จอมนักรบทรงเกียรติยศ 138 คุกเข่าขอขมา

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 138 คุกเข่าขอขมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชายหน้าบากพูดตรง ๆ อย่างไม่หลีกเลี่ยง “ผมเป็นคนฆ่าเอง ผมไม่เพียงแต่ฆ่าเขา แต่ยังจะฆ่าแกด้วย!”

นี่เป็นพลังแบบที่นินจาควรจะมี! ต่อให้ในใจจะหวาดกลัวแค่ไหน ก็ต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นสงบเยือกเย็น ไม่สะทกสะท้าน

เซียวห้านมองทั้งสองคนอย่างตึงเครียด ชายหน้าบากคนนี้แข็งแกร่งที่สุด และก็เป็นความหวังสุดท้ายของเธอแล้ว พี่อ้วนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอเช็ดเหงื่อเย็นบนใบหน้า แสร้งทำเป็นสบาย ๆ “วางใจเถอะครับคุณหนูใหญ่ คนคนนี้ไม่ใช่คู่ปรับของพี่ใหญ่หรอก”

พี่อ้วนมั่นใจในตัวของชายหน้าบากมาก แต่ในใจก็หวาดหวั่น! ชายหน้าบากนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ แต่คนคนนี้ก็น่ากลัวมาก ๆ จริง ๆ เทคนิคการฆ่าคนของเขาเป็นมืออาชีพอย่างสิ้นเชิง เป็นมืออาชีพแบบที่แค่ลงมือก็มีคนตายแบบนั้น

“ถ้าอย่างนั้น แกก็ตายไปซะ!” คำพูดของฟางเหยียนหนาวยะเยือกเหมือนคมกระบี่ที่แทงเข้าไปในหัวใจตรง ๆ

สายตาของชายหน้าบากเปลี่ยนไป ในที่สุดก็ตั้งสติไว้ไม่ได้แล้ว เขาก้าวเท้าพุ่งเข้าไปทางฟางเหยียนตรง ๆ ในตอนที่ใกล้จะถึงตัวของฟางเหยียนนั้นเอง เขากระโดดขึ้นสูงกลางอากาศ ไม้ผ่าลงมาจากข้างบนลงข้างล่าง เขาแสร้งทำเป็นเดือดดาลเพื่อที่จะทำลายขวัญของฟางเหยียน เป็นนินจาระดับสูงคนหนึ่งแค่นั้นไม่ใช่เหรอ? กำลังของเขาก็เข้าใกล้นินจาระดับสูงแล้ว เขาไม่แพ้แน่

ได้ยินเสียงดังปังเสียงหนึ่ง สีหน้าของชายหน้าบากก็เปลี่ยนไป

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ชายหน้าบากมองไม้ของตน นึกไม่ถึงว่ามันจะโดนสกัดเอาไว้ เหมือนกับมีอะไรบางอย่างกั้นอยู่ที่ศีรษะของฟางเหยียน เขามองดูทันที เป็นมือข้างหนึ่ง มือข้างหนึ่งจับไม้ของเขาไว้แน่น เสียงที่ดังขึ้นเมื่อกี้ก็คือเสียงของมือกับไม้กระทบกัน นั่นไม่ใช่มือของใครที่ไหน แต่เป็นมือของฟางเหยียน

เป็นไปได้อย่างไร? นินจาระดับสูงคนหนึ่งจะใช้มือมาสกัดกั้นไม้ห้าผีของเขาได้อย่างไรกัน!

ไม้ห้าผีแฝงไว้ด้วยพลังทั้งหมดของตน ไม่ถึงขั้นเหมือนกับนินจาระดับต้าชี่ที่สามารถปล่อยกำลังภายในออกมาภายนอกได้ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะสู้มือแค่ข้างเดียวไม่ได้ เจ้าหมอนั่นที่ชื่อว่าอู๋เหยียนสกัดไว้ไม่ได้แม้แต่การตีแค่ทีเดียวของเขา แล้วเขารับมันไว้ได้อย่างไร?

หรือว่า เขาจะเป็นยอดฝีมือระดับต้าชี่?

ไม่! เป็นไปไม่ได้

บนโลกใบนี้จะมียอดฝีมือระดับต้าชี่ที่อายุน้อยขนาดนี้ได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

ชายหน้าบากไม่กล้าจะเชื่อ แต่เขาไม่มีโอกาสที่จะไม่เชื่อแล้ว ฟางเหยียนออกแรงทันที ร่างของเขาที่อยู่กลางอากาศตกลงมาสู่พื้นอย่างหนัก พลังนี้เกรี้ยวกราดหาใดเปรียบ เหมือนกับเขาตกลงมาจากกลางอากาศที่สูงเป็นร้อยเมตรอย่างไรอย่างนั้น

ชั่วพริบตา เขารู้สึกว่าอวัยวะภายในของตัวเองได้ถูกสั่นสะเทือนจนพังทลายไปหมดแล้ว กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ฝ่ามือก็ไร้เรี่ยวแรง ไม้ห้าผีตกอยู่ในมือของคนคนนั้น

ชายหน้าบากแพ้แล้ว!

พ่ายแพ้ย่อยยับ!

ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำให้เขาร่วงลงสู่พื้นได้

ฟางเหยียนกุมไม้ห้าผีเอาไว้ หยิบมาพิจารณาดูอยู่พักหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “นี่… เป็นของที่แกใช้ตีอู๋เหยียนจนตายใช่ไหม?”

ชายหน้าบากมองฟางเหยียนด้วยความหวาดกลัว ส่ายศีรษะแล้วเอ่ยว่า “ไม่… แกจะทำอะไร?”

มุมปากของฟางเหยียนผุดรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา แล้วเอ่ยว่า “ฉันจะใช้วิธีของแกฆ่าแกซะ!”

ชายหน้าบากส่ายศีรษะแล้วเอ่ยว่า “อย่านะ! อย่านะ ผมขอโทษครับ ท่านผู้อาวุโส ผมไม่รู้ว่าคุณคือยอดฝีมือระดับต้าชี่ ผมขอโทษ ผมมีตาแต่หามีแววไม่เอง”

ระดับต้าชี่ ชายหน้าบากชี้ขาดว่าคนคนนี้เป็นคนในระดับต้าชี้อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ถ้าหากไม่ใช่ระดับต้าชี่ที่สามารถส่งกำลังภายในมาไว้ที่มือได้ก็ไม่มีทางที่จะใช้มือเปล่ารับไม้ห้าผีของเขาได้แน่ ๆ

เขามีความเชื่อใจต่อไม้ห้าผีอย่างสูงที่สุด ไม้ห้าผีเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษสร้างเอาไว้ แฝงไว้ด้วยพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด นินจาระดับสูงรับไว้ไม่ได้ มีเพียงระดับต้าชี่เท่านั้นที่สามารถใช้มือรับเอาไว้ได้

ถึงแม้ว่าคนตรงหน้าจะยังอายุน้อยอยู่ แต่ศักยภาพของเขานั้นเป็นระดับต้าชี่ของแท้ เขาไม่กล้าสงสัยศักยภาพของอีกฝ่ายอีก

นินจาระดับกลางเมื่อเทียบกับระดับต้าชี่แล้ว ต่ำต้อยเรี่ยดินโดยสิ้นเชิง ไม่แปลกเลยที่คนคนนี้จะไม่มองเห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด ที่แท้ก็เป็นระดับต้าชี่ที่น่าภาคภูมิใจ!

เขาต่อต้านความเจ็บปวดทรมานของอวัยวะภายในเอาไว้อย่างยากลำบาก ลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น โขกศีรษะแล้วพูดว่า “ผมออกมาจากโรงพักนรกตะวันตก เป็นลูกศิษย์ของอ๋าวไท่ผู้สูงศักดิ์ หวังว่าท่านผู้อาวุโสระดับตาชี่จะไว้ชีวิตให้ด้วย”

เขาอายุสามสิบห้าย่างสามสิบหก ฟางเหยียนเพิ่งจะอายุยี่สิบสี่ย่างยี่สิบห้า เขาคุกเข่าโขกหัวขอขมาคนที่อายุน้อยกว่าเขาเป็นสิบปีคนหนึ่ง ทั้งยังเรียกเขาว่าผู้อาวุโสอย่างต่อเนื่อง ฉากนี้ช่างเสียดสีเป็นอย่างยิ่ง

แต่โลกของนินจาก็เป็นเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งถือเป็นอาวุโส ขอเพียงแข็งแกร่งจริงก็ล้วนมีเหตุผลที่จะให้ผู้ที่อ่อนแอเคารพศรัทธา

“ระดับต้าชี่? แกกำลังดูถูกฉันเหรอ?” ฟางเหยียนถามอย่างเด็ดเดี่ยว

ชายหน้าบากได้ยินคำนี้แล้วก็รู้สึกขนหัวลุกซู่ เขาเบิกตากล้างในทันใด เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ หรือว่า เขาไม่ใช่คนในระดับต้าชี่อย่างนั้นเหรอ? ระดับของเขาสูงยิ่งกว่าระดับต้าชี่อีก?

นี่มันเป็นไปไม่ได้ ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ขึ้นไปล้วนเป็นตำนาน เป็นไปได้ยังไงที่จะมียอดฝีมือระดับปรมาจารย์ขึ้นไป

แต่ว่าท่านผู้แข็งแกร่งบอกว่าเป็นระดับไหนก็เป็นระดับนั้น ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือการรักษาชีวิตเอาไว้

“แกเป็นคนจากองค์กรไหน?” ฟางเหยียนถามอย่างเย็นชา เขาแค่อยากจะรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลเซียวหรือไม่ ถ้าหากว่าตรวจสอบพบแล้ว ก็ฆ่าล้างตระกูลเซียวได้เลย

“ผม…” ชายหน้าบากสองจิตสองใจอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยว่า “ผมคือเจ้าใหญ่ของสามคุณชายแห่งจินโจว มาอยู่ที่เมืองจินโจวตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วครับ ถ้าหากว่าผู้อาวุโสต้องการละก็ กระผมจะอุทิศทั้งชีวิต ติดตามท่านผู้อาวุโสไปทุกหนทุกแห่ง”

คำพูดนี้ทำให้หัวใจของเซียวห้านจมดิ่งอยู่ต่ำสุด นี่มันคือการย้ายข้างต่อหน้าตนเองเลยไม่ใช่หรือไง?

เธอไม่กล้าพูดอะไร กลัวว่าถ้าเธอพูดอะไรออกมา สายตาของคนคนนั้นก็จะมองมาที่ตน เธอไม่เพียงแต่หวาดกลัวที่คนคนนั้นโหดร้ายป่าเถื่อน ยิ่งกลัวสายตาของเขามากกว่า

ฟางเหยียนมองชายหน้าบากอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ดี! งั้นแกก็ตายไปได้แล้ว”

“อย่านะ! ท่านผู้อาวุโส ผมเป็นลูกศิษย์ของอ๋าวไท่ ขอร้องท่านผู้อาวุโส เห็นแก่หน้าของท่านอาจารย์อ๋าวไท่ ไว่ชีวิตผมด้วยเถอะ!”

“ต่อให้อ๋าวไท่อยู่ที่นี่ก็ต้องตาย!”

คำคำนี้ทำให้ชายหน้าบากสั่นไปทั้งตัว อาจารย์ของตนเป็นยอดฝีมือระดับต้าชี่ เป็นไปได้อย่างไร!

ฟางเหยียนไม่ได้มีความลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว เขาใช้ไม้ห้าผีในมือตีลงไปอย่างโหดร้าย ได้ยินเพียงเสียงร้องคำรามสะเทือนฟ้าดินเสียงหนึ่ง ไม้ห้าผีในมือของฟางเหยียนตีลงไปบนศีรษะของชายหน้าบาก

รูม่านตาของชายหน้าบากเบิกกว้างจนถึงขีดสุด แล้วทั้งร่างก็นิ่งไป เห็นร่างของเขาล้มลงไปบนพื้นอย่างแข็ง ๆ เลือดจากศีรษะพุ่งกระฉูดออกมาทันที ล้มลงไปชักอยู่บนพื้นสองที แล้วเขาก็ไม่ขยับตัวอีก เขาตายแล้ว!

คนที่ยังมีชีวิตอยู่ล้วนรับรู้ว่า ชายหน้าบากตายแล้ว

ชายหน้าบากเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขา แต่กลับผ่านแค่กระบวนท่าเดียวของฟางเหยียน

นี่มันไม่ใช่คนโดยแท้ นี่มันเป็นปีศาจ!

ฟางเหยียนเงยหน้าขึ้นมาอย่างเย็นชา ทิ้งไม้ห้าผีในมือ สายตาพุ่งเป้าไปที่เซียวห้านด้วยความรวดเร็ว

พี่อ้วน เจ้าผอมสี่ตาและเซียวห้านสามคนคิดว่าการต่อสู้นี้จะเป็นการปะทะกันของดาวอังคารพุ่งชนโลก ใครจะไปรู้ว่าชายหน้าบากจะเปราะบางอ่อนแออยู่ภายใต้น้ำมือของฟางเหยียน ทั้งยังโดนตีจนคุกเข่าร้องของชีวิต เรียกอีกฝ่ายว่าท่านผู้อาวุโส

นี่เป็นผลลัพธ์ที่พวกเขาคาดเดาไม่ถึงอย่างโดยสิ้นเชิง คนไม่กี่คนนั้นเบิกตากว้าง อ้าปากค้างกันในทันใด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด