จอมนักรบทรงเกียรติยศ 131 ชายหน้าบากที่น่าหวาดกลัว

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 131 ชายหน้าบากที่น่าหวาดกลัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อะไรนะ?” ดวงตาของเจ้าอ้วนเบิกกว้างมองเย่ชิงหยู่ พลางเอ่ยถาม “เธอว่าอะไรนะ? สามีของเธอ? เธอมีผัวแล้ว?”

เย่ชิงหยู่จ้องเจ้าอ้วน หอบหายใจหนัก เธอกัดฟัน พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่ใช่แค่ฉันมีสามีนะ สามีของฉันเป็นทหาร ถ้าหากเขารู้ว่าพวกนายรังแกฉันละก็ พวกแกทั้งหมดจะไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว เมื่อก่อนเขาก็เคยฆ่าคนอื่นเพื่อฉัน คนที่รังแกฉันคนล่าสุดก็ตายไปแล้ว”

ตั้งแต่โบราณมา โจรพวกนี้ล้วนแต่หวาดกลัวคนที่เป็นทหารและตำรวจ เย่ชิงหยู่พูดไปแบบนั้นก็น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง

อีกอย่างนะ ที่จริงแล้วฟางเหยียนก็เคยฆ่าคนมาก่อน!

เดิมคิดว่าทำแบบนี้ก็จะสามารถข่มขู่คนหลายคนได้ ใครจะไปรู้ว่าเจ้าอ้วนจะยิ่งเบิกบานเข้าไปใหญ่ หัวเราะฮ่า ๆ ๆ ออกมาพลางเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ทำเสียราวกับว่าจะมีใครที่ไม่เคยฆ่าคนอย่างไรอย่างนั้นแหละ พวกเราเนี่ย มีใครที่มือไม่เปื้อนเลือดบ้าง!”

“ถ้าหากผัวเธอกล้ามา อย่างมากพวกเราก็แค่ฆ่าเขาเสีย!”

คำพูดของเจ้าอ้วนยิ่งทำให้ใจของเย่ชิงหยู่จมดิ่งลงไป ไม่ผิด คนพวกนี้มีใครที่มือไม่เปื้อนเลือดบ้าง มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าใหญ่ แน่นอนว่าต้องหลีกเลี่ยงการฆ่าคนไม่ได้!

ถ้าเทียบเรื่องความเลวร้ายแล้ว คนพวกนี้เลวร้ายยิ่งกว่าฟางเหยียนมากจริง ๆ!

เห็นเย่ชิงหยู่ไม่พูดอะไร เจ้าอ้วนก็พูดต่อว่า “ในเมื่อผัวของเธอเป็นทหาร งั้นเธอก็ต้องเป็นแม่หม้ายอย่างแน่นอน วันนี้ฉันจะช่วยเธอกำจัดความต้องการแทนผัวของเธอเอง!”

ว่าแล้วเจ้าอ้วนก็จะลงมือทำเรื่องที่ไม่อาจบรรยายได้ เย่ชิงหยู่เห็นการกระทำที่บ้าบิ่นนี้ก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา ถ้าหากว่าเธอไม่ได้โดนมัดอยู่ก็ยังสามารถต่อต้านได้บ้าง แต่เธอในตอนนี้ แม้แต่โอกาสที่จะฆ่าตัวตายก็ยังไม่มีเลย

สิ้นหวัง! เย่ชิงหยู่ในตอนนี้เพียงใช้สายตาที่สิ้นหวังมองเจ้าอ้วน

แต่ว่า ในนาทีวิกฤตนี้ ชายในชุดจงซานที่มีใบหน้าไร้ความรู้สึกก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “พี่อ้วน พอได้แล้ว!”

“พี่ใหญ่!” เจ้าอ้วนขมวดคิ้วพลางเอ่ยว่า “ผมไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? นี่เป็นถึงคนที่คุณหนูใหญ่สั่งให้พวกเราจัดการเชียวนะ หรือว่ายังไม่ให้ทำ? พี่จะไม่ทำก็ได้นะ แต่พี่จะมาขัดขวางผมไม่ได้!”

สีหน้าของชายหน้าบากเปลี่ยนไป เอ่ยถามว่า “แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง? แกอยากตาย?”

คำพูดของชายหน้าบากแสดงออกถึงความมืดมนน่าหวาดกลัว พี่อ้วนถูกคำพูดนี้ข่มขู่จนสะอึกขึ้นมาพักหนึ่ง จากนั้นก็มองชายหน้าบากอย่างทำตัวไม่ถูกแล้วเอ่ยว่า “พี่จะไม่ไว้หน้าผมสักนิดเลยเหรอ?”

ชายหน้าบากไม่สนใจเขาอีก แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไรอีก เขาเพียงแค่ผละจากเรือนร่างของเย่ชิงหยู่อย่างอาลัยอาวรณ์

ในตอนนี้เอง ชายหน้าบากเพียงแค่เงยหน้ามองไปรอบ ๆ เขาขมวดคิ้วแน่นจนเป็นเส้นสามเส้นอยู่ตรงหว่างคิ้ว ชัดเจนแล้วว่ามองอะไรบางอย่างออก เขาเงียบอยู่สักพัก จากนั้นก็เอ่ยกับท้องฟ้าอันว่างเปล่าว่า “ออกมาเถอะ ในเมื่อมาแล้ว ทำไมจะต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่อีก?!”

พี่อ้วนและเจ้าผอมล้วนเงยหน้าขึ้นมองตรวจไปรอบ ๆ

ชั่วแวบเดียว คนในห้องสามคนก็กระวนกระวายขึ้นมาเพราะคำพูดประโยคเดียวของชายหน้าบาก

เย่ชิงหยู่ราวกับคว้าเอาเชือกช่วยชีวิตไว้ได้ ในใจแอบคิดว่าใช่ฟางเหยียนไหม? ฟางเหยียนมาช่วยชีวิตตนแล้วใช่ไหม?

มองหาไปรอบ ๆ ไปรอบหนึ่ง เจ้าอ้วนก็เอ่ยถามขึ้นว่า “ลูกพี่ มีคนที่ไหนกัน? ประสาทพี่อ่อนไหวไปหรือเปล่า!”

เพิ่งจะสิ้นเสียง เงาดำร่างหนึ่งก็กระโดดลงมาจากชั้นสอง ถีบเข้าไปบนร่างของพี่อ้วนตรง ๆ รูปร่างของพี่อ้วนกำยำมาก แต่โดนชายคนนั้นถีบเข้าหนึ่งทีก็กลิ้งไปสองตลบราวกับลูกบอล

พี่อ้วนลุกขึ้นมาอย่างลุกลี้ลุกลน ในสายตาของเขาประทับภาพผู้ชายสวมชุดเครื่องแบบทหารเก่า ๆ ขาด ๆ คนหนึ่ง ชายคนนั้นตัดผมสั้นทั้งศีรษะ ในมือกุมด้ามดาบโค้งเอาไว้ ใบหน้าไร้ความรู้สึก ในดวงตากลับเต็มไปด้วยรังสีสังหาร

เขาใช้ร่างกายบังอยู่ตรงหน้าของเย่ชิงหยู่ ปกป้องเย่ชิงหยู่ราวกับเป็นผู้พิทักษ์

เห็นชุดเครื่องแบบทหารบนร่างกายของเขา เย่ชิงหยู่ก็ตกตะลึง จากนั้นก็เอ่ยถามว่า “คุณคือคนที่ฟางเหยียนส่งมาคุ้มครองฉันหรือเปล่าคะ?”

ชายคนนั้นหันกลับมามองเย่ชิงหยู่หนึ่งครั้ง เขาไม่ได้เอ่ยอะไร ใบหน้านั้นน่าหวาดกลัวมาก ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกแม้แต่น้อย บนใบหน้ายังมีรอยสักแปลก ๆ อยู่ด้วย ดูแล้วเขายังดูแปลกประหลาดยิ่งกว่าสามคนตรงหน้าเสียอีก

แต่ก็แค่มองแวบเดียว เขาเก็บสายตากลับไป แล้วโชว์ดาบโค้งในมือ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปสังหารพี่อ้วนตรง ๆ

พี่อ้วนเห็นกระบวนท่านี้ก็รีบร้อนม้วนตัวบนพื้นหนึ่งตลบ หลบการโจมตีของชายคนนั้นได้พ้น แต่ดาบโค้งในมือของชายคนนั้นฟันโต๊ะตัวหนึ่งจนหักเป็นสองซีก

เจ้าอ้วนถูกข่มขู่จนตัวสั่นขึ้นมาในฉับพลัน เขามองชายที่สวมชุดจงซานด้วยใบหน้าตึงเครียดพลางร้องเรียกว่า “ลูกพี่ พี่ทำอะไรอยู่? เจ้าหมอนี่ลงมือฆ่าคนแล้ว ถ้าหากพี่ยังไม่ลงมืออีก ผมต้องจบเห่แน่”

ไม่รู้ว่ามือของชายที่สวมชุดจงซานคีบซิการ์เอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาจ้องมองชายคนนั้นด้วยใบหน้าสุขุมราบเรียบ มองไม่เห็นความตึงเครียดจากใบหน้าของเขาแม้แต่น้อย

เจ้าผอมที่ใส่แว่นดูสุภาพเรียบร้อย เมื่อเห็นฉากนี้เข้าก็ยิ้มออกมา เขาเอ่ยขึ้นว่า “น่าสนุก ผมจะเล่นเป็นเพื่อนเขาสักหน่อย!”

พูดจบดวงตาทั้งคู่ของเขาก็เปล่งประกายแวววาว ควักมีดสั้นออกมาจากด้านหลังพุ่งเข้าไปสังหารชายคนนั้น มือทั้งคู่ของชายคนนั้นปะทะเข้ากับเจ้าผอมด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ แค่แวบเดียว เวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วินาทีทั้งสองคนก็ใช้เพลงดาบไปหลายสิบเพลง

หลังการสิ้นสุดการปะทะ มือทั้งสองข้างของชายร่างผอมก็โดนกรีดเป็นแผลที่ดูสะดุดตาหลายรอย

พี่อ้วนตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง เขาถามขึ้นอย่างรีบร้อนว่า “พี่รอง พี่เป็นอย่างไรบ้าง?”

เจ้าผอมส่ายศีรษะพลางเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร” แล้วเขาก็หันไปเอ่ยกับชายหน้าบากว่า “พี่ใหญ่ ผมสู้เขาไม่ได้!”

สีหน้าของชายหน้าบากมืดครึ้มลง เขาสูบซิการ์ที่อยู่ในมือครั้งหนึ่ง แล้วเอ่ยถามอย่างเยียบเย็นว่า “แกเป็นใคร?”

ชายคนนั้นยังคงไม่พูดไม่จาเช่นเดิม เพียงแต่ใช้สายตาที่อาบด้วยรังสีสังหารมองไปยังชายหน้าบาก จากนั้นก็กุมดาบคู่พุ่งเข้าไปสังหารชายหน้าบาก ชายหน้าบากมองชายที่สวมชุดเครื่องแบบทหารอย่างไม่สะทกสะท้าน ดวงตาหรี่จนเป็นเส้นตะเข็บเส้นหนึ่ง ในตอนที่ดาบคู่ของชายคนนั้นกำลังจะแทงโดนเขานั่นเอง ร่างของชายหน้าบากก็หายไปในทันที

เขาใช้พลังแห่งความรวดเร็วเคลื่อนย้ายไปอยู่ด้านซ้ายของชายคนนั้นพลางเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นใบ้นี่เอง!”

พูดจบเขาก็ทิ้งซิการ์ที่อยู่ในมือ จากนั้นก็ควานหาไม้สีเหลืองทองออกมาหนึ่งอัน ความยาวสามสี่สิบเซนติเมตร แต่ทั้งอันนั้นล้วนเป็นสีเหลืองทอง เพิ่งจะล้วงออกมา เขาก็ทุบเข้าไปที่แผ่นหลังของชายคนนั้นอย่างโหดเหี้ยม

ได้ยินเพียงเสียงดังเช้ง ชายคนนั้นหันมาด้วยความรวดเร็ว ใช้ดาบคู่ขัดขวางไม้สีทองของชายหน้าบากเอาไว้สุดแรง

ชายคนนั้นสัมผัสได้ถึงพลังของชายหน้าบาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง แต่ในตอนนี้เอง ชายหน้าบากก็กำหมัดแน่น กำปั้นอันโหดเหี้ยมอัดเข้าไปบนร่างกายของชายที่สวมชุดเครื่องแบบทหาร พลั่ก ดูเหมือนจะเป็นเสียงกระดูกหัก

มองดูอีกที มือของเขากุมแหวนอยู่หนึ่งวง แหวนคืออาวุธที่สวมอยู่ในมือ มีอาวุธลับอยู่ มีใบมีดที่คมปลาบ สามารถแทงศัตรูจนบาดเจ็บได้ แต่ไม่ใช่กับผู้ชายคนนี้ แหวนหลายวงของเขาเหมือนกับแหวนทอง แต่หนากว่า ดังนั้นหมัดหมัดเดียวก็สามารถทำให้กระดูกซี่โครงของชายคนนั้นหักได้ นี่เป็นพลังที่ผนึกกันแล้วแสดงอานุภาพออกมาเต็มที่ของชายหนุ่ม

“พลั่ก!” ชายหน้าบากใช้ไม้ตีเข้าไปที่แผ่นหลังของเขาอย่างโหดเหี้ยมหนึ่งทีโดยไม่รอให้เขามีปฏิกิริยาตอบสนอง

ชายที่เดิมทีจะยืดตัวขึ้นมาก็ถูกตีเข้าอย่างโหดเหี้ยมหนึ่งทีจนหมอบลงไปบนพื้นทันที ดาบโค้งในมือทั้งคู่ของเขาหลุดออกจากมือ พลังนี้แข็งแกร่งเกินไป เขานึกไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีพลังแข็งแกร่งถึงขนาดนี้

พลังของกระบอกนี้เหมือนกับรถกระบะหนึ่งคันพุ่งเข้าชนร่างของเขา ชนจนตับไตไส้พุงเขาแหลกละเอียดไปหมด!

“พลั่ก!” ตีเข้ามาอีกหนึ่งทีโดยไม่มีการป้องกันใดๆแม้แต่น้อย ไม้นี้ตีเข้าไปที่ศีรษะของเขา และเพราะไม้นั้น ชายที่สวมชุดเครื่องแบบทหารก็ไม่ได้ขยับตัวอีก เลือดของเขาไหลออกมาจากศีรษะนองเต็มพื้น คนที่ฉลาดล้วนแต่รู้ว่าเขาได้ตายไปแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด