ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 215-2 โสมคนช่วยชีวิต

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 215-2 โสมคนช่วยชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมิ่งเชี่ยนโยวเองก็ลุกขึ้นด้วย พูดกับหลี่ตุนว่า “เจ้ายังไม่ต้องกลับไป อยู่บ้านดูแลแม่เสียสองสามวัน หากต้องการอะไร ก็ให้คนไปส่งข่าวบอกข้า” 

 

 

หลี่ตุนดีใจออกนอกหน้า กล่าวขอบคุณไม่หยุด “ขอบคุณนายหญิง ขอบคุณนายหญิง” 

 

 

หลี่ตุนและสะใภ้จูอู่ออกมาส่งเมิ่งเชี่ยนโยวและหมออย่างอ่อนน้อม 

 

 

กลุ่มคนด้านนอกเห็นเมิ่งเชี่ยนโยวออกมา ก็ให้ซุบซิบเซ็งแซ่อีกครั้ง 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวทำเป็นไม่ได้ยิน เดินพ้นประตูออกมา หลังจากกล่าวลาหมออย่างมีมารยาท ก็ก้าวขึ้นรถม้า สั่งเหวินเปียวให้กลับบ้าน 

 

 

กลุ่มคนด้านนอกเห็นรถม้าไปไกลแล้ว ก็เฮโลเข้ามาในบ้าน แย่งกันเข้าไปดูโสมคน 

 

 

ถนนในหมู่บ้านขรุขระ เหวินเปียวจึงบังคับรถม้าให้ช้าลง อย่างไรก็ไม่มีธุระด่วนอันใด เมิ่งเชี่ยนโยวก็มิได้เร่งเร้าเขา นั่งรถม้าเดินทางกลับอย่างเอ้อระเหย เพิ่งจะออกจากหมู่บ้านซุนมา มีคนวิ่งเข้ามาจากฝั่งตรงข้าม เห็นรถม้ารีบร้องตะโกนเสียงลั่น “นายหญิง!” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวได้ยินเสียงตะโกน เปิดม่านบังรถ คนที่ปะทะเข้ามาในสายตาก็คือจางมู่ ร้องตะโกนถาม “มีเรื่องอันใด?” 

 

 

จางมู่ด้านหนึ่งเร่งฝีเท้าเดินเข้าหารถม้า อีกด้านหายใจหอบร้องตอบเสียงลั่น “มีลูกค้ารายใหญ่มาที่บ้าน ต้องการจะซื้อมันฝรั่งจำนวนหนึ่ง นายท่านตัดสินใจไม่ได้ ให้ข้ามาตามท่านให้รีบกลับไปขอรับ” พูดจบ คนก็วิ่งมาถึงหน้ารถม้าแล้ว 

 

 

“ขึ้นมาเถอะ กลับไปด้วยกัน” เมิ่งเชี่ยนโยวสั่งเขา 

 

 

จางมู่ไม่รอให้รถม้าจอดสนิท กระโดดตัวลอย นั่งบนคานม้าด้านหน้า 

 

 

เหวินเปียวสะบัดบังเ**ยน บังคับรถม้าให้เร็วขึ้น ไม่นานเท่าไรก็กลับมาถึงโรงงาน 

 

 

ด้านหน้าโรงงานมีรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ ข้างรถม้า เมิ่งเอ้ออิ๋นกำลังอยู่คุยกับชายคนหนึ่งที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตัวเอง พอเห็นรถม้ากลับมา ก็พูดกับชายคนนั้นว่า “บุตรสาวข้ากลับมาแล้ว เรื่องมันฝรั่งท่านพูดกับนางเองเถอะ” 

 

 

เหวินเปียวจอดรถม้าสนิท เมิ่งเชี่ยนโยวลงจากรถม้า 

 

 

ชายคนนั้นเห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบสองสิบสามปี ก็ให้ชะงักงันเล็กน้อย 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินไปตรงหน้าทั้งสองคน เมิ่งเอ้ออิ๋นพูดว่า “โยวเอ๋อร์ นี่คือเถ้าแก่หวัง ได้ยินคนพูดว่าบ้านพวกเราปลูกมันฝรั่ง ตั้งใจจะเข้ามาซื้อกลับไปจำนวนหนึ่ง” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้าให้เถ้าแก่หวัง  

 

 

หลังจากชะงักอึ้ง เถ้าแก่หวังก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ ยกยิ้มพูด “ข้าคือหวังป๋ายเฉียนแห่งอำเภอชิงหยาง ครอบครัวทำการค้าพืชผักสด มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าหลิวหลงจู๊แห่งเหลาจวี้เสียนดี ฤดูหนาวปีที่แล้วหลังจากข้าได้กินมันฝรั่งที่เหลาจวี้เสียน ก็ถามเขาว่าได้มาจากที่ไหน อยากจะได้กลับไปขายบ้าง เขาบอกข้าว่าคนขายมันฝรั่งบอกว่า มันฝรั่งทั้งหมดมีเพียงเท่านี้ ต่อให้เขาบอกข้าว่าใครเป็นคนขายก็ไม่มีประโยชน์ ในตอนนั้นข้าจึงล้มเลิกความคิดนั้นไป วันนี้ข้ามีธุระมาที่เหลาจวี้เสียน บังเอิญได้เห็นรถม้าหลายคันจออยู่หน้าประตูเหลาจวี้เสียน หลังจากถามไถ่ถึงได้รู้ว่า ที่แท้เป็นรถม้าของเหลาจวี้เสียนแต่ละสาขาเข้ามาซื้อมันฝรั่ง ข้าจึงให้เขาบอกข้าว่าซื้อมันฝรั่งได้จากที่ไหน เขาบอกที่อยู่ของแม่นางแก่ข้า ข้าสอบถามจนมาถึงที่นี่ หวังว่าแม่นางจะเห็นแก่เหลาหลิว ขายมันฝรั่งให้ข้าบ้าง ให้เพียงเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวได้ฟังยิ้มกริ่ม “เมื่อท่านและหลงจู๊หลิวเป็นสหายกัน ข้าย่อมต้องเห็นแก่เขาอยู่แล้ว เอาเช่นนี้เถิด ท่านตามข้าเข้ามาดูในโกดังก่อน ดูว่าท่านต้องการเท่าใด” 

 

 

เถ้าแก่หวังไม่คิดว่านางจะตอบทันควันเช่นนี้ ให้ปิติยินดี 

 

 

อู๋ต้าเปิดประตูใหญ่โรงงาน เมิ่งเอ้ออิ๋นเดินนำหน้า พาเถ้าแก่หวังเข้ามาในโรงงาน 

 

 

เถ้าแก่หวังไม่คิดว่าด้านในจะมีโรงอาคารที่หน้าตาเหมือนกันหลายอาคารเช่นนี้ มองพินิจไปโดยรอบ แล้วกล่าวชื่นชม “ข้าไม่เคยเห็นโรงงานที่เป็นระบบระเบียบเช่นนี้มาก่อน” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “ครอบครัวข้าทำการค้าหลายอย่าง ต้องการโรงงานแตกต่างกัน ข้าก็เลยปลูกพวกมันให้อยู่ด้วยกัน หนึ่งจะได้ดูแลง่าย สองแต่ละโรงงานมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้” 

 

 

เมิ่งเอ้ออิ๋นพาเถ้าแก่หวังมาหน้าโกดังหนึ่ง เปิดประตูออก ด้านในโกดังมีมันฝรั่งกองกินพื้นที่กว่าครึ่งของโกดัง ปรากฏเด่นชัดเบื้องหน้าเถ้าแก่หวัง 

 

 

เถ้าแก่หวังแสดงอาการดีใจ พูดด้วยความตื่นเต้น “ข้าต้องการมันฝรั่งทั้งหมดนี้ แม่นางพูดราคามาเถิด” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดว่า “เหลาจวี้เสียนมาซื้อมันฝรั่งไปก็ไม่น้อย ข้าให้พวกเขาจินละครึ่งตำลึง ในเมื่อท่านและหลงจู๊สนิทสนมกัน ก็เอาราคาเดียวกับพวกเขาเถอะ” 

 

 

เถ้าแก่หวังรู้ราคามันฝรั่งมาจากปากหลงจู๊แล้ว แต่ที่ถาม เพราะคิดว่าเมิ่งเชี่ยนโยวจะโก่งราคาขึ้นอีก ไม่คิดว่านางจะให้ราคาตนเองเหมือนกับเหลาจวี้เสียนในทันที ตื้นตันใจเป็นอย่างมาก แล้วจึงล้วงตั๋วเงินสองใบออกมาจากอกเสื้อ พูดว่า “นี่เป็นตั๋วเงินสองพันตำลึง ให้แม่นางไว้เป็นเงินมัดจำ ข้าจะกลับไปให้คนตระเตรียมรถม้า พรุ่งนี้ในยามนี้จะให้คนเข้ามาบรรทุกมันฝรั่ง” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่รับมา พูดว่า “ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมัดจำ ข้าพอจะเชื่อถือการประพฤติตนของหลงจู๊หลิว เมื่อท่านเป็นสหายของเขา ความประพฤติของท่านก็ไม่น่าจะแตกต่างกัน ท่านวางใจ เมื่อข้ารับปากจะขายมันฝรั่งให้ท่าน ก็จักต้องเก็บไว้ให้ท่าน” 

 

 

เถ้าแก่หวังทำการค้ามาหลายปี พบเจอลูกค้าไม่มีสัจจะมาไม่น้อย ฝึกฝนให้เขามีนิสัยเช่นนี้ ขอเพียงเป็นพืชผักที่ตนเองพอใจ ก็จะจ่ายเงินก่อน นัดแนะเวลาแล้วค่อยมาบรรทุกไป ตอนนี้เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวไม่รับเงิน หัวใจเต้นระรัว พูดว่า “แม่นางรับไปเถิด ไม่เช่นนั้นข้ารู้สึกไม่มั่นใจ” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มแล้วเดินไปเปิดประตูโกดังอีกแห่ง เผยให้เห็นมันฝรั่งกองล้นเต็มห้อง 

 

 

เถ้าแก่หวังเบิกตาโพลงตกตะลึงระคนยินดี 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวชี้ห้องอีกสองสามแห่งพูดว่า “ในโกดังเหล่านี้ล้วนมีแต่มันฝรั่ง เถ้าแก่หวังต้องการเท่าใดก็มีเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินมัดจำ ท่านจะเข้ามาบรรทุกมันฝรั่งเมื่อใดก็แล้วแต่ท่าน” 

 

 

“แม่นางพูดความจริง ข้าต้องการมันฝรั่งเท่าใดก็ได้หรือ?” เถ้าแก่หวังถามอย่างไม่เชื่อ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า พูดว่า “ทำการค้าให้ความสำคัญเรื่องความซื่อสัตย์ เมื่อข้ารับปากท่านแล้ว ข้าก็จะต้องพูดได้ทำได้ ทว่า เพื่อคิดแทนท่าน ข้าขอแนะนำให้ในครั้งแรกท่านบรรทุกมันฝรั่งกลับไปจำนวนหนึ่งก่อน ลองดูว่าจะขายดีหรือไม่ หากว่าขายดี ท่านค่อยมาบรรทุกไปมากขึ้น หากว่าขายไม่ดี ท่านจักได้ไม่กักตุนจนเงินทุนจมอยู่กับมันฝรั่งมากเกินไป” 

 

 

เถ้าแก่หวังกล่าวยกย่อง “ถึงว่าเหล่าหลิวเอาแต่ชื่นชมเจ้า บอกว่าเจ้าอายุยังน้อยไม่เพียงเฉียบขาดฉับไว ยังมีหัวด้านการค้า เอาแค่แม่นางมีน้ำใจคิดแทนลูกค้า ภายหน้าการค้าของแม่นางจะต้องยิ่งเจริญรุ่งเรือง” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวโบกมือ “เถ้าแก่หวังกล่าวเกินไปแล้ว ข้าพูดกับท่านตามตรง หากขายมันฝรั่งพวกนี้ไม่ออก ข้ายังสามารถดัดแปลงไปทำเป็นอาหารอย่างอื่นได้ ราคาจะสูงกว่านี้อีกหลายเท่า แต่พออยู่ในมือท่านก็ไม่เหมือนกันแล้ว หากท่านขายไม่ได้ จะกลายเป็นของเน่าเสีย ไร้ค่าไร้ราคา” 

 

 

เถ้าแก่หวังได้ฟังถามอย่างสนใจ “ไม่ทราบว่าแม่นางยังนำมันฝรั่งไปทำเป็นอาหารใดได้?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวสั่งอู๋ต้า “ไปเอามันฝรั่งแผ่นหนึ่งห่อมาให้เถ้าแก่หวังลิ้มรส” 

 

 

อู๋ต้าขานรับแล้ววิ่งไปหยิบมันฝรั่งแผ่นเข้ามา 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวบอกเป็นนัยให้เขาเปิดออก ยื่นให้เถ้าแก่หวัง 

 

 

เถ้าแก่หวังรับห่อมันฝรั่งแผ่นมา มองอย่างแปลกประหลาดใจ ถึงล้วงมันฝรั่งแผ่นด้านในออกมา ใส่เข้าปากแล้วเคี้ยวหนึ่งคำ รสชาติสดใหม่หอมฟุ้งคละคลุ้งเต็มปากพลัน เอ่ยปากถามด้วยความตกตะลึง “สิ่งนี้ทำมาจากมันฝรั่งหรือ เป็นรสชาติที่อร่อยยิ่งนัก” 

 

 

“นี่เป็นอาหารกินเล่นที่ทำมาจากมันฝรั่ง ชื่อมันฝรั่งแผ่นทอด มีหลายรสชาติแตกต่างกัน เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยรับประทาน ปีที่แล้วข้าใช้มันฝรั่งที่เหลือทำออกมาเล็กน้อย เพื่อนคนหนึ่งนำไปขายในเมืองหลวงห่อละสิบตำลึง” เมิ่งเชี่ยนโยวพูด 

 

 

เถ้าแก่หวังก็หวั่นไหวแล้ว “เช่นนั้นให้ข้านำไปขายบ้างได้หรือไม่?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวส่ายหน้า “ข้ารับปากเพื่อนไว้แล้ว มันฝรั่งแผ่นที่ทำออกมาได้ทั้งหมดจะขายส่งให้เขาเท่านั้น ข้าไม่อาจผิดคำพูดกับเขาได้” 

 

 

เถ้าแก่หวังรู้สึกผิดหวัง มันฝรั่งแผ่นในปากเริ่มไม่รู้สึกอร่อยเท่าเมื่อครู่แล้ว 

 

 

“แต่ว่า รอให้มันฝรั่งในฤดูกาลหน้าของปีนี้ออกมา ข้าจะแบ่งทำเป็นสองโรงงาน ใช้มันฝรั่งไปทำเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่ง ถึงตอนนั้นหากท่านสนใจ ข้าจะขายให้ท่านทั้งหมด” เมิ่งเชี่ยนโยวพูด 

 

 

เถ้าแก่หวังได้ฟังก็ยินดี และไม่ถามว่าเป็นสิ่งใดก็รับปากเต็มคำ “สนใจๆ แม่นางจักต้องขายให้ข้า ข้ามิได้จะคุยโว การค้าของข้าค่อนข้างใหญ่ ลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าทั้งจากเหนือใต้ออกตกมีมากมาย ขอเพียงเป็นสินค้าในมือข้า ย่อมขายออกได้เร็ว ขอเพียงแม่นางมอบอาหารปรุงสำเร็จให้ข้า ข้ารับประกันว่าเจ้าจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ภายหน้ายังคิดจะทำการค้ากับข้าอีก” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวรับคำทันควัน “ได้ เมื่อโรงงานเปิด ข้าจะให้หลงจู๊ไปแจ้งข่าวแก่ท่าน ท่านเข้ามาได้ทุกเมื่อ” 

 

 

หลงจู๊พยักหน้าหงึกๆ พูดทีเล่นทีจริงว่า “แม่นางจักต้องแจ้งข่าวแก่ข้าแต่เนิ่นๆ ปีนี้ข้าหวังจะร่ำรวยจากมันฝรั่งและอาหารของเจ้าแล้ว” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพยักหน้า กำชับอู๋ต้านำมันฝรั่งแผ่นรสชาติแตกต่างกันมาให้เถ้าแก่หวังอีกหลายห่อ พูดว่า “มันฝรั่งแผ่นพวกนี้เป็นของหายาก ท่านนำกลับไปให้คนในครอบครัวได้ลิ้มรสเถอะ” 

 

 

มันฝรั่งแผ่นหนึ่งห่อราคาสิบตำลึง มันฝรั่งแผ่นหลายห่อนี้ก็ราคาหลายสิบตำลึงแล้ว เถ้าแก่หวังไฉนเลยจะกล้ารับ กล่าวปฏิเสธ “มันฝรั่งแผ่นพวกนี้ราคาแพงเกินไป ข้ารับไม่ได้” 

 

 

“ต่อให้แพงอย่างไรพวกเราก็ทำขึ้นเอง ท่านอย่าได้ปฏิเสธอีกเลย รับไว้เถอะ หากท่านทำใจรับไม่ได้จริงๆ ช่วยซื้อมันฝรั่งข้าเพิ่มก็ได้” เมิ่งเชี่ยนโยวก็พูดหยอกเย้า 

 

 

เถ้าแก่หวังเป็นคนซื่อตรง ได้ฟังก็พูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ต่อให้แม่นางไม่พูด ข้าย่อมต้องซื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพียงแต่ข้าทำใจรับมันฝรั่งแผ่นพวกนี้ไว้ไม่ได้จริงๆ เอาอย่างนี้เถิด เจ้าบอกราคาขายของเจ้ามา ข้าซื้อในราคาทุนก็แล้วกัน” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวโบกมือ “พวกเรายังต้องคบค้ากันอีกนาน มันฝรั่งแผ่นพวกนี้ถือเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากครอบครัวข้า ท่านอย่าได้ปฏิเสธอีกเลย” 

 

 

เถ้าแก่หวังเห็นนางอยากให้ด้วยใจจริง จึงไม่ปฏิเสธอีก รับมาอย่างเบิกบาน พูดว่า “แม่นางวางใจเถอะ ต่อไปอาหารที่เจ้าทำ ขอเพียงเจ้ายินดีขายให้ข้า ข้าจะรับซื้อไว้ทั้งหมด” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวทำหน้าทำตาแก่นแก้วซุกซน ยิ้มพูด “เช่นนั้นพวกเราก็ว่าตามนี้แล้ว ต่อไปท่านจะกลับคำไม่ได้แล้วนะ” 

 

 

เถ้าแก่หวังหัวเราะตัวโยน พยักหน้ารับประกัน 

 

 

เก็บตั๋วเงินสองพันตำลึงเข้าไปในอกเสื้อ เถ้าแก่หวังรับมันฝรั่งแผ่นมา นัดโมงยามมารับมันฝรั่งในวันพรุ่งนี้เป็นที่เรียบร้อย เมิ่งเชี่ยนโยวก็ออกมาส่งเถ้าแก่หวังถึงหน้าประตูโรงงานตามมารยาท เถ้าแก่หวังขึ้นรถม้ากลับไปอย่างสุขสำราญใจ 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด