คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 35.2 ท่านลุงของข้าเป็นถึงเจ้าเมืองเชียวนะ (2)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 35.2 ท่านลุงของข้าเป็นถึงเจ้าเมืองเชียวนะ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉีฉีไม่ได้เกรงกลัว นางหยิบก้อนหินขึ้นมาและปาใส่อีกฝ่ายอย่างแรง

และเป็นเพราะหลี่หลินไม่คิดว่าเด็กตัวเล็กๆ จะขวัญกล้าทำอะไรคุณชายสูงส่งอย่างเขา เขาจึงไม่ทันได้เตรียมรับมือ ถูกก้อนหินที่ฉีฉีขวางมาอัดเข้าที่หน้าอกอย่างแรง  บุรุษผู้คิดว่าตนสูงส่งรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เจ็บกายไม่เท่าไหร่และเจ็บใจนั้นมากกว่า

หลี่หลินเอามือกุมบริเวณที่ถูกก้อนหินปะทะพลางมองฉินอวี้โม่และเหล่าสหายด้วยแววตาโกรธจัด  เขาคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะโอหังไม่ไว้หน้าเขาถึงเพียงนี้ “หึ ตอนแรกข้าคิดจะไม่ถือสาหาความเรื่องที่พวกเจ้ามาหยามพวกเรา แต่ในเมื่อกล้ามาลงมือกับข้าเช่นนี้ เห็นทีข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปไม่ได้แล้ว”

“บอกมาว่าใครคือหัวหน้าของพวกเจ้า?”

หลี่หลินจ้องมองคณะล่าหมาป่าเรียงคน ด้วยความเดือดดาล

“ข้าเอง”

ฉินอวี้โม่เอ่ยปากรับอย่างไม่ลังเล นางกล่าวต่อเสียงเรียบ “มีอะไรจะชี้แนะข้าอย่างนั้นหรือ?”

“ฮ่าฮ่า ชี้แนะรึ? ใช่ข้ามีคำจะชี้แนะเจ้า!!” หลี่หลินแค่นเสียง

คุณชายผู้ว่าทางสูดลมหายใจเข้าลึกและผ่อนออกครั้งหนึ่งเพื่อควบคุมอารมณ์  เขาเดินวนไปวนมาก่อนจะหันมายิ้มเย็นพลางกล่าวต่อ “เจ้าเพิ่งจะหยามคนของข้าแล้วเด็กนั่นยังกล้าลงมือกับข้าอีก  เรื่องนั้นทำให้ข้าไม่พอใจมาก ฉะนั้นถ้าวันนี้พวกเจ้าไม่มีคำตอบดีๆ ให้กับข้าล่ะก็ พวกเจ้าไม่ได้ออกไปจากที่นี่แน่”

“งั้นพูดมาว่าเจ้าต้องการอะไร?”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่หลิน มุมปากของฉินอวี้โม่ก็กระตุกเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันทันที นางรู้เจตนาของอีกฝ่ายตั้งแต่แรกแล้ว

“เนื่องเจ้าบอกว่าพวกเจ้าเป็นคนฆ่าหมาป่าสายลมพวกนี้ ข้าก็ไม่อยากจะขัดการโอ้อวดของพวกเจ้า  ขอเพียงแค่พวกเจ้ามอบแก่นมายาและแกนชีวิตของพวกหมาป่าทั้งหมดรวมถึงตัวหัวหน้านั่นมา ข้าก็จะยอมปล่อยพวกเจ้าไป มิฉะนั้นแล้ว…”

หลี่หลินหยุดพูดแล้วเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับดีดนิ้วเสียงดัง *เป๊าะ!* ซึ่งในทันทีที่เขาทำเช่นนั้น กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็พุ่งเข้าล้อมฉินอวี้โม่และสหายทั้งสามคนเอาไว้

เมื่อครู่นี่เองที่หลี่หลินสังเกตเห็นว่า มีแก่นมายาและแกนชีวิตมากกว่าครึ่งหนึ่งถูกดึงออกไปจากซากหมาป่าแล้ว และในบรรดาหมาป่าสายลมทั้งหมดยังมีตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นอยู่ด้วย ซึ่งแก่นมายาของมันก็ถูกดึงออกไปแล้วเช่นกัน หลี่หลินจึงเกิดความคิดที่จะบีบบังคับให้หนุ่มสาวสี่คนตรงหน้ายอมส่งพวกมันให้เขา

แต่เดิมหลี่หลินคิดเพียงว่าจะเอาแก่นมายาและแกนชีวิตจากซากของอสูรมายาที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้น  แต่เมื่อถูกอีกฝ่ายเล่นงานเช่นนี้ ก็ทำให้เขาคิดข้ออ้างอันแสนชอบธรรมในการบีบบังคับเอาแก่นมายาทั้งหมดขึ้นมาได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโง่งมได้ถึงเพียงนี้”

ฉินอวี้โม่แย้มรอยยิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะกล่าววาจาถากถาง

“อสูรมายากลุ่มนี้ พวกเราเป็นผู้สังหาร แก่นมายาและแกนชีวิตทั้งหมดจึงเป็นของพวกเรา  ข้าเห็นพวกเจ้าบางคนแอบเอาพวกมันออกไป ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้าส่งคืนมาแต่โดนดี ถ้าข้าโกรธขึ้นมา เรื่องไม่จบง่ายๆ แน่”

ฉินอวี้โม่ไม่เกรงกลัวคำขู่ของหลี่หลินเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเป็นเหล่าหนุ่มสาวจากนครไป๋อวิ๋นแล้ว ยิ่งไม่เห็นคนที่มีสถานะเป็นเพียงหลานเจ้าเมืองอย่างหลี่หลินอยู่ในสายตา!

ระดับพลังของหลี่หลินนั้นไม่ได้สูงส่งมากนัก ส่วนคนของเขาก็ไม่ได้น่ากลัวเลยเช่นกัน คนที่มีระดับพลังสูงสุดก็เป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตทิพย์มายาแปดดาราเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนมาก แต่ฉินอวี้โม่และคนทั้งสี่กลับรู้สึกว่าคนพวกนี้ไม่คู่ควรอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

หนุ่มสาวผู้เดินทางมาจากเมืองหลวงทั้งสามยังคิดเลยว่า แค่ฉินอวี้โม่เพียงผู้เดียวก็เพียงพอที่จะรับมือกับคนพวกนี้ทั้งหมดได้แล้ว

“ช่างกล้านัก!!!”

เมื่อได้ยินวาจาของฉินอวี้โม่ หลี่หลินก็กัดฟันกรอดอย่างโกรธเคือง “ข้าบอกให้พวกเจ้ารีบส่งแก่นมายามา อย่างได้ชักช้า คนของข้ากำลังรีบ!!!”

“ส่งให้บิดาเจ้าสิ เจ้าพวกโง่!”

ฉินอวี้โม่ตวาดออกไป ทันใดนั้นร่างบางก็กระโจนไปอยู่ข้างกายหลี่หลินในพริบตา เวลานี้กริชน้ำแข็งที่งดงามแวววาวกำลังจี้อยู่ที่คอของคุณชายท่ามากอย่างน่าหวาดเสียว!

“เชื่อหรือไม่ว่าข้าตัดศีรษะของเจ้าขาดได้ง่ายๆ ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 35.2 ท่านลุงของข้าเป็นถึงเจ้าเมืองเชียวนะ (2)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 35.2 ท่านลุงของข้าเป็นถึงเจ้าเมืองเชียวนะ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉีฉีไม่ได้เกรงกลัว นางหยิบก้อนหินขึ้นมาและปาใส่อีกฝ่ายอย่างแรง

และเป็นเพราะหลี่หลินไม่คิดว่าเด็กตัวเล็กๆ จะขวัญกล้าทำอะไรคุณชายสูงส่งอย่างเขา เขาจึงไม่ทันได้เตรียมรับมือ ถูกก้อนหินที่ฉีฉีขวางมาอัดเข้าที่หน้าอกอย่างแรง  บุรุษผู้คิดว่าตนสูงส่งรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เจ็บกายไม่เท่าไหร่และเจ็บใจนั้นมากกว่า

หลี่หลินเอามือกุมบริเวณที่ถูกก้อนหินปะทะพลางมองฉินอวี้โม่และเหล่าสหายด้วยแววตาโกรธจัด  เขาคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะโอหังไม่ไว้หน้าเขาถึงเพียงนี้ “หึ ตอนแรกข้าคิดจะไม่ถือสาหาความเรื่องที่พวกเจ้ามาหยามพวกเรา แต่ในเมื่อกล้ามาลงมือกับข้าเช่นนี้ เห็นทีข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปไม่ได้แล้ว”

“บอกมาว่าใครคือหัวหน้าของพวกเจ้า?”

หลี่หลินจ้องมองคณะล่าหมาป่าเรียงคน ด้วยความเดือดดาล

“ข้าเอง”

ฉินอวี้โม่เอ่ยปากรับอย่างไม่ลังเล นางกล่าวต่อเสียงเรียบ “มีอะไรจะชี้แนะข้าอย่างนั้นหรือ?”

“ฮ่าฮ่า ชี้แนะรึ? ใช่ข้ามีคำจะชี้แนะเจ้า!!” หลี่หลินแค่นเสียง

คุณชายผู้ว่าทางสูดลมหายใจเข้าลึกและผ่อนออกครั้งหนึ่งเพื่อควบคุมอารมณ์  เขาเดินวนไปวนมาก่อนจะหันมายิ้มเย็นพลางกล่าวต่อ “เจ้าเพิ่งจะหยามคนของข้าแล้วเด็กนั่นยังกล้าลงมือกับข้าอีก  เรื่องนั้นทำให้ข้าไม่พอใจมาก ฉะนั้นถ้าวันนี้พวกเจ้าไม่มีคำตอบดีๆ ให้กับข้าล่ะก็ พวกเจ้าไม่ได้ออกไปจากที่นี่แน่”

“งั้นพูดมาว่าเจ้าต้องการอะไร?”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่หลิน มุมปากของฉินอวี้โม่ก็กระตุกเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันทันที นางรู้เจตนาของอีกฝ่ายตั้งแต่แรกแล้ว

“เนื่องเจ้าบอกว่าพวกเจ้าเป็นคนฆ่าหมาป่าสายลมพวกนี้ ข้าก็ไม่อยากจะขัดการโอ้อวดของพวกเจ้า  ขอเพียงแค่พวกเจ้ามอบแก่นมายาและแกนชีวิตของพวกหมาป่าทั้งหมดรวมถึงตัวหัวหน้านั่นมา ข้าก็จะยอมปล่อยพวกเจ้าไป มิฉะนั้นแล้ว…”

หลี่หลินหยุดพูดแล้วเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับดีดนิ้วเสียงดัง *เป๊าะ!* ซึ่งในทันทีที่เขาทำเช่นนั้น กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็พุ่งเข้าล้อมฉินอวี้โม่และสหายทั้งสามคนเอาไว้

เมื่อครู่นี่เองที่หลี่หลินสังเกตเห็นว่า มีแก่นมายาและแกนชีวิตมากกว่าครึ่งหนึ่งถูกดึงออกไปจากซากหมาป่าแล้ว และในบรรดาหมาป่าสายลมทั้งหมดยังมีตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นอยู่ด้วย ซึ่งแก่นมายาของมันก็ถูกดึงออกไปแล้วเช่นกัน หลี่หลินจึงเกิดความคิดที่จะบีบบังคับให้หนุ่มสาวสี่คนตรงหน้ายอมส่งพวกมันให้เขา

แต่เดิมหลี่หลินคิดเพียงว่าจะเอาแก่นมายาและแกนชีวิตจากซากของอสูรมายาที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้น  แต่เมื่อถูกอีกฝ่ายเล่นงานเช่นนี้ ก็ทำให้เขาคิดข้ออ้างอันแสนชอบธรรมในการบีบบังคับเอาแก่นมายาทั้งหมดขึ้นมาได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโง่งมได้ถึงเพียงนี้”

ฉินอวี้โม่แย้มรอยยิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะกล่าววาจาถากถาง

“อสูรมายากลุ่มนี้ พวกเราเป็นผู้สังหาร แก่นมายาและแกนชีวิตทั้งหมดจึงเป็นของพวกเรา  ข้าเห็นพวกเจ้าบางคนแอบเอาพวกมันออกไป ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้าส่งคืนมาแต่โดนดี ถ้าข้าโกรธขึ้นมา เรื่องไม่จบง่ายๆ แน่”

ฉินอวี้โม่ไม่เกรงกลัวคำขู่ของหลี่หลินเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเป็นเหล่าหนุ่มสาวจากนครไป๋อวิ๋นแล้ว ยิ่งไม่เห็นคนที่มีสถานะเป็นเพียงหลานเจ้าเมืองอย่างหลี่หลินอยู่ในสายตา!

ระดับพลังของหลี่หลินนั้นไม่ได้สูงส่งมากนัก ส่วนคนของเขาก็ไม่ได้น่ากลัวเลยเช่นกัน คนที่มีระดับพลังสูงสุดก็เป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตทิพย์มายาแปดดาราเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนมาก แต่ฉินอวี้โม่และคนทั้งสี่กลับรู้สึกว่าคนพวกนี้ไม่คู่ควรอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

หนุ่มสาวผู้เดินทางมาจากเมืองหลวงทั้งสามยังคิดเลยว่า แค่ฉินอวี้โม่เพียงผู้เดียวก็เพียงพอที่จะรับมือกับคนพวกนี้ทั้งหมดได้แล้ว

“ช่างกล้านัก!!!”

เมื่อได้ยินวาจาของฉินอวี้โม่ หลี่หลินก็กัดฟันกรอดอย่างโกรธเคือง “ข้าบอกให้พวกเจ้ารีบส่งแก่นมายามา อย่างได้ชักช้า คนของข้ากำลังรีบ!!!”

“ส่งให้บิดาเจ้าสิ เจ้าพวกโง่!”

ฉินอวี้โม่ตวาดออกไป ทันใดนั้นร่างบางก็กระโจนไปอยู่ข้างกายหลี่หลินในพริบตา เวลานี้กริชน้ำแข็งที่งดงามแวววาวกำลังจี้อยู่ที่คอของคุณชายท่ามากอย่างน่าหวาดเสียว!

“เชื่อหรือไม่ว่าข้าตัดศีรษะของเจ้าขาดได้ง่ายๆ ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 35.2 ท่านลุงของข้าเป็นถึงเจ้าเมืองเชียวนะ (2)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 35.2 ท่านลุงของข้าเป็นถึงเจ้าเมืองเชียวนะ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉีฉีไม่ได้เกรงกลัว นางหยิบก้อนหินขึ้นมาและปาใส่อีกฝ่ายอย่างแรง

และเป็นเพราะหลี่หลินไม่คิดว่าเด็กตัวเล็กๆ จะขวัญกล้าทำอะไรคุณชายสูงส่งอย่างเขา เขาจึงไม่ทันได้เตรียมรับมือ ถูกก้อนหินที่ฉีฉีขวางมาอัดเข้าที่หน้าอกอย่างแรง  บุรุษผู้คิดว่าตนสูงส่งรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เจ็บกายไม่เท่าไหร่และเจ็บใจนั้นมากกว่า

หลี่หลินเอามือกุมบริเวณที่ถูกก้อนหินปะทะพลางมองฉินอวี้โม่และเหล่าสหายด้วยแววตาโกรธจัด  เขาคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะโอหังไม่ไว้หน้าเขาถึงเพียงนี้ “หึ ตอนแรกข้าคิดจะไม่ถือสาหาความเรื่องที่พวกเจ้ามาหยามพวกเรา แต่ในเมื่อกล้ามาลงมือกับข้าเช่นนี้ เห็นทีข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปไม่ได้แล้ว”

“บอกมาว่าใครคือหัวหน้าของพวกเจ้า?”

หลี่หลินจ้องมองคณะล่าหมาป่าเรียงคน ด้วยความเดือดดาล

“ข้าเอง”

ฉินอวี้โม่เอ่ยปากรับอย่างไม่ลังเล นางกล่าวต่อเสียงเรียบ “มีอะไรจะชี้แนะข้าอย่างนั้นหรือ?”

“ฮ่าฮ่า ชี้แนะรึ? ใช่ข้ามีคำจะชี้แนะเจ้า!!” หลี่หลินแค่นเสียง

คุณชายผู้ว่าทางสูดลมหายใจเข้าลึกและผ่อนออกครั้งหนึ่งเพื่อควบคุมอารมณ์  เขาเดินวนไปวนมาก่อนจะหันมายิ้มเย็นพลางกล่าวต่อ “เจ้าเพิ่งจะหยามคนของข้าแล้วเด็กนั่นยังกล้าลงมือกับข้าอีก  เรื่องนั้นทำให้ข้าไม่พอใจมาก ฉะนั้นถ้าวันนี้พวกเจ้าไม่มีคำตอบดีๆ ให้กับข้าล่ะก็ พวกเจ้าไม่ได้ออกไปจากที่นี่แน่”

“งั้นพูดมาว่าเจ้าต้องการอะไร?”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่หลิน มุมปากของฉินอวี้โม่ก็กระตุกเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันทันที นางรู้เจตนาของอีกฝ่ายตั้งแต่แรกแล้ว

“เนื่องเจ้าบอกว่าพวกเจ้าเป็นคนฆ่าหมาป่าสายลมพวกนี้ ข้าก็ไม่อยากจะขัดการโอ้อวดของพวกเจ้า  ขอเพียงแค่พวกเจ้ามอบแก่นมายาและแกนชีวิตของพวกหมาป่าทั้งหมดรวมถึงตัวหัวหน้านั่นมา ข้าก็จะยอมปล่อยพวกเจ้าไป มิฉะนั้นแล้ว…”

หลี่หลินหยุดพูดแล้วเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับดีดนิ้วเสียงดัง *เป๊าะ!* ซึ่งในทันทีที่เขาทำเช่นนั้น กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็พุ่งเข้าล้อมฉินอวี้โม่และสหายทั้งสามคนเอาไว้

เมื่อครู่นี่เองที่หลี่หลินสังเกตเห็นว่า มีแก่นมายาและแกนชีวิตมากกว่าครึ่งหนึ่งถูกดึงออกไปจากซากหมาป่าแล้ว และในบรรดาหมาป่าสายลมทั้งหมดยังมีตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นอยู่ด้วย ซึ่งแก่นมายาของมันก็ถูกดึงออกไปแล้วเช่นกัน หลี่หลินจึงเกิดความคิดที่จะบีบบังคับให้หนุ่มสาวสี่คนตรงหน้ายอมส่งพวกมันให้เขา

แต่เดิมหลี่หลินคิดเพียงว่าจะเอาแก่นมายาและแกนชีวิตจากซากของอสูรมายาที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้น  แต่เมื่อถูกอีกฝ่ายเล่นงานเช่นนี้ ก็ทำให้เขาคิดข้ออ้างอันแสนชอบธรรมในการบีบบังคับเอาแก่นมายาทั้งหมดขึ้นมาได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโง่งมได้ถึงเพียงนี้”

ฉินอวี้โม่แย้มรอยยิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะกล่าววาจาถากถาง

“อสูรมายากลุ่มนี้ พวกเราเป็นผู้สังหาร แก่นมายาและแกนชีวิตทั้งหมดจึงเป็นของพวกเรา  ข้าเห็นพวกเจ้าบางคนแอบเอาพวกมันออกไป ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้าส่งคืนมาแต่โดนดี ถ้าข้าโกรธขึ้นมา เรื่องไม่จบง่ายๆ แน่”

ฉินอวี้โม่ไม่เกรงกลัวคำขู่ของหลี่หลินเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเป็นเหล่าหนุ่มสาวจากนครไป๋อวิ๋นแล้ว ยิ่งไม่เห็นคนที่มีสถานะเป็นเพียงหลานเจ้าเมืองอย่างหลี่หลินอยู่ในสายตา!

ระดับพลังของหลี่หลินนั้นไม่ได้สูงส่งมากนัก ส่วนคนของเขาก็ไม่ได้น่ากลัวเลยเช่นกัน คนที่มีระดับพลังสูงสุดก็เป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตทิพย์มายาแปดดาราเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนมาก แต่ฉินอวี้โม่และคนทั้งสี่กลับรู้สึกว่าคนพวกนี้ไม่คู่ควรอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

หนุ่มสาวผู้เดินทางมาจากเมืองหลวงทั้งสามยังคิดเลยว่า แค่ฉินอวี้โม่เพียงผู้เดียวก็เพียงพอที่จะรับมือกับคนพวกนี้ทั้งหมดได้แล้ว

“ช่างกล้านัก!!!”

เมื่อได้ยินวาจาของฉินอวี้โม่ หลี่หลินก็กัดฟันกรอดอย่างโกรธเคือง “ข้าบอกให้พวกเจ้ารีบส่งแก่นมายามา อย่างได้ชักช้า คนของข้ากำลังรีบ!!!”

“ส่งให้บิดาเจ้าสิ เจ้าพวกโง่!”

ฉินอวี้โม่ตวาดออกไป ทันใดนั้นร่างบางก็กระโจนไปอยู่ข้างกายหลี่หลินในพริบตา เวลานี้กริชน้ำแข็งที่งดงามแวววาวกำลังจี้อยู่ที่คอของคุณชายท่ามากอย่างน่าหวาดเสียว!

“เชื่อหรือไม่ว่าข้าตัดศีรษะของเจ้าขาดได้ง่ายๆ ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+