ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 145.3

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 145.3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
 ไกล่เกลี่ย

 

 

 

กินอาหารค่ำเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวช่วยเมิ่งชื่อเก็บล้างถ้วยชามเสร็จ หลังจากให้เมิ่งอี้เซวียนช่วยซุนเหลียงไฉทำการบ้าน ถึงหันมาพูดกับเมิ่งเอ้ออิ๋น “ท่านพ่อ พวกเราไปบ้านท่านปู่ท่านย่ากันเถอะ ข้ามีเรื่องจะปรึกษาพวกเขา”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นพยักหน้า เดินไปพลางพูดกับนาง “เจ้ามีเรื่องอะไรจะปรึกษาท่านปู่?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเล่าเรื่องที่วันนี้ผู้ใหญ่บ้านและภรรยามาบ้านตัวเอง ฉวยโอกาสเสนอเงื่อนไขสองข้อกับเขา

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นได้ยินนิ่งงัน ครู่หนึ่งถึงถามขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ “ผู้ใหญ่บ้านต้องการสูตรเนื้อรมควันของพวกเรา?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นรีบร้อนพูด “ไม่ได้ หากมอบสูตรให้พวกเขา ครอบครัวเราจะทำอย่างไร?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเตือนเขา “ท่านอย่าเพิ่งใจร้อน ข้าไม่ได้รับปาก ข้ากำลังจะไปปรึกษาท่านปู่ท่านย่ากับท่านอย่างไร?”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นโบกมือ “ไม่ต้องไปปรึกษา ท่านปู่ท่านย่าจักต้องไม่เห็นด้วย พวกเราหาวิธีอื่นปลูกบ้านให้เหรินเอ๋อร์เถอะ”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “ท่านพ่อ เมื่อผู้ใหญ่บ้านมีความคิดเช่นนี้ ไม่ว่าพวกเราคิดวิธีอะไร เขาก็จะขัดขวางพวกเรา สู้พวกเราฉวยโอกาสนี้ ยื่นโจทย์ยากให้เขา หากเขาตกลง ภายหน้าพวกเราทำอะไรก็จะไม่มีอุปสรรคอีก หากเขาไม่ตกลง ภายหน้าก็จะไม่กล้ากลั่นแกล้งพวกเราง่ายๆ อีก”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นถามอย่างไม่เข้าใจ “โจทย์ยากอะไร?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพราว ตอบเสียงต่ำ “ข้าอยากให้เขาถอนตัวจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ให้ลุงใหญ่มาเป็นแทน”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นได้ยินตกใจจนหุบปากไม่ลง ตะลึงค้างมองบุตรสาวตนเอง

 

 

เห็นอาการของเขา เมิ่งเชี่ยนโยวรู้ว่าเขาตกใจในความคิดของตัวเอง ยังตกอยู่ในภวังค์ ยืนรอข้างๆ อย่างอดทน รอให้เขาค่อยๆ ทำใจได้

 

 

ครู่ใหญ่เมิ่งเอ้ออิ๋นถึงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พูดอย่างขวัญผวา “จะเป็นไปได้อย่างไร? ผู้ใหญ่บ้านเป็นนานหลายปีแล้ว เขาจะยอมถอนตัวจากตำแหน่งได้อย่างไร? เจ้าห้ามมีความผิดเช่นนี้อีก หากให้ผู้ใหญ่บ้านรู้เข้า เขาจะต้องคอยกลั่นแกล้งพวกเรา”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถามกลับ “ตอนนี้เขาไม่ได้คอยกลั่นแกล้งพวกเราหรือ?”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นตอบ “เขาเพียงไม่ให้พวกเราปลูกเรือนบนที่ผืนใหญ่นั้น ไม่นับว่ากลั่นแกล้งพวกเรา”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถามอีก “เช่นนั้นต่อไปเล่า? อีกไม่กี่วันพวกเราก็จะซื้อภูเขา ซื้อที่ดิน ปลูกฉั่งฉิก ปลูกมันฝรั่ง ถึงตอนนั้นเขาจะต้องยื่นเงื่อนไข ไม่แน่ว่าจะสาหัสยิ่งกว่าครั้งนี้ ถึงตอนนั้นถ้าพวกเราไม่ตกลง พวกเราก็จะปลูกสิ่งของมีมูลค่าพวกนั้นไม่สำเร็จ หากเป็นเช่นนั้นครอบครัวพวกเราจะอดหาเงินได้อีกปีละหลายแสนตำลึง”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นกลืนน้ำลายอีกอึก ถามตะกุกตะกัก “หลายแสนตำลึง?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า “ใช่ แต่ละปีจะสูญเสียมากเช่นนี้ ท่านทำใจได้หรือ?”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นส่ายหน้า พูดอย่างปวดใจ “ทำใจไม่ได้”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมองโดยรอบ เข้าใกล้เมิ่งเอ้ออิ๋นแล้วพูดเสียงเบายิ่งขึ้น “ดังนั้น ข้าถึงอยากให้ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านว่างลง ให้ลุงใหญ่เป็นแทน เช่นนั้นต่อไปพวกเราก็จะไม่ต้องมีเรื่องยุ่งยากมากมายเช่นนี้อีก และไม่ต้องสูญเสียเงินก้อนโตนี้”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นฟังจบ กัดฟันแล้วตัดสินใจพูด “โยวเอ๋อร์ แล้วแต่เจ้า”

 

 

สองพ่อลูกมาถึงบ้านใหญ่ ภรรยาเมิ่งต้าจินก็เพิ่งล้างถ้วยชามเสร็จ เห็นสองพ่อลูกเข้ามา ร้องทักทายดีใจ “น้องรอง โยวเอ๋อร์มาแล้ว เข้ามานั่งในบ้านก่อน”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มส่งเสียงเรียก “ท่านป้าใหญ่”

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินก็ส่งยิ้มซักถามนาง “วันนี้โยวเอ๋อร์ดีใจเช่นนี้ มีเรื่องยินดีอะไรหรือ?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินมาถึงเบื้องหน้านาง พูดจาลึกๆ ลับๆ “ไม่ใช่ข้ามีเรื่องยินดี แต่เป็นครอบครัวเราที่มีเรื่องยินดี”

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินได้ฟังดีใจถามนาง “หรือผู้ใหญ่บ้านรับปากจะขายที่ดินผืนนั้นให้พวกเราแล้ว?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยกยิ้มตอบ “น่ายินดียิ่งกว่าเรื่องนี้อีก”

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินถามกลับอย่างตกใจ “น่ายินดีกว่าเรื่องนี้ เช่นนั้นเป็นเรื่องอะไร?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวโยกโย้ พูดหน้าทะเล้น “อีกประเดี๋ยวท่านป้าก็รู้” พูดจบเดินเข้าไปในบ้าน

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินเดินตามหลังเข้าบ้าน ร้อนใจพูด “โยวเอ๋อร์ เจ้าเลิกโยกโย้ได้แล้ว รีบบอกป้าใหญ่มาว่าเรื่องอะไรกันแน่?”

 

 

ไม่รอให้เมิ่งเชี่ยนโยวร้องเรียก หญิงชราเมิ่งก็แย้มยิ้มพูด “โยวเอ๋อร์ เจ้าพูดอะไรกับป้าใหญ่ นางอยู่ไม่เป็นสุขแล้ว”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวร้องเรียกทุกคนเสร็จ ถึงหยอกเอินภรรยาเมิ่งต้าจินต่อ “ป้าใหญ่ เหตุใดข้าถึงไม่รู้มาก่อนว่าท่านเป็นคนใจร้อน?”

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินพูดขู่นาง “หากเจ้ายังไม่พูด ป้าใหญ่จะเอาจริงแล้วนะ”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวรีบพูด “ได้ๆๆ ข้าพูดๆ”

 

 

พูดจบ ก็ยิ้มพูดเงื่อนไขสองข้อของผู้ใหญ่บ้านออกมา

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินสะดุ้งตกใจ พูดว่า “โยวเอ๋อร์ นี่หาใช่เรื่องดีไม่ เหตุใดเจ้ายังหัวเราะออกมาได้ ข้าขอบอกเจ้า พวกเราขอยืนหยัดไม่ใช้วิธีนี้ไปแลกที่ดินผืนนั้น อย่างมากพวกเราก็รอให้เหรินเอ๋อร์สอบคัดเลือกขุนนางเสร็จก่อนค่อยว่ากัน”

 

 

หญิงชราเมิ่งก็ไม่เห็นด้วย โมโหร้องก่นด่า “สองผัวเมียหน้าเนื้อใจเสือคู่นั้น ปีที่แล้วหากไม่ได้โยวเอ๋อร์ของเราซื้อต้าเป่าของพวกเขาไว้ หลานชายสองคนของพวกเขา ไม่รู้ว่าถูกขายไปอยู่ที่ไหนแล้ว ตอนนี้กลับจะตอบแทนคุณด้วยความแค้น ยื่นข้อเสนอเกินควรเช่นนี้ ไม่กลัวบาปกรรมตามทัน ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ บ้างเรอะ”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดเตือน “ท่านย่า อย่าเพิ่งโมโห ข้ามิได้รับปากพวกเขา เข้ามาปรึกษาพวกท่านอย่างไร?”

 

 

เมิ่งจงจวี่ก็พูดอย่างเคืองขุ่น “มีอะไรต้องปรึกษากัน พวกเราไม่รับปากเด็ดขาด ให้ความปรารถนาพวกเขาไม่เป็นผล”

 

 

เมิ่งต้าจินและภรรยาก็พยักหน้าสนับสนุน

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “ท่านปู่ ข้ากลับมิได้คิดเช่นนี้ บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องดีของครอบครัวพวกเราก็ได้”

 

 

เมิ่งจงจวี่ถามอย่างไม่เข้าใจ “ครอบครัวพวกเรากำลังต้องเสียโรงงานไป จะเป็นเรื่องดีได้อย่างไร?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดเรื่องที่เพิ่งบอกเมิ่งเอ้ออิ๋นกับทุกคนอีกรอบ

 

 

คนทั้งหมดไม่คิดว่านางจะมีความคิดเช่นนี้ ต่างตะลึงค้าง

 

 

ภายในห้องกลายเป็นความเงียบสงัด

 

 

ครู่หนึ่งเมิ่งจงจวี่ถึงพูดขึ้น “ลุงใหญ่เจ้าจะเป็นผู้ใหญ่บ้านได้อย่างไร?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวย้อนถาม “ลุงใหญ่ก็รู้เรียนเขียนอ่านได้ อีกทั้งตอนนี้ยังมีพวกเราหนุนหลัง เหตุใดถึงจะเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ได้?”

 

 

เมิ่งจงจวี่ตอบนาง “แต่เมื่อก่อนลุงใหญ่เจ้าชื่อเสียงไม่ดี กระทำเรื่องผิดไว้มาก คนในหมู่บ้านคงไม่เห็นด้วย”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถาม “ลุงใหญ่ขโมยของคนหรือไม่?”

 

 

เมิ่งจงจวี่ส่ายหน้า

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถามอีก “ลุงใหญ่ผิดลูกเมียผู้อื่นหรือไม่?”

 

 

เมิ่งจงจวี่ยังคงส่ายหน้า

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวจึงถามอีก “เช่นนั้นลุงใหญ่กระทำเรื่องผิดอันใด?”

 

 

“เอ่อ…” เมิ่งจงจวี่ลูบเครา พูดไม่ออก

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “เมื่อก่อนลุงใหญ่เพียงเกียจคร้านไม่ทำงาน ไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรงอะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่เขาช่วยข้าดูแลโรงงานรมควันเนื้ออย่างอุตสาหะหมั่นเพียร ทำงานร่วมกับคนงานด้วยตัวเอง คนในหมู่บ้านต่างเห็นทั้งหมดนี้อย่างชัดแจ้ง ขอเพียงพวกเราเสนอ คนในหมู่บ้านไม่มีทางคัดค้าน ผู้ใหญ่บ้านและภรรยาทั้งละโมบชอบใช้อำนาจ พวกเขามีแต่อยากเห็นผู้ใหญ่บ้านลงจากตำแหน่งนานแล้ว อีกอย่าง ข้าเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านพูดว่า เวลาเลือกผู้ใหญ่บ้าน เพียงแค่ให้หัวหน้าสกุลแต่ละสกุลแนะนำก็ได้แล้ว”

 

 

เมิ่งจงจวี่พยักหน้าพูด “ผู้ใหญ่บ้านต้องให้หัวหน้าสกุลทั้งหลายเป็นผู้คัดเลือก แต่หลายปีมานี้พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับผู้ใหญ่บ้าน คิดว่าคงไม่รับปากแนะนำลุงใหญ่เจ้าเป็นผู้ใหญ่บ้านแทน”

 

 

“เรื่องนี้ยิ่งง่าย” เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ “ครั้งก่อนที่ข้ารับสมัครคนงาน หัวหน้าสกุลต่างๆ ยังติดค้างหนี้บุญคุณท่านอยู่ไม่ใช่หรือ? ท่านไปพูดทวงคืนจากพวกเขา หากพวกเขายังไม่เห็นด้วย ท่านก็บอกพวกเขา อีกไม่นานข้าจะซื้อภูเขาและที่ดินรกร้างอีกจำนวนมาก ต้องการคนจำนวนมากบุกเบิกพื้นที่ หากพวกเขาเห็นชอบให้ลุงใหญ่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ข้าจะเลือกรับคนที่ทำงานแข็งขันในสกุลของพวกเขาก่อน หากพวกเขาไม่เห็นชอบ ข้าจะไปรับคนต่างหมู่บ้าน ดูว่าถึงตอนนั้นพวกเขาจะตอบคนในสกุลตัวเองอย่างไร”

 

 

ฟังนางพูดจบ เมิ่งจงจวี่พูดอย่างลังเล “ทำเช่นนี้จะไม่ค่อยดีนะ นี่เท่ากับไปขู่กรรโชกพวกเขา หากพวกเขาโมโห จะยิ่งไม่เห็นชอบให้ลุงใหญ่เจ้าเป็นผู้ใหญ่บ้าน”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดเกลี้ยกล่อม “ท่านปู่ ท่านพูดผิดแล้ว นี่มิใช่การขู่กรรโชก นี่เป็นแผนการ พูดไม่พูดอยู่ที่พวกเรา เห็นชอบหรือไม่อยู่ที่พวกเขา เราแค่มอบสิทธิ์การตัดสินใจให้พวกเขา อยู่ที่ว่าพวกเขาจะเลือกอย่างไรแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด