ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 234-3 ร้านยาเต๋อเหรินเกิดเรื่อง

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก ส่วนที่ 1 Chapter 234-3 ร้านยาเต๋อเหรินเกิดเรื่อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมิ่งเชี่ยนโยวมองดูพวกเขาไปไกลแล้ว หันไปพูดกับเมิ่งเสียน “ท่านไปบอกท่านป้าใหญ่ ให้นางมาจัดการสิ่งของที่พวกเขาส่งมาให้วันนี้ หากมีที่เหมาะสม หลังปีใหม่จะต้องกลับไปเยี่ยมญาติให้นำไปใช้” 

 

 

เมิ่งเสียนรับคำ เตรียมจะกลับบ้าน สาวใช้ของซุนเชี่ยนกลับวิ่งหน้าตั้งเข้ามา พูดกับเมิ่งเชี่ยนโยวว่า “คุณหนูเจ้าค่ะ มีคนมาที่บ้านอีกแล้ว บอกว่ารับคำสั่งจากหลงจู๊ของพวกเขา ให้นำของขวัญปีใหม่มาให้พวกเรา” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวและเมิ่งเสียนรีบวิ่งกลับมาบ้านด้วยกัน ยังเดินไม่ถึงหน้าบ้าน ก็เห็นรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตู บนรถม้าบรรทุก**บเหล็กขนาดใหญ่หนึ่งใบ 

 

 

ทั้งสองเดินตรงมาหน้ารถม้า กระทั่งเห็นคนที่บังคับรถม้าเข้ามา ก็พูดด้วยความดีใจว่า “พี่หูจื่อ เหตุใดถึงเป็นท่านได้?” 

 

 

หูจื่อยิ้มตอบ “หลงจู๊บอกว่าเจ้าช่วยเหลาจวี้เสียนของพวกเราไว้มากมายนัก ให้ข้านำอาหารทะเลจำนวนหนึ่งเข้ามา เจ้ารีบให้คนมายก**บเหล็กลงเถอะ” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวสั่งการสาวใช้ 

 

 

สาวใช้รีบไปเรียกคนที่โรงงาน 

 

 

พวกอู๋ต้าเข้ามาโดยไว ทำตามที่เมิ่งเชี่ยนโยวสั่ง ช่วยกันแบก**บเหล็กไปวางไว้ในมุมหนึ่งของห้องครัว 

 

 

ใกล้เที่ยงแล้ว เมิ่งเชี่ยนโยวถามหูจื่อ “ตอนนี้ท่านจะกลับบ้าน หรือกลับเหลาจวี้เสียนเล่า?” 

 

 

หูจื่อตอบ “หลงจู๊ให้ข้าหยุดพักสองวัน ให้ข้าอยู่บ้านได้สองวัน วันที่สามสิบค่อยกลับไปทำงาน” 

 

 

“ตอนปีใหม่ที่เหลาจวี้เสียนไม่หยุดหรือ?” เมิ่งเชี่ยนโยวตกใจร้องถาม 

 

 

หูจื่อตอบกลับ “หนึ่งปีสี่ฤดูไม่ว่าสถานการณ์ใดเหลาจวี้เสียนก็ไม่เคยปิดร้าน ทว่าในช่วงปีใหม่เสี่ยวเอ้อร์ในร้านสลับกันลาพักได้ เดิมหลงจู๊บอกว่าปีที่แล้วข้าไม่ได้กลับบ้านฉลองปีใหม่ ปีนี้จะให้ข้าอยู่กับท่านพ่อท่านแม่ให้เต็มอิ่ม แต่เสี่ยวเอ้อร์ในร้านส่วนใหญ่ขอลากลับบ้าน คนงานที่มีทำกันไม่ทันจริงๆ ข้าจึงบอกหลงจู๊ว่าข้าจะกลับไปทำงานตอนปีใหม่ พอพวกเสี่ยวเอ้อร์กลับมาหลังปีใหม่ ข้าค่อยกลับมาอยู่บ้านหลายๆ วัน” 

 

 

หูจื่อบังคับรถม้ากลับบ้าน 

 

 

ซุนเชี่ยนพาสาวใช้เข้ามาทำอาหารในห้องครัว เห็นสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ แหวกว่ายไปมาใน**บเหล็กก็ให้แปลกประหลาดใจ ยื่นมือออกไปคิดจะหยอกล้อเล่นด้วย เมิ่งเชี่ยนโยวรีบพูดยับยั้งนาง “ระวังจะตำมือเจ้า ได้เจ็บจนร้องไม่ออกแน่” 

 

 

ซุนเชี่ยนได้ฟัง รีบหดมือกลับมา 

 

 

ตอนบ่ายทั้งครอบครัวกลับมากินข้าวพร้อมหน้า ทุกคนต่างแปลกประหลาดใจกับสัตว์ทะเลที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะเด็กน้อยเมิ่งเจี๋ยและเมิ่งชิง เข้าไปยืนติด**บเหล็กไม่ยอมไปไหน เมิ่งชื่อร้องเรียกพวกเขาสองครั้ง เด็กทั้งสองถึงเดินอิดออดกลับมานั่งบนโต๊ะกินข้าว 

 

 

ทุกคนราวกับหารือกันเรียบร้อยแล้ว เช้าวันถัดมา เถ้าแก่หวังก็เข้ามาพร้อมกับรถม้าบรรทุกมันฝรั่ง นำของขวัญปีใหม่เต็มคันรถมามอบให้เมิ่งเชี่ยนโยว บอกว่าเหล่านี้เป็นของขึ้นชื่อของแต่ละท้องถิ่น ให้นางได้ลิ้มรสดู 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่ปฏิเสธ รับมาอย่างหน้าชื่นตาบาน แล้วให้คนบรรทุกกุนเชียงและมันฝรั่งแผ่นทอดจำนวนมากให้เขานำกลับไป 

 

 

พริบตาเดียวก็เป็นวันที่สามสิบแล้ว หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวเมิ่งเสียนและเมิ่งฉีมาจ่ายเงินค่าแรงให้คนงานด้วยกัน ทั้งเตรียมของขวัญปีใหม่ไว้ให้ด้วย 

 

 

ปีนี้คนงานค่อนข้างมาก ยุ่งวุ่นวายกันตลอดช่วงเช้า ถึงจ่ายเงินค่าแรงทั้งหมดเสร็จ 

 

 

ตกบ่าย เมิ่งเอ้ออิ๋นที่ในที่สุดก็มีเวลาว่างเก็บกวาดทั้งในและนอกบ้านจนสะอาดเอี่ยม หลังจากติดกระดาษมงคลคู่ เมิ่งชื่อและซุนเชี่ยนช่วยกันนวดแป้ง ทำไส้เตรียมไว้ห่อเกี๊ยว 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวก็เข้ามาช่วยด้วย กลับกลายเป็นยิ่งช่วยยิ่งยุ่ง เมิ่งชื่อและซุนเชี่ยนต่างรังเกียจผลักไสนางไปอีกทาง 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวทำปากเป็ด แสร้งไม่ได้รับความธรรมเดินเข้าไปฟ้องเมิ่งเสียน “พี่ใหญ่ ดูเถิด ตั้งแต่พี่สะใภ้แต่งเข้ามา ท่านแม่ก็ไม่รักข้าแล้ว” 

 

 

เมิ่งเสียนหัวเราะไม่ได้พูดอะไร 

 

 

เมิ่งชื่อโมโหขบขัน พูดว่า “แม่ลำเอียงรักเชี่ยนเอ๋อร์แล้วอย่างไร? เชี่ยนเอ๋อร์มีความรู้ทำงานเก่ง อ่อนโยนเป็นแม่ศรีเรือน ไม่เหมือนเจ้าที่หาความเป็นกุลสตรีไม่ได้เลยสักนิด” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกลัวเมิ่งชื่อจะบ่นไม่หยุด ทำเป็นแลบลิ้นแก่นแก้ว ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงด้วย 

 

 

เมิ่งเจี๋ยก็แทรกเข้ามา พูดเสียงเล็กเสียงน้อยเว้าวอนเมิ่งชื่อ “ท่านแม่ ข้าอยากช่วยท่านห่อเกี๊ยวเหมือนปีที่แล้วขอรับ” 

 

 

เมิ่งชื่อคิดจะยื่นมือออกไปลูบศีรษะเขา นึกได้ว่ามือตัวเองมีแต่แป้งจึงไม่ทำ พูดว่า “ได้ ประเดี๋ยวพอแม่เตรียมเสร็จแล้วจะให้เจ้ามาห่อนะ” 

 

 

เมิ่งเจี๋ยปรบมือร้องดีใจ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นเขาเพียงคนเดียว ประหลาดใจถาม “ชิงเอ๋อร์เล่า เหตุใดชิงเอ๋อร์ถึงไม่มากับเจ้าด้วย?” 

 

 

“ชิงเอ๋อร์บอกว่าท่านอาสี่ฉลองปีใหม่คนเดียวเงียบเหงาเกินไป จึงไปอยู่กับเขาด้วย” เมิ่งเจี๋ยตอบ 

 

 

ภายในห้องเงียบสงัด 

 

 

เมิ่งชื่อกำลังจะเอ่ยปากพูดบางอย่าง ครั้นเห็นซุนเชี่ยนที่กำลังผสมไส้จำต้องกลืนกลับลงไป 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกลับเอ่ยปากพูดว่า “ท่านแม่ ท่านกับพี่สะใภ้ใหญ่เตรียมของให้มากอีกหน่อยเถอะ ข้าจะเรียกทุกคนมาร่วมฉลองปีใหม่ด้วยกัน” 

 

 

เมิ่งชื่อหันมองซุนเชี่ยนแวบหนึ่ง ร้องห้ามนาง “โยวเอ๋อร์ นี่เป็นปีแรกที่พี่สะใภ้เจ้าฉลองปีใหม่กับครอบครัวเรา เจ้าเรียกคนมากมายมาจะไม่เหมาะสมกระมัง?” 

 

 

“พวกเขาล้วนเป็นคนในครอบครัวพวกเรา มีสิ่งใดไม่เหมาะสมกัน อีกอย่างคนมากจะได้ฉลองปีใหม่อย่างคึกคัก” พูดจบหันไปถามซุนเชี่ยน “ท่านว่าใช่หรือไม่ ท่านพี่สะใภ้?” 

 

 

ซุนเชี่ยนพูดอย่างไม่รังเกียจรังงอนใดๆ “ท่านแม่ ตอนข้าอยู่บ้านฉลองปีใหม่ ในครอบครัวเงียบเหงามีกันเพียงไม่กี่คนนั้น หลังจากกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกลับห้อง ไม่สนุกเลยสักนิด ข้ากลับอิจฉาครอบครัวที่มีคนเยอะๆ ได้อยู่ด้วยกันอย่างคึกคักครื้นเครง ครอบครัวของเราคนมาก ได้เติมเต็มความปรารถนาข้าพอดี” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวพูดว่า “ท่านดูเถิด แม้แต่พี่สะใภ้ก็ชอบความครึกครื้น ข้าจะไปเรียกพวกเขาเข้ามา พวกท่านเตรียมของเพิ่มอีกหน่อยล่ะ” พูดจบ คนก็เดินออกไปด้านนอกแล้ว 

 

 

เมิ่งชื่อส่ายหน้าอย่างจนใจ 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมาที่บ้านหลี่ต้าฉุยและภรรยาก่อน ร้องตะโกนเสียงดัง “ท่านตาหลี่ ท่านยายหลี่” 

 

 

สองผู้เฒ่าหลี่ที่กำลังเตรียมจะห่อเกี๊ยวได้ยินเสียงตะโกนของนาง รีบเดินกันออกมา พูดด้วยความยินดี “โยวเอ๋อร์มาเองเรอะ” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินไปตรงหน้าสะใภ้หลี่ต้าฉุย กอดแขนนาง พูดเสียงหวาน “ท่านยายหลี่ ท่านพ่อท่านแม่ให้ข้ามาตามพวกท่านไปฉลองปีใหม่ด้วยกันเจ้าค่ะ” 

 

 

สะใภ้หลี่ต้าฉุยโบกมือเป็นพัลวัน “ได้อย่างไรกัน ปีนี้ครอบครัวพวกเจ้าเพิ่งจะแต่งสะใภ้เข้าบ้าน พวกเราสองตายายจะเข้าไปวุ่นวายได้อย่างไร” 

 

 

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” เมิ่งเชี่ยนโยวตอบ “พี่สะใภ้ข้าบอกแล้ว นางชอบคนเยอะๆ คึกคักดี พวกท่านตามข้าไปเถอะเจ้าค่ะ” 

 

 

สะใภ้หลี่ต้าฉุยยังคงไม่ยอมไป “พวกเราเตรียมของไว้หมดแล้ว ไม่เข้าไปดีกว่า” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวออกแรงดึง ด้านหนึ่งบังคับนางออกมาด้านนอก ด้านหนึ่งบอกหลี่ต้าฉุยว่า “ท่านตาหลี่ ท่านตามข้ามานะเจ้าค่ะ” 

 

 

สะใภ้หลี่ต้าฉุยสลัดไม่ออก จำต้องพูดกับหลี่ต้าฉุยว่า “เจ้านำสิ่งของที่พวกเราเตรียมไว้มาด้วยก็แล้วกัน” 

 

 

หลี่ต้าฉุยพยักหน้า เข้าไปหยิบของในบ้าน 

 

 

สะใภ้หลี่ต้าฉุยรู้ว่าเมิ่งเชี่ยนโยวกลัวพวกเขาสองคนจะต้องฉลองปีใหม่อย่างโดดเดี่ยว ตั้งใจเข้ามาเชิญพวกเขาไปด้วย เกิดความรู้สึกมากมายเอ่อล้น พูดกับเมิ่งเชี่ยนโยวว่า “โยวเอ๋อร์ ยายหลี่และตาหลี่ได้มาเจอเจ้า ถือว่าชีวิตนี้ไม่เสียชาติเกิดแล้ว” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่ชอบบรรยากาศกระตุ้นเร้าต่อมอารมณ์ที่สุด รีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ไม่เพียงแต่พวกท่าน ประเดี๋ยวข้าจะไปตามท่านอาสี่และครอบครัวเหวินเปียวมาด้วย พวกเราจะได้ร่วมฉลองปีใหม่กันอย่างสนุกสนานครื้นเครง” 

 

 

เมิ่งชื่อเห็นสะใภ้หลี่ต้าฉุยเข้ามา พูดอย่างเป็นกันเอง “อาซ้อหลี่ รีบเข้ามานั่งก่อน ข้านวดแป้งเสร็จ พวกเราจะได้ห่อเกี๊ยวด้วยกัน” 

 

 

สะใภ้หลี่ต้าฉุยพูดอย่างรู้สึกไม่ดี “สะใภ้เสียนเอ๋อร์เพิ่งจะแต่งเข้ามา พวกเรามาเช่นนี้จะไม่เหมาะสมหรือไม่?” 

 

 

ซุนเชี่ยนยิ้มตอบอย่างเบิกบาน “ท่านยายหลี่ ข้าชอบคนเยอะคึกคักที่สุดเจ้าค่ะ” 

 

 

สะใภ้หลี่ต้าฉุยเห็นว่าไม่เหมือนเป็นคำปด จึงยอมคลายความกังวลใจลง 

 

 

เมื่อจัดการสะใภ้หลี่ต้าฉุยเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเชี่ยนโยวหันหลังมายังลานบ้านเมิ่งเสียวเถี่ย ร้องตะโกนเช่นเดิม “ท่านอาสี่ ท่านอยู่หรือไม่?” 

 

 

เมิ่งชิงวิ่งออกมาจากในบ้านก่อน ร้องดีใจถาม “ท่านพี่โยวเอ๋อร์ ท่านมีธุระใดกับบิดาข้าหรือ?” 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวลูบศีรษะเขา รอเมิ่งเสียวเถี่ยลากขาเดินออกมาจากในบ้าน ถึงพูดว่า “ท่านอาสี่ ท่านพ่อท่านแม่ให้ข้ามาตามพวกท่านสองพ่อลูกไปฉลองปีใหม่ด้วยกันเจ้าค่ะ” 

 

 

เมิ่งเสียวเถี่ยมองนางอย่างไม่เชื่อ ริมฝีปากสั่นไหว 

 

 

“ท่านอาสี่วางใจเถิด พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน พี่สะใภ้ข้าไม่เดียดฉันท์ท่านหรอก” เมิ่งเชี่ยนโยวพูด 

 

 

เมิ่งเสียวเถี่ยน้ำตาเอ่อคลอนัยน์ตาพร่าเลือนพลัน 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวแสร้งมองไม่เห็น ดึงมือน้อยของเมิ่งชิงมายังลานบ้านตนเอง 

 

 

การได้ร่วมฉลองปีใหม่กับทุกคน เมิ่งชิงดีใจเดินไปกระโดดไปไม่หยุด 

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวจึงปล่อยมือเขา เมิ่งชิงก็ไม่รอนาง วิ่งลิ่วตรงไปยังลานเรือนด้านหน้า 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด