จอมนักรบทรงเกียรติยศ 564 โทษประหารละได้ แต่ยากจะหนีจากการลงโทษได้

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 564 โทษประหารละได้ แต่ยากจะหนีจากการลงโทษได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปกป้องดินแดนเป็นนิจ ฆ่าคนจนด้านชาไปนานแล้ว ดังนั้นชีวิตของคนในมือของฟางเหยียนก็เป็นแค่มดเท่านั้น ฆ่าคนๆหนึ่ง ต่างอะไรกับการบี้มดตัวหนึ่งให้ตายกันเล่า? เขาฆ่าคน กลับไม่รู้สึกแปลกใจอะไร ถ้าแปลกใจ เขายังถูกขนานนามว่าเป็นเทพแห่งสงคราม?

ใจของหวังชิงชิงเต้นรัวๆ เธอไม่พูดไม่จาสักคำ สักประโยคตลอดทั้งการต่อสู้ เพียงแต่ใช้แววตาที่ตกใจมองฟางเหยียน เธอรู้ว่าคุณชายแข็งแกร่ง แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะแข็งแกร่งจนทำให้คนหายใจไม่ทั่วท้อง

ฆ่าคนต่อหน้าคนของตระกูลทุกคน แล้วยังทิ้งไว้ในห้องโถงของตระกูลโจวอีก นี่เลือดแปดเปื้อนห้องโถงของตระกูลโจวนะ มองคนของตระกูลโจว ทั้งหมดล้วนเงียบกริบ เพียงแต่ยอมรับทุกอย่างตรงหน้าอย่างเงียบๆ

คุณชายแบบนี้ นี่เหตุผลที่จะต้องกลัวคนของตระกูลโจวมั้ย? เธอไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าคุณชายจะกลัวตระกูลโจวจริงๆ

ถ้ารู้ว่าคุณชายแข็งแกร่งขนาดนั้น เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณชายตั้งนานแล้ว และจะได้ไม่ต้องกลับมาแต่งงานกับเขาเพราะการข่มขู่ของโจวเจิ้ง เธอไตร่ตรองมากไป ตระกูลโจวไม่สามารถเทียบกับคนอย่างคุณชายแบบนี้ได้แม้แต่น้อย

คำพูดนั้นของคุณชายพูดไว้ทั้งหมด ถ้าตระกูลโจวยั่วผม ผมจะทำลายแม้กระทั่งตระกูลโจวนี่ไม่ได้ล้อเล่น ถ้าคุณชายล้างบางตระกูลโจวจริงๆ ตระกูลโจวยังมีคนที่สามารถต้านทานได้อยู่อีกงั้นเหรอ?

บางทีคนนั้นอาจจะต่อสู้ได้ แต่เบื้องหลังของคุณชายยังมีกำลังพลมากมายเลยนะ! ถ้ากองทัพต้องการที่จะทำลายตระกูลโจว ก็แค่คำเดียวเท่านั้น คุณชายแบบนี้ บ้าคลั่งมาก ช่างน่าเลื่อมใส

หวังชิงชิงไม่ได้รู้สึกว่าการที่คุณชายฆ่าจะแปลกประหลาด กลับรู้สึกว่านี่สิคือคุณชายตัวจริง

เมื่อมองฟางเหยียน แววตาของเธอได้ปรากฏความสุขที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติออกมา

“คุณชาย!” ทันใดนั้นหวังชิงชิงก็เดินไปที่ฟางเหยียนอย่างช้าๆ จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าเพรยงแค่ตัวเองสามารถจัดการเรื่องข้างๆกายของเขาได้ ก็เป็นเกียรติอย่างหนึ่งแล้ว

ฟางเหยียนหันไปมองหวังชิงชิง แรงอาฆาตของเขาในขณะนี้ได้หายไป แทนที่ด้วยความเป็นห่วงอย่างหนึ่ง เขามองแก้มของหวังชิงชิง แล้วถาม “ใครตบหน้าของคุณ?”

“หา?” หวังชิงชิงยกมือขึ้นไปจับแก้มที่ถูกตบ ในตอนนี้ หัวใจของคนๆหนึ่งกำลังสั่น เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาจะเต้นออกมาในนาทีนี้แล้ว

คือโจวเจิ้ง สายตาของเขากำลังหลบไป ใจเต้นเร็วขึ้น เขามองวัยรุ่นที่กองลงกับพื้นกลายเป็นศพไปแล้ว แล้วแอบมองรอยแผลที่อยู่บนหน้าของหวังชิงชิง

ตอนนี้ เพียงแค่คำพูดเดียวของหวังชิงชิง จุดจบของเขาต้องเหมือนกับวัยรุ่นที่กองกับพื้นนั่นแน่ๆ

ต่อให้ที่นี่คือตระกูลโจว เขาอยากจะฆ่าตนก็ราวกับการหยิบของออกจากกระเป๋า! เขาในตอนนี้ เป็นแค่มดในกระทะร้อน เขารับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของวัยรุ่นนั่นถึงขั้นที่ตนเข้าใกล้เขาไม่ได้

เขายังถูกฟางเหยียนฆ่าอย่างนี้ ถูกคุณชายคนนี้ของหวังชิงชิงฆ่าตายแล้ว! งั้นตนกับคุณชายของเธอไม่ได้แตกต่างกันมากสุดๆเลยงั้นเหรอ ความแตกต่างแบบนี้ ให้เขาต่อสู้กับอีกฝ่าย จะต่อสู้ยังไง? เอาอะไรไปสู้?

และแล้ว เขาทนกับแรงกดดันในใจไม่ไหวแล้ว คุกเข่าปักลงไปที่พื้น

“ผม ผม ผม!!” ร่างกายของโจวเจิ้งพลางสั่น พลางพูดว่าผมอย่างอ้ำๆอึ้งๆอยู่นานแต่พูดไม่ออกสักคำ

“แกเป็นคนตบ?” สายตาแหลมคมของฟางเหยียนมองไปที่โจวเจิ้ง

โจวเจิ้งตกใจจนรีบคำนับแล้วกล่าว “ขอโทษครับ จอมพล ผมมีตาแต่หามีแววไม่ ผมมีตำแต่หามีแววไม่! พี่ชิงชิง ได้โปรดอ้อนวอนจอมพลให้ผมด้วยนะครับ ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ การแต่งงานนี้ผมไม่แต่งแล้ว ไม่แต่งแล้วครับ ผมขอให้คุณกับจอมพลถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง”

และแล้วคุณชายตระกูลโจวที่เย่อหยิ่งก็ขี้ขลาดลง เขานิสัยที่เคยไม่ปล่อยผู้หญิงของตัวเองไปไม่มีอีกแล้ว แทนที่ด้วยความกลัวอย่างหนึ่ง เขาไม่ใช่ท่าทางที่ไม่เกรงกลัวฟ้าดินนั่นอีกต่อไป

เขากลัวตาย ตอนที่เข้าใกล้กับความตายมากที่สุด สุดท้ายเขาก็ยังกลัวความตายอยู่ดี

เมื่อเห็นโจวเจิ้งที่ตกใจจนตัวสั่น ฟางเหยียนค่อยๆหันไปมองโจวปินคางอย่างช้าๆ

โจวปินคางกลืนน้ำลายลงไป แล้วแสดงท่าทีทันทีว่า “จอมพลครับ แล้วแต่ท่านจะจัดการกับหลานชายเลยครับ! ถ้าท่านอยากฆ่าเขา ผมไม่มีทางพูดโต้ตอบแม้แต่นิดเดียว เขาหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น!”

ถึงแม้ในใจจะอาลัยอาวรณ์หลานชายคนนี้มาก แต่ทำได้เพียงต้องหน้าด้านพูดแบบนั้น ถ้าเขาฆ่าโจวเจิ้งจริงๆ ตระกูลโจวมีคนสามารถขัดขวางได้มั้ย? ไม่ ไม่มี ต่อให้ท่านปรมาจารย์ของตระกูลโจวออกจากภูเขา เกรงว่าก็ไม่สามารถห้ามได้

อีกอย่าง ถ้าท่านปรมาจารย์ออกจากภูเขาแล้ว งั้นตระกูลโจวก็ไม่ใช่ว่าต้องเผชิญกับวิกฤตทำลายล้างแล้วงั้นเหรอ ตอนที่ท่านปรมาจารย์จะฝึกตนได้พูดไว้ มีเพียงตอนที่ตระกูลโจวต้องเผชิญกับวิกฤตทำลายล้างเขาจึงจะปรากฏกายออกมา เวลาอื่นจะไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับทางโลก

ตอนนี้ได้ผ่านไปเป็นร้อยๆปีแล้ว เขาไม่หวังให้ท่านปรมาจารย์ของตระกูลโจวออกจากภูเขาอยู่แล้ว! ตระกูลโจวมีชีวิตอย่างสงบสุข ไม่ขัดแย้งกับสังคมแบบนี้ ไม่ดีงั้นเหรอ! ก่อเรื่องขึ้นมา นี่ไม่ใช่สิ่งที่โจวปินคางอยากเห็น

ถ้าโจวเจิ้งตายแล้วสามารถแก้เรื่องที่เร่งด่วนของตระกูลโจวได้ เขาก็ไม่มีทางให้โจวเจิ้งมีชีวิตอยู่ ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลใหญ่ ต้องเข้าใจที่จะเห็นแก่ส่วนรวม โจวชื่อเจี๋ยและโจวเจิ้งโง่เกินไป นิสัยของพวกเขาไม่เหมือนกับคนรุ่นหลังของตระกูลโจวเลยแม้แต่น้อย

“พ่อ!” โจวชื่อเจี๋ยรีบเงยหน้ามองโจวปินคาง แล้วกล่าว “พ่อ เสี่ยวเจิ้งคือหลานชายของพ่อนะ ได้โปรดช่วยพูดกับจอมพลให้หน่อยเถอะนะพ่อ ให้เขาปล่อยเสี่ยวเจิ้งไป ปล่อยเสี่ยวเจิ้งไปเถอะนะ!”

โจวปินคางส่งเสียงฮึมออกมา แล้วกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ยังมีหน้ามาพูดอีก! นี่คือลูกชายที่แกสั่งสอนมา ถ้าไม่ใช่โอ๋มาตั้งแต่เด็ก แกคิดว่ามันจะเดินมาถึงจุดนี้มั้ย? ต่อให้วันนี้มันต้องตาย ก็เป็นเพราะน้ำมือของแกทั้งนั้น” น้ำตาของโจวชื่อเจี๋ยไหลรินลงมา นี่เป็นความรักที่จริงใจที่สุดของพ่อที่มีต่อลูก

เขาเห็นว่าขอร้องพ่อแล้วยังไม่ได้ผล จึงทำได้เพียงมองไปที่หวังชิงชิง ที่ฟางเหยียนทำทั้งหมดก็เพื่อหวังชิงชิง ถ้าหวังชิงชิงเอ่ยปาก เขาต้องปล่อยโจวเจิ้งไปแน่ๆ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงรีบกล่าวว่า “ชิงชิง ชิงชิง แกไปกับจอมพลนะ ขอแกได้โปรดอ้อนวอนจอมพลให้หน่อย ให้เขาปล่อยน้องชายแกไปเถอะนะ!”

จิตใจของโจวชื่อเจี๋ยแย่มากถึงขีดสุด ตอนนี้เขาเสียใจอย่างยิ่งที่ตนเองรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของโจวเจิ้ง

หวังชิงชิงหันไปมองฟางเหยียนที่หน้าตาเต็มไปด้วยความเย็นชา ความจริงเธอก็ไม่รู้ว่าต่อหน้าของฟางเหยียนคำพูดเธอจะมีค่ามั้ย เธอรู้ดีถึงอารมณ์ของคุณชาย ต่อหน้าของคุณชายเธอไม่มีสิทธิ์ในการออกสิทธิ์ออกเสียงใดๆ

“พี่ชิงชิง เป็นความผิดของผมทั้งนั้น เป็นความผิดของผมทั้งนั้น! ผมสมควรตาย ผมสมควรตาย! แต่ผมไม่อยากตาย ผมก็แค่อยากได้คุณมากเกินถึงทำแบบนี้ ผมรับรอง ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน ได้โปรดช่วยผมอ้อนวอนกับจอมพลหน่อยนะ ได้โปรดเถอะ!” โจวเจิ้งอ้อนวอนหวังชิงชิงด้วยสีหน้าทุกข์ระทม

หวังชิงชิงมองฟางเหยียน แล้วกล่าว “คุณชายคะ คุณสามารถที่จะ…”

คำพูดของเธอยังพูดไม่ทันจบ ฟางเหยียนก็ขัดจังหวะคำพูดของเธอ แล้วพูดกับโจวปินคางว่า “โจวปินคาง ตระกูลโจวถือเป็นตระกูลที่จงรักภักดี ต่อไป ผมไม่อยากเห็นข่าวที่ว่าตระกูลโจวรังแกคนอ่อนแอภายนอกแต่อย่างใด หัวของโจวเจิ้งและโจวชื่อเจี๋ยผมฝากไว้ที่นี่ก่อนก็แล้วกัน ถ้าผมพบว่ายังมีข่าวที่ไม่ดีเล็ดลอดออกไปอีก ผมจะมาเอาคืนได้ตลอดเวลา”

“แต่ โทษประหารละได้ แต่ยากจะหนีจากการลงโทษได้!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบทรงเกียรติยศ 564 โทษประหารละได้ แต่ยากจะหนีจากการลงโทษได้

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 564 โทษประหารละได้ แต่ยากจะหนีจากการลงโทษได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปกป้องดินแดนเป็นนิจ ฆ่าคนจนด้านชาไปนานแล้ว ดังนั้นชีวิตของคนในมือของฟางเหยียนก็เป็นแค่มดเท่านั้น ฆ่าคนๆหนึ่ง ต่างอะไรกับการบี้มดตัวหนึ่งให้ตายกันเล่า? เขาฆ่าคน กลับไม่รู้สึกแปลกใจอะไร ถ้าแปลกใจ เขายังถูกขนานนามว่าเป็นเทพแห่งสงคราม?

ใจของหวังชิงชิงเต้นรัวๆ เธอไม่พูดไม่จาสักคำ สักประโยคตลอดทั้งการต่อสู้ เพียงแต่ใช้แววตาที่ตกใจมองฟางเหยียน เธอรู้ว่าคุณชายแข็งแกร่ง แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะแข็งแกร่งจนทำให้คนหายใจไม่ทั่วท้อง

ฆ่าคนต่อหน้าคนของตระกูลทุกคน แล้วยังทิ้งไว้ในห้องโถงของตระกูลโจวอีก นี่เลือดแปดเปื้อนห้องโถงของตระกูลโจวนะ มองคนของตระกูลโจว ทั้งหมดล้วนเงียบกริบ เพียงแต่ยอมรับทุกอย่างตรงหน้าอย่างเงียบๆ

คุณชายแบบนี้ นี่เหตุผลที่จะต้องกลัวคนของตระกูลโจวมั้ย? เธอไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าคุณชายจะกลัวตระกูลโจวจริงๆ

ถ้ารู้ว่าคุณชายแข็งแกร่งขนาดนั้น เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณชายตั้งนานแล้ว และจะได้ไม่ต้องกลับมาแต่งงานกับเขาเพราะการข่มขู่ของโจวเจิ้ง เธอไตร่ตรองมากไป ตระกูลโจวไม่สามารถเทียบกับคนอย่างคุณชายแบบนี้ได้แม้แต่น้อย

คำพูดนั้นของคุณชายพูดไว้ทั้งหมด ถ้าตระกูลโจวยั่วผม ผมจะทำลายแม้กระทั่งตระกูลโจวนี่ไม่ได้ล้อเล่น ถ้าคุณชายล้างบางตระกูลโจวจริงๆ ตระกูลโจวยังมีคนที่สามารถต้านทานได้อยู่อีกงั้นเหรอ?

บางทีคนนั้นอาจจะต่อสู้ได้ แต่เบื้องหลังของคุณชายยังมีกำลังพลมากมายเลยนะ! ถ้ากองทัพต้องการที่จะทำลายตระกูลโจว ก็แค่คำเดียวเท่านั้น คุณชายแบบนี้ บ้าคลั่งมาก ช่างน่าเลื่อมใส

หวังชิงชิงไม่ได้รู้สึกว่าการที่คุณชายฆ่าจะแปลกประหลาด กลับรู้สึกว่านี่สิคือคุณชายตัวจริง

เมื่อมองฟางเหยียน แววตาของเธอได้ปรากฏความสุขที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติออกมา

“คุณชาย!” ทันใดนั้นหวังชิงชิงก็เดินไปที่ฟางเหยียนอย่างช้าๆ จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าเพรยงแค่ตัวเองสามารถจัดการเรื่องข้างๆกายของเขาได้ ก็เป็นเกียรติอย่างหนึ่งแล้ว

ฟางเหยียนหันไปมองหวังชิงชิง แรงอาฆาตของเขาในขณะนี้ได้หายไป แทนที่ด้วยความเป็นห่วงอย่างหนึ่ง เขามองแก้มของหวังชิงชิง แล้วถาม “ใครตบหน้าของคุณ?”

“หา?” หวังชิงชิงยกมือขึ้นไปจับแก้มที่ถูกตบ ในตอนนี้ หัวใจของคนๆหนึ่งกำลังสั่น เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาจะเต้นออกมาในนาทีนี้แล้ว

คือโจวเจิ้ง สายตาของเขากำลังหลบไป ใจเต้นเร็วขึ้น เขามองวัยรุ่นที่กองลงกับพื้นกลายเป็นศพไปแล้ว แล้วแอบมองรอยแผลที่อยู่บนหน้าของหวังชิงชิง

ตอนนี้ เพียงแค่คำพูดเดียวของหวังชิงชิง จุดจบของเขาต้องเหมือนกับวัยรุ่นที่กองกับพื้นนั่นแน่ๆ

ต่อให้ที่นี่คือตระกูลโจว เขาอยากจะฆ่าตนก็ราวกับการหยิบของออกจากกระเป๋า! เขาในตอนนี้ เป็นแค่มดในกระทะร้อน เขารับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของวัยรุ่นนั่นถึงขั้นที่ตนเข้าใกล้เขาไม่ได้

เขายังถูกฟางเหยียนฆ่าอย่างนี้ ถูกคุณชายคนนี้ของหวังชิงชิงฆ่าตายแล้ว! งั้นตนกับคุณชายของเธอไม่ได้แตกต่างกันมากสุดๆเลยงั้นเหรอ ความแตกต่างแบบนี้ ให้เขาต่อสู้กับอีกฝ่าย จะต่อสู้ยังไง? เอาอะไรไปสู้?

และแล้ว เขาทนกับแรงกดดันในใจไม่ไหวแล้ว คุกเข่าปักลงไปที่พื้น

“ผม ผม ผม!!” ร่างกายของโจวเจิ้งพลางสั่น พลางพูดว่าผมอย่างอ้ำๆอึ้งๆอยู่นานแต่พูดไม่ออกสักคำ

“แกเป็นคนตบ?” สายตาแหลมคมของฟางเหยียนมองไปที่โจวเจิ้ง

โจวเจิ้งตกใจจนรีบคำนับแล้วกล่าว “ขอโทษครับ จอมพล ผมมีตาแต่หามีแววไม่ ผมมีตำแต่หามีแววไม่! พี่ชิงชิง ได้โปรดอ้อนวอนจอมพลให้ผมด้วยนะครับ ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ การแต่งงานนี้ผมไม่แต่งแล้ว ไม่แต่งแล้วครับ ผมขอให้คุณกับจอมพลถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง”

และแล้วคุณชายตระกูลโจวที่เย่อหยิ่งก็ขี้ขลาดลง เขานิสัยที่เคยไม่ปล่อยผู้หญิงของตัวเองไปไม่มีอีกแล้ว แทนที่ด้วยความกลัวอย่างหนึ่ง เขาไม่ใช่ท่าทางที่ไม่เกรงกลัวฟ้าดินนั่นอีกต่อไป

เขากลัวตาย ตอนที่เข้าใกล้กับความตายมากที่สุด สุดท้ายเขาก็ยังกลัวความตายอยู่ดี

เมื่อเห็นโจวเจิ้งที่ตกใจจนตัวสั่น ฟางเหยียนค่อยๆหันไปมองโจวปินคางอย่างช้าๆ

โจวปินคางกลืนน้ำลายลงไป แล้วแสดงท่าทีทันทีว่า “จอมพลครับ แล้วแต่ท่านจะจัดการกับหลานชายเลยครับ! ถ้าท่านอยากฆ่าเขา ผมไม่มีทางพูดโต้ตอบแม้แต่นิดเดียว เขาหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น!”

ถึงแม้ในใจจะอาลัยอาวรณ์หลานชายคนนี้มาก แต่ทำได้เพียงต้องหน้าด้านพูดแบบนั้น ถ้าเขาฆ่าโจวเจิ้งจริงๆ ตระกูลโจวมีคนสามารถขัดขวางได้มั้ย? ไม่ ไม่มี ต่อให้ท่านปรมาจารย์ของตระกูลโจวออกจากภูเขา เกรงว่าก็ไม่สามารถห้ามได้

อีกอย่าง ถ้าท่านปรมาจารย์ออกจากภูเขาแล้ว งั้นตระกูลโจวก็ไม่ใช่ว่าต้องเผชิญกับวิกฤตทำลายล้างแล้วงั้นเหรอ ตอนที่ท่านปรมาจารย์จะฝึกตนได้พูดไว้ มีเพียงตอนที่ตระกูลโจวต้องเผชิญกับวิกฤตทำลายล้างเขาจึงจะปรากฏกายออกมา เวลาอื่นจะไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับทางโลก

ตอนนี้ได้ผ่านไปเป็นร้อยๆปีแล้ว เขาไม่หวังให้ท่านปรมาจารย์ของตระกูลโจวออกจากภูเขาอยู่แล้ว! ตระกูลโจวมีชีวิตอย่างสงบสุข ไม่ขัดแย้งกับสังคมแบบนี้ ไม่ดีงั้นเหรอ! ก่อเรื่องขึ้นมา นี่ไม่ใช่สิ่งที่โจวปินคางอยากเห็น

ถ้าโจวเจิ้งตายแล้วสามารถแก้เรื่องที่เร่งด่วนของตระกูลโจวได้ เขาก็ไม่มีทางให้โจวเจิ้งมีชีวิตอยู่ ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลใหญ่ ต้องเข้าใจที่จะเห็นแก่ส่วนรวม โจวชื่อเจี๋ยและโจวเจิ้งโง่เกินไป นิสัยของพวกเขาไม่เหมือนกับคนรุ่นหลังของตระกูลโจวเลยแม้แต่น้อย

“พ่อ!” โจวชื่อเจี๋ยรีบเงยหน้ามองโจวปินคาง แล้วกล่าว “พ่อ เสี่ยวเจิ้งคือหลานชายของพ่อนะ ได้โปรดช่วยพูดกับจอมพลให้หน่อยเถอะนะพ่อ ให้เขาปล่อยเสี่ยวเจิ้งไป ปล่อยเสี่ยวเจิ้งไปเถอะนะ!”

โจวปินคางส่งเสียงฮึมออกมา แล้วกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ยังมีหน้ามาพูดอีก! นี่คือลูกชายที่แกสั่งสอนมา ถ้าไม่ใช่โอ๋มาตั้งแต่เด็ก แกคิดว่ามันจะเดินมาถึงจุดนี้มั้ย? ต่อให้วันนี้มันต้องตาย ก็เป็นเพราะน้ำมือของแกทั้งนั้น” น้ำตาของโจวชื่อเจี๋ยไหลรินลงมา นี่เป็นความรักที่จริงใจที่สุดของพ่อที่มีต่อลูก

เขาเห็นว่าขอร้องพ่อแล้วยังไม่ได้ผล จึงทำได้เพียงมองไปที่หวังชิงชิง ที่ฟางเหยียนทำทั้งหมดก็เพื่อหวังชิงชิง ถ้าหวังชิงชิงเอ่ยปาก เขาต้องปล่อยโจวเจิ้งไปแน่ๆ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงรีบกล่าวว่า “ชิงชิง ชิงชิง แกไปกับจอมพลนะ ขอแกได้โปรดอ้อนวอนจอมพลให้หน่อย ให้เขาปล่อยน้องชายแกไปเถอะนะ!”

จิตใจของโจวชื่อเจี๋ยแย่มากถึงขีดสุด ตอนนี้เขาเสียใจอย่างยิ่งที่ตนเองรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของโจวเจิ้ง

หวังชิงชิงหันไปมองฟางเหยียนที่หน้าตาเต็มไปด้วยความเย็นชา ความจริงเธอก็ไม่รู้ว่าต่อหน้าของฟางเหยียนคำพูดเธอจะมีค่ามั้ย เธอรู้ดีถึงอารมณ์ของคุณชาย ต่อหน้าของคุณชายเธอไม่มีสิทธิ์ในการออกสิทธิ์ออกเสียงใดๆ

“พี่ชิงชิง เป็นความผิดของผมทั้งนั้น เป็นความผิดของผมทั้งนั้น! ผมสมควรตาย ผมสมควรตาย! แต่ผมไม่อยากตาย ผมก็แค่อยากได้คุณมากเกินถึงทำแบบนี้ ผมรับรอง ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน ได้โปรดช่วยผมอ้อนวอนกับจอมพลหน่อยนะ ได้โปรดเถอะ!” โจวเจิ้งอ้อนวอนหวังชิงชิงด้วยสีหน้าทุกข์ระทม

หวังชิงชิงมองฟางเหยียน แล้วกล่าว “คุณชายคะ คุณสามารถที่จะ…”

คำพูดของเธอยังพูดไม่ทันจบ ฟางเหยียนก็ขัดจังหวะคำพูดของเธอ แล้วพูดกับโจวปินคางว่า “โจวปินคาง ตระกูลโจวถือเป็นตระกูลที่จงรักภักดี ต่อไป ผมไม่อยากเห็นข่าวที่ว่าตระกูลโจวรังแกคนอ่อนแอภายนอกแต่อย่างใด หัวของโจวเจิ้งและโจวชื่อเจี๋ยผมฝากไว้ที่นี่ก่อนก็แล้วกัน ถ้าผมพบว่ายังมีข่าวที่ไม่ดีเล็ดลอดออกไปอีก ผมจะมาเอาคืนได้ตลอดเวลา”

“แต่ โทษประหารละได้ แต่ยากจะหนีจากการลงโทษได้!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+