จอมนักรบทรงเกียรติยศ 79 เป็นไปไม่ได้

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 79 เป็นไปไม่ได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 79 เป็นไปไม่ได้

หลังจากที่วางสาย หวังชิงชิงจึงเดินลงไปข้างล่าง

เมื่อเห็นหวังชิงชิง เซียวเจิ้นเที่ยนลุกขึ้นจากเก้าอี้ในห้องโถง และถามด้วยหน้าตาประจบประแจง “ประธานหวัง คุณชายมาไหมครับ”

“นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจเตรียมให้คุณชาย คฤหาสน์หนานเจียวครับ” ตอนที่เขาพูด เขาก็เอากุญแจคฤหาสน์หนานเจียวออกมา จากนั้นจึงยิ้มและพูดว่า “ถ้าคุณชายจะอยู่เมืองจินโจวตลอด น่าจะรู้ว่าสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพักอาศัยคือคฤหาสน์หนานเจียว ผมซื้อหลังที่สูงที่สุด สามารถดูวิวรอบเมืองจินโจวได้ครับ”

คฤหาสน์หนานเจียวเป็นคฤหาสน์ที่หรูหรา คนที่สามารถอยู่ในบริเวณคฤหาสน์หนานเจียวล้วนเป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้น เห็นได้ชัดว่าเซียวเจิ้นเที่ยนมาแสดงความจริงใจ

หวังชิงชิงมองกุญแจในมือของเซียวเจิ้นเที่ยน จากนั้นจึงพูดว่า “ขอโทษด้วยนะคะท่านเซียว เราไม่สามารถรับของขวัญชิ้นนี้ได้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวเจิ้นเที่ยนก็เงียบไป เขากระอักกระอ่วนจนพูดไม่ออก มามอบของขวัญกลับโดนปฏิเสธ แต่คิดไปคิดมา ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลฟาง จะชอบคฤหาสน์แค่หลังเดียวได้ยังไงกัน

“ท่านเซียว คุณชายของเราบอกว่าไม่ต้องการคฤหาสน์ของคุณ แต่เขาอยากได้หุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งของคุณ” คำพูดของหวังชิงชิง ทำให้เซียวเจิ้นเที่ยนสดชื่นขึ้นมาทันที

เขายิ้มอย่างสอพลอแล้วพูดว่า “ในเมื่อประธานหวังพูดแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นของธุรกิจไหน ผมก็พร้อมมอบให้เสมอครับ”

ตอนนี้ธุรกิจของตระกูลเซียวเรียกได้ว่าอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย มีเรื่องเข้ามาไม่หยุด

ถ้าได้ร่วมมือกับฟางซื่อกรุ๊ป ถือเป็นเรื่องดีกับธุรกิจของตระกูลเซียว และนับว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้จะได้ดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ ตระกูลเซียวจะแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

“คุณชายบอกว่าต้องการถือหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในเทียนสงกรุ๊ปค่ะ”

เทียนสงกรุ๊ป! เมื่อได้ยินชื่อนี้ เซียวเจิ้นเที่ยนหน้าสลดทันที รอยยิ้มบนใบหน้าชะงักลง ทำไมต้องเป็นเทียนสงกรุ๊ปด้วยล่ะ

เมื่อเห็นว่าเซียวเจิ้นเที่ยนลังเล หวังชิงชิงจึงเอ่ยขึ้นว่า “มีอะไรหรือเปล่าคะท่านเซียว ถ้าคุณไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรค่ะ”

เซียวเจิ้นเที่ยนรีบพูดขึ้นทันที “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมแค่ประหลาดใจนิดหน่อย คุณชายนึกยังไงถึงอยากได้เทียนสงกรุ๊ป บริษัทนั้นเป็นเพียงแค่บริษัทที่ผมเพิ่งซื้อมา ตอนนี้กำลังปรับปรุงแก้ไขใหม่ทั้งหมด อันที่จริงคุณชายตัวเลือกมากมาย อย่างเช่น เจิ้นเที่ยนหกรุ๊ป อสังหาริมทรัพย์ฟางซื่อ ล้วนเป็นธุรกิจอันดับหนึ่งในเมืองจินโจว”

“นี่เป็นความต้องการของคุณชายค่ะ ถ้าท่านเซียวไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรค่ะ เชิญค่ะ” หวังชิงชิงพูดเร่งเหมือนจะไล่เขาออกไป สไตล์ที่เกรี้ยวกราด เอาแต่ใจคือการทำงานของตระกูลฟาง

เซียวเจิ้นเที่ยนสีหน้าเปลี่ยนไปและรีบพูดขึ้นว่า “ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ ผมจะไม่ให้คุณได้ยังไง ผมแค่รู้สึกแปลกใจเลยอยากถามเท่านั้นครับ อย่าว่าแต่หุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในเทียนสงกรุ๊ปเลยครับ ถ้าคุณชายต้องการ ผมสามารถยกให้ทั้งบริษัทเลยครับ”

“ค่ะ งั้นก็ขอบคุณท่านเซียวมากนะคะ” หวังชิงชิงพูดอย่างเกรงใจ

เซียวเจิ้นเที่ยนยังคงถามด้วยสีหน้ามึนงง “งั้นเมื่อไรผมจะได้พบคุณชายล่ะครับ”

หวังชิงชิงพูดว่า “คุณชายเป็นผู้นำคนต่อไปของตระกูลฟาง ตอนนี้มีเรื่องต้องให้จัดการมากมาย รอให้คุณชายมีเวลาว่าง เขาจะเป็นฝ่ายติดต่อคุณแน่นอนค่ะ ท่านเซียวอย่าใจร้อนนะคะ”

เซียวเจิ้นเที่ยนได้ยินหวังชิงชิงพูดเช่นนั้นก็เบิกตาโพลง ผู้นำตระกูลคนต่อไป!

ตอนแรกคิดว่าตระกูลฟางมอบธุรกิจให้คุณชายท่านนี้เพราะอยากชดเชยให้เขา ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นผู้นำคนต่อไปของตระกูลฟาง การที่ได้พบกับผู้นำคนต่อไปของตระกูลฟาง ต้องทำให้ตระกูลเซียวเจอทางสว่างอย่างแน่นอน

“ครับๆๆ ขอบคุณครับประธานหวัง” ความเกรงอกเกรงใจของเซียวเจิ้นเที่ยนมากขึ้นไปอีก รอยยิ้มตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

หลังจากที่เซียวเจิ้นเที่ยนกลับไปแล้ว หวังชิงชิงจึงส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “คุณชายกำลังทำอะไรกันแน่!”

อีกด้านหนึ่ง เมื่อฟางเหยียนเก็บหินประหลาดสองก้อนเรียบร้อย เขาก็ยังไม่ค้นพบอะไร ดังนั้นจึงออกจากตึกว่านฉง

เมื่อเดินลงมาข้างล่าง เขาชะงักฝีเท้าลงเพราะรอบๆ เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด

คนทั่วไปไม่สามารถสัมผัสได้ แต่ทว่าฟางเหยียนสัมผัสได้ มันคือรังสีแห่งความอาฆาต

การนองเลือดในสนามรบ ต้องเผชิญกับความตายนับไม่ถ้วน นักฆ่าอันดับต้นๆ ของโลก ฟางเหยียนได้ฝึกฝนสัญชาตญาณป้องกันตัวเองมาตั้งนานแล้ว

เมื่อคุณต้องเผชิญกับศัตรูที่โหดเหี้ยมในสนามรบ ตอนที่คุณต้องอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต ร่างกายของคุณจะรับรู้ได้ถึงแรงอาฆาตเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี มันคือสัญชาตญาณที่ฝึกประสบการณ์ ถ้าไม่มีสัญชาตญาณนี้ ฟางเหยียนคงตายไปนานแล้ว

แต่ในเมืองคึกคักเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าลอบฆ่าเขา ไม่รู้ว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟางเหยียนจึงแสยะยิ้มเย็นชาออกมา

การที่เหยี่ยวถูกเรียกว่าเหยี่ยว เพราะมันล่าเหยื่อมานับไม่ถ้วน ในฐานะที่เคยเป็นมือลอบสังหารที่มีชื่อเสียงในเขตภาคซีหนาน คนที่เขาลอบฆ่ามีมากมายจนไม่สามารถนับได้

ตอนแรกประธานอาวุโสที่ร่ำรวยในเขตภาคซีหนานก็โดนเขาลอบยิงที่หัวจนเสียชีวิต

เขาไม่มีเพื่อน ไม่มีคนสนิท เขาทำเพียงเรื่องเดียวก็คือหาเงิน จะฆ่าใครก็ได้ขอแค่ได้เงิน หลายปีมานี้เขาไม่เคยลอบฆ่าไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงมีฉายาว่าเหยี่ยวผู้ไม่แพ้

ภารกิจที่ได้รับมอบหมายในครั้งนี้ง่ายมาก ลอบฆ่าคนที่เคยเป็นทหารมาห้าปีและเพิ่งปลดประจำการ เขาใช้เวลาสามวันสืบการเคลื่อนไหวของเป้าหมาย และอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบเพื่อทำการลอบยิงเป้าหมาย

บนภูเขาที่อยู่ไม่ห่างจากตึกว่านฉง บริเวณใกล้ๆ มีสวนสาธารณะอยู่แห่งหนึ่ง เขาสามารถเห็นตึกว่านฉงได้อย่างชัดเจน รวมถึงเป้าหมายที่เขาจะลอบยิงด้วย ไม่ว่าจะต้องฆ่าใคร เขาจะต้องเตรียมการให้รัดกุมที่สุด

การที่ลอบฆ่าคนบนภูเขา ตำรวจจะไม่สามารถหาที่นี่เจอเป็นที่แรก ตำแหน่งนี้คือตำแหน่งที่เยี่ยมยอดมาก

แต่สิ่งที่เขาไม่ไม่เข้าใจก็คือ คนแบบนี้จะส่งใครมาลอบฆ่าก็ได้นิ ทำไมต้องใช้เงินมากมายเพื่อที่จะเอาชีวิตของคนคนนี้ เขาไม่เข้าใจว่าตระกูลเซียวกำลังคิดอะไรอยู่ สิ่งที่ยิ่งไม่เข้าใจก็คือลอบฆ่าคนแบบนี้ไปเพื่ออะไร

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรคิด ฆ่าคนแล้วได้เงินก็พอแล้ว

มองผ่านสโคปคูณแปด เขามองเห็นจากไกลๆ ว่าเป้าหมายยืนอยู่หน้าประตูตึกว่านฉง แสงเลเซอร์สีแดงเล็งไปที่หัวของเป้าหมาย ต้องจบภายในนัดเดียว

เมื่อคิดเช่นนั้น เขาจึงหัวเราะเบาๆ “ไอ้เจ้าหนู บอกลาช่วงสุดท้ายของชีวิตซะเถอะ”

พูดจบ เขาก็เหนี่ยวไกปืน ขณะนั้นมีผู้หญิงเดินผ่านมาข้างตัวเขาพอดี

“กึก” เขารู้สึกถึงแรงดันกลับหลัง กระสุนปืนถูกยิงออกไป

แววตาของฟางเหยียนเปลี่ยนไป เขารีบยกมือผลักผู้หญิงคนนั้นไปอีกด้าน ขณะเดียวกันเขาก็ใช้มือหนีบกระสุนปืนเอาไว้ สายตาของเขามองไปยังทิศทางที่กระสุนปืนพุ่งมา

ทันใดนั้นเหยี่ยวก็เบิกตาโพลง นี่มันเกิดอะไรขึ้น

เขารับกระสุนปืนด้วยสองนิ้วเท่านั้น

นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด