ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 150.1

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 150.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
 อยากตายรึ ข้าจะสงเคราะห์ให้เอง

 

 

 

 

ชาวบ้านหมู่บ้านหลี่ต่างเฝ้ารอต้อนรับวันใหม่อย่างใจจดจ่อ 

 

 

เช้าตรู่ ฝูงคนก็มาออกันที่หน้าประตูบ้านผู้ใหญ่บ้าน รอการมาถึงของเมิ่งเชี่ยนโยว 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านยกโต๊ะตัวหนึ่งออกมา วางกระดาษพู่กัน มารอพร้อมกับทุกคน 

 

 

หลังจากพาทั้งสองคนไปส่งโรงเรียนตอนเช้า เมิ่งเชี่ยนโยวไม่ได้ตรงกลับบ้าน ให้เมิ่งเสียนบังคับรถม้ามาหมู่บ้านหลี่ 

 

 

คนของหมู่บ้านหลี่เห็นรถม้าเข้ามา ดีใจกันยกใหญ่ แทบจะล้อมรถม้าเอาไว้ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวลงจากรถม้า ผู้ใหญ่บ้านเชิญนางมาข้างโต๊ะ ให้นางนั่งลง 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวส่ายหน้า เปล่งเสียงดังพูดกับแววตาที่เฝ้ารอของทุกคน “คิดว่าเมื่อวานผู้ใหญ่บ้านคงจะบอกวิธีการทำงานสองแบบกับทุกคนแล้ว ตอนนี้ใครมีคำถามอะไร ก็ให้พูดออกมา” 

 

 

ชายคนหนึ่งถามขึ้น “ถ้าครอบครัวพวกเราเลือกแบบลงพื้นที่ เงินค่าแรงจะคิดอย่างไร?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวตอบเขา “ข้าจะให้คนแบ่งพื้นที่ภูเขาร้างเป็นหลายระดับ จะได้กำหนดราคาง่ายขึ้น พวกท่านจะเลือกทำพื้นที่ใหญ่หรือเล็กก็ได้ ตามข้อเรียกร้องของข้าเมื่อเก็บทำความสะอาดเสร็จหนึ่งแปลงจะตัดเงินหนึ่งครั้ง หากกลัวว่ายุ่งยากจะทำให้เสร็จทั้งหมดก่อนค่อยคิดเงินค่าแรงทีเดียวก็ได้” 

 

 

ยังมีคนถามอีก “ครอบครัวพวกเรามีคนน้อย ร่วมแผ้วถางพื้นที่เดียวกับคนอื่นได้หรือไม่?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า “ได้ แต่ตอนพวกท่านลงทะเบียนจะต้องใช้ชื่อคนคนเดียว เช่นนี้พวกเราจะได้สะดวกคำนวณค่าแรง” 

 

 

ยังมีคนถามอีก “ลงพื้นที่แบบรายวันกับแบบเหมา อย่างไหนคุ้มกว่ากัน?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวส่ายหน้า “เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้แล้ว ทำงานรายวันขอเพียงให้ขยันขันแข็ง วันหนึ่งรับประกันว่าได้แน่นอนสามสิบอีแปะ แต่ถ้าทำแบบเหมาพื้นที่ ถ้าทำเร็ว บางทีวันหนึ่งอาจจะทำได้ห้าถึงหกสิบอีแปะ ทำงานช้าอาจจะไม่ได้เลย อยู่ที่พวกท่านแล้วว่าจะทำอย่างไร” 

 

 

คนในหมู่บ้านไม่ว่าจะชายหญิงคนหนุ่มคนเฒ่า ต่างทำงานใช้แรงมาตลอด ไฉนเลยจะมีคนทำงานช้า ได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวพูดเช่นนี้ คนที่เดิมคิดจะทำงานรายวันเริ่มสั่นคลอนแล้ว 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านโบกมือ ให้ทุกคนสงบลง พูดว่า “คนที่คิดได้แล้ว ให้รีบมาลงทะเบียน” 

 

 

ฝูงคนเฮโลเข้าไป เบียดจนโต๊ะเกือบล้มคว่ำ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมุ่นหัวคิ้ว 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านตวาดใส่ฝูงคน “เข้าแถวให้เรียบร้อย เข้ามาทีละคน ถ้ายังเบียดกันมั่วแบบนี้ ใครก็ไม่ต้องมาทำงานแล้ว อีกอย่าง ถ้าจะทำแบบเหมาพื้นที่ ส่งคนในครอบครัวมาลงทะเบียนคนเดียวก็พอ” 

 

 

ฝูงคนถอยกรูด เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวร้องบอกกับจางจู้ จางเกิน “ลุงใหญ่ ลุงรอง พวกท่านเข้ามาตรงนี้หน่อย” 

 

 

จางจู้ จางเกินเดินมาด้านหน้า 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “พวกท่านเลือกคนมาจำนวนหนึ่งก่อน แล้วตามข้าขึ้นไปบนเขา ข้าจะบอกพวกท่านว่าต้องแบ่งพื้นที่อย่างไร” 

 

 

จางจู้ จางเกินพยักหน้า เลือกคนจำนวนหนึ่งออกมา หนึ่งในนั้นมีหลี่ฝูบุตรชายผู้ใหญ่บ้านด้วย 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวบอกกับคนทั้งหมด “นับแต่นี้ไปพวกท่านมีหน้าที่แบ่งเขตพื้นที่ และตรวจสอบว่าคนอื่นๆ ว่าทำงานผ่านหรือไม่ อีกเดี๋ยวข้าจะบอกความต้องการในการแผ้วถางกับพวกท่าน หากมีใครทำไม่ผ่าน จะต้องให้พวกเขาทำใหม่ ทำได้ดีถึงจะได้รับเงินค่าแรง” 

 

 

ทุกคนพยักหน้า 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดอีก “งานของพวกท่านค่อนข้างลำบาก จะได้คนละห้าสิบอีแปะต่อวัน” 

 

 

คนทั้งหมดยินดีปรีดา หลี่ฝูกลับขยี้หัวพูดอย่างเก้อเขิน “ข้าไม่ต้องทำงานก็ได้ห้าสิบอีแปะ จะไม่เหมาะสมหรือเปล่า” 

 

 

ในกลุ่มคนมีคนพูดสัพยอกเขา “หลี่ฝู ไม่ต้องทำงานก็ได้เงินห้าสิบอีแปะ นี่เป็นเรื่องที่ข้าฝันมาตลอด หากเจ้าไม่ยินดี หลีกทางให้ข้าก็ได้” 

 

 

หลี่ฝูหัวเราะอย่างคนซื่อ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูด “ใครบอกว่าพวกท่านไม่ต้องทำงาน งานของพวกท่านมีเยอะมาก อันดับแรกพวกท่านต้องวัดขนาด แบ่งเป็นพื้นที่แตกต่างกัน จากนั้นต้องตรวจตราคนอื่น จะต้องเก็บทำความสะอาดพื้นที่แผ้วถางให้หมดจด ปรับพื้นที่ให้เรียบเตียน พื้นที่ไหนไม่ผ่านต้องให้พวกเขาทำซ้ำ สองเรื่องนี้ดูแล้วเหมือนง่าย แต่พอทำเข้าจริงๆ จะเหนื่อยกว่างานของพวกเขามาก” 

 

 

ได้ยินนางพูดเช่นนี้ หลี่ฝูถึงรู้สึกสงบใจลงได้ 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านเริ่มให้คนที่มาเข้าแถวลงทะเบียน เมิ่งเชี่ยนโยวพาคนที่ถูกเลือกออกมาขึ้นเขา บอกพวกเขาก่อนว่าต้องแบ่งพื้นที่อย่างไร พื้นที่ที่แตกต่างกันจะได้ค่าแรงประมาณเท่าไหร่ ทั้งบอกพวกเขาอย่างละเอียดว่าต้องแผ้วถางภูเขาร้างให้ลึกและหนาแค่ไหน 

 

 

คนทั้งหมดพยักหน้ารับ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกำชับพวกเขาเป็นพิเศษ จะต้องให้ชาวบ้านแผ้วถางภูเขาร้างตามที่ตนเองต้องการ ไม่เช่นนั้นของที่จะนำมาปลูกภายหน้าจะไม่งอก 

 

 

ทุกคนรับประกัน จะให้ชาวบ้านแผ้วถางภูเขาร้างตามที่นางต้องการ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า ลงเขามาพร้อมกับทุกคน 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านยังรับลงทะเบียนไม่เสร็จ 

 

 

จางจู้ จางเกิน หลี่ฝูและคนอื่นๆ กลับบ้านไปเอาเครื่องมือวัดแล้วกลับขึ้นเขาไปแบ่งพื้นที่ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวนั่งข้างโต๊ะรอผู้ใหญ่บ้านลงทะเบียนเสร็จ 

 

 

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านยกน้ำถ้วยหนึ่งออกมาวางตรงหน้านาง 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกล่าวขอบคุณ ยกขึ้นดื่มสองสามคำ 

 

 

บิดามารดาจางจู้ได้ยินจางจู้บอกตอนที่กลับมาเอาเครื่องมือว่าเมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งเสียนมา ก็ตามมาด้วย เห็นนางนั่งอยู่ข้างเก้าอี้ ร้องเรียกนางจากด้านหลังกลุ่มคน “โยวเอ๋อร์” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวได้ยินเสียงร้องของพวกเขา ลุกขึ้นยืน เดินมาเบื้องหน้าพวกเขา แย้มยิ้มเรียกคน “ท่านตา ท่านยาย” 

 

 

แม่ของจางจู้กำมือนางแน่น พูดโอดครวญ “เจ้าหลานคนนี้ ครั้งก่อนมาก็ไม่ได้กลับไปบ้าน ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกลับบ้านไปกับยาย ยายจะทำของอร่อยให้กิน” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวคิดว่าตอนเที่ยงไม่มีธุระอะไร พยักหน้ารับปาก “ขอบคุณท่านยาย ประเดี๋ยวข้าทำธุระเสร็จจะตามไป” 

 

 

แม่จางจู้ได้ยินนางรับปาก ก็ดีใจมาก รีบพูดทันที “ยายจะกลับไปทำอาหารเดี๋ยวนี้ ประเดี๋ยวเจ้าเสร็จธุระแล้วก็ตามมา” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มรับคำ พูดกับเมิ่งเสียนที่จูงรถม้ารออยู่ด้านข้างมาตลอด “พี่ใหญ่ ท่านกลับไปกับท่านยายท่านตาก่อนเถอะ ข้าเสร็จธุระแล้วจะตามไป” 

 

 

เมิ่งเสียนรู้ว่าตัวเองช่วยอะไรนางไม่ได้ พยักหน้า ให้สองผู้เฒ่าขึ้นบนรถม้า บังคับรถม้ามุ่งหน้าไปบ้านจางจู้ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกลับมายืนข้างโต๊ะ คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ลงทะเบียนเสร็จแล้ว กลับบ้านไปหยิบฉวยเครื่องมือทำงาน ขึ้นเขาลงมือทำงาน เหลือแค่สิบกว่าคนที่ยังเข้าแถวรอ 

 

 

ไกลออกไปมีคนวิ่งเข้ามา เห็นผู้ใหญ่บ้านยังรับลงทะเบียน ไม่ไปต่อแถว เดินมาข้างโต๊ะทันที ร้องพูดกับผู้ใหญ่บ้านเสียงดังลั่น “ผู้ใหญ่บ้าน ครอบครัวพวกเราก็จะไปแผ้วถางภูเขาร้างด้วย” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมองคนที่มา หลุดขำออกมา 

 

 

แม่จางเถี่ยไม่คิดว่าเมิ่งเชี่ยนโยวจะมานั่งที่โต๊ะด้วย นิ่งอึ้ง 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านเงยหน้า เห็นว่าเป็นนาง มองเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างลำบากใจ 

 

 

คนที่ต่อแถวไม่ทนแล้ว ร้องโวยวาย “ไปต่อแถวด้านหลัง พวกเราต่อมาตั้งนานแล้ว เจ้ามีสิทธิ์อะไรวิ่งไปข้างหน้า?” 

 

 

แม่จางเถี่ยกำลังจะสบถคำด่า เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวกำลังมองมาที่นางเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ตกใจรีบวิ่งแจ้นกลับไปต่อแถวด้านหลังแต่โดยดี 

 

 

ในที่สุดก็ถึงตาแม่จางเถี่ย ผู้ใหญ่บ้านมองเมิ่งเชี่ยนโยวแวบหนึ่ง พูดกับนางอย่างลำบากใจ “แม่จางเถี่ย ครอบครัวพวกเจ้าเพิ่งจะได้เงินไปสามสิบตำลึงไม่ใช่หรือ? เหตุใดยังต้องไปแผ้วถางภูเขาร้างอีก” 

 

 

แม่จางเถี่ยไม่ยอมแล้ว พูดว่า “ผู้ใหญ่บ้าน ท่านพูดแบบนี้ไม่ถูกต้องแล้ว พวกเรามีเงินก็จริง แต่จะเพราะมีเงินแล้วไม่ทำงานไม่ได้” 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านสะอึกกึก มองเมิ่งเชี่ยนโยว 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “ท่านไม่ต้องมองข้า ไม่ว่าใคร ขอเพียงทำงานแข็งขันก็พอ” 

 

 

แม่จางเถี่ยแม้จะนิสัยไม่ดี ชอบเอาเปรียบคน แต่เรื่องทำงานไม่เป็นรองใคร ผู้ใหญ่บ้านได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวพูดเช่นนี้ เข้าใจทันที ถามขึ้น “เจ้าจะทำงานแบบรายวันหรือเหมาพื้นที่” 

 

 

แม่จางเถี่ยครุ่นคิด ตอบว่า “เหมาพื้นที่” 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านทำการลงทะเบียนให้นาง แม่จางเถี่ยเดินหน้าบานกลับบ้านไปหยิบเครื่องมือออกไปทำงาน 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านนำสมุดลงทะเบียนวางไว้ตรงหน้าเมิ่งเชี่ยนโยว พูดว่า “แม่นางเมิ่ง คนในหมู่บ้านมาลงทะเบียนกันเกือบทั้งหมดแล้ว เจ้าดูก่อนว่ามีคนไหนไม่เหมาะสมหรือไม่?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มแล้วผลักสมุดลงทะเบียนกลับไป พูดว่า “ไม่ต้องดูแล้ว ผู้ใหญ่บ้านรู้จักคนในหมู่บ้านดี รู้ว่าพวกเขามีนิสัยอย่างไร เมื่อท่านบอกว่าใช้ได้ก็จะต้องใช้ได้” 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านไม่คิดว่าเมิ่งเชี่ยนโยวจะเชื่อตนเองเช่นนี้ รู้สึกตกใจที่ได้รับการเอ็นดู 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูดดับผู้ใหญ่บ้านอีกว่า “ข้ารู้ว่าท่านยุ่งมาก แต่ข้าก็ยังอยากขอให้ท่านช่วยอีกเรื่อง ไม่ทราบว่าจะได้หรือไม่?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวตอบกลับ “เรื่องอะไร? เชิญพูด” 

 

 

“ข้าอยากให้ท่านช่วยทำบันทึกอย่างละเอียด ว่าแต่ละครอบครัวเหมาพื้นที่เท่าใด ข้าจะได้ทำเรื่องจ่ายค่าแรงง่ายขึ้น งานของท่านนี้ต้องวิ่งมาวิ่งไประหว่างภูเขาหลายลูก ค่อนข้างลำบาก ข้าจะให้ค่าแรงท่านวันละห้าสิบอีแปะ” เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ 

 

 

คนชนบทยากจนข้นแค้น คนที่จะให้บุตรหลานตัวเองได้เรียนหนังสือมีไม่กี่ครอบครัว ดังนั้นคนชนบทจึงรู้หนังสือแค่ไม่กี่คน แม้เมิ่งเชี่ยนโยวไม่พูด ผู้ใหญ่บ้านก็คิดจะช่วยนางเรื่องนี้ ตอนนี้เมิ่งเชี่ยนโยวเสนอเอง ผู้ใหญ่บ้านย่อมตบปากรับคำ ทว่าพอได้ยินว่าจะได้เงินค่าแรงอีกวันละห้าสิบตำลึง ก็โบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ข้าสมควรทำแล้ว แม่นางไม่พูด ข้าก็ต้องจดบันทึกข้อมูลให้เจ้า” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวได้ยินผู้ใหญ่บ้านพูดเช่นนี้ ทำให้รู้ว่าเขาไม่เคยคิดต้องการเงินต่าแรง ลอบชื่นชมในใจ ผู้ใหญ่บ้านที่ดีเช่นนี้หาได้ยากจริงๆ เผยอยิ้มแล้วพูดว่า “ได้อย่างไรกัน? หากท่านไม่ยินรับเงินค่าแรง ข้าจะไม่ให้ท่านเป็นผู้จดบันทึก ข้าจะไปจ้างคนจากที่อื่นมาทำ” 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านได้ยินนางพูดเช่นนี้ จำต้องยอมรับ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดต่อ “ข้ายังต้องการรับสมัครคนต้มน้ำสุกจำนวนหนึ่งพร้อมป้าใหญ่และป้ารองของข้า ส่งให้คนที่มาทำงานบนเขาทุกวัน ข้าเห็นในบ้านท่านยังมีคนว่างงาน ไม่เช่นนั้นก็ใช้พวกเขาเถอะ เพียงแค่ค่าแรงน้อยหน่อย ได้วันละสามสิบอีแปะต่อคน แต่ถ้าพวกท่านไปเก็บฟืนเอง จะได้วันละห้าสิบอีแปะ” 

 

 

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านและภรรยาหลี่ฝูได้ยินว่าผู้ใหญ่บ้านและหลี่ฝูมีงานทำแล้ว รู้ว่าครอบครัวตัวเองรับเหมางานพื้นที่ไม่ไหว ก็ให้รู้สึกผิดหวัง ตอนนี้ได้ยินเมิ่งเชี่ยนโยวพูดเช่นนี้ ต่างก็มองมาที่ผู้ใหญ่บ้านอย่างยินดี 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านเองก็ดีใจมาก รับคำอย่างเบิกบาน 

 

 

สุดท้ายเมิ่งเชี่ยนโยวพูดกับผู้ใหญ่บ้านว่า “ข้ายังมีธุระอื่นที่บ้าน คงไม่มีเวลามาที่นี่ทุกวัน เรื่องแผ้วถางภูเขาร้างมอบให้ท่านแล้ว ตอนที่ท่านลงบันทึก จะต้องให้คนงานทำตามที่ข้าบอกอย่างเคร่งครัด หากมีตรงไหนไม่ผ่านจะต้องให้พวกเขาทำซ้ำ” 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านรับประกัน “วางใจเถอะ แม่นางเมิ่ง จะไม่มีพื้นที่ไม่ผ่านสักแปลงเดียว” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า ทั้งบอกความต้องการกับเขาโดยละเอียด 

 

 

ผู้ใหญ่บ้านหยิบกระดาษพู่กัน จดอย่างจริงจัง รับประกันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าตนเองจะตรวจตราพวกชาวบ้านตามข้อเรียกร้องของนาง 

 

 

คุยเรื่องทุกอย่างเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวลุกขึ้นบอกลา ผู้ใหญ่บ้านรู้ว่านางจะไปบ้านจางจู้ ไม่ได้รั้งนางไว้ 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด