คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 42.3 บุรุษไร้ยางอาย (3)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 42.3 บุรุษไร้ยางอาย (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หากเป็นชาติก่อน และมีคนแบบนี้กล้ามาเกี้ยวพานเธอ ในลักษณะนี้ อีกฝ่ายจะต้องจ่ายค่าตอบแทนความสะเหล่อในราคาแพงแน่ อย่างไรก็ตาม ชีวิตนี้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ เธอยังต้องสนใจสายตาผู้คนที่จ้องมองมา อีกทั้งเธอยังไม่อยากจะกลายเป็นจุดสนใจโดยการมีเรื่องกับคนของอาราม

อารามถือเป็นขุมกำลังที่ขุมกำลังอื่น ๆ ในดินแดนนี้ต่างก็เกรงกลัว แม้ว่าลิ่วเยว่จะไม่ใช่คนใหญ่คนโต ทว่าหากฉินอวี้โม่ก็ทำอะไรเขาจริง ๆ ก็จะมีปัญหาตามมาไม่น้อย

ผิดกับเสี่ยวโร่วที่ไม่รู้ตัวตนของเขา ฉะนั้นนางจึงกล้าที่จะด่าอีกฝ่ายไปถึงสองสามประโยค และด้วยการที่อีกฝ่ายมีสถานะที่สูง เขาเป็นถึงตัวแทนจากอารามทำให้เขาเองก็ไม่กล้าจะแสดงอารมณ์ของตนอย่างออกหน้าออกตา ถึงจะหน้าหนาอย่างไร ลิ่วเยว่ก็ยังต้องกังวลต่อสายตาของแขกคนอื่นอยู่บ้าง

ฉะนั้นแล้วฉินอวี้โม่จึงไม่อยากจะกล่าวสิ่งใดอีก

อย่างไรก็ตามคำพูดของเสี่ยวโร่วไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เขายอมถอยกลับไปเท่านั้น แต่ยังทำให้คนไร้ยางอายมีความมุ่งมั่นมากขึ้นไปอีก ชายผู้นี้ไม่ใช่เพียงแต่ไร้ยางอายในระดับธรรมดา แต่คงต้องถือว่าหน้าหนาเหมือนกำแพงเลยมากกว่า

“หน้าตาไม่ได้เรื่องยังพอว่า นี่ยังไม่รู้จักการวางตัว เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันทุเรศ? ”

ฉินอวี้โม่ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ พลางกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงของนางไม่ได้เกรงใจอีกต่อไป

คนประเภทหนึ่งที่นางเกลียดที่สุดก็คือพวกไร้ยางอาย ไร้จิตสำนึก ทำตัวต่ำทรามไม่เห็นหัวใครอย่างลิ่วเยว่ผู้นี้นี่แหละ

เมื่อได้ยินวาจาเย็นชาของฉินอวี้โม่และได้เห็นแววตาอันแสนดูถูกเหยียดหยามของนาง สีหน้าของลิ่วเยว่ก็ดำคล้ำขึ้นมาเช่นกัน

“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอยู่กับผู้ใด? ” ลิ่วเยว่มองฉินอวี้โม่และกล่าวเสียงต่ำ

“ก็คงจะเป็นสุนัขขี้เรื้อนตัวหนึ่งกระมัง” ฉินอวี้โม่แดกดันกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว

แท้จริงนางไม่ได้คิดจะต่อปากต่อคำกับลิ่วเยว่ผู้นี้ ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายทำตัวน่ารังเกียจถึงเพียงนี้ นางเองก็สุดจะทนแล้วเช่นกัน

กับคนหน้าด้านนั้น การตอกกลับอีกฝ่ายอย่างรุนแรงที่สุดไปเลยจะเป็นวิธีการที่ได้ผลดีและรวดเร็วที่สุด มิฉะนั้นก็จะต้องวุ่นวาย ถูกรังควานไม่จบสิ้น

“เจ้ากล้าดียังไงมาว่าข้าเป็นสุนัข! ”

เมื่อได้ยินวาจาถากถางของฉินอวี้โม่ ใบหน้าของลิ่วเยว่ก็ขึ้นสีแดงก่ำ ศิษย์จากอารามกล่าวเสียงดังอย่างเดือดดาล

“ข้าเหรอว่าเจ้า? ” ฉินอวี้โม่ยิ้มแล้วกล่าวต่อ “ข้าคิดว่าเจ้าคงจะเขินอายเกินไปที่จะยอมรับตัวตนของเองจนต้องมาถามข้า ข้าเลยพูดสิ่งที่ดูคล้ายคลึงกับเจ้าที่สุดออกไปเท่านั้น”

“ฮ่า ๆ ๆ! ”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของฉินอวี้โม่ ทุกคนที่อยู่ภายในงานเลี้ยงก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พวกเขาได้แต่ชื่นชมฉินอวี้โม่ สตรีผู้นี้นอกจากจะงดงามมากแล้วยังกล้าหาญอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะคนของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนพวกเขายิ่งชื่นชมนางมากขึ้นกว่าเดิม กล้าหาญ ไม่หวั่นเกรง นี่เป็นสิ่งที่เหล่าทหารรับจ้างทั้งหลายต่างก็เทิดทูน

เมื่อชื่อเซียวเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาก็ได้แต่สงสัยในตัวหญิงสาวผู้นี้เพิ่มมากขึ้นอีก …สตรีผู้นี้เป็นคนแบบไหนกันแน่ ?

“เจ้ารนหาที่ตาย! ”

เมื่อได้ยินเสียงหัวเเราะที่ดังสนั่นทั่วห้อง ลิ่วเยว่ก็รู้สึกหน้าชาราวกับถูกตบ เขายื่นมองออกไปหมายจะฟาดลงบนใบหน้านวลเนียนนั้น

แม้ว่จะแทบไม่เคยลงไม้ลงมือกับสตรี แต่วันนี้เขาก็ทนการหมิ่นเกียรติและเหยียดหยามครั้งแล้วครั้งเล่าจากหญิงสาวตรงหน้าเขานี้ไม่ไหวอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่เองก็พอจะมองระดับฝีมือของอีกฝ่ายออก แม้ว่าคนผู้นี้จะฝีมือสูงส่ง แต่ตัวนางเองก็เพิ่งจะบรรลุขอบเขตมายารัตนะมาเช่นกัน ดังนั้นสาวนักฆ่าในร่างคุณหนูจึงเชื่อว่าตนจะรับมือได้

ฉินอวี้โม่กลับไม่มีความคิดที่จะหลบเมื่อเห็นฝ่ามือที่พุ่งเข้าจู่โจมของอีกฝ่าย ทว่าในตอนที่กำลังจะรับฝ่ามือนั้น โฉมงามก็มองเห็นลั่วอวิ๋นลุกขึ้นมาและคว้าจับข้อมือของลิ่วเยว่ไว้

“กล้าลงมือกับสตรีเช่นนี้ยังคู่ควรเรียกตัวเองว่าบุรุษอีกหรือ ที่เขาว่ากันว่าคนจากอารามล้วนสูงส่งและองอาจคงจะเป็นเพียงข่าวลือสินะ! ”

เมื่อลั่วอวิ๋นเห็นลิ่วเยว่ลงมือ เขาก็รีบลุกขึ้นมาและช่วยสกัดการโจมตีนั้นให้สหายผู้งดงามของเขาทันที

ถึงแม้จะทราบดีว่า สตรีเก่งกาจอย่างฉินอวี้โม่คงจะไม่เห็นฝ่ามืออ่อนหัดเช่นนี้อยู่ในสายตา แต่เขาก็ไม่ยินดีหากมือของนางต้องมาแปดเปื้อนคนตรงหน้า

“เจ้าเป็นใครถึงกล้ามายุ่งเรื่องของข้า?! ”

เมื่อเห็นว่าฝ่ามือของตนถูกคนผู้หนึ่งหยุดเอาไว้ ลิ่วเยว่ก็หันไปมองคนผู้นั้นและตวาดอย่างเดือดดาลทันที เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนขวัญกล้าพุ่งเข้ามาขวางคนจากอารามอย่างเขา.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 42.3 บุรุษไร้ยางอาย (3)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 42.3 บุรุษไร้ยางอาย (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หากเป็นชาติก่อน และมีคนแบบนี้กล้ามาเกี้ยวพานเธอ ในลักษณะนี้ อีกฝ่ายจะต้องจ่ายค่าตอบแทนความสะเหล่อในราคาแพงแน่ อย่างไรก็ตาม ชีวิตนี้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ เธอยังต้องสนใจสายตาผู้คนที่จ้องมองมา อีกทั้งเธอยังไม่อยากจะกลายเป็นจุดสนใจโดยการมีเรื่องกับคนของอาราม

อารามถือเป็นขุมกำลังที่ขุมกำลังอื่น ๆ ในดินแดนนี้ต่างก็เกรงกลัว แม้ว่าลิ่วเยว่จะไม่ใช่คนใหญ่คนโต ทว่าหากฉินอวี้โม่ก็ทำอะไรเขาจริง ๆ ก็จะมีปัญหาตามมาไม่น้อย

ผิดกับเสี่ยวโร่วที่ไม่รู้ตัวตนของเขา ฉะนั้นนางจึงกล้าที่จะด่าอีกฝ่ายไปถึงสองสามประโยค และด้วยการที่อีกฝ่ายมีสถานะที่สูง เขาเป็นถึงตัวแทนจากอารามทำให้เขาเองก็ไม่กล้าจะแสดงอารมณ์ของตนอย่างออกหน้าออกตา ถึงจะหน้าหนาอย่างไร ลิ่วเยว่ก็ยังต้องกังวลต่อสายตาของแขกคนอื่นอยู่บ้าง

ฉะนั้นแล้วฉินอวี้โม่จึงไม่อยากจะกล่าวสิ่งใดอีก

อย่างไรก็ตามคำพูดของเสี่ยวโร่วไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เขายอมถอยกลับไปเท่านั้น แต่ยังทำให้คนไร้ยางอายมีความมุ่งมั่นมากขึ้นไปอีก ชายผู้นี้ไม่ใช่เพียงแต่ไร้ยางอายในระดับธรรมดา แต่คงต้องถือว่าหน้าหนาเหมือนกำแพงเลยมากกว่า

“หน้าตาไม่ได้เรื่องยังพอว่า นี่ยังไม่รู้จักการวางตัว เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันทุเรศ? ”

ฉินอวี้โม่ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ พลางกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงของนางไม่ได้เกรงใจอีกต่อไป

คนประเภทหนึ่งที่นางเกลียดที่สุดก็คือพวกไร้ยางอาย ไร้จิตสำนึก ทำตัวต่ำทรามไม่เห็นหัวใครอย่างลิ่วเยว่ผู้นี้นี่แหละ

เมื่อได้ยินวาจาเย็นชาของฉินอวี้โม่และได้เห็นแววตาอันแสนดูถูกเหยียดหยามของนาง สีหน้าของลิ่วเยว่ก็ดำคล้ำขึ้นมาเช่นกัน

“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอยู่กับผู้ใด? ” ลิ่วเยว่มองฉินอวี้โม่และกล่าวเสียงต่ำ

“ก็คงจะเป็นสุนัขขี้เรื้อนตัวหนึ่งกระมัง” ฉินอวี้โม่แดกดันกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว

แท้จริงนางไม่ได้คิดจะต่อปากต่อคำกับลิ่วเยว่ผู้นี้ ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายทำตัวน่ารังเกียจถึงเพียงนี้ นางเองก็สุดจะทนแล้วเช่นกัน

กับคนหน้าด้านนั้น การตอกกลับอีกฝ่ายอย่างรุนแรงที่สุดไปเลยจะเป็นวิธีการที่ได้ผลดีและรวดเร็วที่สุด มิฉะนั้นก็จะต้องวุ่นวาย ถูกรังควานไม่จบสิ้น

“เจ้ากล้าดียังไงมาว่าข้าเป็นสุนัข! ”

เมื่อได้ยินวาจาถากถางของฉินอวี้โม่ ใบหน้าของลิ่วเยว่ก็ขึ้นสีแดงก่ำ ศิษย์จากอารามกล่าวเสียงดังอย่างเดือดดาล

“ข้าเหรอว่าเจ้า? ” ฉินอวี้โม่ยิ้มแล้วกล่าวต่อ “ข้าคิดว่าเจ้าคงจะเขินอายเกินไปที่จะยอมรับตัวตนของเองจนต้องมาถามข้า ข้าเลยพูดสิ่งที่ดูคล้ายคลึงกับเจ้าที่สุดออกไปเท่านั้น”

“ฮ่า ๆ ๆ! ”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของฉินอวี้โม่ ทุกคนที่อยู่ภายในงานเลี้ยงก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พวกเขาได้แต่ชื่นชมฉินอวี้โม่ สตรีผู้นี้นอกจากจะงดงามมากแล้วยังกล้าหาญอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะคนของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนพวกเขายิ่งชื่นชมนางมากขึ้นกว่าเดิม กล้าหาญ ไม่หวั่นเกรง นี่เป็นสิ่งที่เหล่าทหารรับจ้างทั้งหลายต่างก็เทิดทูน

เมื่อชื่อเซียวเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาก็ได้แต่สงสัยในตัวหญิงสาวผู้นี้เพิ่มมากขึ้นอีก …สตรีผู้นี้เป็นคนแบบไหนกันแน่ ?

“เจ้ารนหาที่ตาย! ”

เมื่อได้ยินเสียงหัวเเราะที่ดังสนั่นทั่วห้อง ลิ่วเยว่ก็รู้สึกหน้าชาราวกับถูกตบ เขายื่นมองออกไปหมายจะฟาดลงบนใบหน้านวลเนียนนั้น

แม้ว่จะแทบไม่เคยลงไม้ลงมือกับสตรี แต่วันนี้เขาก็ทนการหมิ่นเกียรติและเหยียดหยามครั้งแล้วครั้งเล่าจากหญิงสาวตรงหน้าเขานี้ไม่ไหวอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่เองก็พอจะมองระดับฝีมือของอีกฝ่ายออก แม้ว่าคนผู้นี้จะฝีมือสูงส่ง แต่ตัวนางเองก็เพิ่งจะบรรลุขอบเขตมายารัตนะมาเช่นกัน ดังนั้นสาวนักฆ่าในร่างคุณหนูจึงเชื่อว่าตนจะรับมือได้

ฉินอวี้โม่กลับไม่มีความคิดที่จะหลบเมื่อเห็นฝ่ามือที่พุ่งเข้าจู่โจมของอีกฝ่าย ทว่าในตอนที่กำลังจะรับฝ่ามือนั้น โฉมงามก็มองเห็นลั่วอวิ๋นลุกขึ้นมาและคว้าจับข้อมือของลิ่วเยว่ไว้

“กล้าลงมือกับสตรีเช่นนี้ยังคู่ควรเรียกตัวเองว่าบุรุษอีกหรือ ที่เขาว่ากันว่าคนจากอารามล้วนสูงส่งและองอาจคงจะเป็นเพียงข่าวลือสินะ! ”

เมื่อลั่วอวิ๋นเห็นลิ่วเยว่ลงมือ เขาก็รีบลุกขึ้นมาและช่วยสกัดการโจมตีนั้นให้สหายผู้งดงามของเขาทันที

ถึงแม้จะทราบดีว่า สตรีเก่งกาจอย่างฉินอวี้โม่คงจะไม่เห็นฝ่ามืออ่อนหัดเช่นนี้อยู่ในสายตา แต่เขาก็ไม่ยินดีหากมือของนางต้องมาแปดเปื้อนคนตรงหน้า

“เจ้าเป็นใครถึงกล้ามายุ่งเรื่องของข้า?! ”

เมื่อเห็นว่าฝ่ามือของตนถูกคนผู้หนึ่งหยุดเอาไว้ ลิ่วเยว่ก็หันไปมองคนผู้นั้นและตวาดอย่างเดือดดาลทันที เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนขวัญกล้าพุ่งเข้ามาขวางคนจากอารามอย่างเขา.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด 42.3 บุรุษไร้ยางอาย (3)

Now you are reading คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด Chapter 42.3 บุรุษไร้ยางอาย (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หากเป็นชาติก่อน และมีคนแบบนี้กล้ามาเกี้ยวพานเธอ ในลักษณะนี้ อีกฝ่ายจะต้องจ่ายค่าตอบแทนความสะเหล่อในราคาแพงแน่ อย่างไรก็ตาม ชีวิตนี้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ เธอยังต้องสนใจสายตาผู้คนที่จ้องมองมา อีกทั้งเธอยังไม่อยากจะกลายเป็นจุดสนใจโดยการมีเรื่องกับคนของอาราม

อารามถือเป็นขุมกำลังที่ขุมกำลังอื่น ๆ ในดินแดนนี้ต่างก็เกรงกลัว แม้ว่าลิ่วเยว่จะไม่ใช่คนใหญ่คนโต ทว่าหากฉินอวี้โม่ก็ทำอะไรเขาจริง ๆ ก็จะมีปัญหาตามมาไม่น้อย

ผิดกับเสี่ยวโร่วที่ไม่รู้ตัวตนของเขา ฉะนั้นนางจึงกล้าที่จะด่าอีกฝ่ายไปถึงสองสามประโยค และด้วยการที่อีกฝ่ายมีสถานะที่สูง เขาเป็นถึงตัวแทนจากอารามทำให้เขาเองก็ไม่กล้าจะแสดงอารมณ์ของตนอย่างออกหน้าออกตา ถึงจะหน้าหนาอย่างไร ลิ่วเยว่ก็ยังต้องกังวลต่อสายตาของแขกคนอื่นอยู่บ้าง

ฉะนั้นแล้วฉินอวี้โม่จึงไม่อยากจะกล่าวสิ่งใดอีก

อย่างไรก็ตามคำพูดของเสี่ยวโร่วไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เขายอมถอยกลับไปเท่านั้น แต่ยังทำให้คนไร้ยางอายมีความมุ่งมั่นมากขึ้นไปอีก ชายผู้นี้ไม่ใช่เพียงแต่ไร้ยางอายในระดับธรรมดา แต่คงต้องถือว่าหน้าหนาเหมือนกำแพงเลยมากกว่า

“หน้าตาไม่ได้เรื่องยังพอว่า นี่ยังไม่รู้จักการวางตัว เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันทุเรศ? ”

ฉินอวี้โม่ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ พลางกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงของนางไม่ได้เกรงใจอีกต่อไป

คนประเภทหนึ่งที่นางเกลียดที่สุดก็คือพวกไร้ยางอาย ไร้จิตสำนึก ทำตัวต่ำทรามไม่เห็นหัวใครอย่างลิ่วเยว่ผู้นี้นี่แหละ

เมื่อได้ยินวาจาเย็นชาของฉินอวี้โม่และได้เห็นแววตาอันแสนดูถูกเหยียดหยามของนาง สีหน้าของลิ่วเยว่ก็ดำคล้ำขึ้นมาเช่นกัน

“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอยู่กับผู้ใด? ” ลิ่วเยว่มองฉินอวี้โม่และกล่าวเสียงต่ำ

“ก็คงจะเป็นสุนัขขี้เรื้อนตัวหนึ่งกระมัง” ฉินอวี้โม่แดกดันกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว

แท้จริงนางไม่ได้คิดจะต่อปากต่อคำกับลิ่วเยว่ผู้นี้ ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายทำตัวน่ารังเกียจถึงเพียงนี้ นางเองก็สุดจะทนแล้วเช่นกัน

กับคนหน้าด้านนั้น การตอกกลับอีกฝ่ายอย่างรุนแรงที่สุดไปเลยจะเป็นวิธีการที่ได้ผลดีและรวดเร็วที่สุด มิฉะนั้นก็จะต้องวุ่นวาย ถูกรังควานไม่จบสิ้น

“เจ้ากล้าดียังไงมาว่าข้าเป็นสุนัข! ”

เมื่อได้ยินวาจาถากถางของฉินอวี้โม่ ใบหน้าของลิ่วเยว่ก็ขึ้นสีแดงก่ำ ศิษย์จากอารามกล่าวเสียงดังอย่างเดือดดาล

“ข้าเหรอว่าเจ้า? ” ฉินอวี้โม่ยิ้มแล้วกล่าวต่อ “ข้าคิดว่าเจ้าคงจะเขินอายเกินไปที่จะยอมรับตัวตนของเองจนต้องมาถามข้า ข้าเลยพูดสิ่งที่ดูคล้ายคลึงกับเจ้าที่สุดออกไปเท่านั้น”

“ฮ่า ๆ ๆ! ”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของฉินอวี้โม่ ทุกคนที่อยู่ภายในงานเลี้ยงก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พวกเขาได้แต่ชื่นชมฉินอวี้โม่ สตรีผู้นี้นอกจากจะงดงามมากแล้วยังกล้าหาญอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะคนของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนพวกเขายิ่งชื่นชมนางมากขึ้นกว่าเดิม กล้าหาญ ไม่หวั่นเกรง นี่เป็นสิ่งที่เหล่าทหารรับจ้างทั้งหลายต่างก็เทิดทูน

เมื่อชื่อเซียวเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาก็ได้แต่สงสัยในตัวหญิงสาวผู้นี้เพิ่มมากขึ้นอีก …สตรีผู้นี้เป็นคนแบบไหนกันแน่ ?

“เจ้ารนหาที่ตาย! ”

เมื่อได้ยินเสียงหัวเเราะที่ดังสนั่นทั่วห้อง ลิ่วเยว่ก็รู้สึกหน้าชาราวกับถูกตบ เขายื่นมองออกไปหมายจะฟาดลงบนใบหน้านวลเนียนนั้น

แม้ว่จะแทบไม่เคยลงไม้ลงมือกับสตรี แต่วันนี้เขาก็ทนการหมิ่นเกียรติและเหยียดหยามครั้งแล้วครั้งเล่าจากหญิงสาวตรงหน้าเขานี้ไม่ไหวอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่เองก็พอจะมองระดับฝีมือของอีกฝ่ายออก แม้ว่าคนผู้นี้จะฝีมือสูงส่ง แต่ตัวนางเองก็เพิ่งจะบรรลุขอบเขตมายารัตนะมาเช่นกัน ดังนั้นสาวนักฆ่าในร่างคุณหนูจึงเชื่อว่าตนจะรับมือได้

ฉินอวี้โม่กลับไม่มีความคิดที่จะหลบเมื่อเห็นฝ่ามือที่พุ่งเข้าจู่โจมของอีกฝ่าย ทว่าในตอนที่กำลังจะรับฝ่ามือนั้น โฉมงามก็มองเห็นลั่วอวิ๋นลุกขึ้นมาและคว้าจับข้อมือของลิ่วเยว่ไว้

“กล้าลงมือกับสตรีเช่นนี้ยังคู่ควรเรียกตัวเองว่าบุรุษอีกหรือ ที่เขาว่ากันว่าคนจากอารามล้วนสูงส่งและองอาจคงจะเป็นเพียงข่าวลือสินะ! ”

เมื่อลั่วอวิ๋นเห็นลิ่วเยว่ลงมือ เขาก็รีบลุกขึ้นมาและช่วยสกัดการโจมตีนั้นให้สหายผู้งดงามของเขาทันที

ถึงแม้จะทราบดีว่า สตรีเก่งกาจอย่างฉินอวี้โม่คงจะไม่เห็นฝ่ามืออ่อนหัดเช่นนี้อยู่ในสายตา แต่เขาก็ไม่ยินดีหากมือของนางต้องมาแปดเปื้อนคนตรงหน้า

“เจ้าเป็นใครถึงกล้ามายุ่งเรื่องของข้า?! ”

เมื่อเห็นว่าฝ่ามือของตนถูกคนผู้หนึ่งหยุดเอาไว้ ลิ่วเยว่ก็หันไปมองคนผู้นั้นและตวาดอย่างเดือดดาลทันที เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนขวัญกล้าพุ่งเข้ามาขวางคนจากอารามอย่างเขา.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+