จอมนักรบทรงเกียรติยศ 646 เหยียดหยามขวังซือ

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 646 เหยียดหยามขวังซือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พี่เหยียน พี่ พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

ฟางเหยียนที่กำลังหยิบยาออกมาชะงักไป จากนั้นก็ส่ายหน้าเบาๆ ที่ตระกูลฟางนอกจากน้าสาวแล้ว ฟางฟังเป็นคนที่ทำให้เขาใส่ใจอีกคน

ฟางฟังเห็นฟางเหยียนไม่อยากพูดอะไรมาก ก็พับแขนเสื้อขึ้นช่วยงาน ทั้งพันแผลทั้งทำความสะอาด ยุ่งจนเกินความสมควร อารมณ์บนใบหน้าซับซ้อนมาก มีหวาดกลัว ร้อนอกร้อนใจ เจ็บปวดใจอีกทั้งรู้สึกผิด

และตอนที่ฟางฟังเห็นเรื่องร้ายๆของตระกูลฟาง ก็เข้าใจว่าอะไรคือการชื่นชมยินดีกับความสำเร็จที่ได้มาอย่างยากลำบาก ครอบครัวพร้อมหน้ากัน มีบ้านที่กำบัง บางทีนี่คือความหมายที่แท้จริงของชีวิต

คนที่ไม่ตระหนักความเป็นความตาย ไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนี้

เธอไม่เข้าใจมาโดยตลอด ตอนที่ฟางเหยียนถูกขับออกจากตระกูลฟาง เขายังละทิ้งความเกลียดที่อยู่ในใจ แล้วช่วยตระกูลฟางที่อยู่ในวิกฤต ความชอบธรรมความกล้าหาญนี้ เกรงว่าในอดีตไม่เคยปรากฏมาก่อน

เธอก็หวังว่าจะสามารถเข้าใจ รู้จักพี่ชายที่เต็มไปด้วยความแค้นและเย็นชาได้เช่นกัน

คุณปู่ฟางจินหยวนเป็นผู้นำของตระกูล มีอำนาจ คำไหนคำนั้น เข้มงวดกวดขัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฟางเหยียน จะมีท่าทีของผู้นำตระกูลได้อย่างไรกัน ความเกรงขามและความแข็งแกร่ง ดูเหมือนจะฝังเข้าไปในกระดูก โดยเฉพาะท่าทีในการขอโทษ ยังคงไว้จนถึงตอนนี้

ฟางจินหยวนกลับโค้งคำนับตลอดเวลา ก้มหน้า ขาทั้งสองสั่นขึ้นมาอย่างไม่หยุด ต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นแต่อย่างใด ประเด็นคือฟางเหยียนยังไม่อ่อนข้อ

ฟางเหยียนหยิบยาเม็ดสีแดงออกมายื่นให้ฟางไห่อิง ละทิ้งความเย็นชา กล่าวเบาๆว่า “คุณน้า เมื่อกี๊ผมทำความเข้าใจแล้ว คุณน้าไม่มีอะไรสาหัส แค่ตกใจเกินไป ยาตัวนี้มีฤทธิ์ที่เพิ่มความแข็งแรงของสมรรถภาพร่างกายและความแข็งแกร่งของร่างกาย รีบทานเถอะครับ”

เสียดายของดีๆ?

ก็ไม่เชิง

นินจาล้วนรู้กันว่ายาตัวนี้มีฤทธิ์ประหลาด ยิ่งไปกว่านั้นยอมหัวล้างข้างแตกอย่างไม่ยอมแพ้ จนถึงขั้นยอมแลกชีวิตของตัวเอง ล้ำค่าเห็นแว็บเดียวก็ดูออก ถึงแม้เป็นคนธรรมดาทานไปก็มีอายุเป็นร้อยๆปีได้สบายมาก

ให้ฟางไห่อิงทาน สิ้นเปลืองมั้ย?

ไม่

ฟางไห่อิงเป็นคนที่เขาผูกพันเพียงคนเดียวในตระกูลฟาง ถึงแม้ต้องทุ่มเทด้วยชีวิตของตัวเองเขาก็ไม่ลังเล

แต่ฟางไห่อิงไม่ได้ทานลงไป สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วกล่าว “เสี่ยวเหยียน คุณปู่ขอโทษแกแล้ว แกยกโทษให้เขาได้มั้ย เขาก็ไม่ง่ายเลย หลายปีมานี้มีชีวิตอยู่บนความรู้เสียใจกับการกระทำ ร่างกายยิ่งแย่ลงทุกที แย่ลงสุดๆ โดยเฉพาะเรื่องร้ายๆของตระกูลฟางที่เจอในวันนี้ ทำให้เขาผมหงอก แก่ไปไม่น้อย น้าไม่หวังให้แกยกโทษให้เขา แต่เห็นแก่ที่เขาเป็นคุณปู่ของแก ปล่อยเขาไปได้มั้ย?”

ฟางเหยียนมองฟางไห่อิง หัวหน้ากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้รับผิดแล้ว ทำอะไรอยู่ตั้งนาน?คุณคิดว่าแค่โค้งคำนับจะชดเชยบาดแผลที่เกิดขึ้นกับภรรยาผมได้?เก็บการกระทำของคุณไว้ซะ เรื่องของคุณก็ดูท่าทีของคุณก็แล้วกัน!”

ฟางไห่อิงกะพริบตาอย่างตื้นตันให้ฟางเหยียน ทานยาอย่างเชื่อฟัง

ฟางจินหยวนถอนหายใจอย่างโล่งอก ขยับตัวช้าๆ ใบหน้าชราภาพเต็มไปด้วยความตื้นตัน เขาอยากไปขอโทษเย่ชิงหยู่จนรอไม่ไหวแล้ว

ฟางไห่อิงที่ทานยาลงไปใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดูๆแล้วท่าทีไม่เลวมาก แต่จากแววตาของเธอมองฟางเหมี่ยวอย่างเป็นห่วง ฟางเหยียนได้หยิบยาเม็ดหนึ่งยื่นให้เธอ “ทานกินเม็ดนี้แล้ว ไม่เกินสามวันเขาจะตื่นขึ้นมา”

ฟางไห่อิงไม่ปฏิเสธ กลับเป็นตงฟางหยุนเอ่อร์ที่มองยาเม็ดสีแดงที่ฟางเหยียนหยิบออกมาหลายครั้ง สั่นไปทั้งตัวอีกครั้ง แม้เธอจะไม่ใช่คนที่เรียนศิลปะการต่อสู้ และไม่ใช่นินจา แต่ตระกูลตงฟางของเธอมีนินจาจำนวนไม่น้อย รู้เกี่ยวกับยาขนานวิเศษอยู่บ้าง ตอนที่เขาหยิบยาเม็ดสีแดงนี้ขึ้นมา เธอค่อนข้างไม่มั่นใจ จนกระทั่งได้จับยาเม็ดนี้จากในมือของน้าสาว ก็ช็อกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ยาเม็ดสีแดงนี้ถ้าเอาไปขาย เกรงว่าราคาจะมหาศาล

และเพียงแค่มองคุณภาพของยาเม็ดนี้ ก็รู้แล้วว่ามาจากผู้เชี่ยวชาญ ฤทธิ์เทียบได้กับยาขนานวิเศษ

เขาหยิบออกมาง่ายๆแบบนี้ โดยไม่รีรอใดๆ เขาไม่รู้ราคาของยาตัวนี้จริงๆหรือเห็นจนชินแล้วกันนะ?ไม่มีเวลาคิดมาก เธอป้อนให้ฟางเหมี่ยวโดยตรง

หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ฟางเหยียนเพิ่งพบว่าขวังซืออยู่ด้านหลังเขา เดินตามทุกย่างก้าว และไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันแน่ ฟางจินหยวนก็พบเห็นความผิดปกติของขวังซือแล้ว ความคิดที่ไม่สมจริงสักเท่าไหร่ได้ผุดขึ้นในหัวของเขาช้าๆ หรือขวังซืออยากจากตระกูลฟางไปพร้อมกับฟางเหยียน?

พูดจริงๆ ว่าเขาสับสนเข้าให้แล้วจริงๆ ขวังซือเป็นสัตว์เจ้าที่ในตำนาน คนที่เขาจะยอมรับ ก็ต้องเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลฟางแน่นอน นี่เป็นจุดที่น่ายินดี แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือ ฟางเหยียนแข็งแกร่งมาก ทำร้ายขวังซือให้เจ็บหนักได้ง่ายๆ แล้วขวังซือยังให้เขาปกป้องอยู่มั้ย?ถ้าขวังซือไปจากตระกูลฟางล่ะ แล้วมีคนมาบุกถึงที่อีก แล้วตระกูลฟางจะเอาไหวมั้ย?

“แกอยากไปกับฉัน?” ฟางเหยียนมองขวังซือ กล่าวอย่างเย็นชา

ขวังซือร้องอาวๆ ร้องอย่างค่อนข้างตื่นเต้น แทบจะอยากแสดงอาการออกมาไม่ทัน คำตอบเป็นไปอย่างที่คิดไว้

“ไม่ แกอ่อนแอเกินไป!”

ประโยคเดียว ราวกับตีแสกหน้า ทำให้ขวังซือชะงักไปทันใด

ประโยคนี้กำลังเหยียดหยามขวังซืออยู่เหรอ?ขวังซือเป็นใคร?ยอดฝีมือระดับต้าชี่ที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบัน!

คนที่เหยียดหยามเขาได้ น่าจะมีแค่ฟางเหยียนแล้วล่ะ!

“รอให้แกมีฝีมือชนะฉันได้ก่อน ค่อยว่ากัน”

ฟางเหยียนพูดจบ ก็หันหลังแล้วจากไป!

เย็นชาโหดเหี้ยม!

ใช่ ในเมื่อไม่อยากข้องเกี่ยวกัน สู้ตัดความคิดของเขาไปโดยตรงเลยจะดีกว่า ดูเหมือนไร้ความรู้สึก ความจริงคือไม่อยากเกี่ยวพันกัน แม้เขาจะโกรธแค้นฟางจินหยวน แต่มีบางคนก็ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ถ้าขวังซือไปจากตระกูลฟาง บางทีอาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลฟาง เขาไม่อยากให้ฟางไห่อิงต้องเจอกับเรื่องราวร้ายๆอีก

ฟางจินหยวนถอนหายใจยาวๆ มองฟางเหยียนที่เดินไปยิ่งอยู่ยิ่งไกลขึ้นเรื่อย เขาก็ตะโกนอย่างร้อนใจว่า “เสี่ยวเหยียน แกจะไปไหน?”

ฟางเหยียนไม่ตอบ เมื่อจัดการปัญหาเสร็จ เขาก็ควรกลับได้แล้ว เดินไปเรื่อยๆไปที่ประตูใหญ่ตระกูลฟาง กลับถูกเงาๆหนึ่งขวางไว้ คนนี้ไม่ใช่ใคร ก็คือฟางฟัง น้องสาวของเขา

ฟางฟังผมกระเซอะกระเซิง ใบหน้าสวยงามทำจนสกปรกไปหมด ต่างจากเมื่อก่อนราวกับฟ้าและเหว ดูเหมือนลูกเจ้าแมวน้อยตัวลายตัวหนึ่ง แต่ตอนที่เธอมองฟางเหยียน ในแววตากลับปรากฏเป็นความจริงใจที่เหมือนน้ำใสๆออกมา

ฟางเหยียนไม่อยากหักหน้าของฟางฟัง จึงได้กล่าวอย่างสงบว่า “ปัญหาได้แก้ไขแล้ว ฉันก็ควรจะกลับได้แล้ว”

“คือ คือ……” ดูเหมือนฟางฟังค่อนข้างร้อนรน อ้าปากอย่างอ้ำๆอึ้งๆ กลับพูดอะไรไม่ออกมา แต่นัยน์ตาที่เหมือนกับน้ำคู่นั้นได้จ้องมาที่เขาโดยตรง ดูเหมือนมีอะไรจะพูด

“พูดมาเถอะ ฉันยุ่งมากนะ”

“งั้นก็ได้” ฟางฟังยิ้มหวาน ปรากฏเป็นลักยิ้มเล็กๆสองข้างออกมา ดูเหมือนมีความสุขมาก “พี่เหยียน ฉัน ฉันอยากให้พี่ส่งฉันกลับมหาลัยหน่อยค่ะ อืม คืองี้ค่ะ ฉันไม่ได้กลัวนะคะ ฉันก็แค่รู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่จำเป็นต้องอยู่ฟื้นฟูสิ่งต่างๆของตระกูลฟาง ถ้าพี่ไม่มีธุระอะไร ก็ส่งฉันหน่อยละกัน”

ฟางเหยียนยิ้มแหยๆออกมา เด็กสาวคนนี้ต้องการเกียรติเหมือนกันนะเนี่ย ตกใจจนตัวสั่นแล้วแท้ๆ ยังปากแข็งอีก!

เดิมทีเขาอยากปฏิเสธ แต่เมื่อนึกถึงเย่ชิงหยู่ ตอนที่ลุงเย่ถูกทำร้าย เย่ชิงหยู่หมดหนทางมากขนาดไหน ครอบครัวเปลี่ยนไป ทำให้ครอบครัวเล็กๆที่เดิมเต็มไปด้วยความอบอุ่นถูกทำลายไม่เป็นชิ้นดี นาทีนั้นเธอสิ้นหวังมากขนาดไหนกันนะ?

ตอนที่ลุงเย่เกิดเรื่อง เธอยังเป็นเด็กสาวที่อ่อนต่อโลก ชีวิตเคยให้โอกาสเธอได้หายใจเมื่อไหร่กัน!

ฟางเหยียนไม่รู้ ช่วงเวลานั้น เย่ชิงหยู่ต้องทนทุกข์ขนาดไหน แต่ตอนนี้ ฟางฟังก็เผชิญกับการโจมตีที่หนักหน่วงเช่นกัน เธอจะยืนหยัดแบบนั้นได้อย่างเย่ชิงหยู่มั้ย?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบทรงเกียรติยศ 646 เหยียดหยามขวังซือ

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 646 เหยียดหยามขวังซือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พี่เหยียน พี่ พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

ฟางเหยียนที่กำลังหยิบยาออกมาชะงักไป จากนั้นก็ส่ายหน้าเบาๆ ที่ตระกูลฟางนอกจากน้าสาวแล้ว ฟางฟังเป็นคนที่ทำให้เขาใส่ใจอีกคน

ฟางฟังเห็นฟางเหยียนไม่อยากพูดอะไรมาก ก็พับแขนเสื้อขึ้นช่วยงาน ทั้งพันแผลทั้งทำความสะอาด ยุ่งจนเกินความสมควร อารมณ์บนใบหน้าซับซ้อนมาก มีหวาดกลัว ร้อนอกร้อนใจ เจ็บปวดใจอีกทั้งรู้สึกผิด

และตอนที่ฟางฟังเห็นเรื่องร้ายๆของตระกูลฟาง ก็เข้าใจว่าอะไรคือการชื่นชมยินดีกับความสำเร็จที่ได้มาอย่างยากลำบาก ครอบครัวพร้อมหน้ากัน มีบ้านที่กำบัง บางทีนี่คือความหมายที่แท้จริงของชีวิต

คนที่ไม่ตระหนักความเป็นความตาย ไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนี้

เธอไม่เข้าใจมาโดยตลอด ตอนที่ฟางเหยียนถูกขับออกจากตระกูลฟาง เขายังละทิ้งความเกลียดที่อยู่ในใจ แล้วช่วยตระกูลฟางที่อยู่ในวิกฤต ความชอบธรรมความกล้าหาญนี้ เกรงว่าในอดีตไม่เคยปรากฏมาก่อน

เธอก็หวังว่าจะสามารถเข้าใจ รู้จักพี่ชายที่เต็มไปด้วยความแค้นและเย็นชาได้เช่นกัน

คุณปู่ฟางจินหยวนเป็นผู้นำของตระกูล มีอำนาจ คำไหนคำนั้น เข้มงวดกวดขัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฟางเหยียน จะมีท่าทีของผู้นำตระกูลได้อย่างไรกัน ความเกรงขามและความแข็งแกร่ง ดูเหมือนจะฝังเข้าไปในกระดูก โดยเฉพาะท่าทีในการขอโทษ ยังคงไว้จนถึงตอนนี้

ฟางจินหยวนกลับโค้งคำนับตลอดเวลา ก้มหน้า ขาทั้งสองสั่นขึ้นมาอย่างไม่หยุด ต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นแต่อย่างใด ประเด็นคือฟางเหยียนยังไม่อ่อนข้อ

ฟางเหยียนหยิบยาเม็ดสีแดงออกมายื่นให้ฟางไห่อิง ละทิ้งความเย็นชา กล่าวเบาๆว่า “คุณน้า เมื่อกี๊ผมทำความเข้าใจแล้ว คุณน้าไม่มีอะไรสาหัส แค่ตกใจเกินไป ยาตัวนี้มีฤทธิ์ที่เพิ่มความแข็งแรงของสมรรถภาพร่างกายและความแข็งแกร่งของร่างกาย รีบทานเถอะครับ”

เสียดายของดีๆ?

ก็ไม่เชิง

นินจาล้วนรู้กันว่ายาตัวนี้มีฤทธิ์ประหลาด ยิ่งไปกว่านั้นยอมหัวล้างข้างแตกอย่างไม่ยอมแพ้ จนถึงขั้นยอมแลกชีวิตของตัวเอง ล้ำค่าเห็นแว็บเดียวก็ดูออก ถึงแม้เป็นคนธรรมดาทานไปก็มีอายุเป็นร้อยๆปีได้สบายมาก

ให้ฟางไห่อิงทาน สิ้นเปลืองมั้ย?

ไม่

ฟางไห่อิงเป็นคนที่เขาผูกพันเพียงคนเดียวในตระกูลฟาง ถึงแม้ต้องทุ่มเทด้วยชีวิตของตัวเองเขาก็ไม่ลังเล

แต่ฟางไห่อิงไม่ได้ทานลงไป สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วกล่าว “เสี่ยวเหยียน คุณปู่ขอโทษแกแล้ว แกยกโทษให้เขาได้มั้ย เขาก็ไม่ง่ายเลย หลายปีมานี้มีชีวิตอยู่บนความรู้เสียใจกับการกระทำ ร่างกายยิ่งแย่ลงทุกที แย่ลงสุดๆ โดยเฉพาะเรื่องร้ายๆของตระกูลฟางที่เจอในวันนี้ ทำให้เขาผมหงอก แก่ไปไม่น้อย น้าไม่หวังให้แกยกโทษให้เขา แต่เห็นแก่ที่เขาเป็นคุณปู่ของแก ปล่อยเขาไปได้มั้ย?”

ฟางเหยียนมองฟางไห่อิง หัวหน้ากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้รับผิดแล้ว ทำอะไรอยู่ตั้งนาน?คุณคิดว่าแค่โค้งคำนับจะชดเชยบาดแผลที่เกิดขึ้นกับภรรยาผมได้?เก็บการกระทำของคุณไว้ซะ เรื่องของคุณก็ดูท่าทีของคุณก็แล้วกัน!”

ฟางไห่อิงกะพริบตาอย่างตื้นตันให้ฟางเหยียน ทานยาอย่างเชื่อฟัง

ฟางจินหยวนถอนหายใจอย่างโล่งอก ขยับตัวช้าๆ ใบหน้าชราภาพเต็มไปด้วยความตื้นตัน เขาอยากไปขอโทษเย่ชิงหยู่จนรอไม่ไหวแล้ว

ฟางไห่อิงที่ทานยาลงไปใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดูๆแล้วท่าทีไม่เลวมาก แต่จากแววตาของเธอมองฟางเหมี่ยวอย่างเป็นห่วง ฟางเหยียนได้หยิบยาเม็ดหนึ่งยื่นให้เธอ “ทานกินเม็ดนี้แล้ว ไม่เกินสามวันเขาจะตื่นขึ้นมา”

ฟางไห่อิงไม่ปฏิเสธ กลับเป็นตงฟางหยุนเอ่อร์ที่มองยาเม็ดสีแดงที่ฟางเหยียนหยิบออกมาหลายครั้ง สั่นไปทั้งตัวอีกครั้ง แม้เธอจะไม่ใช่คนที่เรียนศิลปะการต่อสู้ และไม่ใช่นินจา แต่ตระกูลตงฟางของเธอมีนินจาจำนวนไม่น้อย รู้เกี่ยวกับยาขนานวิเศษอยู่บ้าง ตอนที่เขาหยิบยาเม็ดสีแดงนี้ขึ้นมา เธอค่อนข้างไม่มั่นใจ จนกระทั่งได้จับยาเม็ดนี้จากในมือของน้าสาว ก็ช็อกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ยาเม็ดสีแดงนี้ถ้าเอาไปขาย เกรงว่าราคาจะมหาศาล

และเพียงแค่มองคุณภาพของยาเม็ดนี้ ก็รู้แล้วว่ามาจากผู้เชี่ยวชาญ ฤทธิ์เทียบได้กับยาขนานวิเศษ

เขาหยิบออกมาง่ายๆแบบนี้ โดยไม่รีรอใดๆ เขาไม่รู้ราคาของยาตัวนี้จริงๆหรือเห็นจนชินแล้วกันนะ?ไม่มีเวลาคิดมาก เธอป้อนให้ฟางเหมี่ยวโดยตรง

หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ฟางเหยียนเพิ่งพบว่าขวังซืออยู่ด้านหลังเขา เดินตามทุกย่างก้าว และไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันแน่ ฟางจินหยวนก็พบเห็นความผิดปกติของขวังซือแล้ว ความคิดที่ไม่สมจริงสักเท่าไหร่ได้ผุดขึ้นในหัวของเขาช้าๆ หรือขวังซืออยากจากตระกูลฟางไปพร้อมกับฟางเหยียน?

พูดจริงๆ ว่าเขาสับสนเข้าให้แล้วจริงๆ ขวังซือเป็นสัตว์เจ้าที่ในตำนาน คนที่เขาจะยอมรับ ก็ต้องเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลฟางแน่นอน นี่เป็นจุดที่น่ายินดี แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือ ฟางเหยียนแข็งแกร่งมาก ทำร้ายขวังซือให้เจ็บหนักได้ง่ายๆ แล้วขวังซือยังให้เขาปกป้องอยู่มั้ย?ถ้าขวังซือไปจากตระกูลฟางล่ะ แล้วมีคนมาบุกถึงที่อีก แล้วตระกูลฟางจะเอาไหวมั้ย?

“แกอยากไปกับฉัน?” ฟางเหยียนมองขวังซือ กล่าวอย่างเย็นชา

ขวังซือร้องอาวๆ ร้องอย่างค่อนข้างตื่นเต้น แทบจะอยากแสดงอาการออกมาไม่ทัน คำตอบเป็นไปอย่างที่คิดไว้

“ไม่ แกอ่อนแอเกินไป!”

ประโยคเดียว ราวกับตีแสกหน้า ทำให้ขวังซือชะงักไปทันใด

ประโยคนี้กำลังเหยียดหยามขวังซืออยู่เหรอ?ขวังซือเป็นใคร?ยอดฝีมือระดับต้าชี่ที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบัน!

คนที่เหยียดหยามเขาได้ น่าจะมีแค่ฟางเหยียนแล้วล่ะ!

“รอให้แกมีฝีมือชนะฉันได้ก่อน ค่อยว่ากัน”

ฟางเหยียนพูดจบ ก็หันหลังแล้วจากไป!

เย็นชาโหดเหี้ยม!

ใช่ ในเมื่อไม่อยากข้องเกี่ยวกัน สู้ตัดความคิดของเขาไปโดยตรงเลยจะดีกว่า ดูเหมือนไร้ความรู้สึก ความจริงคือไม่อยากเกี่ยวพันกัน แม้เขาจะโกรธแค้นฟางจินหยวน แต่มีบางคนก็ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ถ้าขวังซือไปจากตระกูลฟาง บางทีอาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลฟาง เขาไม่อยากให้ฟางไห่อิงต้องเจอกับเรื่องราวร้ายๆอีก

ฟางจินหยวนถอนหายใจยาวๆ มองฟางเหยียนที่เดินไปยิ่งอยู่ยิ่งไกลขึ้นเรื่อย เขาก็ตะโกนอย่างร้อนใจว่า “เสี่ยวเหยียน แกจะไปไหน?”

ฟางเหยียนไม่ตอบ เมื่อจัดการปัญหาเสร็จ เขาก็ควรกลับได้แล้ว เดินไปเรื่อยๆไปที่ประตูใหญ่ตระกูลฟาง กลับถูกเงาๆหนึ่งขวางไว้ คนนี้ไม่ใช่ใคร ก็คือฟางฟัง น้องสาวของเขา

ฟางฟังผมกระเซอะกระเซิง ใบหน้าสวยงามทำจนสกปรกไปหมด ต่างจากเมื่อก่อนราวกับฟ้าและเหว ดูเหมือนลูกเจ้าแมวน้อยตัวลายตัวหนึ่ง แต่ตอนที่เธอมองฟางเหยียน ในแววตากลับปรากฏเป็นความจริงใจที่เหมือนน้ำใสๆออกมา

ฟางเหยียนไม่อยากหักหน้าของฟางฟัง จึงได้กล่าวอย่างสงบว่า “ปัญหาได้แก้ไขแล้ว ฉันก็ควรจะกลับได้แล้ว”

“คือ คือ……” ดูเหมือนฟางฟังค่อนข้างร้อนรน อ้าปากอย่างอ้ำๆอึ้งๆ กลับพูดอะไรไม่ออกมา แต่นัยน์ตาที่เหมือนกับน้ำคู่นั้นได้จ้องมาที่เขาโดยตรง ดูเหมือนมีอะไรจะพูด

“พูดมาเถอะ ฉันยุ่งมากนะ”

“งั้นก็ได้” ฟางฟังยิ้มหวาน ปรากฏเป็นลักยิ้มเล็กๆสองข้างออกมา ดูเหมือนมีความสุขมาก “พี่เหยียน ฉัน ฉันอยากให้พี่ส่งฉันกลับมหาลัยหน่อยค่ะ อืม คืองี้ค่ะ ฉันไม่ได้กลัวนะคะ ฉันก็แค่รู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่จำเป็นต้องอยู่ฟื้นฟูสิ่งต่างๆของตระกูลฟาง ถ้าพี่ไม่มีธุระอะไร ก็ส่งฉันหน่อยละกัน”

ฟางเหยียนยิ้มแหยๆออกมา เด็กสาวคนนี้ต้องการเกียรติเหมือนกันนะเนี่ย ตกใจจนตัวสั่นแล้วแท้ๆ ยังปากแข็งอีก!

เดิมทีเขาอยากปฏิเสธ แต่เมื่อนึกถึงเย่ชิงหยู่ ตอนที่ลุงเย่ถูกทำร้าย เย่ชิงหยู่หมดหนทางมากขนาดไหน ครอบครัวเปลี่ยนไป ทำให้ครอบครัวเล็กๆที่เดิมเต็มไปด้วยความอบอุ่นถูกทำลายไม่เป็นชิ้นดี นาทีนั้นเธอสิ้นหวังมากขนาดไหนกันนะ?

ตอนที่ลุงเย่เกิดเรื่อง เธอยังเป็นเด็กสาวที่อ่อนต่อโลก ชีวิตเคยให้โอกาสเธอได้หายใจเมื่อไหร่กัน!

ฟางเหยียนไม่รู้ ช่วงเวลานั้น เย่ชิงหยู่ต้องทนทุกข์ขนาดไหน แต่ตอนนี้ ฟางฟังก็เผชิญกับการโจมตีที่หนักหน่วงเช่นกัน เธอจะยืนหยัดแบบนั้นได้อย่างเย่ชิงหยู่มั้ย?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+