ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 159.3

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 159.3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
 บันดาลโทสะ

 

 

 

ภรรยาเมิ่งต้าจินพูดอย่างรู้สึกผิด “โยวเอ๋อร์ ขอโทษนะ เพราะป้าไม่ได้สั่งสอนเขาให้ดี ทำให้เจ้า”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดห้ามนาง “ป้าใหญ่ ไม่ต้องขอโทษ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นมองบุตรสาวตนเองอย่างร้าวระทมใจ ไม่พูดอะไร

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินออกมาจากในบ้าน มาหยุดตรงหน้าเมิ่งเหริน พูดราบเรียบ “พี่ใหญ่ ท่านโกรธแค้นที่ข้าบอกเรื่องของท่านกับคนในครอบครัว ทำให้ท่านเข้าสอบขุนนางไม่ได้ ข้าเข้าใจ แต่ท่านคิดบ้างหรือไม่ทำไมข้าต้องทำเช่นนี้ ท่านปู่และลุงใหญ่เหตุใดต้องเช่นนี้? เราต่างเป็นครอบครัวเดียวกัน หากท่านสอบได้ ข้าก็พลอยได้หน้าได้ตาไปด้วย การค้าในภายหน้าของข้าก็จะได้รับผลประโยชน์มหาศาล แต่ทำไมข้าต้องพาท่านกลับบ้านให้ได้ ท่านคุกเข่าอยู่ที่นี่แล้วคิดทบทวนให้ดี หากท่านคิดไม่ได้ ก็คุกเข่าตายอยู่ที่นี่ไปเถอะ”

 

 

พูดจบไม่แม้แต่จะบอกลาคนในบ้าน ก้าวอาดๆ ออกไปจากลานบ้าน

 

 

เมิ่งเสียนเห็นนางเดินออกไป ก็ไม่ได้บอกลาทุกคน ถลาตัวตามออกไป เร่งฝีเท้าจนตามเมิ่งเชี่ยนโยวทัน เดินกลับไปพร้อมนาง

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นลุกขึ้นยืน หันไปพูดกับสองผู้เฒ่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ข้ากลับก่อน”

 

 

พูดจบไม่รอให้ทั้งสองขานรับ ก็รีบเดินตามออกไป

 

 

เมิ่งต้าจินโมโหคว้าไม้กวาดอันหนึ่ง สาวเท้าเดินออกไป หวดเมิ่งเหรินที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้นไม่ยั้ง ทั้งร้องก่นด่า “เจ้าลูกจัญไร ไม่แยกแยะถูกผิดก็ลงมือ วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย”

 

 

แม้เมิ่งเหรินจะกระทำผิด แต่ก็เป็นหลานที่ตัวเองฟูมฟักมาแต่อ้อนแต่ออก เห็นเมิ่งต้าจินลงมืออย่างไม่ออมแรง หญิงชราเมิ่งปวดใจจนทนไม่ไหว รีบเดินออกไปข้างออก เข้าปกป้องเบื้องหน้าเมิ่งเหริน “เหรินเอ๋อร์ถูกลงโทษคุกเข่าแล้ว เจ้าไม่ต้องตีเขาแล้ว เขาเป็นคน ร่างกายอ่อนแอ หากเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร?”

 

 

เมิ่งต้าจินเห็นมารดาเข้ามาขวางตรงหน้า จำใจยอมรามือ

 

 

เมิ่งอี้มองทั้งหมดนี้เงียบๆ ไม่พูดอะไร

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินกลับมาถึงบ้านมีเมิ่งเสียนเดินตามติดมาด้วยเงียบๆ ตลอดทาง เดินเข้าไปในห้องตัวเอง

 

 

เมิ่งชื่อที่รออย่างกระสับกระส่ายในห้อง ได้ยินเสียงจากข้างนอก รีบเดินออกมา เจอเมิ่งเชี่ยนโยวเดินเข้ามาพอดี เผยอปากจะซักถาม เมิ่งเสียนหันไปโบกมือให้นาง เมิ่งชื่อถามอย่างไม่เข้าใจ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

 

 

เมิ่งเสียนไม่พูด

 

 

ต่อมาเมิ่งเอ้ออิ๋นก็เดินเข้ามา เมิ่งชื่อร้อนใจถามเขา “พ่อเอ๊ย เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นถอนหายใจ เดินเข้าไปในห้องตัวเอง

 

 

เมิ่งชื่อรีบเดินตามเข้าไป ว้าวุ่นใจถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นนั่งบนเก้าอี้ สูดลมหายใจเข้าลึก ถึงพูดเรื่องที่เมิ่งเหรินใช้เงินค่าแรงกว่าครึ่งปีของเมิ่งอี้ไปซื้อปิ่นปักผมให้คนที่เขาหมายปอง ทั้งยังปิดบังเรื่องที่ครอบครัวจัดพิธีหมั้นให้ รวมถึงเรื่องที่หลังจากเมิ่งจงจวี่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากเมิ่งเชี่ยนโยวก็โมโห ตำหนิสั่งสอนเขา เขากลับไม่สำนึกผิด เถียงเมิ่งต้าจินคอเป็นเอ็น ทำให้เมิ่งจงจวี่ยิ่งโกรธเกรี้ยว ไม่อนุญาตให้เขาเข้าร่วมการสอบขุนนางอีก

 

 

เมิ่งชื่อได้ยินก็ร้องอุทาน “ไม่อนุญาตให้เขาเข้าร่วมการสอบขุนนาง ท่านพ่อทำเช่นนี้เกินไปหรือไม่?”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นส่ายหน้า “ครั้งนี้เหรินเอ๋อร์ทำเกินเหตุไปจริงๆ ได้ยินโยวเอ๋อร์บอกว่า ตอนที่นางตำหนิเหรินเอ๋อร์ปิดบังคนในครอบครัวให้จัดพิธีหมั้นหมายให้เขา เหรินเอ๋อร์กลับพูดว่าผู้ชายมีภรรยามากเป็นเรื่องปกติธรรมดา ท่านพ่อถึงได้บันดาลโทสะ ตัดสินใจไม่ให้เขาเข้าสอบขุนนาง”

 

 

เมิ่งชื่อถลึงตาโต “เหรินเอ๋อร์พูดเช่นนั้น?”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นพยักหน้า

 

 

เมิ่งชื่อพูดว่า “ถึงว่าท่านพ่อห้ามไม่ให้เขาเข้าสอบขุนนาง เด็กคนนี้ทำเกินไปแล้ว ตอนนี้แม้แต่ตำแหน่งซิ่วไฉยังไม่มี ก็คิดจะมีหลายภรรยาแล้ว หากได้สลักชื่อบนป้ายทอง จะไม่ยิ่งกระทำเรื่องเกินกว่านี้หรือ”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นพยักหน้า “ท่านพ่อก็คงจะคิดเช่นนี้ ถึงยอมตัดสินใจเด็ดขาดแบบนี้ ไม่คิดว่าเหรินเอ๋อร์กลับโยนความผิดทั้งหมดมาที่โยวเอ๋อร์ บอกว่าโยวเอ๋อร์ทำให้เขาหมดอนาคต ตอนที่เขาจะโหม่งศีรษะเข้าหามุมโต๊ะฆ่าตัวตายถูกโยวเอ๋อร์ดึงรั้งเอาไว้ จึงหันกลับมาตบหน้าโยวเอ๋อร์”

 

 

เมิ่งชื่อได้ฟังถลึงตัวลุกขึ้น ร้องเสียงหลง “หันมาตบหน้าโยวเอ๋อร์ ตัวเองทำผิดเองยังจะตำหนิโทษคนอื่น เขามีสิทธิ์อะไร?”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นพูดเกลี้ยกล่อม “ท่านพ่อลงโทษให้เขาคุกเข่าแล้ว เจ้าอย่าโมโหเลย”

 

 

เมิ่งชื่อพูดอย่างเคืองแค้น “แค่คุกเข่าก็พอหรือ คนไม่รู้จักสำนึกอย่างเขาสมควรตีสั่งสอนให้เข็ดหลาบ”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นพูดว่า “อย่างไร เขาก็ยังเป็นเด็ก โยวเอ๋อร์ยังไม่คิดหยุมหยิมกับเขา เจ้าเลิกโมโหได้แล้ว”

 

 

เมิ่งชื่อระงับสติอารมณ์ แล้วเดินออกไปข้างนอก พูดว่า “ข้าจะไปดูว่าโยวเอ๋อร์เป็นอย่างไร”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นไม่ห้ามปราบ

 

 

เมิ่งชื่อเดินมาเคาะประตูห้องเมิ่งเชี่ยนโยว พูดขึ้น “โยวเอ๋อร์ แม่เอง เจ้าเปิดประตู ให้แม่ดูว่าหน้าเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

น้ำเสียงหน่ายแหนงของเมิ่งเชี่ยนโยวดังลอยออกมา “ท่านแม่ ใบหน้าข้าไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็หายแล้ว ข้านอนแล้ว ท่านก็รีบนอนเถอะ”

 

 

เมิ่งชื่อรู้ว่าเมิ่งเชี่ยนโยวไม่อยากเปิดประตู จำต้องกลับมาที่ห้องตัวเอง

 

 

พอสองสามีภรรยาเมิ่งเข้าไปในห้อง เมิ่งเสียนก็กลับเข้าห้องตัวเอง นั่งบนเก้าอี้ไม่พูดไม่จา

 

 

เมิ่งอี้เซวียนถามเสียงแผ่ว “พี่ใหญ่ เรื่องพี่เมิ่งเหรินจัดการยากหรือ?”

 

 

เมิ่งเสียนมองเขา ริมฝีปากสั่นไหว กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

 

เมิ่งอี้เซวียนมองเขาเงียบๆ

 

 

เมิ่งเสียนถอนใจเบาๆ พูดว่า “อี้เซวียน โยวเอ๋อร์ถูกตบหน้า เจ้าไปดูหน่อยเถอะ”

 

 

เมิ่งอี้เซวียนอารามตกใจลุกพรวด เดินมาหน้าห้องเมิ่งเชี่ยนโยว เคาะประตูเบาๆ สองสามครั้ง

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวนึกว่าเป็นเมิ่งชื่อ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ “ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไรจริงๆ ท่านไปพักผ่อนเถอะ”

 

 

เมิ่งอี้เซวียนเม้มริมฝีปากพูดว่า “ข้าเอง”

 

 

ด้านในไม่มีเสียง

 

 

“เจ้าเปิดประตูเดี๋ยวนี้ ข้าจะดูว่าบาดแผลที่ใบหน้าเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เมิ่งอี้เซวียนพูด

 

 

น้ำเสียงระอาของเมิ่งเชี่ยนโยวดังลอยมา “ไม่เกี่ยวกับเจ้า รีบไปนอน พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนเรียนหนังสือ”

 

 

เมิ่งเหรินไม่ขยับ พูดว่า “เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ข้าเห็นใบหน้าเจ้าไม่เป็นอะไรข้าถึงจะกลับไปนอน”

 

 

ด้านในยังคงไม่มีความเคลื่อนไหว

 

 

เมิ่งอี้เซวียนข่มขู่นาง “หากเจ้าไม่เปิดประตู วันนี้ข้าจะยืนอยู่หน้าห้องเจ้าทั้งคืน”

 

 

น้ำเสียงฉุนเฉียวของเมิ่งเชี่ยนโยวดังลอยมา “เจ้าอยากยืนก็ยืนไป เหนื่อยตายข้าจะสมน้ำหน้าให้”

 

 

เมิ่งอี้เซวียนเม้มริมฝีปากอีกครั้ง รวบรวมความกล้า เตะประตูห้องหลายครั้ง พูดว่า “เปิดประตู”

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นและเมิ่งชื่อได้ยินเสียงเอะอะสะดุ้งตกใจ รีบเดินออกมา เห็นเมิ่งอี้เซวียนกำลังเตะประตู เมิ่งชื่อรีบเข้าไปห้ามเขา “อี้เซวียน โยวเอ๋อร์อารมณ์ไม่ดี เจ้าอย่าเพิ่งรบกวนนางเลย”

 

 

เมิ่งอี้เซวียนพูดเสียงเบา “ท่านแม่ โยวเอ๋อร์มีเรื่องในใจควรจะระบายออกมา ไม่เช่นนั้นจะล้มป่วยเอาได้”

 

 

เมิ่งชื่อพูดอย่างลำบากใจ “แต่นิสัยโยวเอ๋อร์เจ้าก็รู้ดี หากว่านาง” พูดยังไม่ทันจบ ประตูห้องเมิ่งเชี่ยนโยวก็เปิดออก

 

 

เมิ่งชื่อสะดุ้งโหยง พูดทันควัน “โยวเอ๋อร์”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกลับคว้าคอเสื้อเมิ่งอี้เซวียน พูดอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้าอยากถูกอัดใช่ไหม? ไม่บอกให้เร็วกว่านี้” พูดจบ ยกตัวเขาเดินออกไปด้านนอก

 

 

เมิ่งชื่อร้อนใจ รีบเดินตามหลังไปพูดโน้มน้าว “โยวเอ๋อร์ อย่าเพิ่งโมโห อี้เซวียนหวังดีกับเจ้า กลัวเจ้าเอาแต่เก็บเรื่องทุกอย่างไว้ในใจแล้วจะป่วยเอาได้ เจ้าอย่าได้ลงมือลงไม้กับเขาเด็ดขาด”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวชักสีหน้าเข้มไม่พูดอะไร กระชากเมิ่งอี้เซวียนเดินไปลานใหญ่

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นก็ตกใจไม่น้อย รีบเดินไปขวางหน้าเมิ่งเชี่ยนโยว ถามว่า “โยวเอ๋อร์ เจ้าจะทำอะไร? ปล่อยอี้เซวียนเดี๋ยวนี้”

 

 

เมิ่งอี้เซวียนส่งรอยยิ้มปลอบใจพวกเขาอย่างน่าเวทนา พูดว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วง โยวเอ๋อร์ไม่ทำอะไรข้าดอก”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกลับพูดอย่างเกรี้ยวกราด “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านไม่ต้องยุ่ง วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าเด็กไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้ให้รู้สำนึกให้ได้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด