จอมนักรบทรงเกียรติยศ 535 ตำนาน

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 535 ตำนาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พูดอีกอย่าง ต่อให้ไม่โดนโจรลักพาตัวไปเป็นเมีย ใครมีฝีมือก็จะได้มีเมีย ขอเพียงลักพาตัวผู้หญิงไปบ้านตัวเองได้ ผู้หญิงคนนั้นก็เท่ากับเป็นของเขาแล้ว ดังนั้นตอนนั้นไม่มีคำว่าคบกันเป็นแฟนพัฒนาความสัมพันธ์อะไรทั้งนั้น อาศัยแย่งเท่านั้น ในเมื่อจะแย่งแล้ว ก็ต้องฝึกฝนฝีมืออะไรไว้หน่อย ไม่งั้นก็แย่งคนอื่นไม่ได้ ดังนั้นเลยมีวิธีพูดที่ว่า คนดินแดนตะวันตกค่อนข้างแข็งแรงสูงใหญ่ ทุกคนไม่รู้หรอกว่าความแข็งแรงของคนดินแดนตะวันตกน่ะเตรียมไว้เพื่อการแย่งเมีย ตอนนั้นคนไม่น้อยเลยหิวโหยอดข้าว ถ้าไม่มีข้าวกิน ก็ต้องไปฆ่าคนวางเพลิงชิงทรัพย์ ตอนนั้นเป็นการอธิบายคำพูดอย่างชัดเจนไว้ประโยคหนึ่งเลย เพื่อความอยู่รอดแล้ว มนุษย์ต่างหากที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายที่สุดในโลก”

“ก่อนที่ตระกูลโจวจะมา สถานการณ์แบบนี้คงอยู่ตลอด ไม่มีทางปรากฏร่างผู้หญิงบนถนน แถมยังต้องผ่านการต่อสู้หลายครั้งในหนึ่งวันกว่าจะจบลงได้ ตอนตระกูลโจวมาที่ดินแดนตะวันตก พาทรัพย์สมบัติมาด้วย พอมาก็สร้างตึกสูงขึ้นมาตึกหนึ่งเลย ทำให้ทุกคนมองอย่างสอดแนมกับตระกูลโจว ทุกคนต่างรู้กันว่านี่เป็นตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวยตระกูลหนึ่ง ดังนั้นเลยมีกลุ่มคนไม่ดีพากันรวมตัวมากันที่ตระกูลโจวหวังจะแย่งชิงสิ่งของ กลุ่มคนไม่ดีเหล่านั้นตอนมาถึงตระกูลโจว ก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย พวกเขาบางคนหายสาบสูญไปเลย บางคนอยู่ที่ตระกูลโจว เป็นการ์ด โดนตระกูลโจว รับไว้ใช้งานต่อ”

“พวกคนไม่ดีที่รอดออกมา พอออกมาก็บอกว่า ตอนนั้นพวกเขาคิดจะไปแย่งชิงของที่ตระกูลโจว ใครจะรู้ว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวที่เดินออกมาจากตระกูลโจว ก็จัดการพวกเขาราบคาบแล้ว พลังของพวกเขาไม่มีค่าอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลโจว แถมอีกฝ่ายยังผ่านการฝึกฝนเคี่ยวกรำมาพิเศษด้วย พวกที่ขัดขืนก็ตายหมด บางคนที่ฉลาดหน่อยก็เลยเหลือชีวิตรอดออกมา แต่ก็ต้องอยู่เป็นการ์ดให้ตระกูลโจว “

“ต่อมา ตระกูลเขาก็กระทำเรื่องใหญ่ที่แตกตื่นไปทั่วทั้งดินแดนตะวันตก พวกเขากำจัดองค์กรใต้ดินอันดับหนึ่งของดินแดนตะวันตกตอนนั้น แถมยังกำจัดกองโจรบางกองด้วย และยังฟื้นฟูความสงบคืนให้กับดินแดนตะวันตก การกระทำหลายอย่างนี้ทำให้พวกเขากลายเป็นศูนย์กลางในสายตาทุกคนไปในพริบตาเลย หนึ่งเดือนพวกเขารับสมัครคนใช้ การ์ด ไม่นานก็กลายเป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งในดินแดนตะวันตก เดิมคิดว่าพวกเขาจะโดนคนจำนวนมากโจมตี แต่พอมีคนมาโจมตีสองเซตผ่านไปก็ไม่มีใครไปอีกเลย เพราะทั้งสองเซตนั่นหายสาบสูญไปเลย และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คนดินแดนตะวันตกรู้จักนินจาและตระกูลโจวในแบบใหม่”

“เดิมตระกูลโจวยังถ่อมตัวอยู่มาก ระมัดระวังตัวเวลาทำอะไร โลกด้านนอกมีอะไรก็ยินดีที่จะออกหน้าช่วยเหลือ อย่างเช่น การประชุมสำคัญอะไรบางอย่าง พวกเขาได้รับเชิญ เป้าหมายเพื่อป้องกันการจลาจลอะไรในสถานที่จริง การคงอยู่ของตระกูลโจวเหมือนเสาหลักคุ้มกันดินแดนตะวันตก ไม่มีเรื่องราวเลวร้ายเกิดขึ้นอีก เรียกได้ว่าพวกเขาปกป้องความสงบสุขของดินแดนตะวันตก!”

“จนต่อมาเมื่อคุณชายน้อยคนนี้ของบ้านเขาเกิดมา อาศัยตระกูลตนทำเรื่องเลวร้ายมากมาย แต่ฝีมือเขาก็แข็งแกร่งมากจริงๆ เอาการแข่งขันมวยปล้ำเมื่อสิบปีก่อนของดินแดนตะวันตกมาเป็นตัวอย่าง เขาตอนอายุสิบสี่สามารถทุ่มชายร่างบึกน้ำหนักร้อยห้าสิบกว่ากิโล แถมยังสลัดบินเอาดื้อๆ พลังแข็งกล้ามาตั้งแต่เกิดแบบนั้นไม่ใช่คนธรรมดาจะทำได้เลย ดังนั้นทุกคนเลยเกิดความรู้สึกกริ่งเกรงในฝีมือของตระกูลโจว นี่ก็เป็นแกนหลักที่ทำให้ตระกูลโจวยังคงแข็งแกร่งจนทุกวันนี้”

นินจาเดิมก็ไม่ใช่คนธรรมดา จะมีพลังมากกว่าคนธรรมดาก็ไม่แปลกอะไร พวกเขาใช้ลมผสมผสานกับร่างกาย ดังนั้นสิ่งที่แผ่ซ่านออกมาก็ต้องไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะรับได้อยู่แล้ว

อีกอย่างคือชื่อเสียงของตระกูลโจวโด่งดังมาก คนที่แข่งกับเขาก็ไม่มีใครใช้เต็มกำลัง นี่คือเรื่องแรก

“ตระกูลโจวยังมีฝีมืออีกมากแค่ไหนอันนี้ไม่มีใครรู้ แต่เรื่องที่ว่าตระกูลเขาเป็นตระกูลนินจาเป็นเรื่องที่คนดินแดนตะวันตกมากมายต่างรู้กันดี ในดินแดนตะวันตก พวกเขาประหนึ่งเป็นดาบสองคมเล่มหนึ่ง สามารถทำให้คนวางใจได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนหวาดกลัวด้วยเหมือนกัน”

ตระกูลโจวแปลกพิกลจริงๆ สำหรับคนธรรมดาแล้ว พวกคนแบบนินจาเหมือนพวกยอดฝีมือบู๊ตึ้งในทีวีเลย สิ่งที่แทบไม่มีตัวตนในสายตาคนมากมายแบบนี้กลับยืนหยัดอยู่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจที่ดินแดนตะวันตก แถมยังเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งของดินแดนตะวันตก มันจะไม่ทำให้คนรู้สึกแปลกพิกลได้ยังไง

ฟางเหยียนยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่าทำไมตระกูลโจวถึงคงอยู่ตระหง่านในดินแดนตะวันตกได้ แต่ไม่ไปเก็บซ่อนตัวที่อื่น ในฐานะนินจา พวกเขาไม่ควรเปิดเผยฐานะตนเอง การประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่าตระกูลตนเป็นตระกูลนินจาแบบนี้ มันเป็นข้อห้ามของวงการนินจาเลย

แต่เขาก็ไม่ได้ถาม สำหรับเขาแล้วมันไม่สำคัญอะไร ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของฉินเสียงหลิน คนนี้เป็นไปได้มากว่าจะสามารถไขปัญหาหินทิพย์ของตน ดังนั้นสำหรับตนแล้ว ฉินเสียงหลิน สำคัญมากกว่า

สายตาฟางเหยียนมองไปทางหยางจิ่งเซียน เพียงแค่สายตาเดียวก็ทำให้หยางจิ่งเซียนรู้ว่าฟางเหยียนต้องการอะไร เลยรีบบอกว่า “นี่คือตระกูลโจว ส่วนฉินเสียงหลิน ที่คุณพูดถึง ก็เป็นบุคคลลึกลับอีกคนของภูเขาทิพย์ ส่วนจะลึกลับถึงขั้นไหน ไม่มีใครรู้ บางคนบอกว่าเขามีหัวเป็นวัว บางคนบอกเขามีลำตัวเป็นเสือ บางคนยังบอกอีกว่าขาสองข้างของเขาเป็นม้า สรุปแล้วความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป ไม่มีใครเคยเห็นเขา ตำนานของเขาเล่าขานกันในดินแดนตะวันตกมาร้อยกว่าปีแล้ว”

ร้อยกว่าปี? แถมเป็นแค่ตำนาน ฟางเหยียนอดขมวดคิ้วไม่ได้พลางถามว่า “คุณจะบอกว่า เขาเป็นแค่ตำนาน?”

มันทำให้ฟางเหยียนรู้สึกประหลาดใจมาก นี่คือคนที่ศาสตราจารย์โจวแนะนำตนมาหา และยังเป็นคนที่สามารถไขหินทิพย์ได้ แต่พอมาถึงหยางจิ่งเซียนตรงนี้ กลับกลายเป็นตำนานไป ต้องรู้นะว่า ศาสตราจารย์โจวก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เขาไม่มีทางใช้ตำนานแบบนี้มาหลอกตนแน่ อย่างน้อยฟางเหยียนมั่นใจว่า ศาสตราจารย์โจวไม่มีทางใช้ตำนานมาหลอกตนแน่

หยางจิ่งเซียนพยักหน้าเล็กน้อยพลางว่า “ใช่ เรื่องของฉินเสียงหลิน เดิมก็เป็นตำนานนะครับ! แต่สมัยใหม่ก็มีคนไม่น้อยเคยเห็นเขา แน่นอนว่า ต้องใช้โชคเป็นพิเศษหน่อย รวมถึง..บุพเพบางอย่างด้วย!”

“หนึ่งร้อยกว่าปีก่อนดินแดนตะวันตกโดนต่างชาติรุกราน ตอนนั้นประชาชนดินแดนตะวันตกตกอยู่ในภาวะสิ้นหวังขั้นสุด เพราะทั่วทั้งดินแดนตะวันตกจะโดนครอบครองแล้ว ส่วนประชาชนทั่วไปมีแต่โดนฆ่า หลายวันนั้นตอนกลางคืน คนที่อาศัยอยู่ตีนภูเขาทิพย์แทบจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนทุกวัน เสียงร้องแบบนั้นเหมือนกับเสียงร้องโหยหวนของวัวแก่ แต่จะดังกว่าเสียงร้องของวัวแกมาก แถมยังอหังการ์ เขาตะคอกร้องไป บนฟ้าก็ปรากฏฟ้าร้องหน้าแล้งขึ้น ภาพนั้นดูแล้วหยั่งกับมังกรคำราม มีบางคนบอกว่าหลังเขามีมังกรปรากฏขึ้น มังกรกำลังขอพรจากสวรรค์ ขอให้สวรรค์ช่วยประชาชน”

“ตอนนั้นเสียงเรียกนั้นติดต่อกันไปหนึ่งเดือน ดึงดูดความสนใจจากผู้รุกราน ตอนนี้เองพวกเขาส่งทีมคนไปค้นหา หาตัวสัตว์ประหลาดที่แกล้งทำตัวหลอกคนออกมา แต่คนที่เข้าไปค้นหาในหุบเขาไม่มีใครได้กลับออกมาอีกเลย ใครก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเกิดอะไรขึ้นในภูเขาทิพย์! ต่อมาผู้รุกรานไม่ยอมแพ้ พยายามค้นหาอีก จากนั้นก็หายไปทั้งกลุ่มค้นหาอีก!”

“ตอนนี้ก็มีผู้ชายคนหนึ่งออกมาบอกว่า นั่นเป็นสัตว์ประหลาดในภูเขา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบทรงเกียรติยศ 535 ตำนาน

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 535 ตำนาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พูดอีกอย่าง ต่อให้ไม่โดนโจรลักพาตัวไปเป็นเมีย ใครมีฝีมือก็จะได้มีเมีย ขอเพียงลักพาตัวผู้หญิงไปบ้านตัวเองได้ ผู้หญิงคนนั้นก็เท่ากับเป็นของเขาแล้ว ดังนั้นตอนนั้นไม่มีคำว่าคบกันเป็นแฟนพัฒนาความสัมพันธ์อะไรทั้งนั้น อาศัยแย่งเท่านั้น ในเมื่อจะแย่งแล้ว ก็ต้องฝึกฝนฝีมืออะไรไว้หน่อย ไม่งั้นก็แย่งคนอื่นไม่ได้ ดังนั้นเลยมีวิธีพูดที่ว่า คนดินแดนตะวันตกค่อนข้างแข็งแรงสูงใหญ่ ทุกคนไม่รู้หรอกว่าความแข็งแรงของคนดินแดนตะวันตกน่ะเตรียมไว้เพื่อการแย่งเมีย ตอนนั้นคนไม่น้อยเลยหิวโหยอดข้าว ถ้าไม่มีข้าวกิน ก็ต้องไปฆ่าคนวางเพลิงชิงทรัพย์ ตอนนั้นเป็นการอธิบายคำพูดอย่างชัดเจนไว้ประโยคหนึ่งเลย เพื่อความอยู่รอดแล้ว มนุษย์ต่างหากที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายที่สุดในโลก”

“ก่อนที่ตระกูลโจวจะมา สถานการณ์แบบนี้คงอยู่ตลอด ไม่มีทางปรากฏร่างผู้หญิงบนถนน แถมยังต้องผ่านการต่อสู้หลายครั้งในหนึ่งวันกว่าจะจบลงได้ ตอนตระกูลโจวมาที่ดินแดนตะวันตก พาทรัพย์สมบัติมาด้วย พอมาก็สร้างตึกสูงขึ้นมาตึกหนึ่งเลย ทำให้ทุกคนมองอย่างสอดแนมกับตระกูลโจว ทุกคนต่างรู้กันว่านี่เป็นตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวยตระกูลหนึ่ง ดังนั้นเลยมีกลุ่มคนไม่ดีพากันรวมตัวมากันที่ตระกูลโจวหวังจะแย่งชิงสิ่งของ กลุ่มคนไม่ดีเหล่านั้นตอนมาถึงตระกูลโจว ก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย พวกเขาบางคนหายสาบสูญไปเลย บางคนอยู่ที่ตระกูลโจว เป็นการ์ด โดนตระกูลโจว รับไว้ใช้งานต่อ”

“พวกคนไม่ดีที่รอดออกมา พอออกมาก็บอกว่า ตอนนั้นพวกเขาคิดจะไปแย่งชิงของที่ตระกูลโจว ใครจะรู้ว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวที่เดินออกมาจากตระกูลโจว ก็จัดการพวกเขาราบคาบแล้ว พลังของพวกเขาไม่มีค่าอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลโจว แถมอีกฝ่ายยังผ่านการฝึกฝนเคี่ยวกรำมาพิเศษด้วย พวกที่ขัดขืนก็ตายหมด บางคนที่ฉลาดหน่อยก็เลยเหลือชีวิตรอดออกมา แต่ก็ต้องอยู่เป็นการ์ดให้ตระกูลโจว “

“ต่อมา ตระกูลเขาก็กระทำเรื่องใหญ่ที่แตกตื่นไปทั่วทั้งดินแดนตะวันตก พวกเขากำจัดองค์กรใต้ดินอันดับหนึ่งของดินแดนตะวันตกตอนนั้น แถมยังกำจัดกองโจรบางกองด้วย และยังฟื้นฟูความสงบคืนให้กับดินแดนตะวันตก การกระทำหลายอย่างนี้ทำให้พวกเขากลายเป็นศูนย์กลางในสายตาทุกคนไปในพริบตาเลย หนึ่งเดือนพวกเขารับสมัครคนใช้ การ์ด ไม่นานก็กลายเป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งในดินแดนตะวันตก เดิมคิดว่าพวกเขาจะโดนคนจำนวนมากโจมตี แต่พอมีคนมาโจมตีสองเซตผ่านไปก็ไม่มีใครไปอีกเลย เพราะทั้งสองเซตนั่นหายสาบสูญไปเลย และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คนดินแดนตะวันตกรู้จักนินจาและตระกูลโจวในแบบใหม่”

“เดิมตระกูลโจวยังถ่อมตัวอยู่มาก ระมัดระวังตัวเวลาทำอะไร โลกด้านนอกมีอะไรก็ยินดีที่จะออกหน้าช่วยเหลือ อย่างเช่น การประชุมสำคัญอะไรบางอย่าง พวกเขาได้รับเชิญ เป้าหมายเพื่อป้องกันการจลาจลอะไรในสถานที่จริง การคงอยู่ของตระกูลโจวเหมือนเสาหลักคุ้มกันดินแดนตะวันตก ไม่มีเรื่องราวเลวร้ายเกิดขึ้นอีก เรียกได้ว่าพวกเขาปกป้องความสงบสุขของดินแดนตะวันตก!”

“จนต่อมาเมื่อคุณชายน้อยคนนี้ของบ้านเขาเกิดมา อาศัยตระกูลตนทำเรื่องเลวร้ายมากมาย แต่ฝีมือเขาก็แข็งแกร่งมากจริงๆ เอาการแข่งขันมวยปล้ำเมื่อสิบปีก่อนของดินแดนตะวันตกมาเป็นตัวอย่าง เขาตอนอายุสิบสี่สามารถทุ่มชายร่างบึกน้ำหนักร้อยห้าสิบกว่ากิโล แถมยังสลัดบินเอาดื้อๆ พลังแข็งกล้ามาตั้งแต่เกิดแบบนั้นไม่ใช่คนธรรมดาจะทำได้เลย ดังนั้นทุกคนเลยเกิดความรู้สึกกริ่งเกรงในฝีมือของตระกูลโจว นี่ก็เป็นแกนหลักที่ทำให้ตระกูลโจวยังคงแข็งแกร่งจนทุกวันนี้”

นินจาเดิมก็ไม่ใช่คนธรรมดา จะมีพลังมากกว่าคนธรรมดาก็ไม่แปลกอะไร พวกเขาใช้ลมผสมผสานกับร่างกาย ดังนั้นสิ่งที่แผ่ซ่านออกมาก็ต้องไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะรับได้อยู่แล้ว

อีกอย่างคือชื่อเสียงของตระกูลโจวโด่งดังมาก คนที่แข่งกับเขาก็ไม่มีใครใช้เต็มกำลัง นี่คือเรื่องแรก

“ตระกูลโจวยังมีฝีมืออีกมากแค่ไหนอันนี้ไม่มีใครรู้ แต่เรื่องที่ว่าตระกูลเขาเป็นตระกูลนินจาเป็นเรื่องที่คนดินแดนตะวันตกมากมายต่างรู้กันดี ในดินแดนตะวันตก พวกเขาประหนึ่งเป็นดาบสองคมเล่มหนึ่ง สามารถทำให้คนวางใจได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนหวาดกลัวด้วยเหมือนกัน”

ตระกูลโจวแปลกพิกลจริงๆ สำหรับคนธรรมดาแล้ว พวกคนแบบนินจาเหมือนพวกยอดฝีมือบู๊ตึ้งในทีวีเลย สิ่งที่แทบไม่มีตัวตนในสายตาคนมากมายแบบนี้กลับยืนหยัดอยู่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจที่ดินแดนตะวันตก แถมยังเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งของดินแดนตะวันตก มันจะไม่ทำให้คนรู้สึกแปลกพิกลได้ยังไง

ฟางเหยียนยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่าทำไมตระกูลโจวถึงคงอยู่ตระหง่านในดินแดนตะวันตกได้ แต่ไม่ไปเก็บซ่อนตัวที่อื่น ในฐานะนินจา พวกเขาไม่ควรเปิดเผยฐานะตนเอง การประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่าตระกูลตนเป็นตระกูลนินจาแบบนี้ มันเป็นข้อห้ามของวงการนินจาเลย

แต่เขาก็ไม่ได้ถาม สำหรับเขาแล้วมันไม่สำคัญอะไร ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของฉินเสียงหลิน คนนี้เป็นไปได้มากว่าจะสามารถไขปัญหาหินทิพย์ของตน ดังนั้นสำหรับตนแล้ว ฉินเสียงหลิน สำคัญมากกว่า

สายตาฟางเหยียนมองไปทางหยางจิ่งเซียน เพียงแค่สายตาเดียวก็ทำให้หยางจิ่งเซียนรู้ว่าฟางเหยียนต้องการอะไร เลยรีบบอกว่า “นี่คือตระกูลโจว ส่วนฉินเสียงหลิน ที่คุณพูดถึง ก็เป็นบุคคลลึกลับอีกคนของภูเขาทิพย์ ส่วนจะลึกลับถึงขั้นไหน ไม่มีใครรู้ บางคนบอกว่าเขามีหัวเป็นวัว บางคนบอกเขามีลำตัวเป็นเสือ บางคนยังบอกอีกว่าขาสองข้างของเขาเป็นม้า สรุปแล้วความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป ไม่มีใครเคยเห็นเขา ตำนานของเขาเล่าขานกันในดินแดนตะวันตกมาร้อยกว่าปีแล้ว”

ร้อยกว่าปี? แถมเป็นแค่ตำนาน ฟางเหยียนอดขมวดคิ้วไม่ได้พลางถามว่า “คุณจะบอกว่า เขาเป็นแค่ตำนาน?”

มันทำให้ฟางเหยียนรู้สึกประหลาดใจมาก นี่คือคนที่ศาสตราจารย์โจวแนะนำตนมาหา และยังเป็นคนที่สามารถไขหินทิพย์ได้ แต่พอมาถึงหยางจิ่งเซียนตรงนี้ กลับกลายเป็นตำนานไป ต้องรู้นะว่า ศาสตราจารย์โจวก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เขาไม่มีทางใช้ตำนานแบบนี้มาหลอกตนแน่ อย่างน้อยฟางเหยียนมั่นใจว่า ศาสตราจารย์โจวไม่มีทางใช้ตำนานมาหลอกตนแน่

หยางจิ่งเซียนพยักหน้าเล็กน้อยพลางว่า “ใช่ เรื่องของฉินเสียงหลิน เดิมก็เป็นตำนานนะครับ! แต่สมัยใหม่ก็มีคนไม่น้อยเคยเห็นเขา แน่นอนว่า ต้องใช้โชคเป็นพิเศษหน่อย รวมถึง..บุพเพบางอย่างด้วย!”

“หนึ่งร้อยกว่าปีก่อนดินแดนตะวันตกโดนต่างชาติรุกราน ตอนนั้นประชาชนดินแดนตะวันตกตกอยู่ในภาวะสิ้นหวังขั้นสุด เพราะทั่วทั้งดินแดนตะวันตกจะโดนครอบครองแล้ว ส่วนประชาชนทั่วไปมีแต่โดนฆ่า หลายวันนั้นตอนกลางคืน คนที่อาศัยอยู่ตีนภูเขาทิพย์แทบจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนทุกวัน เสียงร้องแบบนั้นเหมือนกับเสียงร้องโหยหวนของวัวแก่ แต่จะดังกว่าเสียงร้องของวัวแกมาก แถมยังอหังการ์ เขาตะคอกร้องไป บนฟ้าก็ปรากฏฟ้าร้องหน้าแล้งขึ้น ภาพนั้นดูแล้วหยั่งกับมังกรคำราม มีบางคนบอกว่าหลังเขามีมังกรปรากฏขึ้น มังกรกำลังขอพรจากสวรรค์ ขอให้สวรรค์ช่วยประชาชน”

“ตอนนั้นเสียงเรียกนั้นติดต่อกันไปหนึ่งเดือน ดึงดูดความสนใจจากผู้รุกราน ตอนนี้เองพวกเขาส่งทีมคนไปค้นหา หาตัวสัตว์ประหลาดที่แกล้งทำตัวหลอกคนออกมา แต่คนที่เข้าไปค้นหาในหุบเขาไม่มีใครได้กลับออกมาอีกเลย ใครก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเกิดอะไรขึ้นในภูเขาทิพย์! ต่อมาผู้รุกรานไม่ยอมแพ้ พยายามค้นหาอีก จากนั้นก็หายไปทั้งกลุ่มค้นหาอีก!”

“ตอนนี้ก็มีผู้ชายคนหนึ่งออกมาบอกว่า นั่นเป็นสัตว์ประหลาดในภูเขา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+