จอมนักรบท้าโลก 18 ลินคอล์นหนึ่งร้อยคัน

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 18 ลินคอล์นหนึ่งร้อยคัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 18 ลินคอล์นหนึ่งร้อยคัน

ริมแม่น้ำซีเจียง รถเก๋งสีดำคันเล็กหนึ่งคันกำลังแล่นอยู่บนถนน คนที่นั่งอยู่ภายในรถคือติงจ้ง ติงเฟิงเฉิง

มองดูริมแม่น้ำเจียงที่ชำรุดไปหลังถูกรื้อถอน ติงเฟิงเฉิงก็ยิ้มแล้วพูด “คุณปู่ดูสิครับ ริมแม่น้ำซีเจียงโดนรื้อหมดแล้ว แม้แต่กระเบื้องสักแผ่นก็ไม่มีเหลือ น่าขำที่เจียงชื่อบอกว่าวันนี้จะทำพิธีเคารพศพให้น้องชายของเขา ก็ไม่รู้ว่าใครที่ทำให้เขากล้าพูดโม้อย่างนี้ได้ วันนี้แม้กระทั่งด้านข้างแม่น้ำเขาก็เข้าใกล้ไม่ได้ด้วยซ้ำ”

ติงจ้งกวาดสายตามอง ยิ้มเยาะ “คนอย่างเจียงชื่อนั่นน่ะ หลังจากนี้ไม่ต้องพูดถึงแล้ว แกน่ะ มีเวลาว่างก็เรียนรู้กับแหวนโม่ อย่ามัวแต่เที่ยวเล่นอยู่เฉย ๆ ทั้งวัน”

“รับทราบครับ คุณปู่”

รถขับไปได้ไม่ไกล จู่ ๆ ติงเฟิงเฉิงก็ชี้นิ้วไปทางนอกหน้าต่างพูด “คุณปู่คุณดูนั่น ทำไมถึงได้มีเครื่องบินมากมายขนาดนั้น?”

ติงจ้งมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นว่ามีเครื่องบินหลายสิบลำบินอยู่บนท้องฟ้าจริง ๆ ทุกลำล้วนแขวนผ้าผืนยาวขาวไว้ท้ายเครื่อง คล้ายกำลังไว้อาลัยให้กับใครบางคน

“หรือว่าจะเป็น……”

ติงจ้งส่ายหน้า ยิ้มอย่างเหยียดหยาม อย่างไรเขาก็ไม่ยินยอมที่จะเอ่ยชื่อที่ทำให้เขาเกลียดออกมา

“คุณปู่ครับ ปู่ดูนั่นคืออะไร?”

ติงจ้งหรี่ตามองไป เห็นเพียงแค่ผิวแม่น้ำเจียงแยกออก สัตว์ประหลาดที่ทำจากเหล็กกล้าขนาดใหญ่ลำหนึ่งกำแล่นมาจากระยะไกล ชายคนหนึ่งกำลังยืนเชิดหน้าอยู่บนเรือสินค้า

สายลมพัดเส้นผมของเขา สี่อักษร——องอาจกล้าหาญ

เงาร่างนี้ คุ้นเคยเป็นอย่างมาก

ติงจ้งขมวดคิ้ว ถ้าหากผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่เขาคิด เรื่องนี้ก็ค่อนข้างจะยุ่งยากแล้ว

“เร็ว ขับไปดู”

“ครับ”

ขับรถเข้าไปในพื้นที่ปิดล้อม สถานที่ที่ห่างจากริมแม่น้ำกว่าร้อยเมตร รถหยุดลง

ติงจ้ง ติงเฟิงเฉิงลงจากรถและมองพร้อมกัน

ครั้งนี้พวกเขามองเห็นได้อย่างชัดเจน ผู้ชายที่ยืนเชิดหน้าอยู่บนหัวเรือไม่ใช่คนอื่น เป็นคนที่ถูกพวกเขามองว่าไร้ค่า——เจียงชื่อ!!!

“เป็นไปได้อย่างไร?”

ภายในใจของติงจ้งระเบิดความตกใจออกมาครั้งใหญ่ เดิมทีเขาคิดว่าเจียงชื่อเป็นเพียงแค่พูดจาโอ้อวดไปเท่านั้น อย่างไรก็ไม่สามารถจัดงานพิธีศพของเจียงโม่ได้

ใครจะคาดคิด เจียงชื่อไม่เพียงทำได้ แต่ยังทำได้อย่างยิ่งใหญ่เสียด้วย

“เจียงชื่อ นายทำได้อย่างไรกัน?” ติงจ้งไม่เข้าใจอย่างมาก ที่จริงแล้วเขาเสียใจด้วยซ้ำ บางทีในวันนั้นไม่ควรตัดความสัมพันธ์กับเจียงชื่อ อย่างน้อยก็ไม่พูดเด็ดขาดขนาดนั้น

ติงเฟิงเฉิงมองอย่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก เครื่องบินหลายสิบลำ เรือสำราญขนาดใหญ่ ยังมีการทำพิธีเคารพศพในช่วงเวลาที่อ่อนไหวอย่างนี้อีก แม้แต่ตระกูลติงเองก็ไม่มีศักยภาพขนาดนี้แน่นอน

แต่คนที่โดนพวกเขาดูถูกอย่างเจียงชื่อ กลับสามารถทำได้

“ผม…ตาฝาดไปหรือเปล่า?”

ในเวลานี้เอง กลุ่มคนรอบ ๆ ก็มารวมตัวกัน แต่ละคนล้วนมองอย่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก

“บุคคลยิ่งใหญ่ท่านไหนกำลังทำพิธีเคารพกัน?”

“ไม่รู้ แต่สามารถทำสถานการณ์ใหญ่โตออกมาได้ขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดา”

“แต่ว่าวันนี้เป็นวันทำการรื้อถอนปรับปรุง บุคคลยิ่งใหญ่ท่านนี้ไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ทำพิธีเคารพศพริมแม่น้ำเจียงอย่างโจ่งแจ้ง ช่างร้ายกาจ”

คนที่ตกตะลึงที่สุดคือติงเมิ่งเหยน

อย่างไรเธอก็นึกไม่ถึงว่าสามีไร้ประโยชน์คนนั้นในใจของตนเอง คาดไม่ถึงว่าจะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้

มองเรือสำราญที่แล่นเข้ามาช้า ๆ ในสายตาของติงเมิ่งเหยนเต็มไปด้วยน้ำตา

ครู่ต่อมา เรือสำราญก็หยุดลง

เจียงชื่อเดินลงบันไดมา กลุ่มคนบนเรือก็เดินตามลงมาอย่างคับคั่ง ในมือของทุกคนล้วนถือดอกไม้สดไว้ด้วย

ทุกคนวางดอกไม้สดไว้หน้าสุสาน และยืนด้วยความเคารพ

เจียงชื่อมาถึงข้างกายติงเมิ่งเหยน ไม่พูดอะไรแม้คำเดียว อยู่ด้านหน้าสุสานกับเธอ

ติงเมิ่งเหยนมีคำถามหนึ่งที่อยากจะถาม แต่ถามในเวลานี้ไม่เหมาะสมเท่าไรนัก เธอยืนอยู่ข้างกายเจียงชื่อเงียบ ๆ เคารพศพน้องชายไปกับเขา

ทันใดนั้น……

รถออฟโรดคันหนึ่งขับเข้ามา ด้านหลังมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ตามมาด้วย

ปัง ปัง ปัง

ประตูรถเปิดออกทีละบาน ชายฉกรรจ์ที่ถืออาวุธครบมือกระโดดลงมาจากรถ ดูแล้วมีประมาณสี่ห้าสิบคน

โดยมีเหอเย่าหลง เหอเจียหมิง สองลุงหลานเป็นผู้นำ

“กำลังทำอะไรกันอยู่?”

“ไม่รู้หรือที่นี่ได้ถูกปิดล้อมไว้แล้ว?”

“ทั้งหมดออกไปให้พ้นหน้าฉันซะ!”

เหอเจียหมิงตะโกนขึ้นอย่างโอ้อวด ทำลายบรรยากาศจริงจังทั้งหมดในคราวเดียว

เจียงชื่อหัวคิ้วขมวดเล็กน้อย หมุนตัวกลับมามองเหอเจียหมิงอย่างช้า ๆ “วันนี้เป็นวันเกิดของน้องชายผม ผมไม่อยากทำอะไรป่าเถื่อน รีบออกไปเถอะ บัญชีของคุณ ผมจะไปคิดกับพวกคุณวันหลัง”

“วันหลัง? คิดบัญชี?”

เหอเจียหมิงยิ้ม ชี้ไปที่ชายฉกรรจ์หลายสิบคนที่ถืออาวุธครบมืออยู่ข้างหลัง “เปิดตาสุนัขของนายดู วันนี้ฉันพาคนมาด้วย เจียงชื่อ นายเป็นคนเก่งกาจ แต่ว่านายสามารถสู้หนึ่งต่อสิบคน สู้หนึ่งต่อยี่สิบคน สู้หนึ่งต่อสามสิบคนได้หรือ?”

“จะบอกให้นายเข้าใจ พวกเรารับงานรื้อถอนนี้ วันนี้ไม่เพียงแต่จะขับไล่พวกนาย ยังจะรื้อถอนที่ตรงนี้อีกด้วย”

“พูดง่าย ๆ ก็คือ พวกเรามารื้อถอนสุสานของเจียงโม่!”

สองมือของเจียงชื่อกำแน่น ในแววตาเต็มไปด้วยประกายฆ่าฟัน เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต

“วันนี้เป็นวันเกิดเจียงโม่ เดิมทีผมไม่อยากจะโกรธ”

“แต่พวกคุณกับคนเหล่านี้รนหาที่ตาย ผมเองก็ไม่มีทางเลือกแล้ว”

เหอเย่าหลงเดินขึ้นมา ถอดแว่นกันแดดแล้วเป่าปาก “เจียงชื่อ ถึงเวลานี้แล้วยังจะพูดจาโอ้อวดอยู่อีก? วันนี้นายทั้งเครื่องบินทั้งเรือสำราญ ทำเรื่องใหญ่โต แต่จะมีประโยชน์อะไร? คุณมีเพียงยี่สิบคนมาที่มา ก็คิดจะต่อสู้กับผม?”

“อำนาจยิ่งใหญ่?” เจียงชื่อหัวเราะ “มีบางเรื่องผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงอาหารทานเล่นเท่านั้น การเคารพที่แท้จริง กำลังจะเริ่มตอนนี้ต่างหาก”

ไม่ทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงไซเรนดังมาจากที่ห่างไกล

ติด ๆ กัน รถลินคอล์นสีดำเข้มแบบยาวคันหนึ่งขับเข้ามาในพื้นที่ปิดล้อม

สิบคัน!

สามสิบคัน!

ห้าสิบคัน!

หนึ่งร้อยคัน!

รถลินคอล์นสีดำเข้มแบบยาวหรูหราขับเข้ามา ล้อมเป็นวงขนาดใหญ่ ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงกว่าจะหยุดลง

เห็นจำนวนรถลินคอล์น เหอเย่าหลงกลืนน้ำลายลงคอด้วยสัญชาตญาณ

รถทุกคันมีมูลค่ามากกว่าห้าล้าน หนึ่งร้อยคัน มูลค่าโดยรวมมากกว่าห้าร้อยล้าน!

ยานพาหนะหรูหรามากมายจอดอยู่ที่นี่ แม้จะไม่ได้ทำอะไรเลย พลังที่แผ่ออกมานั้นสามารถกดดันให้คุณหายใจไม่สะดวก

หลังจากนั้นไม่นาน

รถทุกคันเปิดประตูเข้าไปด้านใน ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำเดินออกมาจากรถ

พวกเขาเหมือนแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันอย่างไรอย่างนั้น ทุกคนล้วนหนักแน่นและทรงพลัง ยืนในท่ามาตรฐานของทหาร การเคลื่อนไหวเป็นระเบียบ

แค่เห็นก็รู้ได้ว่าเป็นทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาตลอดทั้งปีจนเป็นปกติ

เทียนผิงยืนอยู่ซ้ายมือของเจียงชื่อ ตะโกนด้วยเสียงอันดังกังวาน

“แสดงความเคารพ!”

ชึบ ชึบ ชึบ ทหารหลายร้อยคนรวบมือไว้ตรงหน้าผากแทบจะพร้อมกัน

เป็นฉากที่ยิ่งใหญ่

บรรยากาศทรงพลัง

เหอเย่าหลงถูกฉากนี้ทำให้ตกตะลึง เดินโงนเงน แล้วล้มลงไปบนพื้น ขาทั้งคู่สั่นขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่

เจียงชื่อมองเขาจากบนลงล่าง

“เหอเย่าหลง คุณคิดว่าผมพาคนมาเยอะพอไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด