ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 212 การเข่นฆ่าครั้งใหญ่

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 212 การเข่นฆ่าครั้งใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลานเรือนของเปาชิงเหอเงียบสงบเกินไป ราวกับไม่มีคนอาศัยอยู่ หัวหน้าชายชุดดำรู้สึกผิดปกติ ยกมือห้ามคนทั้งหมดเดินขึ้นหน้า

 

 

ชายชุดดำด้านหลังไม่เข้าใจ ถามด้วยน้ำเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน “พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้น?”

 

 

หัวหน้าชายชุดดำก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเช่นเดียวกัน “ลานเรือนเงียบสงัดเกินไป ข้ารู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ”

 

 

“คนถูกพวกเราวางยาหมดแล้ว จะไม่เงียบสงัดได้อย่างไร?” ชายชุดดำที่ซักถามตอบกลับ

 

 

หัวหน้าชายชุดดำยังคงรู้สึกผิดปกติ “เช่นนั้นชิวผิงเล่า? พวกเรานัดเวลาลงมือกับชิวผิงไว้แล้ว เหตุใดถึงไม่เห็นนางมารับหน้าพวกเรา?”

 

 

“ชิวผิงอาจจะเพื่อไม่ให้พวกเขาเกิดความสงสัยจึงกินอาหารที่วางยาลงไปด้วยก็เป็นได้ พี่ใหญ่ มาถึงขั้นนี้แล้ว อย่าลังเลอีกเลย รีบลงมือเถอะ หากชักช้าฟ้าจะสางแล้ว” ชายชุดดำที่ซักถามพูดเตือน

 

 

หัวหน้าชายชุดดำสำรวจโดยรอบอย่างละเอียด พบว่าไม่มีข้อพิรุธใด จึงขจัดความสงสัยกังวลออกไป ส่งสัญญาณให้ชายชุดดำทั้งหมดเดินขึ้นหน้า

 

 

คนทั้งหมดรับคำสั่ง ใช้เท้าถีบประตูห้องเปาชิงเหอออก ชูดาบขึ้นพุ่งตรงมาข้างเตียงแล้วฟันฉับไม่ยั้ง

 

 

คนบนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด

 

 

หัวหน้าชายชุดดำรู้สึกผิดปกติ สั่งห้ามคนทั้งหมด เดินขึ้นหน้าเลิกผ้าห่มออก พบว่าใต้ผ้าห่มไม่มีคน ร้องอุทานลั่น “แย่แล้ว รีบหนี!”

 

 

ชายชุดดำจำนวนหนึ่งพุ่งทะลวงออกไป ขณะที่กำลังม้วนตัวลอยค้างกลางอากาศ เสียงของเปาชิงเหอก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ “เหล่าสหาย เมื่อมาถึงแล้ว ก็จงอย่าเพิ่งไป พวกเรามานั่งคุยกันก่อน”

 

 

ชายชุดดำตกใจขวัญหนีดีฝ่อ ชูมีดดาบมองไปรอบทิศ กลับไม่เห็นเงาร่างของเปาชิงเหอ

 

 

หัวหน้าชายชุดดำส่งเสียงคำราม “เปาชิงเหอ เจ้าเลิกแกล้งเป็นผีหลอกคนได้แล้ว รีบออกมารับความตายซะ”

 

 

ในลานเรือนพลันสว่างไสว เปาชิงเหอยืนหน้าประตูเรือนด้วยใบหน้าเ**้ยมเกรียม ด้านหลังมีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง

 

 

ชายชุดดำทั้งหมดหันหน้ามองกัน ไม่พูดไม่จา ชูดาบขึ้นแล้วพุ่งตรงเข้าหาเปาชิงเหอ แววตาชัดแจ้งว่าต้องการชีวิตเขา

 

 

เจ้าหน้าที่ด้านหลังเปาชิงเหอเดินขึ้นหน้า ชูดาบขึ้นขวางคนทั้งหมดไว้

 

 

เหล่าชายชุดดำหาได้เห็นเจ้าหน้าที่อยู่ในสายตาไม่ ลงมือไม่ยั้งอย่างรุนแรงเ**้ยมโหด คิดว่าในสองกระบวนท่าก็จะจัดการพวกเขาได้ ไม่คิดว่าผ่านไปห้าหกกระบวนท่าแล้ว ไม่เพียงไม่ทำให้เจ้าหน้าที่ล่าถอยไปได้ ตนเองยังถูกบีบให้ต้องถอยออกห่างจากเปาชิงเหอ

 

 

ในที่สุดหัวหน้าชายชุดดำก็รับรู้ถึงความผิดปกติ หลังจากถูกบีบให้ถอยร่นอีกครั้ง ก็ร้องเสียงลั่นว่า “พวกเจ้าหาใช่เจ้าหน้าที่ทางการไม่ พวกเจ้าคือองครักษ์หลวง!”

 

 

เหล่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่พูดอะไร เข้าโรมรันโจมตีพวกเขาต่อ

 

 

ชายชุดดำได้ยินหัวหน้าชายชุดดำร้องตะโกน เกิดความขลาดกลัว ก้าวเท้าถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว คนทั้งหมดค่อยๆ ถูกล้อมจนแผ่นหลังชนกัน ต่างชูดาบขึ้นอย่างสั่นประหม่าเผชิญหน้าเหล่าเจ้าหน้าที่

 

 

เปาชิงเหอเดินขึ้นหน้าช้าๆ พูดเสียงเ**้ยม “พูดมา ใครส่งพวกเจ้ามา หากพวกเจ้าสารภาพตามจริง ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า!”

 

 

หัวหน้าชายชุดดำสบถ “ถุย” “เปาชิงเหอ เราต่างก็ทำงานรับใช้คนอื่น วันนี้ไม่ใช่เจ้าตายก็ข้าอยู่ อย่าคิดเอาคำพูดหลอกล่อคนร้ายมาใช้กับพวกเรา”

 

 

เปาชิงเหอหัวเราะเยาะหยัน “พวกเจ้าคิดผิดแล้ว หากพวกเจ้าไม่ตอบว่าใครส่งพวกเจ้ามา เกรงว่าจะต้องอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น”

 

 

ชายชุดดำหาได้หวาดหวั่นไม่ พูดโต้กลับ “เจ้าอย่าได้ดีใจเร็วเกินไป พวกเราพี่น้องมากันไม่น้อย แค่องครักษ์หลวงไม่กี่คนนี้ จะทำอะไรพวกเราได้”

 

 

สิ้นเสียงเขา เสียงเปาอีฝานก็เปล่งดังขึ้น “เจ้าหมายถึงพวกเขาไม่กี่คนนี่ใช่หรือไม่?” พูดจบ มีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งคุมตัวชายชุดดำหกเจ็ดคนเข้ามาในสภาพทุเรศทุรัง เดินหน้าซีดคอตกเข้ามา

 

 

หัวหน้าชายชุดดำถามอย่างไม่อยากเชื่อ “เหตุใดพวกเจ้าถึงถูกจับกุมได้เร็วเช่นนี้?”

 

 

ชายชุดดำทั้งหมดไม่ตอบ เปาอีฝานบอกพวกเขาอย่างหวังดี “พวกเขาหมายจะฆ่าตัวตาย ถูกพวกเราชักคางออก”

 

 

หัวหน้าชายชุดดำตื่นตกใจ คนที่มาวันนี้ล้วนมีวรยุทธ์สูง กลับถูกพวกเขาจับกุมได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ที่พวกเขาเผชิญหน้าอยู่นี้ก็ยิ่งไร้ซึ่งความหวังแล้ว ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว พูดเสียงดังลั่น “พี่น้องทั้งหลาย อย่างไรก็ต้องตาย จงสู้กับพวกเขาให้ถึงที่สุด”

 

 

ชายชุดดำได้รับการฝึกฝนเฉพาะมา รู้ว่าเมื่อตกอยู่ในมือศัตรูจะมีจุดจบที่น่าสังเวชเพียงใด ได้ฟังดังนั้นก็กำดาบในมือแน่น เข้าโรมรันกับเหล่าเจ้าหน้าที่ สู้ยิบตาไม่ถอย

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยืนมองชายชุดดำและเจ้าหน้าที่ฟาดฟันกันด้านหลัง เห็นแต่ละดาบของเจ้าหน้าที่ประหัตถ์ประหารฟาดฟัน มิใช่แสดงท่าทางล่อหลอก บีบจนชายชุดดำไม่อาจโต้กลับ หรี่หลุบนัยต์ตาลง

 

 

ทั้งสิบกว่าคนฟาดฟันกันไปมา กระทั่งชายชุดดำทั้งหมดถูกจับกุม และถูกชักคางออกอย่างไม่มีใครรอดพ้น

 

 

เจ้าหน้าที่กุมตัวคนทั้งหมดมาเบื้องหน้าเปาชิงเหอ

 

 

เปาชิงเหอตวาดถามอีกครั้ง “พูดมา ใครส่งพวกเจ้ามา?”

 

 

ไม่มีใครขานตอบ

 

 

เปาอีฝานก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ชักดาบแล้วเก็บดาบ ศีรษะของชายชุดดำคนหนึ่งร่วงตกลงมา

 

 

เป็นครั้งแรกที่เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นท่าทีอำมหิตที่แท้จริงของเขา ยิ่งให้ทวีความคลางแคลงในใจ

 

 

ชายชุดดำเห็นศีรษะของสหายร่วงสู่พื้น ต่างสั่นเทิ้มโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยังไม่มีใครเอ่ยปาก

 

 

เหล่าเจ้าหน้าที่คล้ายว่าจะเห็นจนคุ้นชินแล้ว ไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่ขนคิ้ว

 

 

เปาอีฝานเปล่งเสียงดั่งพญายมราชจากแดนอเวจี “ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง ใครที่ส่งพวกเจ้ามา?”

 

 

ยังคงไม่มีใครขานตอบ

 

 

เปาอีฝานบันดาลโทสะ สะบัดดาบสังหารไปอีกสองคน คราบเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว

 

 

ชายชุดดำเห็นสหายของตัวเองถูกฆ่า เริ่มมีบางคนออกอาการสั่นผวา ทว่ากลับยังคงไม่เอ่ยปากพูด

 

 

เปาอีฝานถือดาบที่มีเลือดไหลหยดเดินวนรอบชายชุดดำที่ถูกควบคุมตัว แล้วหยุดลงตรงหน้าหัวหน้าชายชุดดำ เค้นเสียงถาม “ใครส่งเจ้ามา?”

 

 

ชายชุดดำไม่ตอบ

 

 

เปาอีฝานชักดาบแล้วเก็บดาบ ตัดแขนข้างหนึ่งของเขาทิ้ง

 

 

ชายชุดดำถูกชักคางออก เปล่งเสียงร้องโหยหวนไม่ได้ ทำได้เพียงกุมแขนที่ถูกตัดร้องอู้อี้กลิ้งไปมา

 

 

เปาอีฝานทำราวกับมองไม่เห็น คล้ายว่าจะเลือดขึ้นตา สูญสิ้นสติสัมปชัญญะแล้ว ยกดาบตวาดถามชายชุดดำอีกคน “จะพูดไม่พูด?”

 

 

ชายชุดดำยังไม่ทันสนองตอบ เปาอีฝานจึงฟันฉับไปที่ขาข้างหนึ่งของเขา

 

 

ร้องอู้อี้กลิ้งไปมากับพื้นอีกคน

 

 

แม้ชายชุดดำจะเ**้ยมโหด แต่ไม่เคยได้เห็นสหายของตัวเองถูกตัดแขนตัดขากับตาเช่นนี้มาก่อน พลันสติแตกขวัญกระเจิง ร่างกายสั่นระริกราวกับกระชอน

 

 

ตอนที่เปาอีฝานยกดาบขึ้นตวาดถามอีกครั้ง ในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหวแล้ว ร้องอู้อี้ส่งสัญญาณว่าตัวเองจะพูด

 

 

เจ้าหน้าที่นายหนึ่งเดินขึ้นหน้า ล้วงหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในฟันพวกเขา แล้วงับปากของเขาลง ชายชุดดำคนนี้ถึงพูดเสียงสั่นว่า “ข้าพูดๆ”

 

 

เปาอีฝานใช้นิ้วชี้ปลายจมูกเขา พูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “หากเจ้ากล้าพูดปดแม้เพียงครึ่งคำ ข้าจะตัดหูตัดแขนขาเจ้าทิ้ง”

 

 

ชายชุดดำยิ่งให้สั่นผวา พูดว่า “ข้าพูด ข้าจะพูดตามจริง”

 

 

เปาชิงเหอเอ่ยปาก “พูดมา ใครส่งพวกเจ้ามา การปฏิบัติการในวันนี้ของพวกเจ้าคืออะไร เหตุใดต้องทำเช่นนี้?”

 

 

ชายชุดดำมองมีดดาบในระยะสายตาแวบหนึ่ง พูดเสียงสั่น “พวกเราถูกพระชายารองของท่านอ๋องฉีส่งตัวมา…”

 

 

ได้ยินเขาเอ่ยถึงอ๋องฉี เมิ่งเชี่ยนโยวพลันยืดตัวตั้งตรง ตั้งใจฟังที่เขาจะพูดต่อมา

 

 

ชายชุดดำพูดต่อ “พระชายารองของพวกเรารู้ว่านายท่านที่ชักใยเบื้องหลังพวกท่านเป็นใคร หลายปีก่อนหลังจากที่รู้ว่าพวกท่านมาที่ตำบลด้วยเหตุผลใด จึงส่งชิวผิงมาซุ่มซ่อนข้างกายพวกท่าน คิดว่าสักวันหากพวกท่านพบคนแล้ว นางจะได้ส่งคนมาขัดขวาง แต่หลายปีผ่านไป พวกท่านกลับไม่มีความเคลื่อนไหว พระชายารองคิดว่าบัดนี้คนผู้นั้นคงไม่ปรากฏตัวแล้ว ไม่คิดว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน จู่ๆ ตำบลชิงซีก็มีคนถือแผ่นหยกมาขอขึ้นเงิน พระชายารองอกสั่นขวัญหาย รีบส่งคนมาสืบข่าวในตำบลชิงซี เวลาล่วงเลยผ่านไป พวกเขาไม่เพียงไม่ส่งข่าวใดๆ กลับมา แม้แต่คนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย พระชายารองสงสัยว่าพวกเขาคงจะพบเบาะแสเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นแล้ว ถูกพวกท่านพบเข้า ส่งคนออกตามฆ่า และเพราะกลัวว่าพวกท่านหาคนผู้นั้นพบ ส่งตัวเขากลับมา จะกีดขวางการขึ้นเป็นองค์ชายของคุณชายใหญ่ของพวกเรา พระชายารองจึงสั่งพวกเรามาอำเภอชิงเหอฆ่าพวกท่านทิ้ง ตัดขาดการติดต่อของพวกท่านกับทางเมืองหลวง เช่นนี้ก็จะไม่มีใครตามหาคนผู้นั้นได้เร็วกว่าพวกเรา”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวลอบพรึงเพริดในใจ ไม่คิดว่าการใช้แผ่นหยกแลกเงินมาเพียงครั้งเดียวของตัวเอง จะก่อเรื่องราวมากมายเช่นนี้ขึ้น แม้แต่ครอบครัวเปาชิงเหอก็เกือบถูกฆ่ายกครัว มิน่าเล่าเหวินซื่อถึงโมโหมาตำหนินางถึงบ้าน

 

 

เปาชิงเหอฟังจบขมวดคิ้วมุ่น ถามเสียงเข้ม “เช่นนั้นเหตุใดพวกเจ้าถึงไม่ลงมือโดยตรง กลับวางยาฮูหยินของข้าก่อน”

 

 

ชายชุดดำตอบกลับ “อย่างไรท่านก็เป็นคนของราชสำนัก อยู่ๆ มาถูกฆ่าตายอย่างไรสาเหตุ เบื้องบนจักต้องส่งคนมาตรวจสอบ หากสืบสาวราวเรื่องมาถึงนางจะยุ่งยาก ดังนั้นนางจึงให้พวกเราหาโอกาสเหมาะ ทั้งฆ่าพวกท่านได้ และไม่ให้คนอื่นสงสัยได้ พวกเราขบคิดกันอยู่เป็นนาน ถึงคิดวิธีนี้ได้ โดยให้ชิวผิงวางยาพิษฮูหยินเปา เมื่อนางเริ่มรู้สึกสุขภาพไม่แข็งแรงจักต้องขอร้องให้คุณชายเปาแต่งงานโดยไว พวกเราก็จะลงมือในคืนวันแต่งงาน หลังจากฆ่าพวกท่านแล้ว จะสร้างสถานการณ์เป็นโจรป่าบุกเข้ามาปล้นสดม ให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าพวกเขาละโมบในทรัพย์สินของพวกท่านถึงฆ่าพวกท่านทั้งครอบครัว”

 

 

“เจ้ายังมีอะไรไม่ได้พูดอีก?” เปาชิงเหอถามเสียงเ**้ยม

 

 

ชายชุดดำส่ายหน้า “ไม่มีแล้ว ที่ข้ารู้ก็มีเท่านี้ บอกกับพวกท่านไปหมดแล้ว”

 

 

ดาบเล่มใหญ่ของเปาอีฝานเข้าใกล้ห่างเพียงหนึ่งนิ้ว ตวาดถาม “มีเพียงเท่านี้จริงๆ?”

 

 

ชายชุดดำหวาดผวาตัวสั่น ร้องพูดเสียงหลง “มีเพียงเท่านี้จริงๆ”

 

 

เปาอีฝานมองดูชายชุดดำสิบกว่าคนแวบหนึ่ง ร้องถาม “พวกเจ้ายังมีใครจะพูดอีก หากพูดออกมาข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”

 

 

ชายชุดดำส่ายหน้า

 

 

เปาชิงเหอพ่นออกมาเพียงพยางค์เดียว “ฆ่า!”

 

 

สิ้นเสียง ดาบในมือเจ้าหน้าที่ตัดฉับ ชายชุดดำไม่มีแม้แต่เสียงหวีดร้อง ก็หมดลมสิ้นลมหายใจ แม้แต่ชายชุดดำที่ถูกตัดแขนตัดขาก็ไม่ละเว้น

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมองดูฝีมือการฆ่าคนอย่างเฉียบไวของเหล่าเจ้าหน้าที่ เกิดความกังขา กลับมิได้เอื้อนเอ่ยถาม ยืนนิ่งสงบอยู่ด้านข้างมองดูทุกสิ่งทุกอย่างนี้

 

 

เจ้าหน้าที่นายหนึ่งเห็นเด็กสาวตัวน้อยอย่างนางเห็นภาพน่าสยดสยองนี้ ไม่เพียงไม่กรีดร้อง กลับมองพวกเขาได้อย่างสงบนิ่ง เผยแววตาชื่นชมยกย่อง

 

 

เปาอีฝานมองดูศพและเลือดสดๆ เต็มลานเรือน แววอำมหิตเ**้ยมโหดเลือนหายไป กลับคืนสู่สภาพปกติดังเดิม

 

 

หลังจากฆ่าคนเสร็จ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดราวกับได้รับการฝึกฝนมา นำถุงกระสอบที่เตรียมไว้บรรจุศพละถุง ทั้งล้างคราบเลือดบนพื้นจนสะอาดเอี่ยมถึงพูดกับเปาชิงเหอว่า “ท่านใต้เท้าเปา พวกเราขอตัวลา”

 

 

เปาชิงเหอพยักหน้า “ลำบากทุกท่านแล้ว ประเดี๋ยวข้าจะไปเขียนจดหมายถึงนายท่าน บอกเรื่องในวันนี้ทั้งหมด ให้เขาเตรียมการรับมือ ศพพวกนี้รบกวนพวกท่านจัดการด้วย”

 

 

เจ้าหน้าที่ทั้งหมดพยักหน้า ถอดชุดเจ้าหน้าที่บนตัวออก จากนั้นแบกถุงกระสอบคนละใบอย่างเบาสบาย จากไปใต้ความมืดแห่งรัตติกาลอย่างเงียบสงัด

 

 

เปาอีฝานทำราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เดินมาตรงหน้าเมิ่งเชี่ยนโยว ยกยิ้มถาม “ทำเจ้าตกใจหรือไม่?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกรอกตาขาวใส่ ถามขึ้น “ข้าบอกว่าตกใจ ท่านจะเชื่อหรือไม่?”

 

 

เปาอีฝานหัวเราะเสียงต่ำ “ย่อมไม่เชื่อ ตอนเจ้าฆ่าคนโหดกว่าข้าอีก เจ้าตกใจก็แปลกแล้ว”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวแสร้งแสดงท่าทีกระหยิ่มใจ “คุณชายเปา ท่านกำลังชมเชยข้าหรือ? ข้าดีใจนัก”

 

 

เปาอีฝานเก็บคืนสีหน้า จริงจังถาม “อยากรู้หรือไม่ว่านายของข้าเป็นใคร?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวส่ายหน้า “ยิ่งรู้มาก ยิ่งตายเร็ว ข้าเป็นเพียงเด็กบ้านนอกธรรมดาคนหนึ่ง เรื่องน่าสะพรึงพวกนี้ไม่รู้จะเป็นการดีกว่า”

 

 

เปาอีฝานหัวเราะเสียงต่ำอีกครั้ง “หากคำพูดนี้ของเจ้าเล็ดลอดออกไป เกรงจะทำให้คนทั้งหมดหัวเราะฟันร่วงหมดปาก”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่อ่อนข้อให้ “รวมถึงท่านด้วยหรือไม่? โชคดีที่ท่านพี่ซุนยังไม่ร่วมห้องหอกับท่าน วันพรุ่งข้าจะเกลี้ยกล่อมให้นางแต่งงานใหม่”

 

 

เปาอีฝานสะอึกกึก

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะเสียงต่ำ หันหลังโบกมือ “พรุ่งนี้ยังต้องถอนพิษให้ท่านป้าเปา ข้าไปนอนก่อนล่ะ”

 

 

เปาชิงเหอเห็นแผ่นหลังนางจากไป ถอนใจแผ่ว “ถึงว่านายท่านบอกว่านางเป็นเด็กสาวที่ไม่เหมือนใคร สมคำเล่าลือนัก”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด