านแม่ก่อน ค่อยกลับมาจัดเตรียม” 

 

 

 

 

 

[1] ปฏิสวัสดีปีใหม่หวงลี่(黄历) ปฏิสวัสดีปีใหม่ที่คำนวนโดยระบบจันทระคติแบบจีน บอกวันและดิถีมงคลเสร็จสรรพ 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด