จอมนักรบท้าโลก 722 พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทางทิศตะวันตก

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 722 พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทางทิศตะวันตก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แต่คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่ฉันอยากประจบประแจงจริงๆ กลับเป็นคนที่อยู่ข้างๆ ตัวเองมาโดยตลอด”

“ผลสุดท้าย ฉันมันก็แค่ไอ้โง่ที่มีตาแต่ไร้แววคนหนึ่ง ถึงกับไม่รู้จักไม่พอ ยังหาทางเหยียบย่ำกดหัว ทำเรื่องให้ขุ่นเคืองใจไม่หยุดอีกด้วย”

“ตระกูลติงอาจต้องถึงคราวล่มจมในมือฉันแล้วก็ได้”

“เฮอะ”

“เฮอะ!”

ไม่มีอะไรจะให้พูดอีกแล้ว ติงจ้งหันกลับไปมองป้ายวิญญาณในหอบรรพบุรุษ รู้สึกใจคอห่อเหี่ยวอับเฉา ทั้งละอายแก่ใจต่อบรรพชนที่ล่วงลับไปอย่างยิ่ง

การเปิดเผยตัวตนของเจียงชื่อ ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อติงจ้ง เขาในตอนนี้เพิ่งจะตระหนักได้ว่าตัวเองทั้งโง่เขลาเบาปัญญา ทั้งไร้ความสามารถขนาดไหน ขุมกำลังที่แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนี้ เดิมทีควรจะมาเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของเขา ทำให้เขาร่ำรวยมั่งคั่ง ทำให้ตระกูลติงได้เลื่อนขึ้นไปอยู่ในตระกูลระดับสูงแล้วแท้ๆ

แต่เขาไม่เพียงพลาดโอกาสเท่านั้น แต่ยังไปทำให้เจ้าตัวขุ่นเคืองใจอีกด้วย

ช่างน่าขำ น่าขำสิ้นดี!

ถ้าเปลี่ยนเป็นเจ้าบ้านที่มีสมอง รู้จักคิดไตร่ตรองสักคน ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินมาจนถึงจุดที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้

มันถึงเวลาต้องสละตำแหน่งแล้วสินะ

ติงจ้งไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป

เขากลับไปสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

ผ่านไปครู่หนึ่ง เจียงชื่อก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นมาก่อนว่า: “ทั้งหมดที่ฉันพูดกับเมิ่งเหยนเมื่อกี้ จะต้องทำให้เป็นความจริงได้แน่”

ดวงตาของติงจ้งพลันเป็นประกายสว่างวาบ

“นายยินดีที่จะยึดตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลติงกลับคืนมางั้นเหรอ?”

เจียงชื่อพยักหน้า “เรื่องอะไรที่ฉันเคยสัญญากับเมิ่งเหยนไว้ มันจะต้องเป็นจริงได้อย่างแน่นอน ติดที่ปัญหาเดียวคือ ถึงแม้ว่าจะยึดตำแหน่งเจ้าบ้านกลับมาได้ แล้วจะให้ใครมารับช่วงต่อ?”

ติงจ้งพูดขึ้นทันทีว่า: “นั่นยังต้องให้พูดอีกเหรอ ? ไม่ใช่นายก็ต้องเป็นเมิ่งเหยนอยู่แล้วสิ”

เจียงชื่อส่ายหน้ารัว

“ฉันไม่มีทางนั่งตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลติง แล้วด้วยนิสัยของเมิ่งเหยน เธอก็ไม่มีทางยอมทำแบบนี้แน่ อันที่จริงในใจฉันก็มีคำตอบอยู่แล้วล่ะ แล้วมันก็เป็นคำตอบของคุณด้วยเหมือนกัน”

“ติงเฟิงเฉิง”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ไฟโทสะในใจของติงจ้งก็ลุกโหมขึ้นมาอีกครั้ง

“อย่าพูดถึงไอ้ขยะคนนี้ มันทำให้ฉันโกรธแทบตายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะความไร้ความสามารถของมัน ฉันก็คงไม่เดินมาถึงจุดที่เป็นอยู่ตอนนี้หรอก”

“ถ้ามันรับผิดชอบหน้าที่ในฐานะเจ้าบ้านของตระกูลได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ฉันก็คงไม่ต้องนั่งอยู่ในตำแหน่งเจ้าบ้านมาจนถึงป่านนี้แล้ว!”

เจียงชื่อพยักหน้า

เขาเองก็ยอมรับว่า ติงเฟิงเฉิงนั้นเป็นตัวไร้ประโยชน์ ทั้งยังไร้ความสามารถอย่างแท้จริง

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังพอมีข้อดีอยู่บ้าง

เจียงชื่อพูดขึ้นว่า: “คนคนนี้ไม่มีความสามารถอะไร ทั้งยังชอบเล่นพนัน ดีแต่เที่ยวเล่น เพราะงั้นถึงได้สะดุดล้มจนหกคะเมนตีลังกาได้ขนาดนี้ แต่เขาก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง คืออย่างน้อยเขาก็จะไม่มีวันหักหลังคุณ”

ติงจ้งแค่นเสียงหัวเราะเย็นชาขึ้นมาเสียงหนึ่ง “คนอย่างมันจะกล้าเหรอ?”

ทันทีที่บทสนทนาเปลี่ยนไป เขาก็พูดต่อว่า “แต่นี่เป็นข้อดีแค่ข้อเดียวของมันแล้ว ติงเฟิงเฉิงไอ้ลูกกระต่ายนั่นมีนิสัย “กะล่อนเสเพล” ชอบเที่ยวเล่น ชอบทำตัวสำมะเลเทเมา แต่เพื่อพี่น้องก็จะยอมปักมีดเข้าเอวสองข้าง  ไม่มีวันหักหลังญาติตัวเอง”

“และเพราะเหตุผลนี้จริงๆ ฉันถึงได้เอาแต่ฝึกฝนเขาเหมือนคนที่อยู่ในฐานะผู้สืบทอดตระกูล”

เจียงชื่อพูดขึ้นว่า “แต่ว่า คุณไม่ได้ฝึกฝนเขาให้ดี ในฐานะปู่ คุณตามใจเขามากเกินไป”

“คุณวางใจเถอะ จากนี้ไปฉันจะช่วยฝึกฝนหลานชายของคุณคนนี้ ให้เขามีความสามารถมากพอที่จะรับหน้าที่เจ้าบ้านของตระกูล”

คำพูดประโยคนี้ ช่างทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

ติงจ้งในตอนนี้ ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เจียงชื่อแล้ว

“เจียงชื่อ ฉันไม่รู้ว่าจะขอบคุณนายยังไงดีแล้วจริงๆ ”

“ฉันเคยทำตัวแย่ๆ แบบนั้นกับนาย แต่นายกลับไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบาดหมางเมื่อครั้งอดีต ใช้คุณธรรมเอาชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ ยิ่งนายเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ตาแก่อย่างฉันรู้สึกผิดแท้ๆ ”

เจียงชื่อโบกมือ “ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอก ทั้งหมดที่ฉันทำไปก็ไม่ได้ทำเพื่อคุณหรอก แต่ทำเพื่อเมิ่งเหยน การฟื้นฟูตระกูลติง กับฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างญาติ คือความปรารถนาสูงสุดของเมิ่งเหยน”

ถูกต้อง ทุกอย่างที่เจียงชื่อทำไป ก็เพื่อติงเมิ่งเหยียนอย่างแท้จริง

แต่ถึงอย่างนั้น ติงจ้งก็ยังรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณนี้อย่างมาก

ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ทันใดนั้น ประตูหอบรรพบุรุษก็ถูกผลักเปิดออก ติงเฟิงเฉิงวิ่งถลาเข้ามาด้วยท่าทางตื่นตระหนก

พริบตาเดียวเขาก็พุ่งตัวไปหยุดอยู่ตรงหน้าติงจ้ง แล้วละล่ำละลักพูดด้วยสภาพน้ำมูกน้ำตานองหน้าว่า: “คุณปู่ ช่วยผมด้วย พวกนั้นจะทำร้ายผมแล้ว!”

เมื่อติงจ้งเห็นสภาพเขา ความโกรธก็ปะทุขึ้นมาทั่วทุกอณูรูขุมขน

“ไอ้หลานเวรเอ๊ย! นี่แกยังมีหน้ามาให้ชั้นเห็นอีกเหรอ? แกทำให้หน้าแก่ๆ ของชั้นต้องอับอายขายขี้หน้าคนเขาจนหมดไม่มีเหลือแล้ว!”

ขณะที่พูด เขาก็ยกมือขึ้นแล้วฟาดใส่หน้าของติงเฟิงเฉิงไปด้วย

ติงเฟิงเฉิงแหกปากร้องด้วยความตกใจ: “คุณปู่ พวกนั้นจะบังคับให้ผมถอนตัวออกไปจากตระกูลติง!”

หือ?

มือของติงจ้งหยุดค้างอยู่กลางอากาศ “มันเกิดอะไรขึ้น?”

ติงเฟิงเฉิงพูดด้วยท่าทางจริงจังว่า: “ผมยังเป็นหนี้พนันพี่ไห่ที่เมืองเล่นอยู่ 5 ล้านหยวน เขาเลยใช้เรื่องนี้มาขู่ผม บังคับให้ผมถอนตัวจากบริษัทติงหรง ”

“พวกนั้นถึงกับทำลิสต์รายชื่อชุดหนึ่งเลยด้วย คุณปู่! คนในบอร์ดบริหารที่อยู่ข้างปู่ทั้งหมด ก็อยู่ในลิสต์รายชื่อนั้นด้วย พรุ่งนี้คงถูกบีบให้ลาออกกันหมดทั้งคณะแน่ๆ ”

“ไอ้สารเลวติงหงเหย้า มันกำลังกวาดล้างคนไม่เห็นด้วย!”

ติงจ้งเครียดจนขมวดคิ้วนิ่วหน้า

ไม่แปลกที่ติงหงเหย้าจะทำแบบนี้ แต่ถึงยังไงคนอื่นก็ยังพอให้ถอนตัวออกไปได้ แต่ติงเฟิงเฉิงจะถอนตัวออกไปไม่ได้เด็ดขาด

ทันทีที่ติงเฟิงเฉิงถอนตัวออกไป ในอนาคตคิดจะทวงคืนตระกูลติงกลับมา แล้วสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านอีกครั้ง ก็คงจะเป็นเรื่องยากมากขึ้นแน่ๆ

แต่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ จะแก้ไขยังไงดีล่ะ?

ติงเฟิงเฉิงพูดว่า “คุณปู่ ช่วยจ่ายเงิน 5 ล้านใช้หนี้แทนผมเร็วๆ เข้า แล้วจากนั้นผมจะออกจากบ้านตระกูลติง แค่นี้ก็จัดการแก้ไขเรื่องพวกนี้ได้หมดแล้ว ไม่งั้นพวกเขาจะจับผมเข้าคุก ผมไม่อยากเข้าคุกนะปู่ โฮๆๆ !”

ติงจ้งยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เขาสงสัยเหลือเกินว่าทำไมตัวเองถึงได้มีหลานชายที่ขี้ขลาดตาขาว ทั้งยังอ่อนแอไร้ประโยชน์ได้ถึงขนาดนี้?

“ลูกผู้ชายอกสามศอก จะร้องไห้ทำไม?!”

“ยืนดีๆ เดี๋ยวนี้!”

ในเวลานี้เอง เจียงชื่อก็ค่อยๆ พูดขึ้นช้าๆ ว่า : ” ห้าล้านนี้ให้ฉันจัดการเอง ฉันจะไปเดินเที่ยวที่เมืองเล่นซะหน่อย ไม่ใช่แค่ไปช่วยใช้หนี้ให้แค่นั้นนะ แต่ยังจะช่วยรักษาตำแหน่งของนายในฐานะรองประธานของตระกูลติงให้อีกด้วย ”

ติงเฟิงเฉิงถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ หันไปมองเจียงชื่อด้วยสีหน้าโง่เขลาทึ่มทื่อ

นี่มันสถานการณ์อะไรกันวะเนี่ย ?

พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทางทิศตะวันตกหรือไง ? เจียงชื่อถึงกับเป็นฝ่ายเสนอตัวลุกขึ้นมาช่วยตนเองเลยเหรอ? นี่ไม่ใช่ว่ากำลังฝันอยู่ใช่มั้ย?

“นายพูดจริงเหรอ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบท้าโลก 722 พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทางทิศตะวันตก

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 722 พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทางทิศตะวันตก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แต่คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่ฉันอยากประจบประแจงจริงๆ กลับเป็นคนที่อยู่ข้างๆ ตัวเองมาโดยตลอด”

“ผลสุดท้าย ฉันมันก็แค่ไอ้โง่ที่มีตาแต่ไร้แววคนหนึ่ง ถึงกับไม่รู้จักไม่พอ ยังหาทางเหยียบย่ำกดหัว ทำเรื่องให้ขุ่นเคืองใจไม่หยุดอีกด้วย”

“ตระกูลติงอาจต้องถึงคราวล่มจมในมือฉันแล้วก็ได้”

“เฮอะ”

“เฮอะ!”

ไม่มีอะไรจะให้พูดอีกแล้ว ติงจ้งหันกลับไปมองป้ายวิญญาณในหอบรรพบุรุษ รู้สึกใจคอห่อเหี่ยวอับเฉา ทั้งละอายแก่ใจต่อบรรพชนที่ล่วงลับไปอย่างยิ่ง

การเปิดเผยตัวตนของเจียงชื่อ ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อติงจ้ง เขาในตอนนี้เพิ่งจะตระหนักได้ว่าตัวเองทั้งโง่เขลาเบาปัญญา ทั้งไร้ความสามารถขนาดไหน ขุมกำลังที่แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนี้ เดิมทีควรจะมาเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของเขา ทำให้เขาร่ำรวยมั่งคั่ง ทำให้ตระกูลติงได้เลื่อนขึ้นไปอยู่ในตระกูลระดับสูงแล้วแท้ๆ

แต่เขาไม่เพียงพลาดโอกาสเท่านั้น แต่ยังไปทำให้เจ้าตัวขุ่นเคืองใจอีกด้วย

ช่างน่าขำ น่าขำสิ้นดี!

ถ้าเปลี่ยนเป็นเจ้าบ้านที่มีสมอง รู้จักคิดไตร่ตรองสักคน ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินมาจนถึงจุดที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้

มันถึงเวลาต้องสละตำแหน่งแล้วสินะ

ติงจ้งไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป

เขากลับไปสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

ผ่านไปครู่หนึ่ง เจียงชื่อก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นมาก่อนว่า: “ทั้งหมดที่ฉันพูดกับเมิ่งเหยนเมื่อกี้ จะต้องทำให้เป็นความจริงได้แน่”

ดวงตาของติงจ้งพลันเป็นประกายสว่างวาบ

“นายยินดีที่จะยึดตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลติงกลับคืนมางั้นเหรอ?”

เจียงชื่อพยักหน้า “เรื่องอะไรที่ฉันเคยสัญญากับเมิ่งเหยนไว้ มันจะต้องเป็นจริงได้อย่างแน่นอน ติดที่ปัญหาเดียวคือ ถึงแม้ว่าจะยึดตำแหน่งเจ้าบ้านกลับมาได้ แล้วจะให้ใครมารับช่วงต่อ?”

ติงจ้งพูดขึ้นทันทีว่า: “นั่นยังต้องให้พูดอีกเหรอ ? ไม่ใช่นายก็ต้องเป็นเมิ่งเหยนอยู่แล้วสิ”

เจียงชื่อส่ายหน้ารัว

“ฉันไม่มีทางนั่งตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลติง แล้วด้วยนิสัยของเมิ่งเหยน เธอก็ไม่มีทางยอมทำแบบนี้แน่ อันที่จริงในใจฉันก็มีคำตอบอยู่แล้วล่ะ แล้วมันก็เป็นคำตอบของคุณด้วยเหมือนกัน”

“ติงเฟิงเฉิง”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ไฟโทสะในใจของติงจ้งก็ลุกโหมขึ้นมาอีกครั้ง

“อย่าพูดถึงไอ้ขยะคนนี้ มันทำให้ฉันโกรธแทบตายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะความไร้ความสามารถของมัน ฉันก็คงไม่เดินมาถึงจุดที่เป็นอยู่ตอนนี้หรอก”

“ถ้ามันรับผิดชอบหน้าที่ในฐานะเจ้าบ้านของตระกูลได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ฉันก็คงไม่ต้องนั่งอยู่ในตำแหน่งเจ้าบ้านมาจนถึงป่านนี้แล้ว!”

เจียงชื่อพยักหน้า

เขาเองก็ยอมรับว่า ติงเฟิงเฉิงนั้นเป็นตัวไร้ประโยชน์ ทั้งยังไร้ความสามารถอย่างแท้จริง

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังพอมีข้อดีอยู่บ้าง

เจียงชื่อพูดขึ้นว่า: “คนคนนี้ไม่มีความสามารถอะไร ทั้งยังชอบเล่นพนัน ดีแต่เที่ยวเล่น เพราะงั้นถึงได้สะดุดล้มจนหกคะเมนตีลังกาได้ขนาดนี้ แต่เขาก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง คืออย่างน้อยเขาก็จะไม่มีวันหักหลังคุณ”

ติงจ้งแค่นเสียงหัวเราะเย็นชาขึ้นมาเสียงหนึ่ง “คนอย่างมันจะกล้าเหรอ?”

ทันทีที่บทสนทนาเปลี่ยนไป เขาก็พูดต่อว่า “แต่นี่เป็นข้อดีแค่ข้อเดียวของมันแล้ว ติงเฟิงเฉิงไอ้ลูกกระต่ายนั่นมีนิสัย “กะล่อนเสเพล” ชอบเที่ยวเล่น ชอบทำตัวสำมะเลเทเมา แต่เพื่อพี่น้องก็จะยอมปักมีดเข้าเอวสองข้าง  ไม่มีวันหักหลังญาติตัวเอง”

“และเพราะเหตุผลนี้จริงๆ ฉันถึงได้เอาแต่ฝึกฝนเขาเหมือนคนที่อยู่ในฐานะผู้สืบทอดตระกูล”

เจียงชื่อพูดขึ้นว่า “แต่ว่า คุณไม่ได้ฝึกฝนเขาให้ดี ในฐานะปู่ คุณตามใจเขามากเกินไป”

“คุณวางใจเถอะ จากนี้ไปฉันจะช่วยฝึกฝนหลานชายของคุณคนนี้ ให้เขามีความสามารถมากพอที่จะรับหน้าที่เจ้าบ้านของตระกูล”

คำพูดประโยคนี้ ช่างทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

ติงจ้งในตอนนี้ ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เจียงชื่อแล้ว

“เจียงชื่อ ฉันไม่รู้ว่าจะขอบคุณนายยังไงดีแล้วจริงๆ ”

“ฉันเคยทำตัวแย่ๆ แบบนั้นกับนาย แต่นายกลับไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบาดหมางเมื่อครั้งอดีต ใช้คุณธรรมเอาชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ ยิ่งนายเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ตาแก่อย่างฉันรู้สึกผิดแท้ๆ ”

เจียงชื่อโบกมือ “ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอก ทั้งหมดที่ฉันทำไปก็ไม่ได้ทำเพื่อคุณหรอก แต่ทำเพื่อเมิ่งเหยน การฟื้นฟูตระกูลติง กับฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างญาติ คือความปรารถนาสูงสุดของเมิ่งเหยน”

ถูกต้อง ทุกอย่างที่เจียงชื่อทำไป ก็เพื่อติงเมิ่งเหยียนอย่างแท้จริง

แต่ถึงอย่างนั้น ติงจ้งก็ยังรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณนี้อย่างมาก

ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ทันใดนั้น ประตูหอบรรพบุรุษก็ถูกผลักเปิดออก ติงเฟิงเฉิงวิ่งถลาเข้ามาด้วยท่าทางตื่นตระหนก

พริบตาเดียวเขาก็พุ่งตัวไปหยุดอยู่ตรงหน้าติงจ้ง แล้วละล่ำละลักพูดด้วยสภาพน้ำมูกน้ำตานองหน้าว่า: “คุณปู่ ช่วยผมด้วย พวกนั้นจะทำร้ายผมแล้ว!”

เมื่อติงจ้งเห็นสภาพเขา ความโกรธก็ปะทุขึ้นมาทั่วทุกอณูรูขุมขน

“ไอ้หลานเวรเอ๊ย! นี่แกยังมีหน้ามาให้ชั้นเห็นอีกเหรอ? แกทำให้หน้าแก่ๆ ของชั้นต้องอับอายขายขี้หน้าคนเขาจนหมดไม่มีเหลือแล้ว!”

ขณะที่พูด เขาก็ยกมือขึ้นแล้วฟาดใส่หน้าของติงเฟิงเฉิงไปด้วย

ติงเฟิงเฉิงแหกปากร้องด้วยความตกใจ: “คุณปู่ พวกนั้นจะบังคับให้ผมถอนตัวออกไปจากตระกูลติง!”

หือ?

มือของติงจ้งหยุดค้างอยู่กลางอากาศ “มันเกิดอะไรขึ้น?”

ติงเฟิงเฉิงพูดด้วยท่าทางจริงจังว่า: “ผมยังเป็นหนี้พนันพี่ไห่ที่เมืองเล่นอยู่ 5 ล้านหยวน เขาเลยใช้เรื่องนี้มาขู่ผม บังคับให้ผมถอนตัวจากบริษัทติงหรง ”

“พวกนั้นถึงกับทำลิสต์รายชื่อชุดหนึ่งเลยด้วย คุณปู่! คนในบอร์ดบริหารที่อยู่ข้างปู่ทั้งหมด ก็อยู่ในลิสต์รายชื่อนั้นด้วย พรุ่งนี้คงถูกบีบให้ลาออกกันหมดทั้งคณะแน่ๆ ”

“ไอ้สารเลวติงหงเหย้า มันกำลังกวาดล้างคนไม่เห็นด้วย!”

ติงจ้งเครียดจนขมวดคิ้วนิ่วหน้า

ไม่แปลกที่ติงหงเหย้าจะทำแบบนี้ แต่ถึงยังไงคนอื่นก็ยังพอให้ถอนตัวออกไปได้ แต่ติงเฟิงเฉิงจะถอนตัวออกไปไม่ได้เด็ดขาด

ทันทีที่ติงเฟิงเฉิงถอนตัวออกไป ในอนาคตคิดจะทวงคืนตระกูลติงกลับมา แล้วสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านอีกครั้ง ก็คงจะเป็นเรื่องยากมากขึ้นแน่ๆ

แต่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ จะแก้ไขยังไงดีล่ะ?

ติงเฟิงเฉิงพูดว่า “คุณปู่ ช่วยจ่ายเงิน 5 ล้านใช้หนี้แทนผมเร็วๆ เข้า แล้วจากนั้นผมจะออกจากบ้านตระกูลติง แค่นี้ก็จัดการแก้ไขเรื่องพวกนี้ได้หมดแล้ว ไม่งั้นพวกเขาจะจับผมเข้าคุก ผมไม่อยากเข้าคุกนะปู่ โฮๆๆ !”

ติงจ้งยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เขาสงสัยเหลือเกินว่าทำไมตัวเองถึงได้มีหลานชายที่ขี้ขลาดตาขาว ทั้งยังอ่อนแอไร้ประโยชน์ได้ถึงขนาดนี้?

“ลูกผู้ชายอกสามศอก จะร้องไห้ทำไม?!”

“ยืนดีๆ เดี๋ยวนี้!”

ในเวลานี้เอง เจียงชื่อก็ค่อยๆ พูดขึ้นช้าๆ ว่า : ” ห้าล้านนี้ให้ฉันจัดการเอง ฉันจะไปเดินเที่ยวที่เมืองเล่นซะหน่อย ไม่ใช่แค่ไปช่วยใช้หนี้ให้แค่นั้นนะ แต่ยังจะช่วยรักษาตำแหน่งของนายในฐานะรองประธานของตระกูลติงให้อีกด้วย ”

ติงเฟิงเฉิงถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ หันไปมองเจียงชื่อด้วยสีหน้าโง่เขลาทึ่มทื่อ

นี่มันสถานการณ์อะไรกันวะเนี่ย ?

พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทางทิศตะวันตกหรือไง ? เจียงชื่อถึงกับเป็นฝ่ายเสนอตัวลุกขึ้นมาช่วยตนเองเลยเหรอ? นี่ไม่ใช่ว่ากำลังฝันอยู่ใช่มั้ย?

“นายพูดจริงเหรอ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+