จอมนักรบทรงเกียรติยศ 373 คนรวยอันดับหนึ่งเอเชียคุกเข่าลง

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 373 คนรวยอันดับหนึ่งเอเชียคุกเข่าลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เดี๋ยวก่อน! สหายฟางหยุดก่อน” เหมิงซานที่อึ้งอ้าปากค้างจู่ๆรีบพูดออกมา

ฟางเหยียนหยุดฝีเท้าลง หันกลับมาจ้องตาเขาพลางว่า “ทำไม? ยังอยากดูระดับของผมหรอ?”

“ไม่ไม่ไม่!” เหมิงซานรีบโบกมือบอก “เมื่อกี้ผมมีตาหามีแววไม่ ขอให้สหายน้อยอย่าถือสาเลย ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ!”

พูดจบ เหมิงซานย่อเอวลงโค้งคำนับอย่างเคารพนบนอบ

เหมิงซานซึ่งเป็นผู้ที่ทุกคนนับถือของวงการแพทย์ประเทศหวากลับขอโทษชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าคนหนึ่ง ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป คงเกิดกระแสยกใหญ่ในยุทธภพแน่ รับรองว่าทำโลกการแพทย์แผนจีนสะท้านไปตามๆกันแน่

“สหายน้อย การแพทย์แผนจีนของประเทศหวาเราเป็นกำลังสำคัญ สืบทอดมายาวนานถึงห้าพันกว่าปี เมื่อกี้ผมมีตาหามีแววไม่ คุณมีฝีมือ ผมหวังให้คุณช่วยรักษาคุณชายน้อยเจี่ยหน่อย คุณชายน้อยเจี่ยพบเจอหมอทั่วทุกที่ทั่วโลกมาแล้ว ไม่มีใครสามารถรักษาโรคเขาได้เลย สุดท้ายเลยได้แต่มาหาผมเพื่อคาดหวังปาฏิหาริย์จากประเทศหวานี่แหละ ถ้าคุณสามารถรักษาโรคคุณชายน้อยเจี่ยได้ งั้นวิชาการแพทย์ของคุณจะสร้างกระแสไปทั่วโลกเลย ถึงเวลานั้นถือว่าได้ฟื้นฟูชื่อเสียงการแพทย์แผนจีนของประเทศหวา การแพทย์แผนจีนของประเทศหวาเราตกต่ำมานานหลายปี ถึงเวลาออกไปสู่สายตาประชาชนอีกครั้งแล้ว”

ระหว่างพูด เหมิงซานลูบเคราไป ก็ทำท่าสะท้อนสะท้านใจกับการแพทย์แผนจีนไปพลาง

ฟางเหยียนเหล่เหมิงซานพลางแค่นเสียงว่า “คุณนี่เปลี่ยนหน้าไวจริงนะ! เมื่อกี้ยังพูดปาวๆว่าผมลบหลู่พวกคุณ ทำไมตอนนี้เปลี่ยนคำแล้วล่ะ คุณนี่น่าสนใจจริง”

เหมิงซานสีหน้าเก้อเขิน แต่เขากลับไม่คิดยอมแพ้ พลางว่า “ผมอยู่มาร้อยกว่าปี ปีนี้อายุหนึ่งร้อยสิบแปดปีแล้ว! ผมเริ่มวิจัยวัฒนธรรมการแพทย์แผนจีนของประเทศหวาตั้งแต่อายุสิบแปด วิจัยมาเต็มๆหนึ่งร้อยปี ถ้าผมสามารถมองเห็นวัฒนธรรมการแพทย์แผนจีนของประเทศหวาสามารถกระจายได้กว้างขวางในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ต่อให้ตาย ผมก็ตายทั้งๆที่ยิ้มอยู่ล่ะ”

หนึ่งร้อยกว่าปี ใช่สิ คงจะมีแต่อายุร้อยกว่าปีถึงจะมีหน้าตาแบบนี้ได้! บุคลิกเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ชุดขาวทั้งตัว เหมิงซานสมกับชื่อจู่เห้อจริงๆ ในประเทศหวาถือเป็นบุคคลระดับเสาหลักเลยทีเดียว

ทุกคนมองเหมิงซาน ในใจอดสะท้านขึ้นมาไม่ได้!

“สหายน้อย คุณช่วยคุณชายเจี่ยเถอะ! ผมขอร้องล่ะ” เหมิงซานโค้งคำนับพลางว่า

ให้ผู้อาวุโสอายุร้อยกว่าปีมาขอร้องแบบนี้คงมีแต่ฟางเหยียนเท่านั้นล่ะ เขามองสำรวจเหมิงซาน ยังไม่ทันพูดอะไร เจี่ยเกิงจื่อรีบแทรกว่า “เทพหมอฟาง ขอร้องคุณช่วยลูกชายผมด้วยเถอะ!”

พูดจบ เขาคุกเข่าลงกับพื้นทันที น้ำตาไหลพรากในพริบตา

ฉากนี้ทำให้ทุกคนตะลึงตาค้าง จนถึงเหมิงซานที่เจออะไรมามากมาย ระดับล่างจนถึงบรรดาคนรับใช้หรือการ์ดของบ้าน ทุกคนในห้องโถงล้วนแต่นิ่งอึ้ง จ้องมองเจี่ยเกิงจื่อเขม็ง

เจี่ยเกิงจื่อ เจ้าตระกูลตระกูลเย่โล่ ถึงจะเป็นลูกเขยแต่งเข้ามา แต่ก็ได้รับการเชื่อถือจากเจ้าตระกูลคนก่อนมากนัก ทำให้เขาก้าวข้ามเผ่าพันธุ์ ก้าวข้ามกฎการสืบทอดตระกูล และยกตำแหน่งเจ้าตระกูลให้กับเขา เขาเองก็จัดการสยบพวกหอกข้างแคร่และคนในครอบครัวที่ไม่พอใจมากมายนั้นได้สำเร็จ นี่สิคนจริง คนจริงอย่างแน่นอนที่สุด

ตอนเขาเข้ารับตำแหน่งเจ้าตระกูล คนมากมายไม่พอใจการตัดสินใจนี้ของเจ้าตระกูลคนเก่า และเอ่ยคัดค้านต่อต้าน แต่เจ้าตระกูลคนเก่ากลับไม่ยอมไม่สน และจัดการต่อหน้าตาเฉย ความคิดของเจ้าตระกูลเก่าชัดเจนมาก คืออยากเห็นว่าเจี่ยเกิงจื่อจะคู่ควรในการยืนเป็นเจ้าตระกูลนี้แค่ไหน

ตอนนั้น ที่บ้านวุ่นวายมาก เจ้าตระกูลคนเก่าไม่สนไม่แคร์เลย และยังให้คนนอกมาเป็นเจ้าตระกูลอีก ทำให้ทุกคนไม่พอใจ ตอนนั้นทุกคนต่างบอกว่า ให้คนนอกมาเป็นเจ้าตระกูลเย่โล่แบบนี้ เหมือนกับว่าไม่เหลือคนตระกูลเย่โล่แล้วยังงั้น ให้ลูกเขยมาเป็นเจ้าตระกูล ที่สำคัญที่สุดเขายังเป็นคนต่างชาติ มันถือเป็นการเหยียดหยามพวกเขา

คนพวกนั้นไม่มีใครสักคนสนใจเจี่ยเกิงจื่อ เขาต้องจัดการเองทุกอย่าง พวกเขาถึงกระทั่งเริ่มเหยียดหยามสารพัด หัวเราะหยัน และทำบางอย่างลับหลังเขา

สุดท้าย เจี่ยเกิงจื่อโดนเล่นงานจนทนไม่ไหว เขาพบว่าถ้าอยากเป็นเจ้าตระกูลอย่างมั่นคง มีแต่ต้องแกร่งขึ้น มีแต่ตัวเองแกร่งแล้ว ร้ายกาจแล้วถึงจะได้รับความเคารพจากคนพวกนั้น นี่เป็นกฎหลักของสังคม และเป็นกฎธรรมชาติด้วย โลกนี้ยึดหลักผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด การยอมไปเรื่อยๆมีแต่จะทำให้คนพวกนั้นได้คืบจะเอาศอก ได้ใจมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นเจี่ยเกิงจื่อเลยเริ่มทำการรัวๆ เขาในฐานะคนนอกที่ไม่ได้รับการสนใจได้จัดการสยบพวกคัดค้านในตระกูลด้วยความพยายามของตัวเองได้ในที่สุด ฝีมือของเขาทำให้คนในครอบครัวทึ่งไปตามๆกัน ไม่มีใครกล้าขัดขืนการควบคุมของเขาอีก

ขนาดพี่ใหญ่ตระกูลเย่โล่ที่ไม่ยอมรับเขามากที่สุด สุดท้ายยังต้องเชื่อฟังคำสั่งเขา!

เจี่ยเกิงจื่อทำเรื่องหนึ่ง เรื่องที่ทำให้คนทั้งตระกูลต่างหวาดกลัว! และเพราะเรื่องนี้ ทำให้เขากำหราบทุกคนในตระกูลได้สำเร็จ!

เจี่ยเกิงจื่อใช้มีดแทงหัวหน้าคนหนึ่งของบริษัทเครือตระกูลต่อหน้าทุกคน หัวหน้าคนนั้นทำงานที่บริษัทมาหลายสิบปี อายุหกสิบแล้ว ถือว่าเป็นการคงอยู่ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ค้ำจุนตระกูลเย่โล่อยู่ เขาเองก็ไม่ยอมรับการโดนคนต่างชาติมาควบคุม ดังนั้นเลยร่วมมือกับพี่ใหญ่ของตระกูลเย่โล่ทำร้ายเจี่ยเกิงจื่อ หาทางให้เขาเผยจุดอ่อนออกมา จากนั้นก็ทำให้เขาลงจากตำแหน่งซะ

ตอนนั้นเพื่อให้เจี่ยเกิงจื่อลงจากตำแหน่ง พวกเขาทำเลวไม่เลือกเรื่องเลย

เจี่ยเกิงจื่อสามารถอยู่ในประเทศหวาได้ดีขนาดนั้น อายุยังน้อยก็รับดูแลตระกูลเจี่ย แถมยังทำให้ตระกูลเจี่ยเจริญขึ้น เรื่องพวกนี้หนีไม่พ้นวิธีการของเขา ดังนั้นเขาเลยเริ่มเอาคืน จับตัวคนให้ร้ายเขา

ภายใต้การบีบคั้นของเขา ในที่สุดหมอนั่นก็สารภาพออกมาหมด หลังจากที่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือคนในตระกูล เจี่ยเกิงจื่อใจเย็นมาก เขาไม่ได้หันไปเล่นงานคนในตระกูล เพียงแค่จับหมอนั่นไปต่อหน้าคนในตระกูล และใช้มีดแทงมันตายต่อหน้าคนทั้งหมด เขาแทงไปร้อยกว่าแผล จนทะลุพรุนเลือดไหลทั้งตัวถึงหยุด ตลอดการกระทำทั้งหมดสีหน้าเขาเรียบเฉย ออกแววเยาะหยันกับทุกคนด้วยซ้ำ

วันนั้นทุกคนในตระกูลต่างตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างหนัก ใครก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์ฆ่าฟันขนาดนี้ และนับจากนั้นเขาเลยยืนนิ่งในตำแหน่งเจ้าตระกูลอย่างเป็นทางการ คนพวกนั้นยอมรับเขา เพราะเขาเคยเตือนทุกคนว่า ถ้าใครไม่ยอมรับเขา จุดจบจะเป็นเหมือนหัวหน้าคนนั้น

เจี่ยเกิงจื่อเป็นคนแบบนี้เอง แต่ตอนนี้ คนแกร่งขนาดนั้นกลับคุกเข่าลงต่อหน้าฟางเหยียน ร้องไห้น้ำตาไหลพราก การแสดงออกของเขามันตัดกับฐานะเขาแบบคนละเรื่องเลย!

ใครเลยจะคิดว่า คนรวยอันดับหนึ่งของเอเชียจะคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าตนมากนี่ล่ะ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด