คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 15 ไปขุดหลุมฝังศพตัวเองจะดีกว่า

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 15 ไปขุดหลุมฝังศพตัวเองจะดีกว่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สตรีไร้ค่า เจ้าว่าผู้ใดหน้าด้านกัน!”

เมื่ออู๋ชื่อได้ยินคำพูดของฉินอวี้โม่ เขาก็จ้องมองนางด้วยสายตาดุร้าย

ชื่อของเขามีความหมายที่ดี เจตนาของบิดาที่ตั้งชื่อนี้ให้เขาก็เพราะหวังให้เขาวิ่งทะยานทั่วทั้งดินแดนเสมือนบุรุษที่แข็งแกร่งโดยไม่มีสิ่งใดหรือผู้ใดมาหยุดยั้งได้ ให้เขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าเหมือนการก้าวหน้าไม่มีสิ้นสุด

( 驰 (อ่านว่า ชื่อ) หมายถึง ก้าวหน้าเร็ว, พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว)

ทว่าไม่คิดเลยว่าเมื่อเอาคำว่า ‘ชื่อ’ มาร่วมกับแซ่ ‘อู๋’ และอ่านรวมกันแล้ว  จะกลายเป็นคำที่ออกเสียงคล้ายกับคำว่าหน้าด้านไร้ยางอายไปเสียได้ เพราะเหตุนี้ทำให้ตั้งแต่เล็กจนโต อู๋ชื่อก็มักจะถูกล้อเลียนด้วยเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้ง

“ทำไมเล่า ก็ชื่อเจ้าเป็นแบบนั้น แล้วจะให้ข้าเรียกว่าอะไร?”

ฉินอวี้โม่ไม่สนใจสายตาที่ดุร้ายของอู๋ชื่อเลยแม้แต่น้อย  นางไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ

นางคือฉินอวี้โม่คนใหม่ และไม่ใช่คุณหนูผู้อ่อนแอบอบบางแห่งตระกูลฉินที่จะยอมถูกคนอื่นรังแกอีกต่อไปแล้ว   อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตมายาสี่ดารา  คนผู้นี้ไม่คู่ควรจะอยู่ในสายตาของนางสักนิด!

“เพ่ย ข้ามีชื่อนั้นแล้วมันมีปัญหาอะไรกัน? มันก็ดีกว่าขยะที่ไม่อาจฝึกยุทธ์ได้อย่างเจ้า สตรีขยะเน่าเหม็น  เจ้าน่ะทำได้เพียงปั้นหน้าสวยไร้สาระไปวันๆ เท่านั้นแหละ!”

อู๋ชื่อผู้เป็นถึงคุณชายตระกูลใหญ่ต่อว่าด่าทอสตรีเสียงดังลั่น เขาจ้องเขม็งไปที่ฉินอวี้โม่ด้วยสายตาเคียดแค้น

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเจ้าถืงมีนามว่าอู๋ฉื่อ นั่นก็เพราะว่าเจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายจริงๆ นั่นแหละ”

ฉินอวี้โม่ยิ้มเย้ยพลางมองอู๋ชื่อด้วยสายตาดูถูกและกล่าวเสียงเย้ยหยัน “ข้าขอแนะนำให้เจ้ากลับไปส่องกระจกดูตัวเองตอนที่กลับถึงบ้าน เจ้าจะได้เข้าใจว่าหน้าของตัวเองมันทำให้ผู้อื่นเขารังเกียจมากขนาดไหน”

แม้ว่าอู๋ชื่อจะไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่งดงามโดดเด่น แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าตนเองถึงกับย่ำแย่ขี้ริ้วขี้เหร่เลยเสียทีเดียว แต่ทว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของฉินอวี้โม่กลับสื่อความว่าเขาเป็นบุรุษอัปลักษณ์ รูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวจนดูไม่ได้

“เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าท่านแม่ของข้าตอบว่าอย่างไร ในตอนที่เจ้ามาสู่ขอข้าที่ตระกูลฉิน?”

ฉินอวี้โม่มองอู๋ชื่อด้วยสายตาดูแคลน

‘คิดจะเล่นสงครามน้ำลายกับเธอน่ะเหรอ หึ ไปหาที่เหมาะๆ ขุดหลุมฝังศพตัวเองไว้รอเลยจะดีกว่า!

“แม่ข้าบอกว่า เจ้าน่ะเป็นคางคกอยากจะกินเนื้อหงส์  ว่างๆ หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาเองตัวเองซะบ้าง!”

ครั้งที่อู๋ชื่อส่งคนไปทาบทามสู่ขอคุณหนูสี่ที่ตระกูลฉิน ในตอนนั้นอวี๋เสี่ยวอวิ๋นปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล แม้ว่าฉินอวี้โม่จะถูกมองเป็นคนไร้ค่าในสายตาคนมากมายแต่นางก็ไม่ใช่สิ่งของที่ไร้ชีวิตจิตใจ  อวี๋เสี่ยวอวิ๋นรักและสงสารบุตรสาวมาก  นางเกรงว่าเมื่อห่างจากอกของตน บุตรสาวจะถูกรังแกหนักขึ้น อีกทั้งจะไม่มีผู้ใดคอยดูแลปกป้องไม่มีผู้เป็นที่พึ่งให้กับนาง  ฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลฉินในตอนนั้นจึงไม่คิดจะยกบุตรสาวให้กับผู้ใดง่ายๆ

แต่ทว่าคำพูดของอวี๋เสี่ยอวิ๋นในตอนนั้นใช้วาจาที่นิ่มนวลกว่านี้มาก ประโยคที่เพิ่งจะกล่าวไปนี้เป็นคำพูดที่ฉินอวี้โม่ปรุงแต่งขึ้นมาเองเพราะต้องการเสียดสีบุรุษไร้ยางอายที่เคยรังแกสตรี อู๋ชื่อ ผู้นี้

เธอตั้งใจไว้แล้วว่า เธอจะเอาคืนผู้ที่เคยรังแกฉินอวี้โม่อย่างสาสม

ในเมื่อวันนี้คุณชายหน้าด้านก้าวออกมาชี้นิ้วด่าทอผู้อื่น หาเรื่องใส่ตัวด้วยตัวเอง ฉะนั้นก็อย่าได้ตำหนิหาว่าเธอหยาบคายไม่ไว้หน้า!

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินอวี้โม่ แม้แต่กองทหารรับจ้างชื่อเหยียนที่อยู่ด้านหลังอู๋ชื่อก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลุดเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน หากไม่ใช่เพราะอู๋ชื่อมาในนามตัวแทนของผู้ว่าจ้าง พวกเขาก็คงฮาครืนเสียงดังอย่างไม่เกรงใจไปแล้ว   แม้แต่ชื่อเซียวเองก็ยังอดไม่ได้ที่ยกมุมปากปรากฏเป็นรอยยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา…ดูก็รู้ว่าเขากำลังข่มรอยยิ้มไว้อย่างถึงที่สุด

หลินจิ้งหงที่อยู่ข้างๆ ฉินอวี้โม่หัวเราะร่าเสียงดังลั่นอย่างชอบอกชอบใจไปตั้งแต่ชื่อคุณชายหน้าด้านหลุดจากปากฉินอวี้โม่แล้ว

มีเพียงแค่หานโม่ฉือผู้เดียวเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชาเหมือนเช่นเคย

“สตรีไร้ค่า เจ้าหาที่ตายแล้ว!”

เมื่อได้ยินวาจาถากถางของฉินอวี้โม่ อู๋ชื่อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพุ่งตรงเข้าใส่สตรีเพียงหนึ่งเดียวในที่แห่งนั้นทันที

หลินจิ้งหงเห็นการกระทำของอู๋ชื่อก็คิดจะก้าวเข้าไปขัดขวาง ทว่าเขากลับถูกหานโม่ฉือที่อยู่ข้างหลังคว้าจับแขนไว้เสียก่อน สหายมนุษย์น้ำแข็งส่ายศีรษะอย่างต้องการจะห้าม

หลินจิ้งหงพยักหน้าเข้าใจในทันที เขาเองก็เกือบจะลืมไปว่าฉินอวี้โม่ไม่ใช่กระต่ายขาวตัวน้อยที่ผู้ใดจะเข้ามารังแกได้ง่ายๆ

ใบหน้าของอู๋ชื่อบิดเบี้ยวและมืดมนเป็นอย่างมาก  ร่องรอยความโกรธแค้นรุนแรงและเจตนาสังหารเข้มข้นปรากฏให้เห็นจากทั้งแววตาและบรรยากาศที่ร่างกายของเขาปลดปล่อยออกมา

ในหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะรังแกฉินอวี้โม่อยู่เป็นประจำ แต่เนื่องจากกลัวว่าจะมีปัญหากับทางตระกูลฉิน เขาจึงไม่เคยลงมือหนักหรือทำให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งเลยสักครั้ง  แต่เวลานี้ฉินอวี้โม่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว  เขาจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้นอีก

สตรีไร้ค่า ขยะน่ารังเกียจผู้นี้กล้ามาเหยียดหยามเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย  ถ้าวันนี้เขาไม่ได้สั่งสอนนางให้รู้สำนึก  เขาก็คงไม่สมควรใช้นามอู๋ชื่ออีกต่อไปแล้ว

— หมับ! —

เสียงเบาๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น อู๋ชื่อรู้สึกได้ว่าข้อมือของเขาถูกคว้าจับเอาไว้ ฝ่ามือที่หมายจะซัดเข้าใส่ฉินอวี้โม่ถูกใครบางคนหยุดไว้ได้เสียก่อน

ทว่าเมื่อได้มองดูชัดๆ คุณชายตระกูลอู๋จึงได้รู้ว่า ผู้ที่จับยึดข้อมือของเขาไว้มิใช่ใครอื่น แต่ก็คือฉินอวี้โม่สตรีไร้ค่าที่เขากล่าวหา  นางมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขาได้อย่างไรไม่อาจทราบ!  สตรีผู้เคลื่อนไหวราวภูตผีกำลังมีรอยยิ้มเย้ยหยันเต็มใบหน้า

— กร็อบ! —

เกิดเสียง *กร็อบ* เบาๆ ขึ้นครั้งหนึ่ง มันเบาเสียจนหากไม่อยู่ใกล้ในระยะหนึ่งจั้งก็ยากที่จะได้ยิน  อู๋ชื่อไม่แม้แต่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ  เขารู้สึกเพียงแค่คล้ายกับว่าถูกฉินอวี้โม่หยิกเอาเท่านั้น  ทว่าข้อมือข้างที่ถูกจับยึดเอาไว้นั้นกลับสูญเสียการควบคุมไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“คุณชายอู๋ ทำไมหยุดเสียล่ะ? ต่อเลยซิ”

ฉินอวี้โม่มองดูอู๋ชื่อ ดวงตาและใบหน้างดงามฉายแววสนุกสนานอย่างปิดไม่มิด พร้อมกันนั้นริมฝีปากอวบอิ่มก็ขยับ นางเอื้อนเอ่ยวาจาแสนเยือกเย็นด้วยเสียงหวานใส

เมื่อได้ยินเสียงหวานหยดและมองเห็นรอยยิ้มแสนสนุกของฉินอวี้โม่  รวมถึงมือที่ไร้ความรู้สึกไปแล้วของตัวเอง ใบหน้าของอู๋ชื่อก็ปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 15 ไปขุดหลุมฝังศพตัวเองจะดีกว่า

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 15 ไปขุดหลุมฝังศพตัวเองจะดีกว่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สตรีไร้ค่า เจ้าว่าผู้ใดหน้าด้านกัน!”

เมื่ออู๋ชื่อได้ยินคำพูดของฉินอวี้โม่ เขาก็จ้องมองนางด้วยสายตาดุร้าย

ชื่อของเขามีความหมายที่ดี เจตนาของบิดาที่ตั้งชื่อนี้ให้เขาก็เพราะหวังให้เขาวิ่งทะยานทั่วทั้งดินแดนเสมือนบุรุษที่แข็งแกร่งโดยไม่มีสิ่งใดหรือผู้ใดมาหยุดยั้งได้ ให้เขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าเหมือนการก้าวหน้าไม่มีสิ้นสุด

( 驰 (อ่านว่า ชื่อ) หมายถึง ก้าวหน้าเร็ว, พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว)

ทว่าไม่คิดเลยว่าเมื่อเอาคำว่า ‘ชื่อ’ มาร่วมกับแซ่ ‘อู๋’ และอ่านรวมกันแล้ว  จะกลายเป็นคำที่ออกเสียงคล้ายกับคำว่าหน้าด้านไร้ยางอายไปเสียได้ เพราะเหตุนี้ทำให้ตั้งแต่เล็กจนโต อู๋ชื่อก็มักจะถูกล้อเลียนด้วยเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้ง

“ทำไมเล่า ก็ชื่อเจ้าเป็นแบบนั้น แล้วจะให้ข้าเรียกว่าอะไร?”

ฉินอวี้โม่ไม่สนใจสายตาที่ดุร้ายของอู๋ชื่อเลยแม้แต่น้อย  นางไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ

นางคือฉินอวี้โม่คนใหม่ และไม่ใช่คุณหนูผู้อ่อนแอบอบบางแห่งตระกูลฉินที่จะยอมถูกคนอื่นรังแกอีกต่อไปแล้ว   อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตมายาสี่ดารา  คนผู้นี้ไม่คู่ควรจะอยู่ในสายตาของนางสักนิด!

“เพ่ย ข้ามีชื่อนั้นแล้วมันมีปัญหาอะไรกัน? มันก็ดีกว่าขยะที่ไม่อาจฝึกยุทธ์ได้อย่างเจ้า สตรีขยะเน่าเหม็น  เจ้าน่ะทำได้เพียงปั้นหน้าสวยไร้สาระไปวันๆ เท่านั้นแหละ!”

อู๋ชื่อผู้เป็นถึงคุณชายตระกูลใหญ่ต่อว่าด่าทอสตรีเสียงดังลั่น เขาจ้องเขม็งไปที่ฉินอวี้โม่ด้วยสายตาเคียดแค้น

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเจ้าถืงมีนามว่าอู๋ฉื่อ นั่นก็เพราะว่าเจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายจริงๆ นั่นแหละ”

ฉินอวี้โม่ยิ้มเย้ยพลางมองอู๋ชื่อด้วยสายตาดูถูกและกล่าวเสียงเย้ยหยัน “ข้าขอแนะนำให้เจ้ากลับไปส่องกระจกดูตัวเองตอนที่กลับถึงบ้าน เจ้าจะได้เข้าใจว่าหน้าของตัวเองมันทำให้ผู้อื่นเขารังเกียจมากขนาดไหน”

แม้ว่าอู๋ชื่อจะไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่งดงามโดดเด่น แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าตนเองถึงกับย่ำแย่ขี้ริ้วขี้เหร่เลยเสียทีเดียว แต่ทว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของฉินอวี้โม่กลับสื่อความว่าเขาเป็นบุรุษอัปลักษณ์ รูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวจนดูไม่ได้

“เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าท่านแม่ของข้าตอบว่าอย่างไร ในตอนที่เจ้ามาสู่ขอข้าที่ตระกูลฉิน?”

ฉินอวี้โม่มองอู๋ชื่อด้วยสายตาดูแคลน

‘คิดจะเล่นสงครามน้ำลายกับเธอน่ะเหรอ หึ ไปหาที่เหมาะๆ ขุดหลุมฝังศพตัวเองไว้รอเลยจะดีกว่า!

“แม่ข้าบอกว่า เจ้าน่ะเป็นคางคกอยากจะกินเนื้อหงส์  ว่างๆ หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาเองตัวเองซะบ้าง!”

ครั้งที่อู๋ชื่อส่งคนไปทาบทามสู่ขอคุณหนูสี่ที่ตระกูลฉิน ในตอนนั้นอวี๋เสี่ยวอวิ๋นปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล แม้ว่าฉินอวี้โม่จะถูกมองเป็นคนไร้ค่าในสายตาคนมากมายแต่นางก็ไม่ใช่สิ่งของที่ไร้ชีวิตจิตใจ  อวี๋เสี่ยวอวิ๋นรักและสงสารบุตรสาวมาก  นางเกรงว่าเมื่อห่างจากอกของตน บุตรสาวจะถูกรังแกหนักขึ้น อีกทั้งจะไม่มีผู้ใดคอยดูแลปกป้องไม่มีผู้เป็นที่พึ่งให้กับนาง  ฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลฉินในตอนนั้นจึงไม่คิดจะยกบุตรสาวให้กับผู้ใดง่ายๆ

แต่ทว่าคำพูดของอวี๋เสี่ยอวิ๋นในตอนนั้นใช้วาจาที่นิ่มนวลกว่านี้มาก ประโยคที่เพิ่งจะกล่าวไปนี้เป็นคำพูดที่ฉินอวี้โม่ปรุงแต่งขึ้นมาเองเพราะต้องการเสียดสีบุรุษไร้ยางอายที่เคยรังแกสตรี อู๋ชื่อ ผู้นี้

เธอตั้งใจไว้แล้วว่า เธอจะเอาคืนผู้ที่เคยรังแกฉินอวี้โม่อย่างสาสม

ในเมื่อวันนี้คุณชายหน้าด้านก้าวออกมาชี้นิ้วด่าทอผู้อื่น หาเรื่องใส่ตัวด้วยตัวเอง ฉะนั้นก็อย่าได้ตำหนิหาว่าเธอหยาบคายไม่ไว้หน้า!

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินอวี้โม่ แม้แต่กองทหารรับจ้างชื่อเหยียนที่อยู่ด้านหลังอู๋ชื่อก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลุดเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน หากไม่ใช่เพราะอู๋ชื่อมาในนามตัวแทนของผู้ว่าจ้าง พวกเขาก็คงฮาครืนเสียงดังอย่างไม่เกรงใจไปแล้ว   แม้แต่ชื่อเซียวเองก็ยังอดไม่ได้ที่ยกมุมปากปรากฏเป็นรอยยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา…ดูก็รู้ว่าเขากำลังข่มรอยยิ้มไว้อย่างถึงที่สุด

หลินจิ้งหงที่อยู่ข้างๆ ฉินอวี้โม่หัวเราะร่าเสียงดังลั่นอย่างชอบอกชอบใจไปตั้งแต่ชื่อคุณชายหน้าด้านหลุดจากปากฉินอวี้โม่แล้ว

มีเพียงแค่หานโม่ฉือผู้เดียวเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชาเหมือนเช่นเคย

“สตรีไร้ค่า เจ้าหาที่ตายแล้ว!”

เมื่อได้ยินวาจาถากถางของฉินอวี้โม่ อู๋ชื่อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพุ่งตรงเข้าใส่สตรีเพียงหนึ่งเดียวในที่แห่งนั้นทันที

หลินจิ้งหงเห็นการกระทำของอู๋ชื่อก็คิดจะก้าวเข้าไปขัดขวาง ทว่าเขากลับถูกหานโม่ฉือที่อยู่ข้างหลังคว้าจับแขนไว้เสียก่อน สหายมนุษย์น้ำแข็งส่ายศีรษะอย่างต้องการจะห้าม

หลินจิ้งหงพยักหน้าเข้าใจในทันที เขาเองก็เกือบจะลืมไปว่าฉินอวี้โม่ไม่ใช่กระต่ายขาวตัวน้อยที่ผู้ใดจะเข้ามารังแกได้ง่ายๆ

ใบหน้าของอู๋ชื่อบิดเบี้ยวและมืดมนเป็นอย่างมาก  ร่องรอยความโกรธแค้นรุนแรงและเจตนาสังหารเข้มข้นปรากฏให้เห็นจากทั้งแววตาและบรรยากาศที่ร่างกายของเขาปลดปล่อยออกมา

ในหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะรังแกฉินอวี้โม่อยู่เป็นประจำ แต่เนื่องจากกลัวว่าจะมีปัญหากับทางตระกูลฉิน เขาจึงไม่เคยลงมือหนักหรือทำให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งเลยสักครั้ง  แต่เวลานี้ฉินอวี้โม่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว  เขาจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้นอีก

สตรีไร้ค่า ขยะน่ารังเกียจผู้นี้กล้ามาเหยียดหยามเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย  ถ้าวันนี้เขาไม่ได้สั่งสอนนางให้รู้สำนึก  เขาก็คงไม่สมควรใช้นามอู๋ชื่ออีกต่อไปแล้ว

— หมับ! —

เสียงเบาๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น อู๋ชื่อรู้สึกได้ว่าข้อมือของเขาถูกคว้าจับเอาไว้ ฝ่ามือที่หมายจะซัดเข้าใส่ฉินอวี้โม่ถูกใครบางคนหยุดไว้ได้เสียก่อน

ทว่าเมื่อได้มองดูชัดๆ คุณชายตระกูลอู๋จึงได้รู้ว่า ผู้ที่จับยึดข้อมือของเขาไว้มิใช่ใครอื่น แต่ก็คือฉินอวี้โม่สตรีไร้ค่าที่เขากล่าวหา  นางมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขาได้อย่างไรไม่อาจทราบ!  สตรีผู้เคลื่อนไหวราวภูตผีกำลังมีรอยยิ้มเย้ยหยันเต็มใบหน้า

— กร็อบ! —

เกิดเสียง *กร็อบ* เบาๆ ขึ้นครั้งหนึ่ง มันเบาเสียจนหากไม่อยู่ใกล้ในระยะหนึ่งจั้งก็ยากที่จะได้ยิน  อู๋ชื่อไม่แม้แต่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ  เขารู้สึกเพียงแค่คล้ายกับว่าถูกฉินอวี้โม่หยิกเอาเท่านั้น  ทว่าข้อมือข้างที่ถูกจับยึดเอาไว้นั้นกลับสูญเสียการควบคุมไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“คุณชายอู๋ ทำไมหยุดเสียล่ะ? ต่อเลยซิ”

ฉินอวี้โม่มองดูอู๋ชื่อ ดวงตาและใบหน้างดงามฉายแววสนุกสนานอย่างปิดไม่มิด พร้อมกันนั้นริมฝีปากอวบอิ่มก็ขยับ นางเอื้อนเอ่ยวาจาแสนเยือกเย็นด้วยเสียงหวานใส

เมื่อได้ยินเสียงหวานหยดและมองเห็นรอยยิ้มแสนสนุกของฉินอวี้โม่  รวมถึงมือที่ไร้ความรู้สึกไปแล้วของตัวเอง ใบหน้าของอู๋ชื่อก็ปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 15 ไปขุดหลุมฝังศพตัวเองจะดีกว่า

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 15 ไปขุดหลุมฝังศพตัวเองจะดีกว่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สตรีไร้ค่า เจ้าว่าผู้ใดหน้าด้านกัน!”

เมื่ออู๋ชื่อได้ยินคำพูดของฉินอวี้โม่ เขาก็จ้องมองนางด้วยสายตาดุร้าย

ชื่อของเขามีความหมายที่ดี เจตนาของบิดาที่ตั้งชื่อนี้ให้เขาก็เพราะหวังให้เขาวิ่งทะยานทั่วทั้งดินแดนเสมือนบุรุษที่แข็งแกร่งโดยไม่มีสิ่งใดหรือผู้ใดมาหยุดยั้งได้ ให้เขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าเหมือนการก้าวหน้าไม่มีสิ้นสุด

( 驰 (อ่านว่า ชื่อ) หมายถึง ก้าวหน้าเร็ว, พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว)

ทว่าไม่คิดเลยว่าเมื่อเอาคำว่า ‘ชื่อ’ มาร่วมกับแซ่ ‘อู๋’ และอ่านรวมกันแล้ว  จะกลายเป็นคำที่ออกเสียงคล้ายกับคำว่าหน้าด้านไร้ยางอายไปเสียได้ เพราะเหตุนี้ทำให้ตั้งแต่เล็กจนโต อู๋ชื่อก็มักจะถูกล้อเลียนด้วยเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้ง

“ทำไมเล่า ก็ชื่อเจ้าเป็นแบบนั้น แล้วจะให้ข้าเรียกว่าอะไร?”

ฉินอวี้โม่ไม่สนใจสายตาที่ดุร้ายของอู๋ชื่อเลยแม้แต่น้อย  นางไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ

นางคือฉินอวี้โม่คนใหม่ และไม่ใช่คุณหนูผู้อ่อนแอบอบบางแห่งตระกูลฉินที่จะยอมถูกคนอื่นรังแกอีกต่อไปแล้ว   อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตมายาสี่ดารา  คนผู้นี้ไม่คู่ควรจะอยู่ในสายตาของนางสักนิด!

“เพ่ย ข้ามีชื่อนั้นแล้วมันมีปัญหาอะไรกัน? มันก็ดีกว่าขยะที่ไม่อาจฝึกยุทธ์ได้อย่างเจ้า สตรีขยะเน่าเหม็น  เจ้าน่ะทำได้เพียงปั้นหน้าสวยไร้สาระไปวันๆ เท่านั้นแหละ!”

อู๋ชื่อผู้เป็นถึงคุณชายตระกูลใหญ่ต่อว่าด่าทอสตรีเสียงดังลั่น เขาจ้องเขม็งไปที่ฉินอวี้โม่ด้วยสายตาเคียดแค้น

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเจ้าถืงมีนามว่าอู๋ฉื่อ นั่นก็เพราะว่าเจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายจริงๆ นั่นแหละ”

ฉินอวี้โม่ยิ้มเย้ยพลางมองอู๋ชื่อด้วยสายตาดูถูกและกล่าวเสียงเย้ยหยัน “ข้าขอแนะนำให้เจ้ากลับไปส่องกระจกดูตัวเองตอนที่กลับถึงบ้าน เจ้าจะได้เข้าใจว่าหน้าของตัวเองมันทำให้ผู้อื่นเขารังเกียจมากขนาดไหน”

แม้ว่าอู๋ชื่อจะไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่งดงามโดดเด่น แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าตนเองถึงกับย่ำแย่ขี้ริ้วขี้เหร่เลยเสียทีเดียว แต่ทว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของฉินอวี้โม่กลับสื่อความว่าเขาเป็นบุรุษอัปลักษณ์ รูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวจนดูไม่ได้

“เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าท่านแม่ของข้าตอบว่าอย่างไร ในตอนที่เจ้ามาสู่ขอข้าที่ตระกูลฉิน?”

ฉินอวี้โม่มองอู๋ชื่อด้วยสายตาดูแคลน

‘คิดจะเล่นสงครามน้ำลายกับเธอน่ะเหรอ หึ ไปหาที่เหมาะๆ ขุดหลุมฝังศพตัวเองไว้รอเลยจะดีกว่า!

“แม่ข้าบอกว่า เจ้าน่ะเป็นคางคกอยากจะกินเนื้อหงส์  ว่างๆ หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาเองตัวเองซะบ้าง!”

ครั้งที่อู๋ชื่อส่งคนไปทาบทามสู่ขอคุณหนูสี่ที่ตระกูลฉิน ในตอนนั้นอวี๋เสี่ยวอวิ๋นปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล แม้ว่าฉินอวี้โม่จะถูกมองเป็นคนไร้ค่าในสายตาคนมากมายแต่นางก็ไม่ใช่สิ่งของที่ไร้ชีวิตจิตใจ  อวี๋เสี่ยวอวิ๋นรักและสงสารบุตรสาวมาก  นางเกรงว่าเมื่อห่างจากอกของตน บุตรสาวจะถูกรังแกหนักขึ้น อีกทั้งจะไม่มีผู้ใดคอยดูแลปกป้องไม่มีผู้เป็นที่พึ่งให้กับนาง  ฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลฉินในตอนนั้นจึงไม่คิดจะยกบุตรสาวให้กับผู้ใดง่ายๆ

แต่ทว่าคำพูดของอวี๋เสี่ยอวิ๋นในตอนนั้นใช้วาจาที่นิ่มนวลกว่านี้มาก ประโยคที่เพิ่งจะกล่าวไปนี้เป็นคำพูดที่ฉินอวี้โม่ปรุงแต่งขึ้นมาเองเพราะต้องการเสียดสีบุรุษไร้ยางอายที่เคยรังแกสตรี อู๋ชื่อ ผู้นี้

เธอตั้งใจไว้แล้วว่า เธอจะเอาคืนผู้ที่เคยรังแกฉินอวี้โม่อย่างสาสม

ในเมื่อวันนี้คุณชายหน้าด้านก้าวออกมาชี้นิ้วด่าทอผู้อื่น หาเรื่องใส่ตัวด้วยตัวเอง ฉะนั้นก็อย่าได้ตำหนิหาว่าเธอหยาบคายไม่ไว้หน้า!

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินอวี้โม่ แม้แต่กองทหารรับจ้างชื่อเหยียนที่อยู่ด้านหลังอู๋ชื่อก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลุดเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน หากไม่ใช่เพราะอู๋ชื่อมาในนามตัวแทนของผู้ว่าจ้าง พวกเขาก็คงฮาครืนเสียงดังอย่างไม่เกรงใจไปแล้ว   แม้แต่ชื่อเซียวเองก็ยังอดไม่ได้ที่ยกมุมปากปรากฏเป็นรอยยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา…ดูก็รู้ว่าเขากำลังข่มรอยยิ้มไว้อย่างถึงที่สุด

หลินจิ้งหงที่อยู่ข้างๆ ฉินอวี้โม่หัวเราะร่าเสียงดังลั่นอย่างชอบอกชอบใจไปตั้งแต่ชื่อคุณชายหน้าด้านหลุดจากปากฉินอวี้โม่แล้ว

มีเพียงแค่หานโม่ฉือผู้เดียวเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชาเหมือนเช่นเคย

“สตรีไร้ค่า เจ้าหาที่ตายแล้ว!”

เมื่อได้ยินวาจาถากถางของฉินอวี้โม่ อู๋ชื่อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพุ่งตรงเข้าใส่สตรีเพียงหนึ่งเดียวในที่แห่งนั้นทันที

หลินจิ้งหงเห็นการกระทำของอู๋ชื่อก็คิดจะก้าวเข้าไปขัดขวาง ทว่าเขากลับถูกหานโม่ฉือที่อยู่ข้างหลังคว้าจับแขนไว้เสียก่อน สหายมนุษย์น้ำแข็งส่ายศีรษะอย่างต้องการจะห้าม

หลินจิ้งหงพยักหน้าเข้าใจในทันที เขาเองก็เกือบจะลืมไปว่าฉินอวี้โม่ไม่ใช่กระต่ายขาวตัวน้อยที่ผู้ใดจะเข้ามารังแกได้ง่ายๆ

ใบหน้าของอู๋ชื่อบิดเบี้ยวและมืดมนเป็นอย่างมาก  ร่องรอยความโกรธแค้นรุนแรงและเจตนาสังหารเข้มข้นปรากฏให้เห็นจากทั้งแววตาและบรรยากาศที่ร่างกายของเขาปลดปล่อยออกมา

ในหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะรังแกฉินอวี้โม่อยู่เป็นประจำ แต่เนื่องจากกลัวว่าจะมีปัญหากับทางตระกูลฉิน เขาจึงไม่เคยลงมือหนักหรือทำให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งเลยสักครั้ง  แต่เวลานี้ฉินอวี้โม่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว  เขาจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้นอีก

สตรีไร้ค่า ขยะน่ารังเกียจผู้นี้กล้ามาเหยียดหยามเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย  ถ้าวันนี้เขาไม่ได้สั่งสอนนางให้รู้สำนึก  เขาก็คงไม่สมควรใช้นามอู๋ชื่ออีกต่อไปแล้ว

— หมับ! —

เสียงเบาๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น อู๋ชื่อรู้สึกได้ว่าข้อมือของเขาถูกคว้าจับเอาไว้ ฝ่ามือที่หมายจะซัดเข้าใส่ฉินอวี้โม่ถูกใครบางคนหยุดไว้ได้เสียก่อน

ทว่าเมื่อได้มองดูชัดๆ คุณชายตระกูลอู๋จึงได้รู้ว่า ผู้ที่จับยึดข้อมือของเขาไว้มิใช่ใครอื่น แต่ก็คือฉินอวี้โม่สตรีไร้ค่าที่เขากล่าวหา  นางมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขาได้อย่างไรไม่อาจทราบ!  สตรีผู้เคลื่อนไหวราวภูตผีกำลังมีรอยยิ้มเย้ยหยันเต็มใบหน้า

— กร็อบ! —

เกิดเสียง *กร็อบ* เบาๆ ขึ้นครั้งหนึ่ง มันเบาเสียจนหากไม่อยู่ใกล้ในระยะหนึ่งจั้งก็ยากที่จะได้ยิน  อู๋ชื่อไม่แม้แต่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ  เขารู้สึกเพียงแค่คล้ายกับว่าถูกฉินอวี้โม่หยิกเอาเท่านั้น  ทว่าข้อมือข้างที่ถูกจับยึดเอาไว้นั้นกลับสูญเสียการควบคุมไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“คุณชายอู๋ ทำไมหยุดเสียล่ะ? ต่อเลยซิ”

ฉินอวี้โม่มองดูอู๋ชื่อ ดวงตาและใบหน้างดงามฉายแววสนุกสนานอย่างปิดไม่มิด พร้อมกันนั้นริมฝีปากอวบอิ่มก็ขยับ นางเอื้อนเอ่ยวาจาแสนเยือกเย็นด้วยเสียงหวานใส

เมื่อได้ยินเสียงหวานหยดและมองเห็นรอยยิ้มแสนสนุกของฉินอวี้โม่  รวมถึงมือที่ไร้ความรู้สึกไปแล้วของตัวเอง ใบหน้าของอู๋ชื่อก็ปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 15 ไปขุดหลุมฝังศพตัวเองจะดีกว่า

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 15 ไปขุดหลุมฝังศพตัวเองจะดีกว่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สตรีไร้ค่า เจ้าว่าผู้ใดหน้าด้านกัน!”

เมื่ออู๋ชื่อได้ยินคำพูดของฉินอวี้โม่ เขาก็จ้องมองนางด้วยสายตาดุร้าย

ชื่อของเขามีความหมายที่ดี เจตนาของบิดาที่ตั้งชื่อนี้ให้เขาก็เพราะหวังให้เขาวิ่งทะยานทั่วทั้งดินแดนเสมือนบุรุษที่แข็งแกร่งโดยไม่มีสิ่งใดหรือผู้ใดมาหยุดยั้งได้ ให้เขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าเหมือนการก้าวหน้าไม่มีสิ้นสุด

( 驰 (อ่านว่า ชื่อ) หมายถึง ก้าวหน้าเร็ว, พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว)

ทว่าไม่คิดเลยว่าเมื่อเอาคำว่า ‘ชื่อ’ มาร่วมกับแซ่ ‘อู๋’ และอ่านรวมกันแล้ว  จะกลายเป็นคำที่ออกเสียงคล้ายกับคำว่าหน้าด้านไร้ยางอายไปเสียได้ เพราะเหตุนี้ทำให้ตั้งแต่เล็กจนโต อู๋ชื่อก็มักจะถูกล้อเลียนด้วยเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้ง

“ทำไมเล่า ก็ชื่อเจ้าเป็นแบบนั้น แล้วจะให้ข้าเรียกว่าอะไร?”

ฉินอวี้โม่ไม่สนใจสายตาที่ดุร้ายของอู๋ชื่อเลยแม้แต่น้อย  นางไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ

นางคือฉินอวี้โม่คนใหม่ และไม่ใช่คุณหนูผู้อ่อนแอบอบบางแห่งตระกูลฉินที่จะยอมถูกคนอื่นรังแกอีกต่อไปแล้ว   อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตมายาสี่ดารา  คนผู้นี้ไม่คู่ควรจะอยู่ในสายตาของนางสักนิด!

“เพ่ย ข้ามีชื่อนั้นแล้วมันมีปัญหาอะไรกัน? มันก็ดีกว่าขยะที่ไม่อาจฝึกยุทธ์ได้อย่างเจ้า สตรีขยะเน่าเหม็น  เจ้าน่ะทำได้เพียงปั้นหน้าสวยไร้สาระไปวันๆ เท่านั้นแหละ!”

อู๋ชื่อผู้เป็นถึงคุณชายตระกูลใหญ่ต่อว่าด่าทอสตรีเสียงดังลั่น เขาจ้องเขม็งไปที่ฉินอวี้โม่ด้วยสายตาเคียดแค้น

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเจ้าถืงมีนามว่าอู๋ฉื่อ นั่นก็เพราะว่าเจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายจริงๆ นั่นแหละ”

ฉินอวี้โม่ยิ้มเย้ยพลางมองอู๋ชื่อด้วยสายตาดูถูกและกล่าวเสียงเย้ยหยัน “ข้าขอแนะนำให้เจ้ากลับไปส่องกระจกดูตัวเองตอนที่กลับถึงบ้าน เจ้าจะได้เข้าใจว่าหน้าของตัวเองมันทำให้ผู้อื่นเขารังเกียจมากขนาดไหน”

แม้ว่าอู๋ชื่อจะไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่งดงามโดดเด่น แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าตนเองถึงกับย่ำแย่ขี้ริ้วขี้เหร่เลยเสียทีเดียว แต่ทว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของฉินอวี้โม่กลับสื่อความว่าเขาเป็นบุรุษอัปลักษณ์ รูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวจนดูไม่ได้

“เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าท่านแม่ของข้าตอบว่าอย่างไร ในตอนที่เจ้ามาสู่ขอข้าที่ตระกูลฉิน?”

ฉินอวี้โม่มองอู๋ชื่อด้วยสายตาดูแคลน

‘คิดจะเล่นสงครามน้ำลายกับเธอน่ะเหรอ หึ ไปหาที่เหมาะๆ ขุดหลุมฝังศพตัวเองไว้รอเลยจะดีกว่า!

“แม่ข้าบอกว่า เจ้าน่ะเป็นคางคกอยากจะกินเนื้อหงส์  ว่างๆ หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาเองตัวเองซะบ้าง!”

ครั้งที่อู๋ชื่อส่งคนไปทาบทามสู่ขอคุณหนูสี่ที่ตระกูลฉิน ในตอนนั้นอวี๋เสี่ยวอวิ๋นปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล แม้ว่าฉินอวี้โม่จะถูกมองเป็นคนไร้ค่าในสายตาคนมากมายแต่นางก็ไม่ใช่สิ่งของที่ไร้ชีวิตจิตใจ  อวี๋เสี่ยวอวิ๋นรักและสงสารบุตรสาวมาก  นางเกรงว่าเมื่อห่างจากอกของตน บุตรสาวจะถูกรังแกหนักขึ้น อีกทั้งจะไม่มีผู้ใดคอยดูแลปกป้องไม่มีผู้เป็นที่พึ่งให้กับนาง  ฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลฉินในตอนนั้นจึงไม่คิดจะยกบุตรสาวให้กับผู้ใดง่ายๆ

แต่ทว่าคำพูดของอวี๋เสี่ยอวิ๋นในตอนนั้นใช้วาจาที่นิ่มนวลกว่านี้มาก ประโยคที่เพิ่งจะกล่าวไปนี้เป็นคำพูดที่ฉินอวี้โม่ปรุงแต่งขึ้นมาเองเพราะต้องการเสียดสีบุรุษไร้ยางอายที่เคยรังแกสตรี อู๋ชื่อ ผู้นี้

เธอตั้งใจไว้แล้วว่า เธอจะเอาคืนผู้ที่เคยรังแกฉินอวี้โม่อย่างสาสม

ในเมื่อวันนี้คุณชายหน้าด้านก้าวออกมาชี้นิ้วด่าทอผู้อื่น หาเรื่องใส่ตัวด้วยตัวเอง ฉะนั้นก็อย่าได้ตำหนิหาว่าเธอหยาบคายไม่ไว้หน้า!

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินอวี้โม่ แม้แต่กองทหารรับจ้างชื่อเหยียนที่อยู่ด้านหลังอู๋ชื่อก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลุดเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน หากไม่ใช่เพราะอู๋ชื่อมาในนามตัวแทนของผู้ว่าจ้าง พวกเขาก็คงฮาครืนเสียงดังอย่างไม่เกรงใจไปแล้ว   แม้แต่ชื่อเซียวเองก็ยังอดไม่ได้ที่ยกมุมปากปรากฏเป็นรอยยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา…ดูก็รู้ว่าเขากำลังข่มรอยยิ้มไว้อย่างถึงที่สุด

หลินจิ้งหงที่อยู่ข้างๆ ฉินอวี้โม่หัวเราะร่าเสียงดังลั่นอย่างชอบอกชอบใจไปตั้งแต่ชื่อคุณชายหน้าด้านหลุดจากปากฉินอวี้โม่แล้ว

มีเพียงแค่หานโม่ฉือผู้เดียวเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชาเหมือนเช่นเคย

“สตรีไร้ค่า เจ้าหาที่ตายแล้ว!”

เมื่อได้ยินวาจาถากถางของฉินอวี้โม่ อู๋ชื่อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพุ่งตรงเข้าใส่สตรีเพียงหนึ่งเดียวในที่แห่งนั้นทันที

หลินจิ้งหงเห็นการกระทำของอู๋ชื่อก็คิดจะก้าวเข้าไปขัดขวาง ทว่าเขากลับถูกหานโม่ฉือที่อยู่ข้างหลังคว้าจับแขนไว้เสียก่อน สหายมนุษย์น้ำแข็งส่ายศีรษะอย่างต้องการจะห้าม

หลินจิ้งหงพยักหน้าเข้าใจในทันที เขาเองก็เกือบจะลืมไปว่าฉินอวี้โม่ไม่ใช่กระต่ายขาวตัวน้อยที่ผู้ใดจะเข้ามารังแกได้ง่ายๆ

ใบหน้าของอู๋ชื่อบิดเบี้ยวและมืดมนเป็นอย่างมาก  ร่องรอยความโกรธแค้นรุนแรงและเจตนาสังหารเข้มข้นปรากฏให้เห็นจากทั้งแววตาและบรรยากาศที่ร่างกายของเขาปลดปล่อยออกมา

ในหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะรังแกฉินอวี้โม่อยู่เป็นประจำ แต่เนื่องจากกลัวว่าจะมีปัญหากับทางตระกูลฉิน เขาจึงไม่เคยลงมือหนักหรือทำให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งเลยสักครั้ง  แต่เวลานี้ฉินอวี้โม่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว  เขาจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้นอีก

สตรีไร้ค่า ขยะน่ารังเกียจผู้นี้กล้ามาเหยียดหยามเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย  ถ้าวันนี้เขาไม่ได้สั่งสอนนางให้รู้สำนึก  เขาก็คงไม่สมควรใช้นามอู๋ชื่ออีกต่อไปแล้ว

— หมับ! —

เสียงเบาๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น อู๋ชื่อรู้สึกได้ว่าข้อมือของเขาถูกคว้าจับเอาไว้ ฝ่ามือที่หมายจะซัดเข้าใส่ฉินอวี้โม่ถูกใครบางคนหยุดไว้ได้เสียก่อน

ทว่าเมื่อได้มองดูชัดๆ คุณชายตระกูลอู๋จึงได้รู้ว่า ผู้ที่จับยึดข้อมือของเขาไว้มิใช่ใครอื่น แต่ก็คือฉินอวี้โม่สตรีไร้ค่าที่เขากล่าวหา  นางมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขาได้อย่างไรไม่อาจทราบ!  สตรีผู้เคลื่อนไหวราวภูตผีกำลังมีรอยยิ้มเย้ยหยันเต็มใบหน้า

— กร็อบ! —

เกิดเสียง *กร็อบ* เบาๆ ขึ้นครั้งหนึ่ง มันเบาเสียจนหากไม่อยู่ใกล้ในระยะหนึ่งจั้งก็ยากที่จะได้ยิน  อู๋ชื่อไม่แม้แต่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ  เขารู้สึกเพียงแค่คล้ายกับว่าถูกฉินอวี้โม่หยิกเอาเท่านั้น  ทว่าข้อมือข้างที่ถูกจับยึดเอาไว้นั้นกลับสูญเสียการควบคุมไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“คุณชายอู๋ ทำไมหยุดเสียล่ะ? ต่อเลยซิ”

ฉินอวี้โม่มองดูอู๋ชื่อ ดวงตาและใบหน้างดงามฉายแววสนุกสนานอย่างปิดไม่มิด พร้อมกันนั้นริมฝีปากอวบอิ่มก็ขยับ นางเอื้อนเอ่ยวาจาแสนเยือกเย็นด้วยเสียงหวานใส

เมื่อได้ยินเสียงหวานหยดและมองเห็นรอยยิ้มแสนสนุกของฉินอวี้โม่  รวมถึงมือที่ไร้ความรู้สึกไปแล้วของตัวเอง ใบหน้าของอู๋ชื่อก็ปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+