ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 231-2 เคืองโกรธเหวินซื่อ

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 231-2 เคืองโกรธเหวินซื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พอออกมาจากร้านยาเต๋อเหริน เมิ่งเชี่ยนโยวก้าวฉับๆ มาข้างรถม้า เหวินเปียวลดเสียงต่ำพูดว่า “แม่นาง เมื่อครู่ข้าเห็นมีคนหลบอยู่ในมุมอับลอบมองสังเกตการณ์เข้ามา ข้าไม่กล้าทิ้งรถม้า จึงไม่ได้ตามไปดู”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวได้ฟัง ขมวดคิ้วแน่น เดินมาดูในมุมอับบริเวณที่เหวินเปียวบอก ไหนเลยจะยังเหลือเงาคนผู้นั้น จึงเดินกลับมาข้างรถม้าอีกครั้ง พูดเสียงเบา “ระหว่างทางกลับให้ไปช้าๆ คอยมองสังเกตด้วย หากเห็นมีคนสะกดรอยตาม ไม่ต้องสนใจเขา ข้าก็อยากรู้นักว่าพวกเขาเป็นใครกันแน่ และคิดจะทำอะไร?”

 

 

เหวินเปียวพยักหน้า พอเมิ่งเชี่ยนโยวขึ้นไปบนรถม้าแล้ว ก็บังคับรถม้ากลับอย่างเชื่องช้าตามสั่ง ตอนที่เดินทางมาได้ครึ่งทาง ก็พบคนผู้หนึ่งด้านหลัง รีบกดเสียงบอกเมิ่งเชี่ยนโยว

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเปิดมุมหนึ่งของม่านรถออก สังเกตด้านหลังอย่างถี่ถ้วน กระทั่งเห็นว่าคนที่สะกดรอยตามเป็นใคร ถึงปล่อยม่านลง พูดกับเหวินเปียว “ไม่ต้องสนใจเขา เขาไม่มีทางได้เงื่อนงำใดกลับไป”

 

 

เหวินเปียวได้ฟังเร่งความเร็วม้า ไม่นานก็กลับมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่ง

 

 

ภายในร้านไม่มีลูกค้าแล้ว เมิ่งอี้และคนอื่นๆ กำลังปัดกวาดเช็ดถู ซุนวั่งนั่งบนม้านั่งหลังโต๊ะคิดเงิน ใบหน้าอ่อนล้าโรยแรง

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยกยิ้มพูดกับเขา “ท่านพ่อตา ลำบากท่านแล้ว ท่านนั่งก่อนเถิด ข้าจะให้พวกนางต้มก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งมาให้ท่านเดี๋ยวนี้”

 

 

ซุนวั่งก็ไม่เกรงใจ “ของข้าเพิ่มเนื้อเพิ่มผักหนึ่งชามใหญ่”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวรับคำ “ได้เจ้าค่ะ ข้าจะให้พวกเขาทำเดี๋ยวนี้” พูดจบ เดินไปที่ครัวด้านหลัง สั่งการสะใภ้เหวินทั้งสามคนต้มก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งให้คนในร้าน ทำเหมือนเมื่อวาน เพิ่มเนื้อและผักให้มากขึ้น

 

 

สะใภ้เหวินทั้งสามคนทำงานคล่องแคล่วว่องไว ไม่นานก็ต้มเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวยกชามใหญ่มาวางตรงหน้าซุนวั่งด้วยตัวเอง

 

 

ซุนวั่งรู้สึกตกใจที่ได้รับความเอ็นดู รีบยกมือรับมา กล่าวขอบคุณอย่างเบิกบาน

 

 

ส่วนคนอื่นๆ เข้าไปยกรสชาติที่ตัวเองชอบออกมาเอง นั่งบนม้านั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย

 

 

วันนี้ได้พวกเหวินเปียวมาช่วยเพิ่ม ทุกคนดูไม่เหนื่อยเท่าเมื่อวานแล้ว ต่างกินไปพลางเถียงอย่างออกรสออกชาติว่าวันนี้ขายได้เงินกี่มากน้อย

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “พวกเจ้าไม่ต้องเถียงกัน ถามนายบัญชีของพวกเราก็รู้แล้ว”

 

 

ทุกคนมองไปที่ซุนวั่ง

 

 

ซุนวั่งยังไม่รู้ตัวว่านายบัญชีที่เมิ่งเชี่ยนโยวพูดถึงคือตัวเอง เห็นทุกคนมองมาที่ตัวเอง หน้าฉงนถามกลับ “พวกเจ้ามองข้าทำไม?”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “ท่านก็คือนายบัญชีของพวกเรา พวกเราไม่มองท่านจะมองใครล่ะเจ้าคะ?”

 

 

ซุนวั่งได้สติพลัน หลังจากคีบคำใหญ่เข้าปาก ถึงค่อยๆ ชูนิ้วทั้งห้าขึ้น

 

 

สะใภ้เหวินเปียวหยั่งเชิงถาม “อย่าบอกว่าได้ห้าสิบตำลึงนะ?”

 

 

ซุนวั่งพยักหน้า

 

 

คนทั้งหมดส่งเสียงโห่ร้องแตกต่างกันไป

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวตกตะลึงถาม “ตอนข้าออกไปมีลูกค้าเข้ามามากหรือ? เหตุใดรายได้ของวันนี้ถึงมากกว่าเมื่อวาน?”

 

 

ซุนวั่งกลืนก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งในปาก พูดว่า “วันนี้คนที่เหลาจวี้เสียนสั่งมาก เมื่อครู่ข้าตัดบัญชีกับหลงจู๊แล้ว ประมาณยี่สิบตำลึงได้”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า ยิ้มพูด “พวกเราได้อาศัยใบบุญของเหลาจวี้เสียนโดยแท้”

 

 

เมิ่งอี้พูดสมทบ “ถูกต้องเลย ปริมาณที่ลูกค้าที่นั่นต้องการพอๆ กับที่พวกเราขายได้เองในร้าน ผ่านไปอีกสักระยะหนึ่ง เจ้าจะต้องขอบคุณหลงจู๊ให้เต็มที่แล้ว”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวลุกขึ้น “ไม่ต้องรอภายหน้า ข้าจะเข้าไปขอบคุณเขาเดี๋ยวนี้”

 

 

พูดจบสั่งการทุกคน “พอพวกท่านกินเสร็จ ก็เก็บกวาดร้านรอข้า เมื่อข้ากลับมา พวกเราจะไปทันที”

 

 

คนทั้งหมดรับคำ

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มหวานถามซุนวั่ง “ท่านพ่อตา วันพรุ่งท่านยังจะมาอีกหรือไม่?”

 

 

ซุนวั่งสำลักก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งคำสุดท้ายที่คอหอย สำลักไอไม่หยุด

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่รอคำตอบเขา ยกยิ้มเดินไปเหลาจวี้เสียน

 

 

ในเหลาจวี้เสียนก็ไม่มีลูกค้า พวกเสี่ยวเอ้อร์กำลังเก็บกวาดห้องโถง หลงจู๊กำลังดีดลูกคิดข้างโต๊ะคิดเงิน

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินตรงมาข้างโต๊ะคิดเงิน แย้มยิ้มพูด “หลงจู๊ วันนี้ท่านช่วยพวกเราขายก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งได้อีกไม่น้อย ข้าเข้ามาขอบคุณท่าน”

 

 

หลงจู๊ปิดบัญชีในมือ เงยหน้า ยกยิ้มตอบกลับ “แม่นางเกรงใจแล้ว เทียบกับที่พวกเจ้าช่วยเหลาจวี้เสียน นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย เพียงแค่ให้เสี่ยวเอ้อร์วิ่งไปวิ่งมาเท่านั้น”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “จะพูดเช่นนี้ก็ไม่ผิด แต่อย่างไรพวกท่านก็ช่วยข้าเป็นอย่างมาก หากข้าไม่ทำอะไรเลย ให้รู้สึกละอายใจนัก ดังนั้นที่ข้ามาวันนี้เพราะอยากจะมอบอีกหนึ่งสูตรอาหารให้พวกท่าน แต่ไม่รู้ว่าที่นี่มีวัตถุดิบนั้นหรือไม่?”

 

 

สูตรอาหารของเมิ่งเชี่ยนโยวขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทุกครั้ง หลงจู๊ได้ฟังดีใจลิงโลด รีบร้อนพูด “แม่นางต้องการสิ่งใดขอให้บอก หากภัตตาคารพวกเราไม่มี ข้าจะเขียนจดหมายถึงนายท่าน ให้เขาหาวิธีนำมา”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า “ข้าต้องการกุ้งสดจำนวนหนึ่ง ไม่ทราบว่าภัตตาคารของพวกท่านมีหรือไม่?”

 

 

หลงจู๊ตะลึงค้าง แล้วถามขึ้น “กุ้งที่แม่นางพูดถึง ก็คือกุ้งที่พวกชาวประมงจับมาได้จากริมทะเล”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า

 

 

หลงจู๊ลนลานโบกมือ “ของพวกนั้นเรากินไม่ลงหรอก คาวมาก มีปีหนึ่ง ตอนเข้าไปรายงานบัญชีในเมืองหลวง ไม่รู้ว่านายท่านไปได้ของสิ่งนั้นมาจากที่ใดมากมาย ให้พ่อครัวเหลาจวี้เสียนในเมืองหลวงทำให้พวกเรากิน ปรากฏว่ากลิ่นคาวตลบอบอวลไปทั้งห้อง กลิ่นคลุ้งจนข้ากินข้าวไม่ลงไปหลายวัน”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “นั่นเพราะพวกท่านไม่ได้กำจัดกลิ่นคาวออกก่อน ถึงได้เป็นเช่นนั้น ขอเพียงท่านได้วัตถุดิบมา ข้ารับรองว่าจะทำกุ้งเลิศรสรสชาติที่ต่างออกไปได้แน่นอน”

 

 

หลงจู๊ลังเล

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดว่า “ไม่เพียงกุ้ง หากเป็นไปได้ ท่านให้นายท่านของพวกท่านส่งอาหารทะเลหลากหลายชนิดมา ข้าทำให้ท่านกินได้ทุกแบบ เชื่อข้า หลังจากท่านกินแล้ว จะต้องรู้สึกว่าอาหารในตอนนี้ของเหลาจวี้เสียนเทียบชั้นอาหารเหล่านั้นไม่ได้เลย”

 

 

หลงจู๊ยิ่งให้หวั่นไหว ลองพูดว่า “ข้าจะเขียนจดหมายถึงนายท่าน ให้เขาหาวิธีจัดหาบางส่วนมาให้แม่นางทำให้พวกเราลิ้มรส”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกำชับเขา “บอกให้นายท่านของพวกท่านจะต้องส่งแบบสดใหม่เข้ามา ไม่เพียงทำเป็นอาหารจานเดียวได้ ยังสามารถใส่เพิ่มลงไปในพระกระโดดกำแพงได้ รสชาติจะยิ่งหอมอร่อย”

 

 

หลงจู๊พยักหน้า “ได้ ข้าจะเขียนจดหมายถึงนายท่านเดี๋ยวนี้ เมื่อวัตถุดิบมาถึง ข้าจะแจ้งแม่นางทันที”

 

 

หลังจากพูดกับหลงจู๊เสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวกลับมาในร้านตัวเอง เห็นทุกคนต่างกินอิ่มแล้ว ในร้านก็เก็บกวาดอย่างสะอาดเอี่ยม หลังจากให้เมิ่งอี้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก็สั่งเหวินเปียว เหวินหู่ให้บังคับรถม้ากลับบ้าน

 

 

สองสามีภรรยาเมิ่งและเมิ่งเสียน เมิ่งฉีได้ยินว่าขายได้ห้าสิบกว่าตำลึง ต่างดีใจลิงโลด

 

 

ผ่านไปอีกระยะหนึ่ง ลูกค้าในร้านก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งลดน้อยลง แต่เงินที่ขายได้มิได้ลดน้อยลง เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นว่าการค้าเข้ารูปเข้ารอย คนทั้งหมดก็คุ้นเคยงานแล้ว จึงไม่ได้เข้าเมืองไปทุกวันอีก

 

 

เริ่มแรกซุนวั่งยังประพฤติตัวดี เข้าไปช่วยในร้านทุกวัน เวลาผ่านไปนานเข้า เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวไม่จับจ้องตนเองอีก ก็เริ่มแอบอู้ หากไม่อยู่แต่ในบ้าน ก็จะไปนัดเจอกับเพื่อนเกเรสองสามวันติด

 

 

เริ่มแรกเมิ่งเชี่ยนโยวไม่สนใจเขา

 

 

ไม่คิดว่าเขาจะยิ่งหนักข้อขึ้น ภายหลังไม่มาเห็นหน้าถึงสามสี่วัน

 

 

วันนี้เช้าตรู่ เมิ่งเชี่ยนโยวสั่งเหวินเปียวบังคับรถม้าไปจวนซุน พกรอยยิ้มไปเชิญเขา

 

 

ซุนซ่านเหรินถึงได้รู้ว่าเมิ่งเชี่ยนโยวเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแป้งมันฝรั่งอยู่ในเมือง หลังจากอวยพรชุดใหญ่ ได้ทราบว่าเมิ่งเชี่ยนโยวให้ซุนวั่งไปช่วยที่บ้านทุกวัน ก็ให้ตื้นตันใจ ให้บ่าวไปเรียกเขาออกมาอย่างไม่รีรอ กำชับเขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย

 

 

ซุนวั่งหวาดกลัวเมิ่งเชี่ยนโยวมาก เห็นนางมาหาถึงบ้าน รีบออกมาพร้อมเขาแต่โดยดี

 

 

เป็นเช่นนี้ซ้ำหลายครั้ง ซุนวั่งตกใจกลัวจนไม่กล้าไม่มาอีก

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวบอกเขา ต่อไปทุกเจ็ดวันให้เขาหยุดได้หนึ่งวัน

 

 

ซุนวั่งได้ยินเช่นนั้น ดีใจเป็นล้นพ้น กล่าวขอบคุณไม่หยุด ทำเอาเมิ่งเชี่ยนโยวไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

 

 

เหวินซื่อให้พนักงานไปส่งข่าว บอกว่าตัวยาสำคัญที่สุดสำหรับปรุงยากำจัดรอยแผลเป็นส่งมาถึงแล้ว ให้นางเข้าไปรับ

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวโกรธเคืองเขา ไม่ได้ไป บอกเหวินเปียวและเหวินหู่ให้เอารถม้าไปขนถ่ายกลับมา

 

 

เหวินซื่อยังคงไม่รู้ว่าตัวเองล่วงเกินเมิ่งเชี่ยนโยวเข้า เอาแต่ถามเหวินเปียวว่าเหตุใดนางถึงไม่เข้ามา

 

 

อาหารทะเลของเหลาจวี้เสียนยังไม่ได้ส่งเข้ามา

 

 

เมิ่งเสียนและเมิ่งฉีก็จัดการเรื่องราวต่างๆ ในโรงงานได้อย่างมีระบบระเบียบ เมิ่งเชี่ยนโยวนอกจากจะไปดูการเจริญเติบโตของฉั่งฉิกบนภูเขาหมู่บ้านหลี่ เวลาที่เหลือจะตั้งใจปรุงยาที่บ้าน

 

 

ชั่วเวลาพริบตาเดียวก็ผ่านไปสองเดือนกว่า ไม่เพียงเก็บเกี่ยวพืชพรรณบนแปลงดิน แม้แต่มันฝรั่งฤดูใบไม้ร่วงก็เก็บเกี่ยวทั้งหมดแล้ว

 

 

มันฝรั่งหนึ่งร้อยกว่าหมู่ แรงงานในหมู่บ้านไม่เพียงพอ เมิ่งต้าจินไปหาคนหมู่บ้านใกล้เคียงเข้ามาช่วย ผู้ใหญ่บ้านใกล้เคียงย่อมต้องเลือกคนที่ทำงานแข็งขัน พวกชาวบ้านราวกับทำการแข่งขัน ขุดมันฝรั่งอย่างเอาจริงเอาจัง ต่อให้ลูกเล็กแค่ไหนก็ไม่เหลือทิ้งไว้

 

 

ขุดมันฝรั่งเสร็จ ใบมันฝรั่งย่อมตกเป็นของพวกเขาเหมือนเดิม คนต่างหมู่บ้านดีใจแทบคลุ้มคลั่ง กลางคืนไม่หลับไม่นอน แย่งชิงมาไว้บ้านตัวเอง

 

 

อากาศเริ่มเย็นลง ได้ฤกษ์เปิดโรงงานกุนเชียง เมิ่งเชี่ยนโยวให้หลงจู๊เหลาจวี้เสียนส่งข่าวบอกจูต้าจ้วง ยังไม่ถึงวันถัดมา จูต้าจ้วงก็บังคับรถเทียมเกวียนยิ้มร่าเข้ามา พอพบหน้าก็พูดด้วยความยินดี “ข้าประเมินเวลาช่วงนี้ไว้พอดี ให้พรรคพวกตุนหมูเป็นเอาไว้ แม่นางต้องการเท่าไร พวกเรามีให้เท่านั้น”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูด “ข้าจะเปิดโรงงานสี่แห่ง ต้องการเนื้อหมูมากกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ทราบว่าเถ้าแก่จูพอจะส่งมอบให้ข้าตามเวลาได้หรือไม่”

 

 

จูต้าจ้วงตบหน้าอกรับประกัน “ไม่มีปัญหา รอบรัศมีร้อยลี้นี้ นอกจากข้าท่านหาโรงเชือดหมูที่ใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้อีกแล้ว”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้าพูดว่า “ตามกฎเดิม ท่านต้องรับประกันว่าเนื้อหมูจะสดใหม่ทุกวัน ข้าจะตัดเงินให้ท่านตรงตามเวลาทุกวัน”

 

 

จูต้าจ้วงดีใจยิ้มไม่หุบ ขานรับเต็มปากเต็มคำ

 

 

หลังจากทั้งสองตกลงวันส่งหมูเสร็จ จูต้าจ้วงก็บังคับรถเทียมเกวียนยิ้มร่ากลับไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด