จอมนักรบทรงเกียรติยศ 268 พ่ายแพ้ยับเยิน

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 268 พ่ายแพ้ยับเยิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เหลียงเจิ้ง ลงมือได้เลย!ยิงขาของมันก่อน” ถังยู่พูดด้วยความโกรธ

“ลงมือ! จัดการมัน”เหลียงเจิ้งโบกมือ ไอ้เสือลั่นไกปืนทันที

ขณะพูด เขาก็เดินไปที่รถเบนซ์ เพราะผู้ชายคนนั้นต้องโดนยิงแน่ๆ เขาขี้เกียจที่จะหันไปดู

เขาเอื้อมมือเพื่อที่จะเปิดประตู จับตัวฟางเหยียนออกมาจากรถเพื่อทำร้ายร่างกาย ขณะที่มือของเขากำลังจะจับโดนประตู ก็มีมือที่ทรงพลังข้างหนึ่งจับมือของเขาไว้อย่างแน่น

เหลียงเจิ้งโกรธมากๆจนเงยหน้าขึ้นไปมอง และการมองครั้งนี้ ทำให้เขาเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่ดุร้ายมากๆ มุมปากของเทียนขุยกระตุกเล็กน้อยและพูดว่า:“ถ้ามีฉันอยู่ ไม่มีใครเข้าใกล้จอมพลโผ้จวินได้ ไสหัวไปซะ!”

เมื่อพูดจบ มือของเทียนขุยก็ออกแรง ทำให้เหลียงเจิ้งล้มลงไปกับพื้นทันที

เหลียงเจิ้งโกรธมากๆและตะโกนใส่ไอ้เสือ:“ไอ้เสือ คุณทำอะไรอยู่?คุณเป็นอะไร…?”

เขายังไม่ทันพูดจบ ปืนที่ไอ้เสือถืออยู่ ไม่รู้ว่ามันขาดเป็นสองท่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ ปืนทำมาจากเหล็กกล้า มันถูกผ่าเป็นสองท่อนโดยที่ไม่มีใครรู้ เมื่อสักครู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ไม่เพียงแค่เหลียงเจิ้งที่มองไม่เห็น แม้แต่ไอ้เสือก็มองไม่เห็นเหมือนกัน ไอ้เสือลั่นไกปืนไม่หยุด แต่มันกยิงไม่โดนคน ไม่คิดเลยว่าปืนจะขาดเป็นสองท่อน เขาอึ้งไปเลย แต่เขาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาไม่มีปืน แต่เขายังมีหมัด

เขากำหมัดและต่อยไปที่เทียนขุยอย่างแรง จากนั้นก็มีฝ่ามืออันใหญ่จับหมัดของเขาไว้อย่างรวดเร็ว สีหน้าของไอ้เสือเปลี่ยนไปทันที เขาขมวดคิ้วและพูด:“แม่งเอ๊ย!”

หลังจากตะโกนเสร็จ เขากำหมัดและต่อยออกไป อยากจะต่อยหน้าของเทียนขุย หมัดของเขายังไม่ทันต่อยถูกใบหน้าของเทียนขุย ร่างกายของเขาก็โดนต่อยด้วยหมัดของเทียนขุยแล้ว เพียงแค่หมัดเดียว ร่างกายของไอ้เสือก็ปลิวออกไปและมีเสียงกร๊อบแกร๊บดังขึ้น มันเป็นเสียงของกระดูกหัก ไอ้เสือโดนต่อยจนกระดูกหัดด้วยหมัดเดียว

ในการต่อสู้กัน ไม่มีใครสนใจเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกคนพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกันด้วยความดุเดือดเลือดพล่าน

โดนรุมทำร้าย ใครเจอสถานการณ์แบบนี้ก็คงจะรับไม่ไหว เหลียงเจิ้งยืนขึ้นมาจากพื้น พูดด้วยความภาคภูมิใจว่า:“เสี่ยวยู่ คุณวางใจได้ เขาก็เป็นแค่ผู้ชายร่างใหญ่ มีแรงเยอะแต่ไม่มีสมอง เดี๋ยวมันก็โดนทำร้ายจนเสียชีวิต!”

หลังจากพูดจบ เขาก็หันกลับไปดูด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม การที่เขาหันกลับไปดูครั้งนี้ ทำให้เขาตกใจมากๆจนลูกตาแทบกระเด็น

บนพื้นมีลูกน้องของเขาสามสิบกว่าคนนอนระเนระนาดอยู่ พวกเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และชายร่างใหญ่คนนั้น ยืนอย่างภาคภูมิใจ ร่างกายของเขาเปล่งรังสีฆ่าฟันออกมา

เหลียงเจิ้งตกตะลึงไปเลย แค่ชั่วพริบตา คนของเขาทั้งหมดก็ล้มลงนอนไปกับพื้น มันเป็นไปได้ยังไง?เขาใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีจัดการคนทั้งหมดไปนอนระเนระนาดอยู่ที่พื้น

ในเวลานี้ ในสมองของเหลียงเจิ้งมีแต่คำว่าแม่งเหี้ยปรากฏ

เมื่อหันไปมองถังยู่ เห็นเธอยืนอึ้งไปเลย เพราะเธอมองเห็นชายคนนั้นลงมือได้อย่างชัดเจน เขาต่อยคนล้มลงกับพื้นด้วยหมัดเดียว บางทีเขาต่อยหมัดเดียวก็มีคนห้าถึงหกคนล้มลงกับพื้น เขาลงมือรวดเร็วมากๆ ทำให้ทุกคนล้มลงกับพื้นในเวลาเดียวกัน มันเว่อร์เกินไปจริงๆ เขามีพลังในการต่อสู้เช่นนี้ได้ยังไง

ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ชายคนนั้นใจเย็นมากๆ เพราะเขามีบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งนี่เอง ถ้าเธอมีบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งแบบนี้ เธอก็คงจะใจเย็นมากกว่าผู้ชายคนนั้นแน่นอน

ว่าแต่ เขามีข้อดีอะไร ทำไมถึงมีบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งขนาดนี้ยอมติดตามเขา

เทียนขุยดึงมือตัวเองที่ต่อยออกมากลับมา แล้วเดินเข้าไปหาเหลียงเจิ้ง ตอนนี้เหลียงเจิ้งตัวสั่นและเดินถอยหลัง หลังของเขาชนเข้ากับอะไรบางอย่าง เมื่อเขาหันหลังไปดู ก็มองเห็นอานเยว่

ใบหน้าของอานเยว่สงบและเป็นปกติ เขาไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเลย

เขายกมือขึ้นและจับที่ไหล่ของเหลียงเจิ้งและพูด:“คุณชายเหลียง คุณวางใจได้ คุณยังมีฉันอยู่!”

ใช่แล้ว เขายังมีอานเยว่อยู่ เขาคือชายฉกรรจ์ที่เคยแทงคนบาดเจ็บสิบกว่าคนมาแล้ว เขาน่าจะสู้กับผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นได้อย่างแน่นอน!เหลียงเจิ้งดีใจมากๆและรีบจับมือของอานเยว่และพูด:“อานเยว่ คุณช่วยจัดการเขาให้หน่อย”

“อืม!”อานเยว่พยักหน้าและพูด:“คุณอย่าลืมซื้อมือถือเครื่องใหม่มาคืนให้ฉันด้วย”

“ถ้าคุณจัดการเขาได้ ฉันจะซื้อมือถือให้คุณสามเครื่อง”

“โอเค ขอบคุณ!”อานเยว่ตอบเหลียงเจิ้งด้วยสีหน้าปกติ

หลังจากนั้น เขาก็จ้องมองไปที่เทียนขุยและพูดว่า:“เมื่อสักครู่ฉันเห็นคุณลงมือ หมัดของคุณทรงพลังมากๆ แต่คุณยังไม่เคยเจอยอดฝีมือ ถ้าคุณเจอยอดฝีมือจริงๆ พวกเขารับมือคุณได้สบายอยู่แล้ว สำหรับยอดฝีมือ เขาจะใช้ความอ่อนโยนพิชิตความแข็งแกร่ง ใช้พลังของคุณต่อสู้กับคุณ ถ้าเป็นแบบนี้ คุณต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

“คุณรู้ไหมศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวาคืออะไร?มันคือไท่เก๊ก ไท่เก๊กมีความอ่อนโยนที่แฝงความแข็งแกร่ง มีความอ่อนโยนและแข็งแกร่งรวมกัน ดังนั้นเมื่อคุณเจอยอดฝีมือไท่เก๊ก คุณก็จะกลายเป็นฝ่ายที่ถูกโจมตี”

เมื่อได้ยินคำพูดของอานเยว่ เหลียงเจิ้งคิดในใจว่าอานเยว่เก่งจริงๆ ตอนนี้เขายังสงบและมั่นใจในตัวเองได้ถึงขนาดนี้ เขายังสามารถวิเคราะห์คู่ต่อสู้ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน แค่ดูก็รู้แล้วว่าอานเยว่ต้องเป็นยอดฝีมือแน่นอน เมื่อคิดอย่างนี้ เขาก็วางใจทันที

ดังนั้นเขาก็พูดกับอานเยว่ว่า:“อานเยว่ จัดการมันเลย!”

อานเยว่พยักหน้า จากนั้นรำหมัดไท่เก๊กอยู่กับที่ มองดูแล้วเขาเลียนแบบได้เหมือนจริงๆ จากนั้นเขาก็ยกนิ้วเท้าขึ้นและพูดด้วยสีหน้าเย็นชา:“คุณ ได้โปรดชี้แนะด้วย”

หลังจากพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ขณะที่เขาเดินมาถึงข้างกายของเทียนขุย ก็เห็นหมัดอันใหญ่โจมตีมาที่เขา เขารีบใช้มือขัดขวางการโจมตีของหมัดนั้นทันที แต่หมัดนั้นแข็งแกร่งราวกับก้อนเหล็ก

เสียง“ตูม!”ดังขึ้น ร่างกายของอานเยว่ปลิวออกไปเลย ตอนที่ร่างกายปลิดออกไปเขาก็หมดสติไปแล้ว

หมัดเดียว เขาใช้หมัดเดียวล้มอานเยว่ได้ เทียนขุยขมวดคิ้วและยืนตัวตรง เหลือบมองไปที่อานเยว่ เขานึกว่าอานเยว่เป็นยอดฝีมือไท่เก๊ก ใครจะไปรู้ว่ามันก็เป็นแค่เศษสวะ ดังนั้นเขาก็ด่าอานเยว่ที่กำลังกลิ้งอยู่ที่พื้นว่า:“เศษสวะ!ต่อไปนี้อย่าพูดเรื่องใช้ความอ่อนโยนพิชิตความแข็งแกร่งต่อหน้าฉันอีก คุณไม่คู่ควรและไม่ควรดูถูกไท่เก๊ก”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งจริงๆ เรื่องที่บอกว่าความอ่อนโยนสามารถพิชิตความแข็งแกร่ง มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น

เทียนขุยเป็นผู้ชายประเภทชอบใช้กำลัง เป็นผู้ชายที่แข็งแกร่ง เขามีหมัดที่ใหญ่ แข็งแรง และทรงพลังมากๆ

เขาเดินไปที่หน้ารถ โค้งคำนับด้วยความเคารพและพูด:“จอมพลโผ้จวิน ยังเหลือเหลียงเจิ้งกับถังยู่ จะให้ฉันจัดการยังไง?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทำให้ทั้งสองคนเหมือนโดนฟ้าผ่า ยืนนิ่งอยู่กับที่ เหลียงเจิ้งอ้าปากและพูด“ฉันเป็นลูกชายของเหลียงจง ฉันจะบอกพวกคุณ ถ้าพวกคุณกล้าทำร้ายฉัน ก็จะเป็นศัตรูกับพ่อของฉัน ถึงเวลานั้นไม่ว่าพวกคุณจะหนีไปไกลแค่ไหน ก็จะถูกตามฆ่าแน่นอน”

ถังยู่ไม่พูดอะไรเลย ถึงแม้เธอจะหวาดกลัวมากๆ แต่เธอไม่อยากทำตัวเหมือนเหลียงเจิ้ง เพราะตอนที่เธออยู่ในรถ เธอเคยข่มขู่พวกเขาสองคนแล้ว ถังยู่เชื่อมั่น พวกเขาไม่ทำอะไรเธอแน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด