ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 229-2 ดังระเบิด

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 229-2 ดังระเบิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากเลือกของเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวเดินดูโดยรอบทุกซอกทุกมุมอีกครั้ง เริ่มมีแผนการคร่าวๆ ยิ้มพูดกับหลงจู๊ “วันพรุ่งข้าว่าจะพาคนเข้ามาเก็บกวาดร้านค้า ไม่ทราบว่าของพวกนี้จะย้ายเสร็จในวันนี้เลยได้หรือไม่?” 

 

 

“ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้แม่นางเข้ามาได้เลย” หลงจู๊ตอบรับ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวดีอกดีใจ กล่าวขอบคุณหลงจู๊อย่างสุดซึ้งอีกครั้ง แล้วขึ้นนั่งรถม้ากลับบ้านพร้อมเมิ่งอี้ 

 

 

พอเข้ามาในบ้าน ก็เดินตรงไปที่ห้องตัวเอง หยิบกระดาษพู่กัน วาดแผนผังที่ตัวเองคิดไว้ออกมา 

 

 

จากนั้นลุกขึ้นยืน เดินไปหาอู๋ต้าที่โรงงาน กำชับเขาเตรียมสิ่งของที่ตนเองต้องการให้พร้อม ทั้งสั่งพวกเขาวันพรุ่งนี้ให้เหลือสองคนไว้ที่นี่เฝ้าประตูโรงงาน คนที่เหลือให้ตามนางไปเก็บทำความสะอาดร้านค้า 

 

 

อู๋ต้ารับคำ พาซุนเอ้อ โจวอู่ไปเตรียมสิ่งของให้พร้อม 

 

 

วันรุ่งขึ้น อู๋ต้าบังคับรถเทียมเกวียนนำสิ่งของที่เตรียมไว้แล้วและคนทั้งหมด ตามหลังรถม้าของเหวินเปียวมาถึงหน้าร้านค้า 

 

 

เสี่ยวเอ้อร์คนหนึ่งกำลังรออยู่หน้าร้าน เห็นพวกเขาเข้ามา ยื่นกุญแจมอบให้เมิ่งเชี่ยนโยว “แม่นาง วันนี้หลงจู๊ค่อนข้างยุ่ง ให้ข้านำกุญแจมามอบให้ท่าน” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวรับกุญแจมา กล่าวขอบใจเสี่ยวเอ้อร์ 

 

 

เสี่ยวเอ้อร์โบกไม้โบกมือ วิ่งกลับไปฝั่งตรงข้าม 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเปิดประตูออก ในร้านนอกจากโต๊ะเก้าอี้ที่ตนเองเลือกเอาไว้ ส่วนที่เหลือถูกจัดเก็บจนโล่ง จึงสั่งพวกอู๋ต้าลงมือทำงาน โดยเริ่มจากปัดฝุ่นผนังทุกซอกทุกมุมให้สะอาดเอี่ยม 

 

 

เหล่านี้ล้วนเป็นงานทั่วไป พวกอู๋ต้าต่างทำได้ ไม่ถึงหนึ่งวันก็ปัดฝุ่นเสร็จ 

 

 

ที่เหลือก็คือก่อเตาตามแบบที่ตนเองวาดไว้ 

 

 

ยุ่งวุ่นวายเช่นนี้ห้าหกวัน ร้านก็ปรากฏโฉมใหม่ออกมา 

 

 

พวกอู๋ต้ามองดูความสำเร็จจากแรงกำลังของตัวเอง ต่างพึงพอใจมาก 

 

 

จัดการร้านค้าเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวจัดเตรียมกำลังคน ให้เมิ่งอี้รับผิดชอบงานในร้านค้าทั้งหมด สะใภ้เหวินทั้งสามคนเป็นคนต้มก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง เหวินเหลียนรับหน้าที่เก็บเงินลงบัญชี เหวินเป้ามีหน้าที่บังคับรถม้าพาทุกคนมาส่งทุกวัน รับรองความปลอดภัยของพวกเขา 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไปสั่งผลิตไหแบบพิเศษอีกหนึ่งชุด 

 

 

หลังจากเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เมิ่งเชี่ยนโยวไปหาหลงจู๊ ให้เขาหาวันฤกษ์งามยามดี เพื่อเตรียมเปิดร้าน 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวคิดวิธีหนึ่งได้ หาขบวนปี่แตรสำหรับรับขบวนเจ้าสาวในหมู่บ้าน ให้พวกเขามาตีฆ้องร้องป่าวหน้าร้านในวันเปิดกิจการ ดึงดูดคนผ่านไปมา 

 

 

แล้วก็ถึงวันเปิดกิจการ เมิ่งเชี่ยนโยวพาทุกคนเข้าเมืองมาแต่เช้า เปิดประตูร้านออก เช็ดโต๊ะเก้าอี้ทุกซอกทุกมุมใหม่อีกครั้ง หลังจากทำเสร็จ ขบวนปี่แตรก็มาถึง ตั้งขบวนรออยู่หน้าร้าน 

 

 

คนที่ผ่านไปมาต่างเข้ามาดูอย่างสนใจใคร่รู้ 

 

 

หลงจู๊จากเหลาจวี้เสียนและพ่อครัวใหญ่ก็ยิ้มร่าให้เสี่ยวเอ้อร์หาบของขวัญเข้ามาแสดงความยินดี 

 

 

คนในเมืองเห็นพวกเขาสองคน ยิ่งให้ใคร่รู้ว่าเจ้าของร้านอาหารเปิดใหม่นี้เป็นใครกันแน่ 

 

 

เมื่อถึงเวลา ขบวนปี่แตรส่งเสียงบรรเลง เมิ่งเชี่ยนโยวถึงผ้าแพรสีแดงสดที่คลุมป้ายร้านออก บนป้ายเขียนว่าร้านก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง 

 

 

มันฝรั่งมีแต่เหลาจวี้เสียนที่มีขาย ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งแม้แต่ชื่อก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน กลุ่มคนต่างสนใจใคร่รู้ เฮโลกันเข้ามาสอบถามว่าก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งคือสิ่งใด 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเงยหน้าส่งสายตาให้ขบวนปี่แตรหยุด เปล่งเสียงดังพูดกับคนที่เข้ามามุงล้อม “ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งเป็นอาหารชนิดหนึ่ง โดยทำมาจากมันฝรั่ง พวกเราทำหลากหลายรสชาติ ทุกคนลองเข้ามาลิ้มรสได้ สามวันแรกของการเปิดร้าน ข้ามีส่วนลดพิเศษ ขายครึ่งราคา คิดชามละเพียงหนึ่งร้อยอีแปะ” 

 

 

สิ้นเสียง ครึ่งหนึ่งของกลุ่มคนส่งเสียงสูดลมเข้าปาก ครึ่งราคายังหนึ่งร้อยอีแปะ สิ่งของใดกันถึงแพงหูฉี่เช่นนี้? 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดต่อ “วันนี้พวกเราเปิดกิจการเป็นวันแรก ยังมีอีกหนึ่งสิทธิพิเศษ ก็คือลูกค้ายี่สิบคนแรกที่เข้ามากินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง จะได้ส่วนลดอีกครึ่งราคา หรือก็คือท่านที่เข้ามาตอนนี้จ่ายเพียงห้าสิบอีแปะก็สามารถกินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งชามละราคาสองร้อยอีแปะได้แล้ว และพวกเรายังจะแถมยำผักที่ปรุงพิเศษให้ท่านอีกหนึ่งชุดด้วย ไม่เพียงเท่านั้น หากท่านต้องการซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านอีกชุด ก็จ่ายในราคาเท่ากัน” 

 

 

เงินห้าสิบอีแปะสำหรับคนยากจนเป็นเงินก้อนโต แต่สำหรับเศรษฐีในเมืองแล้ว หาได้อยู่ในสายตาไม่ เมิ่งเชี่ยนโยวพูดจบ ก็มีเศรษฐีชื่นชอบการกินเดินออกมาพูดทันทีว่า “ให้ข้าหนึ่งชาม ข้าอยากชิมนักว่าก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งเป็นอาหารเช่นไรกันแน่” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเจตนาเปล่งเสียงดังพูดกับคนผู้นั้น “ท่านช่างมีสายตาแหลมคม ท่านไม่เพียงเป็นคนแรกของตำบลชิงซีที่ได้กินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง ท่านยังเป็นคนแรกของแคว้นอู่ที่ได้กินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง นับจากนี้ไปอีกสิบปี ใครก็ตามที่เอ่ยถึงก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง ท่านสามารถพูดเรื่องนี้ออกมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ” 

 

 

เพียงไม่กี่คำพูดนี้กระตุ้นจิตใจเศรษฐีให้เบิกบาน พูดอย่างสุขใจ “หากก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งของเจ้าอร่อย ข้าจะซื้ออีกหลายๆ ชุดกลับไปให้คนที่บ้านชิม” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวรับคำเสียงลั่น “ได้เลยเจ้าค่ะ รับรองว่าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ท่านจักต้องกินชามแรกนึกถึงชามที่สอง วันนี้กินแล้วพรุ่งนี้ก็ยังอยากกินอีก” 

 

 

เศรษฐีหัวเราะร่วนเดินเข้าไปในร้าน 

 

 

มีคนที่หนึ่งก็มีคนที่สอง ทุกคนล้วนแต่มีเงิน จะยอมให้ใครโดดเด่นคนเดียวไม่ได้ ด้านหลังมีคนทยอยเดินเข้ามา 

 

 

แต่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะสังเกตการณ์ รอดูว่าพวกเขากินเสร็จแล้วจะมีความรู้สึกอย่างไร 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่เร่งเร้าพวกเขา ให้ขบวนปี่แตรบรรเลงต่อ 

 

 

หลงจู๊และพ่อครัวใหญ่ที่มาให้กำลังใจแต่แรกเลื่อมใสนางจากใจจริง ยกนิ้วโป้งตั้งชันให้นาง กล่าวชมเชย “วิธีของแม่นางดีเยี่ยมนัก ร้านอาหารของเจ้าจะต้องโด่งดังในชั่วพริบตา เงินทองไหลมาเทมา” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “ขอให้สมพรปากพวกท่านทั้งสองเถิด พวกท่านเข้าไปในร้านเถอะ ดูว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งรสชาติใด ข้าจะให้คนทำมาให้พวกท่านคนละชาม” 

 

 

ไม่รอหลงจู๊ปฏิเสธ พ่อครัวใหญ่คนตะกละรีบตอบรับด้วยความยินดี “ดีเลย ต้องขอบใจแม่นางเมิ่งแล้ว” 

 

 

หลงจู๊ลอบถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง 

 

 

พ่อครัวใหญ่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น ยิ้มร่าเดินตามเมิ่งเชี่ยนโยวเข้าไปในร้าน 

 

 

หลงจู๊ไม่มีทางเลือก จำต้องเดินตามเข้าไป 

 

 

เมิ่งอี้รับหน้าที่ควบคุมควบการรับรองลูกค้า เห็นพวกเขาเข้ามาก็ตรงเข้าไปต้อนรับ เมิ่งเชี่ยนโยวพูดว่า “ท่านไปต้อนรับลูกค้าท่านอื่นเถอะ ข้าจะดูแลพวกเขาสองคนเอง” 

 

 

เมิ่งอี้พยักหน้า หันไปรับรองลูกค้าท่านอื่น 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพาทั้งสองคนมานั่งข้างโต๊ะตัวหนึ่ง คลี่ยิ้มชี้แผ่นป้ายแนะนำก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งรสชาติต่างๆ ที่แขวนข้างผนังพูดว่า “พวกท่านดูก่อนเถิดว่าอยากกินรสชาติใด?” 

 

 

ความสนใจของพ่อครัวมีแต่เรื่องกิน มองดูรสชาติแตกต่างกันบนผนังอย่างละเอียด แล้วสั่งรสต้มยำหนึ่งชาม 

 

 

หลงจู๊กลับเอาแต่พินิจมองการออกแบบภายในร้าน พยักหน้าชื่นชม “แม่นางไม่เพียงมีวิธีรับมือลูกค้าได้ดี การออกแบบภายในร้านก็แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร โชคดีที่เจ้ามิได้เปิดภัตตาคาร ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่มีทางรอดแล้ว” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่ถ่อมตน “ข้าขอน้อมรับคำชมของหลงจู๊ ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งข้าจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งได้เหมือนเหลาจวี้เสียน มีสาขากระจายไปทั่ว” 

 

 

หลงจู๊หัวเราะร่วน “แม่นางมีความมุ่งมั่นทะเยอทะยาน ข้าขออวยพรให้แม่นางประสบความสำเร็จ” 

 

 

ในวันนี้หลงจู๊เพียงกล่าวตามมารยาทเท่านั้น แต่ไม่กี่ปีให้หลัง เมิ่งเชี่ยนโยวก็ทำสำเร็จจริงๆ ฝั่งตรงข้ามเหลาจวี้เสียนทุกสาขา จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งหนึ่งแห่ง 

 

 

หลงจู๊ต้องการแบบน้ำใส 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวสั่งเหวินเหลียนบอกต่อไปยังห้องครัว ให้พวกนางทำสองชามนี้มาให้หลงจู๊และพ่อครัวใหญ่ก่อน 

 

 

อาศัยช่วงเวลารอก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง เมิ่งเชี่ยนโยวแย้มยิ้มพูดกับคนตรงข้ามทั้งสอง “เมื่อพวกเราเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว ข้าคงต้องขออาศัยใบบุญเหลาจวี้เสียนของพวกท่าน หากลูกค้าในร้านพวกท่านอยากกินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง บอกพวกเขาไม่ต้องข้ามมา ให้เสี่ยวเอ้อร์เข้ามาซื้อกลับไปก็พอ” 

 

 

หลงจู๊หัวเราะผงกศีรษะ กำลังจะพูด ลูกค้าคนแรกที่เข้ามากินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งส่งเสียงร้องอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ “ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งนี้อร่อยเกินไปแล้ว ข้าไม่เคยกินอาหารที่เลิศรสเช่นนี้มาก่อนเลย” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวลุกขึ้น ฉวยโอกาสพูดว่า “พวกเราไม่เพียงทำเส้นแป้งมันฝรั่งเอง แม้แต่การตุ๋นน้ำซุปก็เป็นสูตรเฉพาะของพวกเราเอง ในนั้นใส่ของดีมีประโยชน์ลงไปมากมาย เงินห้าสิบอีแปะเป็นแค่ค่าน้ำซุปเท่านั้น ดังนั้นวันนี้ถือว่าทุกคนได้กำไรแล้ว” 

 

 

แขกทุกคนกินกันเหงื่อไหลไคล้ย้อย กินไปพลางร้องซี้ดซ้าดไปพลาง ทำให้คนที่เห็นเจริญอาหารตามไปด้วย 

 

 

พ่อครัวกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ เอาแต่มองไปด้านหลัง หวังให้ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งของตัวเองยกออกมาโดยไว 

 

 

ลูกคนคนอื่นๆ ต่างชื่นชมไม่ขาดปาก 

 

 

คนด้านนอกเห็นคนในร้านกินอย่างเอร็ดอร่อย ต่างอดใจไม่ไหว เฮโลกันเข้ามากอีกไม่น้อย 

 

 

ลูกค้าคนแรกเห็นเช่นนั้น รีบร้อนตะโกนบอก “ข้ามาเป็นคนแรก เอามาให้ข้าอีกสามชุดข้าจะซื้อกลับบ้าน” 

 

 

เมิ่งอี้รับคำ ตะโกนบอกเข้าไปด้านหลัง “กลับบ้านสามชุด” 

 

 

พริบตาเดียวก็ขายได้สี่ชุด บวกกับของลูกค้าคนอื่นๆ เมิ่งเชี่ยนโยวนับคร่าวๆ เดินออกมาตะโกนพูดหน้าร้าน “ลูกค้ายี่สิบคนแรกของวันนี้เต็มแล้ว ลูกค้าที่จะเข้ามาหลังจากนี้จะคิดราคาชามละหนึ่งร้อยอีแปะ” 

 

 

พวกคนที่ชอบลิ้มลอง กลับลังเลไม่ตัดสินใจ ต่างเสียใจไม่น้อย ลองหยั่งเชิงถาม “แม่นางน้อย พอจะเพิ่มจำนวนอีกหน่อยได้หรือไม่ พวกเราก็อยากกิน” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวส่ายหน้า “นี่เป็นกฎของทางร้าน ข้าทำผิดกฎไม่ได้” 

 

 

ทุกคนต่างผิดหวัง ลังเลใจว่าจะเข้าไปกินหรือไม่ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวตะโกนพูดต่อ “ทว่าลูกค้าที่เข้ามากินตอนนี้ ข้าจะแถมผักดองให้พวกท่านอีกท่านละหนึ่งจาน ผักดองนี้พวกเราก็ดองกันเอง พวกท่านจะหากินที่อื่นไม่ได้อีกแล้ว” 

 

 

กินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งในราคาชามละห้าสิบอีแปะไม่ได้แล้ว แต่ได้กินผักดองเพิ่มอีกจานก็นับว่ากำไรแล้ว เริ่มมีคนหวั่นไหว เดินเข้าไปในร้าน 

 

 

เมิ่งอี้คนเดียวรองรับไม่ไหว เมิ่งเชี่ยนโยวตะโกนให้เหวินเป้าเข้ามาช่วย 

 

 

ก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งของหลงจู๊และพ่อครัวใหญ่ถูกยกเข้ามา 

 

 

พ่อครัวใหญ่ทนรอต่อไปไม่ไหว หยิบตะเกียบคีบเส้นแป้งมันฝรั่งขึ้นเป่า ใส่เข้าปาก เคี้ยวหงุบๆ คำโต ไม่ทันกลืนลงคอ ก็ชูนิ้วหัวแม่โป้งให้เมิ่งเชี่ยนโยว พูดงุบๆ งับๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ “แม่นาง นี่ก็คือก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งหรือ? อร่อยล้ำเกินไปแล้ว ข้าเป็นพ่อครัวมาหลายปี ไม่เคยกินของอร่อยเท่านี้มาก่อนเลย” 

 

 

หลงจู๊ชิมหนึ่งคำ พยักหน้าสนับสนุน “เป็นรสชาติที่แปลกพิสดารยากจะพรรณนา ทำให้กินแล้วหยุดไม่อยู่” 

 

 

ชาวบ้านน้อยคนที่จะรู้จักพ่อครัวใหญ่ แต่คนที่พอมีอันจะกินในเมืองต่างรู้จักหลงจู๊เป็นอย่างดี ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ยิ่งทำให้อยากกินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งมากขึ้น ต่างร้องระงมสั่งให้ตัวเองคนละชาม 

 

 

คนที่ได้กินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งแล้วต่างตื่นเต้นคึกคัก คนที่ยังไม่ได้กินกระสับกระส่ายร้องเรียก คนด้านนอกที่ถูกแรงจูงใจเข้ามาเห็นเช่นนี้ ให้เกิดความประหลาดใจใคร่รู้ เดินเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่คิดว่าจะมีคนมากเช่นนี้ จึงไม่ได้จัดเตรียมเสี่ยวเอ้อร์ไว้ เห็นสภาพการณ์เช่นนี้ กล่าวขอโทษหลงจู๊และพ่อครัวใหญ่ เดินมาที่โต๊ะเก็บเงิน พูดกับเหวินเหลียน “เจ้าออกไปช่วยเถอะ ข้าเก็บเงินเอง” 

 

 

เหวินเหลียนรับคำ เดินเข้าไปช่วย 

 

 

สะใภ้เหวินทั้งสามคนด้านหลังต่างยุ่งเท้าไม่ติดพื้น แม้แต่หายใจเต็มแรงก็ยังไม่มีเวลา 

 

 

หลงจู๊เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ร้องถามเมิ่งเชี่ยนโยว “แม่นางเมิ่ง ต้องการให้ข้าเรียกเสี่ยวเอ้อร์เข้ามาช่วยหรือไม่?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหันมอง เมิ่งอี้วิ่งวุ่นจนเหงื่อโทรมกาย แม้แต่เวลาเช็ดเหงื่อยังไม่มี เอาแต่ต้อนรับลูกค้า เหวินเหลียนและเหวินซงไม่เคยทำงานเช่นนี้ เห็นชัดว่าลนลานทำอะไรไม่ถูก จึงไม่เกรงใจ ผงกศีรษะ “ขอบคุณหลงจู๊ ท่านส่งเสี่ยวเอ้อร์สักคนมาก็พอ” 

 

 

หลงจู๊กระวีกระวาดกินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งในชามจนหมด กลับไปสั่งเสี่ยวเอ้อร์เข้ามาช่วย 

 

 

พ่อครัวใหญ่ไม่ได้ไป ตั้งใจมองแผ่นป้ายแนะนำก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งรสชาติต่างๆ อีกรอบ ราวกับยังไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งเมื่อครู่ จนน้ำลายแทบจะหกออกมาอยู่แล้ว 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นอาการของเขาก็ให้หลุดขำ ถามเขาว่ายังอยากกินรสชาติใด จะทำให้เขาอีกชาม 

 

 

พ่อครัวใหญ่พยายามควบคุมตัวเอง โบกมือพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว วันนี้พวกเจ้าเปิดร้านเป็นวันแรก คนมาก ข้าไม่อยู่ก่อกวนแล้ว เอาไว้ตอนเที่ยงข้าทำงานเสร็จ จะแวะเข้ามาอีกที” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า “ได้เลย รอท่านทำงานเสร็จ ให้เสี่ยวเอ้อร์เข้ามาบอกก่อน ข้าจะได้ทำเตรียมไว้ให้” 

 

 

สายมากแล้ว ในเหลาจวี้เสียนก็เริ่มมีลูกค้าเข้ามาไม่น้อย พ่อครัวไม่รอช้า บอกลาเมิ่งเชี่ยนโยวแล้วกลับไป 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด