ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 16 1

Now you are reading ข้ามเวลาล่าฝัน Chapter บทที่ 16 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 16 ตอนที่ 1

 

โรงเรียนใหม่ ห้องเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ และวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามหลังการเปิดภาคเรียนแล้ว เป็นวันที่พวกเขาจะได้ทุ่มเทไปกับกิจกรรมชมรมอย่างเต็มที่

 

โรงเรียนนั้นสนับสนุนกิจกรรมชมรมอย่างเต็มที่ เหตุผลหลัก ๆ คงเพราะหลังจากมีระบบชมรมเกิดขึ้น พวกเด็ก ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะก่อเรื่องน้อยลง แต่ข่าวลือที่ว่าโรงเรียนมองข้ามอาชญากรรมบางอย่างไป ก็มีให้ได้ยิน แต่… การมีชมรมนั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดจริง ๆ

 

ทุกวันเสาร์ โรงเรียนจะมีการเรียนการสอนแค่ครึ่งวัน และปล่อยให้อีกครึ่งเป็นการทำกิจกรรมชมรม และทุก ๆ วันเสาร์สุดท้ายของเดือน จะไม่มีการเรียนการสอน มอบเวลาให้กิจกรรมชมรมเต็ม ๆ แต่จริง ๆ แล้วในเดือนที่เป็นเลขคู่ ทุก ๆ วันเสาร์จะกลายเป็นวันที่ทำกิจกรรมชมรมกันเต็มวันตลอดเดือน

 

ห้องเรียนมีการคุยเสียงดัง เพราะมีคนได้ยินมาว่าอาหารกลางวันจะเป็นทงกัตสึ และตอนนี้ก็เป็นเวลา 5 นาที ก่อนจะถึงเวลาพักเที่ยง ครูภาษาเกาหลีของพวกเขายิ้มให้อย่างมีเลศนัย

 

“อยากไปกินข้าวกันรึยัง?”

 

“อยากแล้วครับ”

 

“วันนี้ตั้งใจเรียนกันมาก ครูจะปล่อยให้ก่อนเวลาแล้วกัน อย่าไปกวนห้องอื่นเขาล่ะ เข้าใจไหม?”

 

ครูคนนี้ช่างรับมือนักเรียนได้เก่งกาจ มารุก้มมองที่นาฬิกาของตัวเอง มันเป็นเวลาก่อนจะเลิก 3 นาที เหล่านักเรียนต่างพากันย่องออกนอกห้องไป ราวกับว่ากำลังเล่นหนังสายลับอยู่ มันรู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้กลับมาทำเรื่องอะไรแบบนี้อีก แต่ขณะที่มารุกำลังจะก้าวขาออกห้องไปบ้างนั้น สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นอะไรเข้า

 

สิ่งที่เขาเห็นคือโดวุค เด็กหนุ่มนั่งอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครชวนเขาออกไปไหน หลังจากวันเสาร์ที่แล้ว โดวุคก็กลายเป็นคนเงียบ ๆ ไป เพื่อน ๆ ต่างพากันหนีห่างจากเขา แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยมือที่ยังล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง

 

และหันมาเห็นสายตาของมารุเข้าพอดี

 

“…”

 

เขาเดินตามหลังเด็กคนอื่น ๆ ออกไป ทำให้มารุต้องประหลาดใจ เพราะเขาคิดว่าโดวุคจะต้องหันมาพูดอะไรใส่สักอย่างแน่ ๆ

 

“เป็นอะไรของมัน?” โดจินถาม

 

“อะไร ห่วงมันเหรอ?”

 

“เออ ถ้ามันทำตัวเลวทรามอย่างเมื่อก่อนก็ยังพอว่า แต่มาเห็นมันทำตัวแบบนี้แล้วหงุดหงิดแปลก ๆ”

 

มารุเอามือโอบไหล่ของโดจิน ส่วนอีกข้างโอบไหล่เดมยังไว้

 

“ปล่อยนะ”

 

โดจินพยายามสะบัดไหล่ออก แต่มารุก็ไม่ปล่อยไปง่าย ๆ

 

“ปล่อย”

 

“เฮ้ย เดมยัง โยนไอ้หมอนี่ลงพื้นกันไหม?”

 

“น่าลอง อืม”

 

ตอนนี้ทั้งสองคนค่อนข้างจะสนิทกันแล้ว ส่วนมารุก็ตอบกลับด้วยการดึงทั้งสองคนเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น

 

“น่า ๆ เพื่อนกันทั้งนั้น”

 

“อะไรวะมารุ? แรงเยอะฉิบหาย”

 

“จริง ๆ เลย”

 

โดจินและเดมยังพยายามจะหนีแต่ก็เปล่าประโยชน์ มารุหันไปดูท่อนแขนของตัวเอง เขาดูแข็งแรงขึ้นกว่าก่อนจริง ๆ เขายังจำได้ดีว่าตอนวัยรุ่นเขามีร่างกายที่แข็งแรง แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่เขาไม่ได้รู้สึกว่ากล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นหรืออะไรทำนองนั้น แต่เป็นการควบคุมของเขาต่างหากที่ดีขึ้น เขารู้สึกได้เลยว่าการควบคุมกล้ามเนื้อและประสาทสัมผัสของเขาดีขึ้นกว่าก่อนมาก

 

‘ถึงจะยังไม่เข้าขั้นนักกีฬา แต่ก็คงพอเทียบได้’

 

คงเป็นผลมาจากความสามารถที่เขาได้มา

 

“ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเอานะ”

 

มารุเริ่มออกวิ่ง เขาพุ่งจะไปจนเกือบจะสุดทางเดิน เพราะของแบบนี้ อย่างที่เขาว่ากันไว้ ใครเร็วใครได้ เขาอยู่ห่างจากโรงอาหารแค่ประมาณ 100 เมตรเท่านั้น

 

“วิ่ง”

 

“เฮ้ย มารุ โดจิน รอด้วย”

 

เดมยังผู้น่าสงสาร ถูกทิ้งไว้ด้านหลังเพียงคนเดียว มารุและโดจินหันมาหาเด็กหนุ่มก่อนจะแสดงเครื่องหมายแห่งมิตรภาพอันแน่นแฟ้น ‘นิ้วกลาง’

 

“ไปก่อนว่ะ”

 

“ลาก่อน”

 

มิตรภาพน่ะพร้อมจะแหลกสลายไปทุกเมื่อ ถ้ามันเป็นเรื่องของกินแล้วล่ะก็

 

* * *

 

“แฮ่ก ๆ พวกนาย เกินไปแล้ว แฮ่ก ๆ”

 

เดมยังมาถึงที่ด้านหลังของพวกเขา พร้อมลมหายใจหอบถี่

 

“ว่าไง เรามาจองที่ไว้ให้ก่อน แกนี่นะ หัดออกกำลังกายบ้างเถอะ”

 

“…”

 

“เพลา ๆ เรื่องเกมลงบ้าง ไม่สิ วันนี้ไปเล่นบาสกันเลยไหม?”

 

“ฉันเล่นบาสไม่เป็นนะ”

 

“ไม่เป็นไร ถ้าได้ลองต่อยสักนิดเดี๋ยวก็เป็น”

 

“…?!”

 

เดมยังหันไปมองหน้าโดจินอย่างงุนงง ส่วนโดจินก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เดมยังนั้นกลายเป็นเด็กที่คนอื่น ๆ ชอบแล้ว เพราะว่าในห้องชายล้วน เรื่องที่พวกเขาจะเอามาคุยกันก็มีแต่เรื่องสาว เรื่องฟุตบอล สุดท้ายก็เรื่องเกม เพียงเท่านั้น และพอดีว่าเดมยังนั้นเป็นสุดยอดเกมเมอร์ การที่เด็กคนอื่นจะอยากคุยกับเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

 

ใบหน้าของเด็กหนุ่มเอง ก็ไม่มีความเขินอายจากวันแรกอยู่แล้ว

 

“ใครจะไปรู้ บางทีเราอาจจะต้องการนักแสดงอ้วน ๆ เข้าสักวันก็ได้” มารุพูด ก่อนจะตักข้าวใส่ปากไป

 

วันนี้เป็นวันเสาร์ วันที่ชมรมจะมีการรวมตัวกันอีกครั้ง เขาเองก็กำลังตื่นเต้นว่าวันนี้ชมรมจะทำเรื่องอะไรกัน

 

“จะได้เลือกละครที่อยากจะแสดงรึยังนะ?” เดมยังเองก็ดูท่าทางตื่นเต้นไม่แพ้กัน

 

“จะว่าไป เดมยัง แกเข้าชมรมเพราะอยากเป็นนักแสดงรึเปล่า?” โดจินถาม พร้อมกับค่อย ๆ ลอบเอามือไปหยิบยาคูลท์ของเดมยัง

 

“อ่า อยากลองดูน่ะ” เดมยังตอบพร้อมกับตบมือของโดจินที่ยื่นมา

 

“ทีแรกฉันว่าอยากจะเป็นตัวเอก แต่ก็ยอมแพ้ละ เพราะยังไงไอ้เกนซุคนั่นก็ต้องได้เป็นตัวเอกแน่ ๆ”

 

“จริงดิ? อืม”

 

ทั้งสองคนต่างมองไปยังความว่างเปล่าด้วยสายตาที่มีความอิจฉาปะปนอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 16 1

Now you are reading ข้ามเวลาล่าฝัน Chapter บทที่ 16 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 16 ตอนที่ 1

 

โรงเรียนใหม่ ห้องเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ และวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามหลังการเปิดภาคเรียนแล้ว เป็นวันที่พวกเขาจะได้ทุ่มเทไปกับกิจกรรมชมรมอย่างเต็มที่

 

โรงเรียนนั้นสนับสนุนกิจกรรมชมรมอย่างเต็มที่ เหตุผลหลัก ๆ คงเพราะหลังจากมีระบบชมรมเกิดขึ้น พวกเด็ก ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะก่อเรื่องน้อยลง แต่ข่าวลือที่ว่าโรงเรียนมองข้ามอาชญากรรมบางอย่างไป ก็มีให้ได้ยิน แต่… การมีชมรมนั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดจริง ๆ

 

ทุกวันเสาร์ โรงเรียนจะมีการเรียนการสอนแค่ครึ่งวัน และปล่อยให้อีกครึ่งเป็นการทำกิจกรรมชมรม และทุก ๆ วันเสาร์สุดท้ายของเดือน จะไม่มีการเรียนการสอน มอบเวลาให้กิจกรรมชมรมเต็ม ๆ แต่จริง ๆ แล้วในเดือนที่เป็นเลขคู่ ทุก ๆ วันเสาร์จะกลายเป็นวันที่ทำกิจกรรมชมรมกันเต็มวันตลอดเดือน

 

ห้องเรียนมีการคุยเสียงดัง เพราะมีคนได้ยินมาว่าอาหารกลางวันจะเป็นทงกัตสึ และตอนนี้ก็เป็นเวลา 5 นาที ก่อนจะถึงเวลาพักเที่ยง ครูภาษาเกาหลีของพวกเขายิ้มให้อย่างมีเลศนัย

 

“อยากไปกินข้าวกันรึยัง?”

 

“อยากแล้วครับ”

 

“วันนี้ตั้งใจเรียนกันมาก ครูจะปล่อยให้ก่อนเวลาแล้วกัน อย่าไปกวนห้องอื่นเขาล่ะ เข้าใจไหม?”

 

ครูคนนี้ช่างรับมือนักเรียนได้เก่งกาจ มารุก้มมองที่นาฬิกาของตัวเอง มันเป็นเวลาก่อนจะเลิก 3 นาที เหล่านักเรียนต่างพากันย่องออกนอกห้องไป ราวกับว่ากำลังเล่นหนังสายลับอยู่ มันรู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้กลับมาทำเรื่องอะไรแบบนี้อีก แต่ขณะที่มารุกำลังจะก้าวขาออกห้องไปบ้างนั้น สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นอะไรเข้า

 

สิ่งที่เขาเห็นคือโดวุค เด็กหนุ่มนั่งอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครชวนเขาออกไปไหน หลังจากวันเสาร์ที่แล้ว โดวุคก็กลายเป็นคนเงียบ ๆ ไป เพื่อน ๆ ต่างพากันหนีห่างจากเขา แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยมือที่ยังล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง

 

และหันมาเห็นสายตาของมารุเข้าพอดี

 

“…”

 

เขาเดินตามหลังเด็กคนอื่น ๆ ออกไป ทำให้มารุต้องประหลาดใจ เพราะเขาคิดว่าโดวุคจะต้องหันมาพูดอะไรใส่สักอย่างแน่ ๆ

 

“เป็นอะไรของมัน?” โดจินถาม

 

“อะไร ห่วงมันเหรอ?”

 

“เออ ถ้ามันทำตัวเลวทรามอย่างเมื่อก่อนก็ยังพอว่า แต่มาเห็นมันทำตัวแบบนี้แล้วหงุดหงิดแปลก ๆ”

 

มารุเอามือโอบไหล่ของโดจิน ส่วนอีกข้างโอบไหล่เดมยังไว้

 

“ปล่อยนะ”

 

โดจินพยายามสะบัดไหล่ออก แต่มารุก็ไม่ปล่อยไปง่าย ๆ

 

“ปล่อย”

 

“เฮ้ย เดมยัง โยนไอ้หมอนี่ลงพื้นกันไหม?”

 

“น่าลอง อืม”

 

ตอนนี้ทั้งสองคนค่อนข้างจะสนิทกันแล้ว ส่วนมารุก็ตอบกลับด้วยการดึงทั้งสองคนเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น

 

“น่า ๆ เพื่อนกันทั้งนั้น”

 

“อะไรวะมารุ? แรงเยอะฉิบหาย”

 

“จริง ๆ เลย”

 

โดจินและเดมยังพยายามจะหนีแต่ก็เปล่าประโยชน์ มารุหันไปดูท่อนแขนของตัวเอง เขาดูแข็งแรงขึ้นกว่าก่อนจริง ๆ เขายังจำได้ดีว่าตอนวัยรุ่นเขามีร่างกายที่แข็งแรง แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่เขาไม่ได้รู้สึกว่ากล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นหรืออะไรทำนองนั้น แต่เป็นการควบคุมของเขาต่างหากที่ดีขึ้น เขารู้สึกได้เลยว่าการควบคุมกล้ามเนื้อและประสาทสัมผัสของเขาดีขึ้นกว่าก่อนมาก

 

‘ถึงจะยังไม่เข้าขั้นนักกีฬา แต่ก็คงพอเทียบได้’

 

คงเป็นผลมาจากความสามารถที่เขาได้มา

 

“ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเอานะ”

 

มารุเริ่มออกวิ่ง เขาพุ่งจะไปจนเกือบจะสุดทางเดิน เพราะของแบบนี้ อย่างที่เขาว่ากันไว้ ใครเร็วใครได้ เขาอยู่ห่างจากโรงอาหารแค่ประมาณ 100 เมตรเท่านั้น

 

“วิ่ง”

 

“เฮ้ย มารุ โดจิน รอด้วย”

 

เดมยังผู้น่าสงสาร ถูกทิ้งไว้ด้านหลังเพียงคนเดียว มารุและโดจินหันมาหาเด็กหนุ่มก่อนจะแสดงเครื่องหมายแห่งมิตรภาพอันแน่นแฟ้น ‘นิ้วกลาง’

 

“ไปก่อนว่ะ”

 

“ลาก่อน”

 

มิตรภาพน่ะพร้อมจะแหลกสลายไปทุกเมื่อ ถ้ามันเป็นเรื่องของกินแล้วล่ะก็

 

* * *

 

“แฮ่ก ๆ พวกนาย เกินไปแล้ว แฮ่ก ๆ”

 

เดมยังมาถึงที่ด้านหลังของพวกเขา พร้อมลมหายใจหอบถี่

 

“ว่าไง เรามาจองที่ไว้ให้ก่อน แกนี่นะ หัดออกกำลังกายบ้างเถอะ”

 

“…”

 

“เพลา ๆ เรื่องเกมลงบ้าง ไม่สิ วันนี้ไปเล่นบาสกันเลยไหม?”

 

“ฉันเล่นบาสไม่เป็นนะ”

 

“ไม่เป็นไร ถ้าได้ลองต่อยสักนิดเดี๋ยวก็เป็น”

 

“…?!”

 

เดมยังหันไปมองหน้าโดจินอย่างงุนงง ส่วนโดจินก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เดมยังนั้นกลายเป็นเด็กที่คนอื่น ๆ ชอบแล้ว เพราะว่าในห้องชายล้วน เรื่องที่พวกเขาจะเอามาคุยกันก็มีแต่เรื่องสาว เรื่องฟุตบอล สุดท้ายก็เรื่องเกม เพียงเท่านั้น และพอดีว่าเดมยังนั้นเป็นสุดยอดเกมเมอร์ การที่เด็กคนอื่นจะอยากคุยกับเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

 

ใบหน้าของเด็กหนุ่มเอง ก็ไม่มีความเขินอายจากวันแรกอยู่แล้ว

 

“ใครจะไปรู้ บางทีเราอาจจะต้องการนักแสดงอ้วน ๆ เข้าสักวันก็ได้” มารุพูด ก่อนจะตักข้าวใส่ปากไป

 

วันนี้เป็นวันเสาร์ วันที่ชมรมจะมีการรวมตัวกันอีกครั้ง เขาเองก็กำลังตื่นเต้นว่าวันนี้ชมรมจะทำเรื่องอะไรกัน

 

“จะได้เลือกละครที่อยากจะแสดงรึยังนะ?” เดมยังเองก็ดูท่าทางตื่นเต้นไม่แพ้กัน

 

“จะว่าไป เดมยัง แกเข้าชมรมเพราะอยากเป็นนักแสดงรึเปล่า?” โดจินถาม พร้อมกับค่อย ๆ ลอบเอามือไปหยิบยาคูลท์ของเดมยัง

 

“อ่า อยากลองดูน่ะ” เดมยังตอบพร้อมกับตบมือของโดจินที่ยื่นมา

 

“ทีแรกฉันว่าอยากจะเป็นตัวเอก แต่ก็ยอมแพ้ละ เพราะยังไงไอ้เกนซุคนั่นก็ต้องได้เป็นตัวเอกแน่ ๆ”

 

“จริงดิ? อืม”

 

ทั้งสองคนต่างมองไปยังความว่างเปล่าด้วยสายตาที่มีความอิจฉาปะปนอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+