จอมนักรบท้าโลก 378 แผนร้าย

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 378 แผนร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดึกดื่น อาคารสำนักงานตระกูลติง ห้องสำนักประธานกรรมการ

คนแก่หนึ่งเด็กสอง คนสามคนนั่งแยกกัน ทุกคนถือแก้วไวน์แดงอยู่ในมือ ลิ้มรสอย่างเอร็ดอร่อย

ติงเฟิงเฉิงไขว้ขา และพูดอย่างร่าเริงว่า “พี่สาว คุณนี่เก่งจริงๆ จุดนี้คุณยังสามารถคิดได้ ตอนนี้น้องสามกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอลังเลที่จะแบก ‘เนื้อชิ้นใหญ่’ ที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็ไม่มีวิธีเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ แค่คิดถึง ก็ทำให้รู้สึกสะใจมาก”

ก่อนหน้านี้ถูกติงเฟิงเฉิง เจียงชื่อรังแกเป็นเวลานานขนาดนั้น ในที่สุดวันนี้เขาก็พบโอกาสที่จะระบายความโกรธออกมา

ติงจงพยักหน้า

แม้ว่าติงเมิ่งเหยนจะเป็นหลานสาวของเขา แต่กลับทำให้เขาลำบากใจครั้งแล้วครั้งเล่า

ตอนนี้ดีแล้ว ในที่สุดก็มีโอกาสทำให้เติงเฟิงเฉิงอับอายขายหน้าอย่างรุนแรง

อีกอย่างไม่ใช่ว่าเขาบังคับให้ติงเมิ่งเหยนไปทำ แต่ติงเมิ่งเหยนไปทำด้วยตัวเอง ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นฝ่ายทำให้ติงเมิ่งเหยนอับอาย แต่ยืมมือของคนอื่นเพื่อทำให้ติงเมิ่งเหยนอับอาย

ยืมดาบฆ่าคน สะใจจริงๆ

อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนติงจ้งก็จะดูถูกติงเมิ่งเหยน ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะหุ้นส่วน 10% นั้นติงจ้งก็คงปล่อยให้ติงเมิ่งเหยนแข็งตายอยู่ที่ไหนสักแห่ง

ติงจื่อยวี่ยิ้มและพูดว่า “คุณปู่ ถ้าคุณปล่อยให้น้องสามตกอยู่ในสถานการณ์ที่อับอาย ถูกทำให้เสียชื่อ ดูถูกเธอมากเกินไปแล้ว จริงๆ พวกเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร มันดูเหมือนคิดสั้นไม่มองการณ์ไกล”

ติงจ้งถามว่า “ทำไม คุณยังมีความคิดอื่น?”

“แน่นอน”

ติงจื่อยวี่วางแก้วไวน์ลง แล้วถามกลับ “คุณปู่ อะไรที่ทำให้คุณสนใจน้องสามที่สุด?”

ติงจ้งไม่ได้พูด

ติงจื่อยวี่ยิ้ม “เกรงว่า นั่นก็คือหุ้นส่วน 10% ของบริษัทใช่ไหม?”

สถานการณ์นั้นเงียบลง

แม้ว่าไม่ค่อยเต็มใจที่จะยอมรับ แต่เรื่องนี้ทำให้ติงจ้งไม่สบายใจ ทุกครั้งที่คิดถึงว่าหุ้น 10% ของบริษัทอยู่ในมือของติงเมิ่งเหยน เขาก็จะรู้สึกหงุดหงิด

ติงจื่อยวี่พูดต่อ “คุณปู่ ครั้งนี้ ไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุดที่จะเอาคืนเหรอ?”

“หมายความว่าอะไร?”

“ความหมายนั้นง่ายมาก น้องสามจะไม่เพียงแต่ทำภารกิจไม่สำเร็จ ไม่แน่ยังล่วงเกินทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงขุ่นเคืองใจอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้น คุณก็ไม่ใช่ว่ามีโอกาสเอาหุ้นส่วนนั้นคืนมาเหรอ?”

พูดถูกต้อง!

ติงจ้งนึกออกอย่างฉับพลัน

ติงเมิ่งเหยินจะล่วงเกินคน นั่นคือเรื่องที่แน่นอน ถึงเวลาก็จะมีข้อแก้ตัวว่าทั้งหมดนั้นเพื่อสงบความโกรธของผู้คน แต่’ไม่มีทางเลือก’ ลงโทษติงเมิ่งเหยน เอาหุ้นส่วนคืนมา

ด้วยวิธีนี้ ไม่เท่ากับว่าได้กำจัดหนามหัวใจของติงจ้งทิ้งเหรอ?

ติงจ้งยกนิ้วให้ “ดี ดีมาก! จื่อยวี่เอ๋ย ยังไงเธอก็ฉลาด รู้ว่าปู่กำลังคิดอะไรอยู่”

หันศีรษะกลับไป เขามองติงเฟิงเฉิง “เฟิงเฉิง จากนี้นายต้องเรียนกับพี่ใหญ่ให้เยอะๆ สมองให้ฉลาดหน่อย ร้อยปีให้หลัง ถ้าปู่ยกตระกูลติงให้นาย นายในตอนนี้จะให้ปู่วางใจได้ยังไง?”

ติงเฟิงเฉิงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “รู้แล้วน่าคุณปู่ ผมจะขยัน”

ทั้งสามคนมองหน้ากัน และหัวเราะอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ยกแก้วไวน์ขึ้น เพื่อ ‘เรื่องดีๆ ‘ ของคืนนี้

ชนแก้ว!

พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก

วันใหม่ มาถึงแล้ว

ในเมือง ทุกคนยุ่งมาก ทำงาน ไปโรงเรียน เพื่อวิ่งวุ่นธุระของตัวเอง

รถAudiสีดำหนึ่งคัน จอดอยู่ในที่จอดรถ ผลักประตูออก ชายร่างกำยำคนหนึ่งก็เดินออกมา

เขาคือกวนจื้อฉวนบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนที่หกในเขตเจียงหนาน เป็นหนึ่งในธุระกิจอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก

ดึกดื่น อาคารสำนักงานตระกูลติง ห้องสำนักประธานกรรมการ

คนแก่หนึ่งเด็กสอง คนสามคนนั่งแยกกัน ทุกคนถือแก้วไวน์แดงอยู่ในมือ ลิ้มรสอย่างเอร็ดอร่อย

ติงเฟิงเฉิงไขว้ขา และพูดอย่างร่าเริงว่า “พี่สาว คุณนี่เก่งจริงๆ จุดนี้คุณยังสามารถคิดได้ ตอนนี้น้องสามกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอลังเลที่จะแบก ‘เนื้อชิ้นใหญ่’ ที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็ไม่มีวิธีเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ แค่คิดถึง ก็ทำให้รู้สึกสะใจมาก”

ก่อนหน้านี้ถูกติงเฟิงเฉิง เจียงชื่อรังแกเป็นเวลานานขนาดนั้น ในที่สุดวันนี้เขาก็พบโอกาสที่จะระบายความโกรธออกมา

ติงจงพยักหน้า

แม้ว่าติงเมิ่งเหยนจะเป็นหลานสาวของเขา แต่กลับทำให้เขาลำบากใจครั้งแล้วครั้งเล่า

ตอนนี้ดีแล้ว ในที่สุดก็มีโอกาสทำให้เติงเฟิงเฉิงอับอายขายหน้าอย่างรุนแรง

อีกอย่างไม่ใช่ว่าเขาบังคับให้ติงเมิ่งเหยนไปทำ แต่ติงเมิ่งเหยนไปทำด้วยตัวเอง ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นฝ่ายทำให้ติงเมิ่งเหยนอับอาย แต่ยืมมือของคนอื่นเพื่อทำให้ติงเมิ่งเหยนอับอาย

ยืมดาบฆ่าคน สะใจจริงๆ

อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนติงจ้งก็จะดูถูกติงเมิ่งเหยน ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะหุ้นส่วน 10% นั้นติงจ้งก็คงปล่อยให้ติงเมิ่งเหยนแข็งตายอยู่ที่ไหนสักแห่ง

ติงจื่อยวี่ยิ้มและพูดว่า “คุณปู่ ถ้าคุณปล่อยให้น้องสามตกอยู่ในสถานการณ์ที่อับอาย ถูกทำให้เสียชื่อ ดูถูกเธอมากเกินไปแล้ว จริงๆ พวกเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร มันดูเหมือนคิดสั้นไม่มองการณ์ไกล”

ติงจ้งถามว่า “ทำไม คุณยังมีความคิดอื่น?”

“แน่นอน”

ติงจื่อยวี่วางแก้วไวน์ลง แล้วถามกลับ “คุณปู่ อะไรที่ทำให้คุณสนใจน้องสามที่สุด?”

ติงจ้งไม่ได้พูด

ติงจื่อยวี่ยิ้ม “เกรงว่า นั่นก็คือหุ้นส่วน 10% ของบริษัทใช่ไหม?”

สถานการณ์นั้นเงียบลง

แม้ว่าไม่ค่อยเต็มใจที่จะยอมรับ แต่เรื่องนี้ทำให้ติงจ้งไม่สบายใจ ทุกครั้งที่คิดถึงว่าหุ้น 10% ของบริษัทอยู่ในมือของติงเมิ่งเหยน เขาก็จะรู้สึกหงุดหงิด

ติงจื่อยวี่พูดต่อ “คุณปู่ ครั้งนี้ ไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุดที่จะเอาคืนเหรอ?”

“หมายความว่าอะไร?”

“ความหมายนั้นง่ายมาก น้องสามจะไม่เพียงแต่ทำภารกิจไม่สำเร็จ ไม่แน่ยังล่วงเกินทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงขุ่นเคืองใจอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้น คุณก็ไม่ใช่ว่ามีโอกาสเอาหุ้นส่วนนั้นคืนมาเหรอ?”

พูดถูกต้อง!

ติงจ้งนึกออกอย่างฉับพลัน

ติงเมิ่งเหยินจะล่วงเกินคน นั่นคือเรื่องที่แน่นอน ถึงเวลาก็จะมีข้อแก้ตัวว่าทั้งหมดนั้นเพื่อสงบความโกรธของผู้คน แต่’ไม่มีทางเลือก’ ลงโทษติงเมิ่งเหยน เอาหุ้นส่วนคืนมา

ด้วยวิธีนี้ ไม่เท่ากับว่าได้กำจัดหนามหัวใจของติงจ้งทิ้งเหรอ?

ติงจ้งยกนิ้วให้ “ดี ดีมาก! จื่อยวี่เอ๋ย ยังไงเธอก็ฉลาด รู้ว่าปู่กำลังคิดอะไรอยู่”

หันศีรษะกลับไป เขามองติงเฟิงเฉิง “เฟิงเฉิง จากนี้นายต้องเรียนกับพี่ใหญ่ให้เยอะๆ สมองให้ฉลาดหน่อย ร้อยปีให้หลัง ถ้าปู่ยกตระกูลติงให้นาย นายในตอนนี้จะให้ปู่วางใจได้ยังไง?”

ติงเฟิงเฉิงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “รู้แล้วน่าคุณปู่ ผมจะขยัน”

ทั้งสามคนมองหน้ากัน และหัวเราะอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ยกแก้วไวน์ขึ้น เพื่อ ‘เรื่องดีๆ ‘ ของคืนนี้

ชนแก้ว!

พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก

วันใหม่ มาถึงแล้ว

ในเมือง ทุกคนยุ่งมาก ทำงาน ไปโรงเรียน เพื่อวิ่งวุ่นธุระของตัวเอง

รถAudiสีดำหนึ่งคัน จอดอยู่ในที่จอดรถ ผลักประตูออก ชายร่างกำยำคนหนึ่งก็เดินออกมา

เขาคือกวนจื้อฉวนบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนที่หกในเขตเจียงหนาน เป็นหนึ่งในธุระกิจอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด