ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 125.1

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 125.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 125 – 1 ยายรองชั้นเลิศ

 

 

 

 

หลังวันปีใหม่วันที่สี่ เป็นวันที่บุตรสาวทุกคนที่แต่งงานออกไปจะกลับไปสวัสดีปีใหม่บ้านแม่ 

 

 

หลังกินอาหารเช้า เมิ่งชื่อก็เริ่มเก็บของที่จะนำกลับบ้าน มีขนม ผ้าแพรพรรณ น้ำมันพริก น้ำมันพริกป่นรวมถึงปิ่นปักผมที่ซื้อให้แม่ตนเองและสะใภ้ทั้งสองคน 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นท่าทางมีความสุขหยิบจับสิ่งของไม่หยุดของนาง พูดสัพยอกว่า “ท่านแม่ ท่านหยิบจนบ้านเราจะเตียนโล่งแล้ว” 

 

 

เมิ่งชื่อหัวเราะ “แม่แทบอยากจะเอาไปให้หมดทั้งบ้านนัก หลายปีมานี้ ทุกปีเวลาแม่กลับไปสวัสดีปีใหม่ท่านยาย เกือบเรียกได้ว่ากลับไปมือเปล่า ไม่รู้ว่าเป็นที่ขบขันของคนในหมู่บ้านมากี่ครั้งแล้ว ยังดีว่าป้าทั้งสองของลูกไม่ถือสา ไม่เช่นนั้น คงตัดขาดกับพวกเราไปนานแล้ว ปีนี้ดีแล้ว ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ กลับบ้านเหมือนขโมยอีก แม่จะนั่งรถม้าคันโต นำสิ่งของพะเรอเกวียนนี้กลับบ้านแม่ ให้ท่านตาท่านยาได้เชิดหน้าชูตาเสียที” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหลุดขำ 

 

 

หลังจากเมิ่งชื่อเก็บข้าวของเสร็จ เร่งเร้าให้ทั้งครอบครัวเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อีกชุดหนึ่ง ส่วนตนเองประดับปิ่นปักผมใส่ต่างหูและกำไล ให้เมิ่งเอ้ออิ๋นรีบบังคับรถม้าไปสวัสดีปีใหม่หมู่บ้านหลี่ 

 

 

สวัสดีปีใหม่ปีนี้ ในที่สุดก็มีของขวัญปีใหม่มาให้บ้านแม่ยายแล้ว เมิ่งเอ้ออิ๋นก็ดีใจเป็นยิ่งนัก ได้ยินเสียงสั่งของเมิ่งชื่อ รีบเข้าไปในลานบ้านบังคับรถม้าออกมา นำสิ่งของทั้งหมดขึ้นวางบนรถม้า ให้คนทั้งครอบครัวนั่งให้ดี บังคับรถม้ามุ่งหน้าไปหมู่บ้านหลี่อย่างสง่างาม 

 

 

ภรรยาจางจู้และภรรยาจางเกินตั้งใจเลื่อนออกไปหนึ่งวัน ไม่กลับบ้านแม่ไปสวัสดีปีใหม่ เพื่อรอเมิ่งเอ้ออิ๋นและภรรยาพาเด็กๆ กลับมาสวัสดีปีใหม่ที่บ้าน 

 

 

แม่ของจางจู้ เตรียมตัวแต่เช้าตรู่ รออยู่พักใหญ่ก็ยังไม่เห็นครอบครัวบุตรสาวมา รบเร้าให้จางจู้ออกไปดูหน้าหมู่บ้าน 

 

 

จางจู้รับคำ มาที่หน้าหมู่บ้าน 

 

 

คนในหมู่บ้านออกไปสวัสดีปีใหม่เห็นเขา เข้ามาทักทาย “จางจู้ เจ้ามายืนทำอะไรที่หน้าหมู่บ้านแต่เช้า” 

 

 

จางจู้ตอบ “วันนี้ครอบครัวน้องสาวข้าจะกลับมาสวัสดีปีใหม่ ท่านแม่ให้ข้ามารอต้อนรับหน้าหมู่บ้าน” 

 

 

คนในหมู่บ้านได้ยินเขาพูดเช่นนี้ หยุดชะงักฝีเท้า ไม่รู้ว่าหันไปพูดสิ่งใดกับคนในครอบครัว คนในครอบครัวพยักหน้า คนผู้นั้นย้อนกลับไปบ้านอีกครั้ง 

 

 

จางจู้ฉงน แต่ก็ไม่ได้ถามมาก 

 

 

ตอนที่เมิ่งเอ้ออิ๋นบังคับรถม้ามาถึงหน้าหมู่บ้าน จางจู้มารอได้ครู่ใหญ่แล้ว เห็นรถม้าเข้ามา รีบเข้าไปทักทาย “น้องเขย พวกเจ้ามาแล้ว” 

 

 

เมิ่งชื่อได้ยินเสียงจางจู้ เปิดผ้าม่านรถ เห็นจางจู้ยืนอยู่หน้าหมู่บ้าน พูดอย่างปวดใจ “พี่ใหญ่ รอนานเท่าใดแล้ว หนาวแย่แล้วใช่หรือไม่ รีบเข้ามาในรถม้าเถอะ” 

 

 

จางจู้โบกมือ “ข้าเองก็เพิ่งมาถึงหน้าหมู่บ้าน ไม่หนาวหรอก พวกเจ้ารีบปิดผ้าม่านรถ ข้าเดินตามรถม้าไม่กี่ก้าวก็ถึงบ้านแล้ว” 

 

 

เห็นเขาไม่ยอม เมิ่งเอ้ออิ๋นจึงกระโดดลงจากรถม้า เดินไปที่บ้านพร้อมเขา ระหว่างทางเจอคนเข้ามาทักทายไม่ขาดสาย 

 

 

แม่จางจู้อยู่ในลานบ้านคอยยืนชะเง้อมองออกไปนอกถนน เห็นรถม้าเข้ามาไกลๆ ดีใจก้าวพ้นประตูใหญ่ออกมา 

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นเห็นนาง พลันร้องเรียก “ท่านแม่ยาย พวกเรามาสวัสดีปีใหม่แล้ว” 

 

 

เมิ่งชื่อได้ยินเสียงเมิ่งเอ้ออิ๋น รู้ว่าแม่ตนเองออกมาต้อนรับพวกเขาทั้งครอบครัว รีบร้อนเปิดผ้าม่านออก กระโดดลงจากรถม้า เดินไปตรงหน้ามารดาตน พูดอย่างดีอกดีใจ “ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว” 

 

 

แม่จางจู้ก็ดีใจมาก จับมือบุตรสาวแน่นไม่ยอมปล่อย 

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นจอดรถม้า เมิ่งเสียนและน้องๆ ลงจากรถม้า ส่งเสียงเรียกพร้อมกัน “ท่านยาย สวัส…ดี…ปี…ใหม่” 

 

 

แม่จางจู้รับคำอย่างยินดี ถามขึ้น “หนาวหรือไม่ รีบเข้ามาในบ้านก่อน ยายเตรียมของอร่อยไว้ให้พวกเจ้าด้วย” 

 

 

คนทั้งหมดส่ายหน้าตอบ “ไม่หนาว” 

 

 

ภรรยาจางจู้และภรรยาจางเกินกำลังเตรียมอาหารกลางวันอยู่ในเรือนครัว ได้ยินเสียงก็รีบออกมาต้อนรับที่หน้าประตู พูดอย่างเป็นกันเอง “น้องสาว น้องเขยพวกเจ้ามาแล้ว” 

 

 

จางเชาพาน้องๆ วิ่งออกมา เข้าไปพูดคุยกับพวกเมิ่งเสียนอย่างดีอกดีใจ และพาคนทั้งหมดเข้าไปในห้องตัวเอง 

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นผูกรถม้าเสร็จ หันไปพูดกับจางจู้ “พี่ใหญ่ ท่านช่วยข้าถือของหน่อย” 

 

 

จางจู้เดินขึ้นหน้า เมิ่งเอ้ออิ๋นนำสิ่งของบนรถม้าออกมา 

 

 

ภรรยาจางจู้ร้องอุทาน “น้องเขย เจ้าเอาอะไรมามากมาย เช่นนี้คงใช้จ่ายเงินไปไม่น้อย” 

 

 

เมิ่งชื่อหัวเราะ “พี่สะใภ้ใหญ่ ไม่ได้ใช้จ่ายเงิน บางส่วนเป็นของที่ผลิตได้จากโรงงานของเรา ยังมีบางส่วนคุณชายจูและคุณชายเซี่ยส่งมาให้เป็นของขวัญปีใหม่ ข้าจึงแบ่งมาที่นี่บ้าง” 

 

 

ภรรยาจางจู้ยังไม่ทันพูด เสียงจากผู้หญิงด้านข้างก็ดังขึ้น “แหม หลานเอ๋อร์กลับมาสวัสดีปีใหม่บ้านแม่แล้ว ได้ยินว่าตอนนี้ครอบครัวเจ้าร่ำรวย ไม่รู้ว่าปีนี้นำสิ่งของมาให้บ้านแม่มากแค่ไหน” 

 

 

เมิ่งชื่อใบหน้าแข็งค้าง จากนั้นร้องเรียกด้วยรอยยิ้ม “อาสะใภ้รอง สวัสดีปีใหม่” 

 

 

หญิงนางนั้นโบกมือ “บ้านข้าเงินก็ไม่มี ของก็ไม่มี จะมาสวัสดีอะไรกัน” 

 

 

เมิ่งชื่อไม่กล้าเสวนาด้วยต่อ 

 

 

หญิงนางนั้นเดินขึ้นหน้า เห็นสิ่งของบนรถม้า ถลึงตาโต “คุณพระคุณเจ้า หลานเอ๋อร์ เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้านำมาหรือ ดีเกินไปแล้ว” พูดจบ ยื่นมือไปลูบผ้าแพรพรรณ แล้วพูดต่อ “ดูผ้าพับนี้สิ แวววาวยิ่งนัก อาสะใภ้รองเกิดมาค่อนชีวิตแล้ว ยังไม่เคยเห็นผ้าเนื้อดีเช่นนี้” 

 

 

ภรรยาจางจู้ส่งสายตาให้ภรรยาจางเกิน ทั้งสองรีบเดินขึ้นหน้า อุ้มผ้าพับนั้นขึ้น หันไปพูดกับจางจู้ “มัวยืนบื้ออะไร ยังไม่รีบขนย้ายข้าวของเข้าบ้าน พวกน้องสาวเดินทางมาไกล จะต้องหนาวแย่แล้ว ยังไม่รีบพาเข้าบ้านไปดื่มน้ำร้อนอบอุ่นร่างกาย” 

 

 

จางจู้ได้สติคืนกลับมา รีบอุ้มน้ำมันพริกสองขวด หันไปพูดกับเมิ่งเอ้ออิ๋นอย่างเป็นกันเอง “น้องเขย รีบเข้าบ้าน ดื่มน้ำร้อนอบอุ่นร่างกาย” 

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นพยักหน้า หอบสิ่งของที่เหลือเดินเข้ามาในลานบ้าน แม่จางจู้และเมิ่งชื่อก็เดินตามเข้ามา 

 

 

หญิงนางนั้นเห็นว่าไม่มีใครแยแสตนเอง ต่างเดินเข้าไปในลานบ้าน เบะปากคิดจะเดินตามเข้ามา นัยน์ตาพลันกลิ้งกลอก ไม่รู้คิดอะไรได้ หันหลังรีบเร่งเดินกลับไปที่บ้านตัวเอง 

 

 

พ่อจางจู้เห็นครอบครัวบุตรสาวเข้ามา ก็ดีอกดีใจ ให้จางจู้เทน้ำชา ส่วนเขาชวนคุยสัพเพเหระ 

 

 

ภรรยาจางจู้และภรรยาจางเกินวางของเสร็จเข้ามาทักทายเมิ่งชื่อ จากนั้นก็ไปทำกับข้าวในครัว 

 

 

เมิ่งชื่อพูดขึ้น “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รอง พวกท่านอย่าเพิ่งรีบไปทำกับข้าว ข้าซื้อของขวัญปีใหม่มาให้ท่านแม่และพวกท่านด้วย” 

 

 

ภรรยาจางจู้ร้องอุทาน “เหตุใดยังต้องซื้อของขวัญให้พวกเราอีก พวกเรารับไม่ได้” 

 

 

เมิ่งชื่อยิ้มแก้มปรินำกล่องสามใบที่พกติดตัวไว้ออกมา วางใส่มือแต่ละคนพูดว่า “พวกท่านเปิดดูเถิดว่าชอบหรือไม่” 

 

 

คนทั้งหมดเปิดกล่องออก ร้องอุทานพร้อมกัน “ช่างเป็นปิ่นปักผมที่งดงามนัก” 

 

 

เมิ่งชื่อแย้มยิ้มพูด “ก่อนปีใหม่พวกเราเข้าไปซื้อของในเมือง โยวเอ๋อร์เป็นคนซื้อให้พวกท่าน ลองประดับดูว่าสวยหรือไม่” 

 

 

ภรรยาจางจู้ปิดฝากล่อง คิดจะคืนปิ่นปักผมให้เมิ่งชื่อ พูดขึ้น “ปิ่นปักผมนี้แพงเกินไป พวกเรารับไว้ไม่ได้” 

 

 

เมิ่งชื่อยิ้มแล้วผลักกลับไป พูดว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ไม่ได้ใช้เงินมาก นี่เป็นน้ำใจของโยวเอ๋อร์ พวกท่านรับไว้เถอะ” 

 

 

“นี่…” ภรรยาจางจู้ลังเลมองไปที่แม่จางจู้ 

 

 

แม่จางจู้กำลังหยิบปิ่นปักผมมาดู ชื่นชอบจนวางไม่ลง เมิ่งชื่อเห็นดังนั้น หันไปพูดกับแม่ตนเอง “ท่านแม่ ข้าประดับศีรษะให้ ให้พี่สะใภ้ใหญ่กับพี่สะใภ้รองดูว่าสวยหรือไม่” 

 

 

แม่จางจู้ยื่นปิ่นปักผมให้เมิ่งชื่ออย่างยินดี เมิ่งชื่อรับมา เสียบไปบนผมนางอย่างประณีตบรรจง  

 

 

“ท่านแม่ ท่านประดับปิ่นปักผมนี้งดงามยิ่งนัก” ภรรยาจางจู้ชื่นชม 

 

 

หญิงชราจางใช้มือลูบคลำปิ่นปักผมบนศีรษะ ดีใจจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ 

 

 

เมิ่งชื่อหันไปพูดกับภรรยาจางจู้และภรรยาจางเกิน “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รองพวกท่านก็รีบประดับดูเถิด ให้ท่านแม่ดูว่างดงามหรือไม่” 

 

 

ภรรยาจางจู้ยังคงลังเล จางจู้เอ่ยปากว่า “โยวเอ๋อร์ซื้อให้เจ้า เจ้าก็ลองเสียบผมดูเถอะ” 

 

 

ภรรยาจางจู้ถึงหยิบปิ่นปักผมออกมาจากกล่อง ให้เมิ่งชื่อช่วยเสียบให้ 

 

 

แม่จางจู้พยักหน้า “โยวเอ๋อร์สายตาไม่เลว เจ้าประดับแล้วก็น่าพิศมาก” 

 

 

เมิ่งชื่อช่วยประดับให้ภรรยาจางเกินด้วยเช่นกัน หญิงชราจางกล่าวชื่นชมอีกครั้ง 

 

 

ทั้งสองยินดีปรีดา 

 

 

ผลัดกันชมผลัดกันรับ ภรรยาจางจู้และภรรยาจางเกินถึงไปทำอาหารในครัว 

 

 

เมิ่งชื่อคิดจะไปช่วย หญิงชราจางไม่ยินยอม คว้ามือนางแน่นไม่ยอมปล่อย 

 

 

เมิ่งชื่อหัวเราะพูด “ท่านแม่ ข้าไปช่วยพี่สะใภ้ใหญ่พี่สะใภ้รองทำอาหาร พอกินอาหารเที่ยงเสร็จ พวกเราค่อยมานั่งพูดคุยกัน วันนี้ไม่มีธุระอื่น พวกเราไม่รีบกลับ” 

 

 

หญิงชราเมิ่งยังคงไม่ปล่อยมือ “หลานเอ๋อร์ เมื่อก่อนบ้านเจ้ายากจน ตลอดทั้งปีเจ้าไม่ได้กลับบ้านเลย แม่คอยพะวงถึงเจ้าอยู่เสมอ แต่ตอนนี้บ้านเจ้ารวยแล้ว เหตุใดเจ้าถึงไม่กลับมาหาแม่บ่อยๆ” 

 

 

เมิ่งชื่ออธิบาย “ท่านแม่ พี่ใหญ่กลับมาไม่ได้บอกท่านหรือ บ้านข้าเปิดโรงงานสองสามแห่ง รับสมัครคนงานไม่น้อย ข้าต้องช่วยทำอาหารกลางวันให้พวกเขา ไม่มีเวลาปลีกตัวมาเลย อีกอย่างพวกพี่ใหญ่ก็ไปทำงานทุกวัน หากมีเรื่องอะไรพวกเขาจะมาบอกท่านเอง ท่านไม่ต้องคอยเป็นห่วงข้า ตอนนี้ลูกสาวคนนี้มีชีวิตสุขสบายดี” 

 

 

แม่จางจู้พูด “แม่จะไม่เป็นพะวงเจ้าได้อย่างไร แม่อยากให้เจ้าอยู่ข้างกายแม่ทุกวันไม่จากไปไหน” 

 

 

เมิ่งชื่อหัวเราะ “ท่านแม่ พ้นปีใหม่ไป อากาศอบอุ่นขึ้น ข้าจะรับท่านไปอยู่ที่บ้านข้าช่วงระยะหนึ่ง ถึงตอนนั้นข้าจะอยู่ข้างกายท่านทุกวัน ไม่ไปไหนทั้งนั้น” 

 

 

แม่จางจู้ยิ้มพูด “ดีเหลือเกิน” 

 

 

สองแม่ลูกกำลังคุยอย่างออกรส พลันมีเสียงคนตะโกนจากลานด้านนอก “พี่จางจู้อยู่หรือไม่” 

 

 

จางจู้เดินออกมา เห็นเป็นคนที่ไปทำงานในหมู่บ้านเดียวกัน ก็ถามขึ้น “เซิงจื่อ มีเรื่องอันใด” 

 

 

เซิงจื่อแกว่งไก่ในมือไปมาพูดขึ้น “ข้าได้ยินว่าวันนี้นายหญิงมาสวัสดีปีใหม่ ข้าเลยฆ่าไก่ในบ้านหนึ่งตัว เอามาให้พวกเจ้า ทำเป็นอาหารกลางวันให้นายหญิง” 

 

 

จางจู้รีบร้อนโบกมือ “เซิงจื่อ ไม่ได้เด็ดขาด อาหารที่จะกินวันนี้พวกเราเตรียมไว้หมดแล้ว เจ้านำไก่ตัวนี้กลับไปเถอะ” 

 

 

เซิงจื่อไม่ยอม ดึงดั้งจะวางไก่ใส่มือจางจู้ “พี่จางจู้ ตอนปีใหม่นายหญิงให้ของดีพวกเราตั้งเยอะ ไก่ตัวเดียวไม่เป็นอะไรเลย ท่านรับไปเถอะ” 

 

 

จางจู้คิดจะปฏิเสธ คนงานอีกคนก็ถือสิ่งของเดินเข้ามา พูดแบบเดียวกัน “พี่จางจู้ ข้าได้ยินว่าวันนี้นายหญิงมาสวัสดีปีใหม่ ข้าแบ่งไข่ไก่ส่วนหนึ่งมา สำหรับทำอาหาร ไม่ใช่ของดีอะไร ขอนางอย่าได้รังเกียจ” 

 

 

จางจู้ไม่รับท่าเดียว ตอนที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นั้น ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งเข้ามา ในมือถือสิ่งของเดินเข้ามาเช่นเดียวกัน มีทั้งไก่ เป็ด เนื้อหมู ยังมีผักสด ไข่ไก่ ไข่เป็ด ต่างบอกให้เขารับไว้ 

 

 

จางจู้ไม่รู้ควรทำอย่างไร รีบร้องตะโกนเข้ามาในบ้าน “โยวเอ๋อร์ เจ้ารีบออกมา มีชาวบ้านนำสิ่งของมาให้เจ้า” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกับพวกจางเชากำลังคุยกันออกรส ได้ยินเสียงตะโกนของจางจู้ ลุกขึ้นเดินออกมา 

 

 

คนทั้งหมดเห็นนาง ทยอยกันกล่าว “นายหญิง สวัสดีปีใหม่” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวแย้มยิ้มตอบรับ “ทุกคน สวัสดีปีใหม่” 

 

 

จางจู้ชี้สิ่งของในมือพวกเขาพูดว่า “โยวเอ๋อร์ ทุกคนบอกว่าวันนี้เจ้ามาสวัสดีปีใหม่ จึงนำสิ่งของมาให้ เจ้าดูสิ” 

 

 

เซิงจื่อกลัวเมิ่งเชี่ยนโยวจะไม่รับ รีบร้อนพูด “นายหญิง ของเหล่านี้พวกเราเลี้ยงเอง ปลูกเอง เป็นน้ำใจเล็กน้อยจากพวกเรา ขอเจ้าอย่าได้รังเกียจ” 

 

 

คนอื่นก็พูดคล้อยตาม 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวส่งยิ้มให้ทุกคน “ราคาค่างวดไม่สำคัญเท่าน้ำใจ ข้าจะรังเกียจได้อย่างไร สินน้ำใจจากพวกท่านข้ารับไว้แล้ว ขอบคุณทุกคนมาก” 

 

 

คนทั้งหมดดีอกดีใจ ต่างวางสิ่งของในมือลงบนพื้น 

 

 

ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งถือสิ่งของเข้ามา หลังจากเมิ่งเชี่ยนโยวกล่าวขอบคุณ พวกเขาก็วางของลง 

 

 

หลังจากที่วางของลง พวกเขากลับไม่จากไปทันที แต่จับกลุ่มกันพูดคุยกับเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างเบิกบาน 

 

 

ภรรยาจางจู้และภรรยาจางเกินจิ๊ปาก ดีจริงๆ ในลานบ้านมีคนมาหลายสิบชีวิตแล้ว 

 

 

พ่อแม่จางจู้ก็เห็นผู้คนเต็มลานบ้าน คิดจะออกมาพูดบางอย่าง จางจู้ห้ามปรามพวกเขาไว้ “ท่านพ่อท่านแม่ พวกท่านอย่าออกไป แค่พวกเขากล่าวคำเยินยอพวกท่าน พวกท่านก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรแล้ว” 

 

 

พ่อแม่จางจู้คิดแล้วก็เห็นด้วย จึงล้มเลิกความคิดจะออกมา 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด