คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 38.2 ตัวตนที่น่าเกรงขาม (2)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 38.2 ตัวตนที่น่าเกรงขาม (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้ายูนิคอร์นโสโครก !”

เหยี่ยวปีกทองคำรามออกมา มันปลดปล่อยพลังทั้งหมดและกระพือปีกอย่างแรง ส่งพายุหมุนลูกใหญ่ที่ทรงพลังให้พุ่งเข้าหาเสี่ยวเฮย

“เจ้าเหยี่ยวหน้าโง่ !”

เสี่ยวเฮยไม่เกรงกลัว มันเองก็สะบัดปีกแล้วส่งพายุออกไปต้านทานพายุของเหยี่ยวปีกทองเช่นกัน

— ตูม ! —

เมื่อพายุหมุนสองลูกปะทะกันก็ทำให้เกิดระลอกคลื่นที่เกิดจากแรงปะทะอันหนักหน่วงกระจายออกไปรอบทิศ  หน้าผาที่อยู่ไม่ไกลถูกแรงปะทะนั้นอัดเข้าใส่จนถึงกับถล่มครืนลงมา ต้นไม้บริเวณนั้นล้มระเนระนาดเป็นวงกว้าง

แน่นอนว่าฉินอวี้โม่ไม่มีเวลาสนใจการต่อสู้ของเสี่ยวเฮยและเหยี่ยวปีกทอง ตอนนี้สถานการณ์การต่อสู้กับเจ้าเสือโคร่งยังคงตึงมือ และเวลานี้เรี่ยวแรงของนางก็ลดลงไปพอสมควรทำให้นักฆ่าสาวกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเล็กน้อยแล้ว

เสือโคร่งที่มีสีแพรวพราวจู่โจมฉินอวี้โม่อีกครั้ง ครั้งนี้อดีตคุณหนูผู้งดงามไม่หลบหลีกอีกต่อไป นางพุ่งเข้าปะทะกับกรงเล็บที่แหลมคมของเจ้าเสือร้ายตรง ๆ

— ปุบ ! —

อุ้งเท้าของเสือโคร่งตะปบถูกร่างบางอย่างจังจนทำให้นางกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะกระอักเลือดออกมา

ทันทีที่ได้เห็นเช่นนั้น เจ้าเสือโคร่งสีประหลาดก็เริ่มได้ใจ มันผ่อนคลายความตึงเครียดลงไปมาก ขณะเดียวกันก็ลดระดับความระมัดระวังและเริ่มช้าลงเล็กน้อย เมื่อเห็นสภาพที่ดูน่าอนาถของคู่ต่อสู้ มันก็อดไม่ได้ที่จะเชิดหน้าขึ้นมองอย่างสาแก่ใจ

“ตอนนี้แหละ !”

เมื่อเห็นว่าเจ้าเสือโคร่งจอมยโสเริ่มประมาท รอยยิ้มอันเยือกเย็นก็ปรากฏบนใบหน้างามของนักฆ่าสาว ร่างบอบบางหายวับไปจากจุดเดิมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของเสือใหญ่ผู้เริ่มโง่

“แอ่กกกก !”

เสือโคร่งสีสันแพรวพราวส่งเสียงร้อง *แอ่ก* ได้เพียงครั้งเดียวก็ล้มลงดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมานก่อนจะแน่นิ่งไปในที่สุด ในตอนนี้ที่หัวของมันมีกริชระยิบระยับงดงามปักคาอยู่

บางครั้งการมีสติปัญญาเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆ ของอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะต่อตัวมันเอง เสือเทวะระดับสามดาราที่แข็งแกร่งจบสิ้นไปเพราะความประมาทของมันที่คิดว่าตนเหนือกว่าผู้อื่น

“ทุกคนช่วยกันฝ่าวงล้อมออกไป !”

ฉินอวี้โม่ตะโกนบอกกลุ่มทหารรับจ้างชื่อเหยียน ขณะที่ตัวเองก็กำลังพยายามเปิดทางฝ่าออกไป

ลั่วอวิ๋นและคนอื่น ๆ พยักหน้า อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้เป็นอสูรมายาของลั่วอวิ๋นพุ่งเข้าไปปะทะกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เขารับมืออยู่ ขณะที่คนอื่นๆ ก็พยายามช่วยกันจัดการกับอสูรมายาตรงหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อเปิดทางออกไปให้ได้

“เจ้าพวกมนุษย์โสโครก !”

เมื่อเห็นฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ใกล้จะฝ่าวงล้อมอสูรออกไปได้แล้ว เหยี่ยวปีกทองที่กำลังต่อสู้กับเสี่ยวเฮยอยู่อย่างดุเดือดก็สบถคำรามเสียงดังลั่น ตอนนี้ความดุร้ายของมันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วย

ทันใดนั้น เจ้าเหยี่ยวที่กำลังคลั่งก็อ้าปากกว้าง ก้อนแสงขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นก่อนจะถูกส่งให้พุ่งตรงเข้าใส่ยูนิคอร์นสีนิลคู่ต่อสู้ที่น่ารำคาญของมันอย่างรุนแรง

และเจ้าเหยี่ยวปีกทองก็ใช้โอกาสในช่วงเวลานั้นเอง ผละตัวออกจากเสี่ยวเฮยและพุ่งเข้าจู่โจมฉินอวี้โม่อย่างรวดเร็ว

“นายหญิงระวัง !”

เสี่ยวเฮยรีบเบี่ยงตัวหลบก้อนแสงและบินโฉบเข้าหาฉินอวี้โม่

ทว่าโชคร้ายที่ความเร็วของเหยี่ยวปีกทองสูงเกินไปทำให้เสี่ยวเฮยที่เสียเวลาหลบก้อนแสงไล่ตามไม่ทัน อาชาสีดำผู้ภักดีจึงทำได้เพียงส่งเสียงตะโกนเตือนเจ้านายสาว

เมื่อได้ยินเสียงเตือนของเสี่ยวเฮย ฉินอวี้โม่ก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เหยี่ยวปีกทองรวดเร็วจนเกินไป มันไม่มีทางที่นางจะหลบมันได้พ้น นักฆ่าสาวทำได้เพียงแค่สร้างระยะห่างให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มพื้นที่ตั้งรับและรวบรวมพลังป้องกันการโจมตีของเหยี่ยวปีกทอง

ตอนนี้เหยี่ยวยักษ์อยู่ห่างจากนางไม่กี่ช่วงตัวแล้ว เหล่าทหารรับจ้างในกองทหารชื่อเหยียนถึงกับลืมการต่อสู้ตรงหน้าไปชั่วขณะและหันไปมองสตรีผู้เก่งกล้าด้วยความกังวลและหวาดหวั่น

เสี่ยวโร่วเองเมื่อเห็นเช่นนั้นก็กรีดร้องสุดเสียง

“คุณหนู !”

เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะสังหารคนตรงหน้าได้ เหยี่ยวปีกทองก็รู้สึกย่ามใจ ขอเพียงแค่มันจัดการกับมนุษย์ผู้นี้ได้ มันก็จะได้ผลหลิวหลีกลับคืนมา และหลังจากนี้มันก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

ทว่าในตอนที่การโจมตีอันทรงพลังกำลังจะปะทะร่างบาง จู่ ๆ ฉินอวี้โม่ก็รู้สึกว่าเหยี่ยวปีกทองที่พุ่งตรงเข้ามาหยุดเคลื่อนไหวไปอย่างฉับพลัน

ในช่วงเวลาที่เหยี่ยวปีกทองใกล้เข้าไปจนเกือบจะถึงตัวมนุษย์ตรงหน้า จู่ ๆ มันก็รู้สึกถึงแรงกดดันอันรุนแรงบางอย่างพุ่งเข้ามาปะทะ แรงกดดันนั้นหนักหน่วงและน่าหวาดกลัวเสียจนทำให้มันชะงักค้าง เหยี่ยวระดับเทวะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป

“เจ้าพวกอสูรมายาต่ำต้อย หมอบลงไปซะ !”

เสียงที่ทรงพลังและฟังดูน่าเกรงขามดังขึ้น พร้อมกันนั้นทะเลเพลิงก็ปรากฏขึ้นในอากาศ เหล่าอสูรมายาที่กำลังไล่ต้อนเหล่ามนุษย์ต่างหยุดชะงักและคุกเข่าลงไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

ฉินอวี้โม่หันไปมองรอบ ๆ ทว่ากลับไม่พบเห็นร่างของผู้ใดเลย นางเห็นเพียงแค่เงาร่างที่พร่าเลือนลอยอยู่กลางอากาศเท่านั้น

“เหยี่ยวปีกทองที่ต่ำต้อย เจ้าคิดจะทำร้ายนายหญิงของข้าอย่างนั้นรึ ?”

เงานั้นจ้องมองเหยี่ยวปีกทองด้วยสายตาดูถูก

เหยี่ยวปีกทองมองดูเงานั้นด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต มันแทบจะหยุดหายใจและไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาได้

“จะยอมแพ้หรือตาย จงเลือกเอา !”

เงานั้นกล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่สามารถสั่นประสาทเหล่าอสูรมายาอย่างถึงที่สุด

เหยี่ยวปีกทองพยายามอย่างยิ่งที่จะข่มความกลัวที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ มันกัดฟันและพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว “ทำไมข้าต้องยอมด้วย ?”

“ทำไมอย่างนั้นรึ ?”

ซิวเปล่งเสียงออกมาอย่างโกรธเคือง น้ำเสียงนั้นแฝงด้วยความเหยียดหยามเด่นชัด ทันใดนั้น เปลวเพลิงในอากาศก็พุ่งตรงเข้าเผาผลาญเหยี่ยวปีกทองอย่างรวดเร็ว

“แกว๊กกก !”

อสูรมายาระดับเทวะส่งเสียงร้องออกมาอย่างทุรนทุราย เพียงพริบตาเดียวมันก็เกือบจะกลายเป็นนกย่างไปเสียแล้ว

“จะยอมหรือจะตาย ?”

ซิวมองเหยี่ยวปีกทองที่กำลังถูกเปลวไฟแผดเผาและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง

เหยี่ยวปีกทองไม่พูดอะไรอีก มันก้มหัวลงต่ำอย่างยอมศิโรราบ หากไม่ยอมเปลวเพลิงแสนร้อนแรงของซิวจะต้องเผามันจนกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน

แม้ว่ามันจะเป็นอสูรเทวะก็ตาม แต่ถ้าหากแกนชีวิตของมันถูกเผาจนหลอมละลาย ชีวิตนี้ของมันก็คงต้องจบสิ้นเป็นแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 38.2 ตัวตนที่น่าเกรงขาม (2)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 38.2 ตัวตนที่น่าเกรงขาม (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้ายูนิคอร์นโสโครก !”

เหยี่ยวปีกทองคำรามออกมา มันปลดปล่อยพลังทั้งหมดและกระพือปีกอย่างแรง ส่งพายุหมุนลูกใหญ่ที่ทรงพลังให้พุ่งเข้าหาเสี่ยวเฮย

“เจ้าเหยี่ยวหน้าโง่ !”

เสี่ยวเฮยไม่เกรงกลัว มันเองก็สะบัดปีกแล้วส่งพายุออกไปต้านทานพายุของเหยี่ยวปีกทองเช่นกัน

— ตูม ! —

เมื่อพายุหมุนสองลูกปะทะกันก็ทำให้เกิดระลอกคลื่นที่เกิดจากแรงปะทะอันหนักหน่วงกระจายออกไปรอบทิศ  หน้าผาที่อยู่ไม่ไกลถูกแรงปะทะนั้นอัดเข้าใส่จนถึงกับถล่มครืนลงมา ต้นไม้บริเวณนั้นล้มระเนระนาดเป็นวงกว้าง

แน่นอนว่าฉินอวี้โม่ไม่มีเวลาสนใจการต่อสู้ของเสี่ยวเฮยและเหยี่ยวปีกทอง ตอนนี้สถานการณ์การต่อสู้กับเจ้าเสือโคร่งยังคงตึงมือ และเวลานี้เรี่ยวแรงของนางก็ลดลงไปพอสมควรทำให้นักฆ่าสาวกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเล็กน้อยแล้ว

เสือโคร่งที่มีสีแพรวพราวจู่โจมฉินอวี้โม่อีกครั้ง ครั้งนี้อดีตคุณหนูผู้งดงามไม่หลบหลีกอีกต่อไป นางพุ่งเข้าปะทะกับกรงเล็บที่แหลมคมของเจ้าเสือร้ายตรง ๆ

— ปุบ ! —

อุ้งเท้าของเสือโคร่งตะปบถูกร่างบางอย่างจังจนทำให้นางกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะกระอักเลือดออกมา

ทันทีที่ได้เห็นเช่นนั้น เจ้าเสือโคร่งสีประหลาดก็เริ่มได้ใจ มันผ่อนคลายความตึงเครียดลงไปมาก ขณะเดียวกันก็ลดระดับความระมัดระวังและเริ่มช้าลงเล็กน้อย เมื่อเห็นสภาพที่ดูน่าอนาถของคู่ต่อสู้ มันก็อดไม่ได้ที่จะเชิดหน้าขึ้นมองอย่างสาแก่ใจ

“ตอนนี้แหละ !”

เมื่อเห็นว่าเจ้าเสือโคร่งจอมยโสเริ่มประมาท รอยยิ้มอันเยือกเย็นก็ปรากฏบนใบหน้างามของนักฆ่าสาว ร่างบอบบางหายวับไปจากจุดเดิมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของเสือใหญ่ผู้เริ่มโง่

“แอ่กกกก !”

เสือโคร่งสีสันแพรวพราวส่งเสียงร้อง *แอ่ก* ได้เพียงครั้งเดียวก็ล้มลงดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมานก่อนจะแน่นิ่งไปในที่สุด ในตอนนี้ที่หัวของมันมีกริชระยิบระยับงดงามปักคาอยู่

บางครั้งการมีสติปัญญาเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆ ของอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะต่อตัวมันเอง เสือเทวะระดับสามดาราที่แข็งแกร่งจบสิ้นไปเพราะความประมาทของมันที่คิดว่าตนเหนือกว่าผู้อื่น

“ทุกคนช่วยกันฝ่าวงล้อมออกไป !”

ฉินอวี้โม่ตะโกนบอกกลุ่มทหารรับจ้างชื่อเหยียน ขณะที่ตัวเองก็กำลังพยายามเปิดทางฝ่าออกไป

ลั่วอวิ๋นและคนอื่น ๆ พยักหน้า อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้เป็นอสูรมายาของลั่วอวิ๋นพุ่งเข้าไปปะทะกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เขารับมืออยู่ ขณะที่คนอื่นๆ ก็พยายามช่วยกันจัดการกับอสูรมายาตรงหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อเปิดทางออกไปให้ได้

“เจ้าพวกมนุษย์โสโครก !”

เมื่อเห็นฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ใกล้จะฝ่าวงล้อมอสูรออกไปได้แล้ว เหยี่ยวปีกทองที่กำลังต่อสู้กับเสี่ยวเฮยอยู่อย่างดุเดือดก็สบถคำรามเสียงดังลั่น ตอนนี้ความดุร้ายของมันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วย

ทันใดนั้น เจ้าเหยี่ยวที่กำลังคลั่งก็อ้าปากกว้าง ก้อนแสงขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นก่อนจะถูกส่งให้พุ่งตรงเข้าใส่ยูนิคอร์นสีนิลคู่ต่อสู้ที่น่ารำคาญของมันอย่างรุนแรง

และเจ้าเหยี่ยวปีกทองก็ใช้โอกาสในช่วงเวลานั้นเอง ผละตัวออกจากเสี่ยวเฮยและพุ่งเข้าจู่โจมฉินอวี้โม่อย่างรวดเร็ว

“นายหญิงระวัง !”

เสี่ยวเฮยรีบเบี่ยงตัวหลบก้อนแสงและบินโฉบเข้าหาฉินอวี้โม่

ทว่าโชคร้ายที่ความเร็วของเหยี่ยวปีกทองสูงเกินไปทำให้เสี่ยวเฮยที่เสียเวลาหลบก้อนแสงไล่ตามไม่ทัน อาชาสีดำผู้ภักดีจึงทำได้เพียงส่งเสียงตะโกนเตือนเจ้านายสาว

เมื่อได้ยินเสียงเตือนของเสี่ยวเฮย ฉินอวี้โม่ก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เหยี่ยวปีกทองรวดเร็วจนเกินไป มันไม่มีทางที่นางจะหลบมันได้พ้น นักฆ่าสาวทำได้เพียงแค่สร้างระยะห่างให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มพื้นที่ตั้งรับและรวบรวมพลังป้องกันการโจมตีของเหยี่ยวปีกทอง

ตอนนี้เหยี่ยวยักษ์อยู่ห่างจากนางไม่กี่ช่วงตัวแล้ว เหล่าทหารรับจ้างในกองทหารชื่อเหยียนถึงกับลืมการต่อสู้ตรงหน้าไปชั่วขณะและหันไปมองสตรีผู้เก่งกล้าด้วยความกังวลและหวาดหวั่น

เสี่ยวโร่วเองเมื่อเห็นเช่นนั้นก็กรีดร้องสุดเสียง

“คุณหนู !”

เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะสังหารคนตรงหน้าได้ เหยี่ยวปีกทองก็รู้สึกย่ามใจ ขอเพียงแค่มันจัดการกับมนุษย์ผู้นี้ได้ มันก็จะได้ผลหลิวหลีกลับคืนมา และหลังจากนี้มันก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

ทว่าในตอนที่การโจมตีอันทรงพลังกำลังจะปะทะร่างบาง จู่ ๆ ฉินอวี้โม่ก็รู้สึกว่าเหยี่ยวปีกทองที่พุ่งตรงเข้ามาหยุดเคลื่อนไหวไปอย่างฉับพลัน

ในช่วงเวลาที่เหยี่ยวปีกทองใกล้เข้าไปจนเกือบจะถึงตัวมนุษย์ตรงหน้า จู่ ๆ มันก็รู้สึกถึงแรงกดดันอันรุนแรงบางอย่างพุ่งเข้ามาปะทะ แรงกดดันนั้นหนักหน่วงและน่าหวาดกลัวเสียจนทำให้มันชะงักค้าง เหยี่ยวระดับเทวะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป

“เจ้าพวกอสูรมายาต่ำต้อย หมอบลงไปซะ !”

เสียงที่ทรงพลังและฟังดูน่าเกรงขามดังขึ้น พร้อมกันนั้นทะเลเพลิงก็ปรากฏขึ้นในอากาศ เหล่าอสูรมายาที่กำลังไล่ต้อนเหล่ามนุษย์ต่างหยุดชะงักและคุกเข่าลงไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

ฉินอวี้โม่หันไปมองรอบ ๆ ทว่ากลับไม่พบเห็นร่างของผู้ใดเลย นางเห็นเพียงแค่เงาร่างที่พร่าเลือนลอยอยู่กลางอากาศเท่านั้น

“เหยี่ยวปีกทองที่ต่ำต้อย เจ้าคิดจะทำร้ายนายหญิงของข้าอย่างนั้นรึ ?”

เงานั้นจ้องมองเหยี่ยวปีกทองด้วยสายตาดูถูก

เหยี่ยวปีกทองมองดูเงานั้นด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต มันแทบจะหยุดหายใจและไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาได้

“จะยอมแพ้หรือตาย จงเลือกเอา !”

เงานั้นกล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่สามารถสั่นประสาทเหล่าอสูรมายาอย่างถึงที่สุด

เหยี่ยวปีกทองพยายามอย่างยิ่งที่จะข่มความกลัวที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ มันกัดฟันและพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว “ทำไมข้าต้องยอมด้วย ?”

“ทำไมอย่างนั้นรึ ?”

ซิวเปล่งเสียงออกมาอย่างโกรธเคือง น้ำเสียงนั้นแฝงด้วยความเหยียดหยามเด่นชัด ทันใดนั้น เปลวเพลิงในอากาศก็พุ่งตรงเข้าเผาผลาญเหยี่ยวปีกทองอย่างรวดเร็ว

“แกว๊กกก !”

อสูรมายาระดับเทวะส่งเสียงร้องออกมาอย่างทุรนทุราย เพียงพริบตาเดียวมันก็เกือบจะกลายเป็นนกย่างไปเสียแล้ว

“จะยอมหรือจะตาย ?”

ซิวมองเหยี่ยวปีกทองที่กำลังถูกเปลวไฟแผดเผาและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง

เหยี่ยวปีกทองไม่พูดอะไรอีก มันก้มหัวลงต่ำอย่างยอมศิโรราบ หากไม่ยอมเปลวเพลิงแสนร้อนแรงของซิวจะต้องเผามันจนกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน

แม้ว่ามันจะเป็นอสูรเทวะก็ตาม แต่ถ้าหากแกนชีวิตของมันถูกเผาจนหลอมละลาย ชีวิตนี้ของมันก็คงต้องจบสิ้นเป็นแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 38.2 ตัวตนที่น่าเกรงขาม (2)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 38.2 ตัวตนที่น่าเกรงขาม (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้ายูนิคอร์นโสโครก !”

เหยี่ยวปีกทองคำรามออกมา มันปลดปล่อยพลังทั้งหมดและกระพือปีกอย่างแรง ส่งพายุหมุนลูกใหญ่ที่ทรงพลังให้พุ่งเข้าหาเสี่ยวเฮย

“เจ้าเหยี่ยวหน้าโง่ !”

เสี่ยวเฮยไม่เกรงกลัว มันเองก็สะบัดปีกแล้วส่งพายุออกไปต้านทานพายุของเหยี่ยวปีกทองเช่นกัน

— ตูม ! —

เมื่อพายุหมุนสองลูกปะทะกันก็ทำให้เกิดระลอกคลื่นที่เกิดจากแรงปะทะอันหนักหน่วงกระจายออกไปรอบทิศ  หน้าผาที่อยู่ไม่ไกลถูกแรงปะทะนั้นอัดเข้าใส่จนถึงกับถล่มครืนลงมา ต้นไม้บริเวณนั้นล้มระเนระนาดเป็นวงกว้าง

แน่นอนว่าฉินอวี้โม่ไม่มีเวลาสนใจการต่อสู้ของเสี่ยวเฮยและเหยี่ยวปีกทอง ตอนนี้สถานการณ์การต่อสู้กับเจ้าเสือโคร่งยังคงตึงมือ และเวลานี้เรี่ยวแรงของนางก็ลดลงไปพอสมควรทำให้นักฆ่าสาวกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเล็กน้อยแล้ว

เสือโคร่งที่มีสีแพรวพราวจู่โจมฉินอวี้โม่อีกครั้ง ครั้งนี้อดีตคุณหนูผู้งดงามไม่หลบหลีกอีกต่อไป นางพุ่งเข้าปะทะกับกรงเล็บที่แหลมคมของเจ้าเสือร้ายตรง ๆ

— ปุบ ! —

อุ้งเท้าของเสือโคร่งตะปบถูกร่างบางอย่างจังจนทำให้นางกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะกระอักเลือดออกมา

ทันทีที่ได้เห็นเช่นนั้น เจ้าเสือโคร่งสีประหลาดก็เริ่มได้ใจ มันผ่อนคลายความตึงเครียดลงไปมาก ขณะเดียวกันก็ลดระดับความระมัดระวังและเริ่มช้าลงเล็กน้อย เมื่อเห็นสภาพที่ดูน่าอนาถของคู่ต่อสู้ มันก็อดไม่ได้ที่จะเชิดหน้าขึ้นมองอย่างสาแก่ใจ

“ตอนนี้แหละ !”

เมื่อเห็นว่าเจ้าเสือโคร่งจอมยโสเริ่มประมาท รอยยิ้มอันเยือกเย็นก็ปรากฏบนใบหน้างามของนักฆ่าสาว ร่างบอบบางหายวับไปจากจุดเดิมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของเสือใหญ่ผู้เริ่มโง่

“แอ่กกกก !”

เสือโคร่งสีสันแพรวพราวส่งเสียงร้อง *แอ่ก* ได้เพียงครั้งเดียวก็ล้มลงดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมานก่อนจะแน่นิ่งไปในที่สุด ในตอนนี้ที่หัวของมันมีกริชระยิบระยับงดงามปักคาอยู่

บางครั้งการมีสติปัญญาเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆ ของอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะต่อตัวมันเอง เสือเทวะระดับสามดาราที่แข็งแกร่งจบสิ้นไปเพราะความประมาทของมันที่คิดว่าตนเหนือกว่าผู้อื่น

“ทุกคนช่วยกันฝ่าวงล้อมออกไป !”

ฉินอวี้โม่ตะโกนบอกกลุ่มทหารรับจ้างชื่อเหยียน ขณะที่ตัวเองก็กำลังพยายามเปิดทางฝ่าออกไป

ลั่วอวิ๋นและคนอื่น ๆ พยักหน้า อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้เป็นอสูรมายาของลั่วอวิ๋นพุ่งเข้าไปปะทะกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เขารับมืออยู่ ขณะที่คนอื่นๆ ก็พยายามช่วยกันจัดการกับอสูรมายาตรงหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อเปิดทางออกไปให้ได้

“เจ้าพวกมนุษย์โสโครก !”

เมื่อเห็นฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ใกล้จะฝ่าวงล้อมอสูรออกไปได้แล้ว เหยี่ยวปีกทองที่กำลังต่อสู้กับเสี่ยวเฮยอยู่อย่างดุเดือดก็สบถคำรามเสียงดังลั่น ตอนนี้ความดุร้ายของมันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วย

ทันใดนั้น เจ้าเหยี่ยวที่กำลังคลั่งก็อ้าปากกว้าง ก้อนแสงขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นก่อนจะถูกส่งให้พุ่งตรงเข้าใส่ยูนิคอร์นสีนิลคู่ต่อสู้ที่น่ารำคาญของมันอย่างรุนแรง

และเจ้าเหยี่ยวปีกทองก็ใช้โอกาสในช่วงเวลานั้นเอง ผละตัวออกจากเสี่ยวเฮยและพุ่งเข้าจู่โจมฉินอวี้โม่อย่างรวดเร็ว

“นายหญิงระวัง !”

เสี่ยวเฮยรีบเบี่ยงตัวหลบก้อนแสงและบินโฉบเข้าหาฉินอวี้โม่

ทว่าโชคร้ายที่ความเร็วของเหยี่ยวปีกทองสูงเกินไปทำให้เสี่ยวเฮยที่เสียเวลาหลบก้อนแสงไล่ตามไม่ทัน อาชาสีดำผู้ภักดีจึงทำได้เพียงส่งเสียงตะโกนเตือนเจ้านายสาว

เมื่อได้ยินเสียงเตือนของเสี่ยวเฮย ฉินอวี้โม่ก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เหยี่ยวปีกทองรวดเร็วจนเกินไป มันไม่มีทางที่นางจะหลบมันได้พ้น นักฆ่าสาวทำได้เพียงแค่สร้างระยะห่างให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มพื้นที่ตั้งรับและรวบรวมพลังป้องกันการโจมตีของเหยี่ยวปีกทอง

ตอนนี้เหยี่ยวยักษ์อยู่ห่างจากนางไม่กี่ช่วงตัวแล้ว เหล่าทหารรับจ้างในกองทหารชื่อเหยียนถึงกับลืมการต่อสู้ตรงหน้าไปชั่วขณะและหันไปมองสตรีผู้เก่งกล้าด้วยความกังวลและหวาดหวั่น

เสี่ยวโร่วเองเมื่อเห็นเช่นนั้นก็กรีดร้องสุดเสียง

“คุณหนู !”

เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะสังหารคนตรงหน้าได้ เหยี่ยวปีกทองก็รู้สึกย่ามใจ ขอเพียงแค่มันจัดการกับมนุษย์ผู้นี้ได้ มันก็จะได้ผลหลิวหลีกลับคืนมา และหลังจากนี้มันก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

ทว่าในตอนที่การโจมตีอันทรงพลังกำลังจะปะทะร่างบาง จู่ ๆ ฉินอวี้โม่ก็รู้สึกว่าเหยี่ยวปีกทองที่พุ่งตรงเข้ามาหยุดเคลื่อนไหวไปอย่างฉับพลัน

ในช่วงเวลาที่เหยี่ยวปีกทองใกล้เข้าไปจนเกือบจะถึงตัวมนุษย์ตรงหน้า จู่ ๆ มันก็รู้สึกถึงแรงกดดันอันรุนแรงบางอย่างพุ่งเข้ามาปะทะ แรงกดดันนั้นหนักหน่วงและน่าหวาดกลัวเสียจนทำให้มันชะงักค้าง เหยี่ยวระดับเทวะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป

“เจ้าพวกอสูรมายาต่ำต้อย หมอบลงไปซะ !”

เสียงที่ทรงพลังและฟังดูน่าเกรงขามดังขึ้น พร้อมกันนั้นทะเลเพลิงก็ปรากฏขึ้นในอากาศ เหล่าอสูรมายาที่กำลังไล่ต้อนเหล่ามนุษย์ต่างหยุดชะงักและคุกเข่าลงไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

ฉินอวี้โม่หันไปมองรอบ ๆ ทว่ากลับไม่พบเห็นร่างของผู้ใดเลย นางเห็นเพียงแค่เงาร่างที่พร่าเลือนลอยอยู่กลางอากาศเท่านั้น

“เหยี่ยวปีกทองที่ต่ำต้อย เจ้าคิดจะทำร้ายนายหญิงของข้าอย่างนั้นรึ ?”

เงานั้นจ้องมองเหยี่ยวปีกทองด้วยสายตาดูถูก

เหยี่ยวปีกทองมองดูเงานั้นด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต มันแทบจะหยุดหายใจและไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาได้

“จะยอมแพ้หรือตาย จงเลือกเอา !”

เงานั้นกล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่สามารถสั่นประสาทเหล่าอสูรมายาอย่างถึงที่สุด

เหยี่ยวปีกทองพยายามอย่างยิ่งที่จะข่มความกลัวที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ มันกัดฟันและพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว “ทำไมข้าต้องยอมด้วย ?”

“ทำไมอย่างนั้นรึ ?”

ซิวเปล่งเสียงออกมาอย่างโกรธเคือง น้ำเสียงนั้นแฝงด้วยความเหยียดหยามเด่นชัด ทันใดนั้น เปลวเพลิงในอากาศก็พุ่งตรงเข้าเผาผลาญเหยี่ยวปีกทองอย่างรวดเร็ว

“แกว๊กกก !”

อสูรมายาระดับเทวะส่งเสียงร้องออกมาอย่างทุรนทุราย เพียงพริบตาเดียวมันก็เกือบจะกลายเป็นนกย่างไปเสียแล้ว

“จะยอมหรือจะตาย ?”

ซิวมองเหยี่ยวปีกทองที่กำลังถูกเปลวไฟแผดเผาและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง

เหยี่ยวปีกทองไม่พูดอะไรอีก มันก้มหัวลงต่ำอย่างยอมศิโรราบ หากไม่ยอมเปลวเพลิงแสนร้อนแรงของซิวจะต้องเผามันจนกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน

แม้ว่ามันจะเป็นอสูรเทวะก็ตาม แต่ถ้าหากแกนชีวิตของมันถูกเผาจนหลอมละลาย ชีวิตนี้ของมันก็คงต้องจบสิ้นเป็นแน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+