จอมนักรบทรงเกียรติยศ 721 ต้องไปอยู่บนจุดสูงสุด

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 721 ต้องไปอยู่บนจุดสูงสุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฝีมือดีไร้คู่แข่ง? ”อู๋จี๋หัวเราะเยาะ“ฉันนึกว่าแกจะหลบซ่อนไปได้นานถึงเท่าไหร่กัน! ”

พูดจบอู๋จี๋ก็พร้อมลงมือ!

ชายคนนั้นอ้อนวอนขอความเมตตาในทันที “ท่านผู้อาวุโส โปรดเมตตาข้าด้วยเถอะ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อร้องขอความตาย แต่ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเรื่องบางเรื่องกับท่านผู้อาวุโส เป็นเรื่องสำคัญที่ว่าผู้อาวุโสจะแก้แค้นได้หรือไม่ได้นั้นเอง”

“อะไรนะ?” อู๋จี๋ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยความสงสัย “พูดมา!”

ใช่แล้ว คนที่ปรากฏตัวที่นี่ก็คือหยินฮว่า!

ตั้งแต่สาขาขององค์กรนินจาถูกทำลายพวกเขาก็รีบจัดการวางแผนและตรวจสอบในทันที และหลังจากยืนยันว่าบุคคลนี้ยังอยู่ที่สำนักไร้หน้าเขาก็รีบเดินทางมาในทันที เดิมทีเขาต้องการปรากฏตัวโดยตรง แต่พบว่ามีผู้มีฝีมือสูงสองคนปรากฏขึ้นทีละคน เขาจึงทำได้เพียงรอจนถึงตอนนี้

แต่เมื่อเขาเห็นอู๋จี๋ก่อเหตุสังหารปรมาจารย์ด้วยสองตาของตัวเขาเอง เขาก็รู้สึกเพียงว่าหัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมา!

แข็งแกร่ง!

ช่างแข็งแกร่งอะไรเยี่ยงนี้!

อย่างที่ทราบกันดีว่าในประเทศหวามีนินจาระดับปรมาจารย์เพียงสี่คนเท่านั้น แต่เขาสามารถฆ่านินจาระดับปรมาจารย์ได้อย่างง่ายดาย บุคคลอันตรายนี้จะปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตาไม่ได้!

พลังอำนาจที่น่าเกรงขามหายไปในทันที หยินฮว่าจัดแต่งทรงผมและเสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ว่า “ท่านผู้อาวุโสได้สังหารบางส่วนขององค์กรนินจา ข้าเพียงแค่ต้องการรู้สิ่งหนึ่งนั่นก็คือสาเหตุที่สำนักไร้หน้าก่อเหตุสังหาร เผอิญข้าได้ไปรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพอดี”

ปัง!

หยินฮว่าโดนเตะกระเด็นออกไปสามเมตร

เขาลุกขึ้นแล้วถามอย่างงุนงง “ท่านผู้อาวุโส ท่านทำอะไร?”

“ข้าไม่ได้ต้องการมาฟังเองพูดเรื่องไร้สาระ!”อู๋จี๋กล่าวอย่างเลือดเย็น“ถ้ามีครั้งหน้าอีกแกตายแน่!”

หยินฮว่าเช็ดเลือดจากมุมปาก “ท่านผู้อาวุโส คนที่ทำลายสำนักไร้หน้าของท่านคือคนที่ชื่อว่า

ฟางเหยียน! ”

“ฟางเหยียน?” อู๋จี๋พยายามนึกชื่อนี้ในใจ แต่หลังจากนึกคิดอยู่นาน เขาก็ทำได้เพียงส่ายหัว เขาจำไม่ได้ว่ามีผู้นำสูงสุดชื่อนี้เมื่อร้อยปีที่แล้ว

หยินฮว่าสังเกตเห็นความอยากรู้ของอู๋จี๋ จึงไม่กล้าพูดอ้อม ย้อนยอก รีบชี้บอกตัวตนของเขาคนนั้นโดยตรง  “เขาเป็นจอมพลทหารสูงสุดที่ปกป้องดินแดนของประเทศหวา  จอมพลแห่งการทำลาย!”

แม้ว่าเขาจะอยู่อย่างสันโดษมาร้อยปีและละเว้นเรื่องทางโลกแล้ว แต่อู๋จี๋ก็พอจะรู้ว่าบุคคลที่สามารถเป็นจอมพลสูงสุดได้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เมื่อครุ่นคิดสักพักอู๋จี๋ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมในเมื่อเขาเป็นถึงจอมพลสูงสุดที่ปกป้องแผ่นดิน ถึงยังต้องทำลายสำนักไร้หน้าได้พังพินาศย่อยยับขนาดนี้? สำนักไร้หน้าก็สืบทอดกันมากว่าพันปีแล้ว และยังอยู่ภายใต้การคุ้มครองของประเทศหวาอีกด้วย

เขารู้สึกสงสัยอยู่ในใจ!

ใช่แล้ว!

สำนักไร้หน้าไม่ใช่องค์กรชั่วร้ายซะหน่อย ต่อให้มีการต่อสู้กันภายใน แต่สำหรับเรื่องของประเทศชาติแล้วพวกเขาไม่เกี่ยงงอนในเรื่องที่ควรกระทำ คนที่มีทรัพย์สินก็ลงทุนในด้านทรัพย์สินไป ส่วนคนที่มีพละกำลังก็ลงทุนในส่วนนี้ไป

หยินฮว่าดูออกว่าอู๋จี๋ไม่เชื่อในคำพูดของตน จึงต้องพูดเสี้ยมต่อไปว่า “ท่านผู้อาวุโส เหตุผลหลักที่สำนักไร้หน้าถูกทำลายก็เพราะว่าภริยาของจอมพลท่านนี้ถูกกลั่นแกล้ง คนที่กลั่นแกล้งเธอก็คือแก๊งซินหงครับ จอมพลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแทนภริยาของเขา เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะกำจัดแก๊งซินหงในเมืองจินโจว และด้วยเหตุนี้สำนักไร้หน้าจึงถูกกำจัดไปด้วยครับ!”

“ดังนั้นสำนักไร้หน้าจึงถูกทำลายพังพินาศย่อยยับ!”

ทันใดนั้นไฟแห่งความโกรธลุกโชนขึ้นในใจของอู๋จี๋ รังสีแห่งความสังหารแผ่ซ่านไปทั้งตัวของเขา!

ฆ่าทำลายเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว!

จอมพลคนนี้ช่างโอหังคลั่งอำนาจยิ่งนัก!

หยินฮว่ารู้ดีว่าไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมกับคนที่แกร่งกล้าประเภทนี้ ความตรงประเด็น

เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

“ท่านผู้อาวุโส ข้ามาจากองค์กรสัตว์เพลิงครับ!”

เมื่อกล่าวถึงองค์กรสัตว์เพลิง อู๋จี๋ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย!

เขารู้จักองค์กรสัตว์เพลิงดีอยู่แล้ว!

ร้อยปีที่แล้วเขาได้ไปที่องค์กรสัตว์เพลิงเพื่อกำจัดผู้นำองค์กรของเขา และสามารถเข้าควบคุมสำนักไร้หน้าได้สำเร็จ แต่เขากลับถูกคนอื่นตัดหน้ามาแย่งชิงไป ทำให้เขาอับอายขายหน้าไปทั่วสารทิศ ในเวลานั้นเขารู้ดีว่าความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นตัวแทนของทุกสิ่ง!

มันคือลมเปลี่ยนทิศ!

ไม่น่าเชื่อว่าความอัปยศเมื่อร้อยปีที่แล้วจะเป็นผลดีในอีกร้อยปีต่อมา!

นี่คือประโยชน์ของความแข็งแกร่ง!

“แม้ว่าท่านผู้อาวุโสจะมีพรสวรรค์ในการต่อสู้ มีความสามารถทำลายล้างภูเขาและแม่น้ำได้ แต่ก็ไม่สามารถต่อสู้ได้เพียงลำพังได้ และเท่าที่ข้ารู้ตอนนี้ท่านผู้อาวุโสอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” เมื่อพูดถึงตรงนี้หยินฮว่าตระหนักถึงบางอย่างจึงรีบเปลี่ยนคำพูดในทันที “แน่นอนว่าท่านผู้อาวุโสทั้งฉลาดและกล้าหาญ ไม่มีศัตรูในยุคปัจจุบัน ท่านจะไปกลัวได้อย่างไรใช่ไหมครับ? แต่สองมือก็ยากที่จะเอาชนะสี่มือ ทางองค์กรสัตว์เพลิงของเราก็พร้อมที่จะยินดีอำนวยความสะดวกแก่ท่านผู้อาวุโส พวกเรามีศัตรูคนเดียว ได้โปรดรับไปพิจารณาด้วยเถอะครับ”

“ขอโทษนะ เจ้าอ่อนแอเกินไป!”

หยินฮว่า“……”

คำพูดนี้ทำเอาหยินฮว่าอยากกระทืบเขาในทันที!

“ท่านผู้อาวุโส ไม่ลองฟังคำที่ข้าจะพูดต่อไปนี้เหรอครับ” หยินฮว่าพยายามสงบสติอารมณ์ข้างในใจไม่ให้แสดงออกมาทางสีหน้า

“ในความเป็นจริงนอกจากฟางเหยียนจะเกิดบันดาลโทสะเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวแล้ว เขายังเป็นปีศาจที่น่ารังเกียจอีกด้วยครับ เพื่อที่จะได้สมบัติล้ำค่าของสำนักลึกลับ เขาไม่ลังเลเลยที่จะทำลายอีกสองสักนัก ที่แรกคือสำนักเทียนซือ ส่วนอีกที่คือสำนักไร้หน้า  ตอนนี้ตราประทับเทียนซือของสำนักเทียนซืออยู่ในมือเขาแล้วครับ และตอนนี้เขากำลังตามหาน้ำไร้หน้าของสำนักไร้หน้าอยู่ครับ ”

“แน่นอนว่าองค์กรสัตว์เพลิงของพวกเรายังต้องเล่นละครเป็นพิพากษาในเรื่องนี้ด้วย แต่เราจะยับยั้งจอมพลผู้มีอำนาจได้อย่างไร? พวกเราต้องรวมแรงรวมใจกันถึงจะกำจัดปีศาจตนนี้ได้”

หยินฮว่ายังพูดเสริมไปอีกว่า “เท่าที่ข้ารู้มาก็คือ จอมพลหน้าเลือดได้น้ำไร้หน้าไปครอบครองแล้ว ท่านผู้อาวุโสต้องการก่อตั้งสำนักไร้หน้าขึ้นมาใหม่แล้วจะปล่อยให้สมบัติอันล้ำค่าไปอยู่ในมือคนอื่นงั้นหรือครับ?”

“อะไรนะ? น้ำไร้หน้าอยู่กับมันเหรอ?” อู๋จี๋ผงะไปครู่หนึ่งแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

รอยยิ้มนี้ทำให้หยินฮว่าได้กลิ่นของ กลอุบายสกัดกั้นแผนชั่วร้าย

“ท่านผู้อาวุโส ข้าต้องการจะบอกท่านว่าเขาได้สมบัติล้ำค่าไปแล้วสองสำนักจากทั้งห้าสำนัก อีกสามสำนักนั้นไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ รวมทั้งองค์กรสัตว์เพลิงของข้าก็นั่งไม่ติดที่แล้ว!”

“เพราะน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ข้าคิดว่าท่านคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ใช่ไหม?”

“เจ้าต้องการให้ข้าจัดการกับฟางเหยียนงั้นเหรอ?”

“ไม่ ไม่ ไม่!” หยินฮว่าส่ายหัว “ท่านผู้อาวุโส ผู้น้อยอย่างข้าจะกล้าสั่งท่านได้อย่างไร ข้าเพียงแค่เสียดายที่น้ำไร้หน้าไปอยู่ในมือของเขา และรู้สึกว่ามันไม่คุ้มแทนท่านผู้อาวุโสเท่านั้นเอง”

“ใครบอกว่าน้ำไร้หน้าอยู่ในมือของเขา?”

ว่าไงนะ?

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!

สิ่งที่อู๋จี๋พูด แน่นอนว่าฟางเหยียนไม่ได้น้ำไร้หน้าไปครอบครอง แล้วทำไมฟางเหยียนถึงโอ้อวดไปทั่วว่าได้น้ำไร้หน้าไปครอบครองแล้ว?

หยินฮว่าถามอย่างไม่แน่ใจ “ท่านผู้อาวุโส หหมายความว่าน้ำไร้หน้ายังไม่ไปไหนงั้นหรือ?”

อู๋จี๋ยิ้มเยาะแล้วชี้ไปที่หัวใจของตัวเอง “แทบจะไม่มีใครคาดถึง ของล้ำค่าของสำนักไร้หน้าที่ไม่ได้เปิดเผยให้คนทั่วไปได้รับรู้จะเป็นแค่หัวใจหนึ่งดวง ข้าได้ขัดเกลาหัวใจนี้มาเป็นเวลาร้อยปีแล้ว ถึงได้ควักหัวใจของตัวเองทิ้งแล้วแทนด้วยมัน ฮ่าฮ่าฮ่า…… ”

“อะไรนะ!” หยินฮว่ารู้สึกอึ้งมาก!

น้ำไร้หน้าคือหัวใจหนึ่งดวง!

นี่มันอะไรกัน!

เป็นไปได้ยังไง!

แต่ท่าทางของอู๋จี๋ก็ดูจริงจัง ดูไม่ใช่เรื่องโกหก!

“ท่านผู้อาวุโส สิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริงหรอกหรือ?”

“ข้าจะหลอกผู้อ่อนอาวุโสอย่างเจ้าไปทำไม” อู๋จี๋หัวเราะเยาะ “เจ้าก็ไม่ต้องพูดเกลี้ยกล่อมข้าให้เปลืองแรงหรอก ข้าไม่ได้สนใจหรอกว่าจะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้หรือไม่ แต่ในเมื่อเจ้ามาที่นี่พร้อมจุดประสงค์ พวกเจ้าอยากให้ข้าจัดการฟางเหยียน ข้าสามารถรับปากจะจัดการให้ได้ แต่อยากบอกว่าผลประโยชน์คือสิ่งที่มีตลอดไป!”

“ดังนั้นความจริงใจขององค์กรสัตว์เพลิงจะมีมากน้อยเท่าไหร่ ก็ต้องดูว่าข้าจะถูกล่อใจได้หรือไม่!”

การเจรจาเงื่อนไขอย่างโจ่งแจ้ง!

อู๋จี๋เขามีความสามารถเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว!

การสังหารนินจาระดับปรมาจารย์คือสิ่งที่ทำผู้คนรู้จักชื่อของเขา และยังเป็นการเตือนองค์กรสัตว์เพลิงอีกด้วย  อู๋จี๋ไม่ใช่ขยะที่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน วันนี้เขากลับมาอย่างพระราชา นอกจากการแก้แค้นก็คือการแก้แค้น!

ไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้นสำนักไร้หน้าหรือความเกลียดชังความอัปยศในตอนนั้น เขาต้องชนะ!

หยินฮว่า ไม่รู้จะตอบอย่างไร

ชายคนนี้คุยโวไม่น้อยเลย สิงโตคำรามยากจะหลีกเลี่ยง

“ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล มาพูดถึงคุณค่าทางจิตใจของข้ากันดีกว่า”

หยินฮว่าถอนหายใจแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เชิญท่านผู้อาวุโสพูดได้เลยครับ”

“ต้องขึ้นไปอยู่ไปจุดสูงสุด!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบทรงเกียรติยศ 721 ต้องไปอยู่บนจุดสูงสุด

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 721 ต้องไปอยู่บนจุดสูงสุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฝีมือดีไร้คู่แข่ง? ”อู๋จี๋หัวเราะเยาะ“ฉันนึกว่าแกจะหลบซ่อนไปได้นานถึงเท่าไหร่กัน! ”

พูดจบอู๋จี๋ก็พร้อมลงมือ!

ชายคนนั้นอ้อนวอนขอความเมตตาในทันที “ท่านผู้อาวุโส โปรดเมตตาข้าด้วยเถอะ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อร้องขอความตาย แต่ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเรื่องบางเรื่องกับท่านผู้อาวุโส เป็นเรื่องสำคัญที่ว่าผู้อาวุโสจะแก้แค้นได้หรือไม่ได้นั้นเอง”

“อะไรนะ?” อู๋จี๋ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยความสงสัย “พูดมา!”

ใช่แล้ว คนที่ปรากฏตัวที่นี่ก็คือหยินฮว่า!

ตั้งแต่สาขาขององค์กรนินจาถูกทำลายพวกเขาก็รีบจัดการวางแผนและตรวจสอบในทันที และหลังจากยืนยันว่าบุคคลนี้ยังอยู่ที่สำนักไร้หน้าเขาก็รีบเดินทางมาในทันที เดิมทีเขาต้องการปรากฏตัวโดยตรง แต่พบว่ามีผู้มีฝีมือสูงสองคนปรากฏขึ้นทีละคน เขาจึงทำได้เพียงรอจนถึงตอนนี้

แต่เมื่อเขาเห็นอู๋จี๋ก่อเหตุสังหารปรมาจารย์ด้วยสองตาของตัวเขาเอง เขาก็รู้สึกเพียงว่าหัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมา!

แข็งแกร่ง!

ช่างแข็งแกร่งอะไรเยี่ยงนี้!

อย่างที่ทราบกันดีว่าในประเทศหวามีนินจาระดับปรมาจารย์เพียงสี่คนเท่านั้น แต่เขาสามารถฆ่านินจาระดับปรมาจารย์ได้อย่างง่ายดาย บุคคลอันตรายนี้จะปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตาไม่ได้!

พลังอำนาจที่น่าเกรงขามหายไปในทันที หยินฮว่าจัดแต่งทรงผมและเสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ว่า “ท่านผู้อาวุโสได้สังหารบางส่วนขององค์กรนินจา ข้าเพียงแค่ต้องการรู้สิ่งหนึ่งนั่นก็คือสาเหตุที่สำนักไร้หน้าก่อเหตุสังหาร เผอิญข้าได้ไปรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพอดี”

ปัง!

หยินฮว่าโดนเตะกระเด็นออกไปสามเมตร

เขาลุกขึ้นแล้วถามอย่างงุนงง “ท่านผู้อาวุโส ท่านทำอะไร?”

“ข้าไม่ได้ต้องการมาฟังเองพูดเรื่องไร้สาระ!”อู๋จี๋กล่าวอย่างเลือดเย็น“ถ้ามีครั้งหน้าอีกแกตายแน่!”

หยินฮว่าเช็ดเลือดจากมุมปาก “ท่านผู้อาวุโส คนที่ทำลายสำนักไร้หน้าของท่านคือคนที่ชื่อว่า

ฟางเหยียน! ”

“ฟางเหยียน?” อู๋จี๋พยายามนึกชื่อนี้ในใจ แต่หลังจากนึกคิดอยู่นาน เขาก็ทำได้เพียงส่ายหัว เขาจำไม่ได้ว่ามีผู้นำสูงสุดชื่อนี้เมื่อร้อยปีที่แล้ว

หยินฮว่าสังเกตเห็นความอยากรู้ของอู๋จี๋ จึงไม่กล้าพูดอ้อม ย้อนยอก รีบชี้บอกตัวตนของเขาคนนั้นโดยตรง  “เขาเป็นจอมพลทหารสูงสุดที่ปกป้องดินแดนของประเทศหวา  จอมพลแห่งการทำลาย!”

แม้ว่าเขาจะอยู่อย่างสันโดษมาร้อยปีและละเว้นเรื่องทางโลกแล้ว แต่อู๋จี๋ก็พอจะรู้ว่าบุคคลที่สามารถเป็นจอมพลสูงสุดได้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เมื่อครุ่นคิดสักพักอู๋จี๋ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมในเมื่อเขาเป็นถึงจอมพลสูงสุดที่ปกป้องแผ่นดิน ถึงยังต้องทำลายสำนักไร้หน้าได้พังพินาศย่อยยับขนาดนี้? สำนักไร้หน้าก็สืบทอดกันมากว่าพันปีแล้ว และยังอยู่ภายใต้การคุ้มครองของประเทศหวาอีกด้วย

เขารู้สึกสงสัยอยู่ในใจ!

ใช่แล้ว!

สำนักไร้หน้าไม่ใช่องค์กรชั่วร้ายซะหน่อย ต่อให้มีการต่อสู้กันภายใน แต่สำหรับเรื่องของประเทศชาติแล้วพวกเขาไม่เกี่ยงงอนในเรื่องที่ควรกระทำ คนที่มีทรัพย์สินก็ลงทุนในด้านทรัพย์สินไป ส่วนคนที่มีพละกำลังก็ลงทุนในส่วนนี้ไป

หยินฮว่าดูออกว่าอู๋จี๋ไม่เชื่อในคำพูดของตน จึงต้องพูดเสี้ยมต่อไปว่า “ท่านผู้อาวุโส เหตุผลหลักที่สำนักไร้หน้าถูกทำลายก็เพราะว่าภริยาของจอมพลท่านนี้ถูกกลั่นแกล้ง คนที่กลั่นแกล้งเธอก็คือแก๊งซินหงครับ จอมพลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแทนภริยาของเขา เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะกำจัดแก๊งซินหงในเมืองจินโจว และด้วยเหตุนี้สำนักไร้หน้าจึงถูกกำจัดไปด้วยครับ!”

“ดังนั้นสำนักไร้หน้าจึงถูกทำลายพังพินาศย่อยยับ!”

ทันใดนั้นไฟแห่งความโกรธลุกโชนขึ้นในใจของอู๋จี๋ รังสีแห่งความสังหารแผ่ซ่านไปทั้งตัวของเขา!

ฆ่าทำลายเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว!

จอมพลคนนี้ช่างโอหังคลั่งอำนาจยิ่งนัก!

หยินฮว่ารู้ดีว่าไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมกับคนที่แกร่งกล้าประเภทนี้ ความตรงประเด็น

เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

“ท่านผู้อาวุโส ข้ามาจากองค์กรสัตว์เพลิงครับ!”

เมื่อกล่าวถึงองค์กรสัตว์เพลิง อู๋จี๋ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย!

เขารู้จักองค์กรสัตว์เพลิงดีอยู่แล้ว!

ร้อยปีที่แล้วเขาได้ไปที่องค์กรสัตว์เพลิงเพื่อกำจัดผู้นำองค์กรของเขา และสามารถเข้าควบคุมสำนักไร้หน้าได้สำเร็จ แต่เขากลับถูกคนอื่นตัดหน้ามาแย่งชิงไป ทำให้เขาอับอายขายหน้าไปทั่วสารทิศ ในเวลานั้นเขารู้ดีว่าความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นตัวแทนของทุกสิ่ง!

มันคือลมเปลี่ยนทิศ!

ไม่น่าเชื่อว่าความอัปยศเมื่อร้อยปีที่แล้วจะเป็นผลดีในอีกร้อยปีต่อมา!

นี่คือประโยชน์ของความแข็งแกร่ง!

“แม้ว่าท่านผู้อาวุโสจะมีพรสวรรค์ในการต่อสู้ มีความสามารถทำลายล้างภูเขาและแม่น้ำได้ แต่ก็ไม่สามารถต่อสู้ได้เพียงลำพังได้ และเท่าที่ข้ารู้ตอนนี้ท่านผู้อาวุโสอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” เมื่อพูดถึงตรงนี้หยินฮว่าตระหนักถึงบางอย่างจึงรีบเปลี่ยนคำพูดในทันที “แน่นอนว่าท่านผู้อาวุโสทั้งฉลาดและกล้าหาญ ไม่มีศัตรูในยุคปัจจุบัน ท่านจะไปกลัวได้อย่างไรใช่ไหมครับ? แต่สองมือก็ยากที่จะเอาชนะสี่มือ ทางองค์กรสัตว์เพลิงของเราก็พร้อมที่จะยินดีอำนวยความสะดวกแก่ท่านผู้อาวุโส พวกเรามีศัตรูคนเดียว ได้โปรดรับไปพิจารณาด้วยเถอะครับ”

“ขอโทษนะ เจ้าอ่อนแอเกินไป!”

หยินฮว่า“……”

คำพูดนี้ทำเอาหยินฮว่าอยากกระทืบเขาในทันที!

“ท่านผู้อาวุโส ไม่ลองฟังคำที่ข้าจะพูดต่อไปนี้เหรอครับ” หยินฮว่าพยายามสงบสติอารมณ์ข้างในใจไม่ให้แสดงออกมาทางสีหน้า

“ในความเป็นจริงนอกจากฟางเหยียนจะเกิดบันดาลโทสะเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวแล้ว เขายังเป็นปีศาจที่น่ารังเกียจอีกด้วยครับ เพื่อที่จะได้สมบัติล้ำค่าของสำนักลึกลับ เขาไม่ลังเลเลยที่จะทำลายอีกสองสักนัก ที่แรกคือสำนักเทียนซือ ส่วนอีกที่คือสำนักไร้หน้า  ตอนนี้ตราประทับเทียนซือของสำนักเทียนซืออยู่ในมือเขาแล้วครับ และตอนนี้เขากำลังตามหาน้ำไร้หน้าของสำนักไร้หน้าอยู่ครับ ”

“แน่นอนว่าองค์กรสัตว์เพลิงของพวกเรายังต้องเล่นละครเป็นพิพากษาในเรื่องนี้ด้วย แต่เราจะยับยั้งจอมพลผู้มีอำนาจได้อย่างไร? พวกเราต้องรวมแรงรวมใจกันถึงจะกำจัดปีศาจตนนี้ได้”

หยินฮว่ายังพูดเสริมไปอีกว่า “เท่าที่ข้ารู้มาก็คือ จอมพลหน้าเลือดได้น้ำไร้หน้าไปครอบครองแล้ว ท่านผู้อาวุโสต้องการก่อตั้งสำนักไร้หน้าขึ้นมาใหม่แล้วจะปล่อยให้สมบัติอันล้ำค่าไปอยู่ในมือคนอื่นงั้นหรือครับ?”

“อะไรนะ? น้ำไร้หน้าอยู่กับมันเหรอ?” อู๋จี๋ผงะไปครู่หนึ่งแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

รอยยิ้มนี้ทำให้หยินฮว่าได้กลิ่นของ กลอุบายสกัดกั้นแผนชั่วร้าย

“ท่านผู้อาวุโส ข้าต้องการจะบอกท่านว่าเขาได้สมบัติล้ำค่าไปแล้วสองสำนักจากทั้งห้าสำนัก อีกสามสำนักนั้นไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ รวมทั้งองค์กรสัตว์เพลิงของข้าก็นั่งไม่ติดที่แล้ว!”

“เพราะน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ข้าคิดว่าท่านคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ใช่ไหม?”

“เจ้าต้องการให้ข้าจัดการกับฟางเหยียนงั้นเหรอ?”

“ไม่ ไม่ ไม่!” หยินฮว่าส่ายหัว “ท่านผู้อาวุโส ผู้น้อยอย่างข้าจะกล้าสั่งท่านได้อย่างไร ข้าเพียงแค่เสียดายที่น้ำไร้หน้าไปอยู่ในมือของเขา และรู้สึกว่ามันไม่คุ้มแทนท่านผู้อาวุโสเท่านั้นเอง”

“ใครบอกว่าน้ำไร้หน้าอยู่ในมือของเขา?”

ว่าไงนะ?

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!

สิ่งที่อู๋จี๋พูด แน่นอนว่าฟางเหยียนไม่ได้น้ำไร้หน้าไปครอบครอง แล้วทำไมฟางเหยียนถึงโอ้อวดไปทั่วว่าได้น้ำไร้หน้าไปครอบครองแล้ว?

หยินฮว่าถามอย่างไม่แน่ใจ “ท่านผู้อาวุโส หหมายความว่าน้ำไร้หน้ายังไม่ไปไหนงั้นหรือ?”

อู๋จี๋ยิ้มเยาะแล้วชี้ไปที่หัวใจของตัวเอง “แทบจะไม่มีใครคาดถึง ของล้ำค่าของสำนักไร้หน้าที่ไม่ได้เปิดเผยให้คนทั่วไปได้รับรู้จะเป็นแค่หัวใจหนึ่งดวง ข้าได้ขัดเกลาหัวใจนี้มาเป็นเวลาร้อยปีแล้ว ถึงได้ควักหัวใจของตัวเองทิ้งแล้วแทนด้วยมัน ฮ่าฮ่าฮ่า…… ”

“อะไรนะ!” หยินฮว่ารู้สึกอึ้งมาก!

น้ำไร้หน้าคือหัวใจหนึ่งดวง!

นี่มันอะไรกัน!

เป็นไปได้ยังไง!

แต่ท่าทางของอู๋จี๋ก็ดูจริงจัง ดูไม่ใช่เรื่องโกหก!

“ท่านผู้อาวุโส สิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริงหรอกหรือ?”

“ข้าจะหลอกผู้อ่อนอาวุโสอย่างเจ้าไปทำไม” อู๋จี๋หัวเราะเยาะ “เจ้าก็ไม่ต้องพูดเกลี้ยกล่อมข้าให้เปลืองแรงหรอก ข้าไม่ได้สนใจหรอกว่าจะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้หรือไม่ แต่ในเมื่อเจ้ามาที่นี่พร้อมจุดประสงค์ พวกเจ้าอยากให้ข้าจัดการฟางเหยียน ข้าสามารถรับปากจะจัดการให้ได้ แต่อยากบอกว่าผลประโยชน์คือสิ่งที่มีตลอดไป!”

“ดังนั้นความจริงใจขององค์กรสัตว์เพลิงจะมีมากน้อยเท่าไหร่ ก็ต้องดูว่าข้าจะถูกล่อใจได้หรือไม่!”

การเจรจาเงื่อนไขอย่างโจ่งแจ้ง!

อู๋จี๋เขามีความสามารถเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว!

การสังหารนินจาระดับปรมาจารย์คือสิ่งที่ทำผู้คนรู้จักชื่อของเขา และยังเป็นการเตือนองค์กรสัตว์เพลิงอีกด้วย  อู๋จี๋ไม่ใช่ขยะที่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน วันนี้เขากลับมาอย่างพระราชา นอกจากการแก้แค้นก็คือการแก้แค้น!

ไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้นสำนักไร้หน้าหรือความเกลียดชังความอัปยศในตอนนั้น เขาต้องชนะ!

หยินฮว่า ไม่รู้จะตอบอย่างไร

ชายคนนี้คุยโวไม่น้อยเลย สิงโตคำรามยากจะหลีกเลี่ยง

“ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล มาพูดถึงคุณค่าทางจิตใจของข้ากันดีกว่า”

หยินฮว่าถอนหายใจแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เชิญท่านผู้อาวุโสพูดได้เลยครับ”

“ต้องขึ้นไปอยู่ไปจุดสูงสุด!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+