จอมนักรบท้าโลก 727 คำขอโทษอย่างจริงใจ

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 727 คำขอโทษอย่างจริงใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การคุกเข่านี้ ทำให้ติงเฟิงเฉิงตกตะลึงจนอึ้งค้างไปเลย ถึงกับสงสัยขึ้นมาว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่าเลยทีเดียว

เขาอยู่มาจนโตขนาดนี้ ตลอดมาได้แต่แสร้งทำเป็นหลานชายที่แสนดี คอยส่ายหูส่ายหางวิ่งไปขอโทษขอโพยคนอื่นมาโดยตลอด วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกแล้วรึไง? ถึงกับมีคนเป็นฝ่ายมาขอโทษเขาก่อนแบบนี้?

ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ คนเหล่านี้ยังเป็นคนแข็งแกร่งกว่าลูกน้องของตัวเองอีกด้วย

ถ้าว่ากันตามเหตุผล มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้

เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “คือว่า… อย่าทำอย่างนี้เลยน่า ทุกคนลุกขึ้นเถอะ”

เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ติงเฟิงเฉิงถึงกับร้อนตัวขึ้นมาเลยทีเดียว

ที่ตลกยิ่งกว่าคือ อีกฝ่ายยังไม่ยอมลุกขึ้น!

หัวหน้าทีมที่พาคนมาพูดขึ้นอย่างจริงใจมาก ว่า : “ไม่ พวกเรายังลุกขึ้นไม่ได้ เพราะถึงยังไงพวกเราก็มีความผิดติดตัวมาก่อน พวกเราไม่มีเหตุผลสมควรก็หาเรื่องชวนทะเลาะ บีบบังคับให้คุณถอนตัวจากตระกูลติง เป็นพวกเราเองที่ผิด ไม่มีอะไรจะพูดแก้ตัว พวกเรามาที่นี่เพื่อขอโทษโดยเฉพาะ ได้โปรดให้พวกเราสารภาพบาป และทำการสำนึกผิดต่อหน้าหอบรรพบุรุษตระกูลติงด้วย มีแค่วิธีนี้เท่านั้นถึงจะทำให้พวกเราสบายใจได้”

“เอ่อ……”

ติงเฟิงเฉิงเกาหัวแกรกๆ “ถ้าพวกแกเต็มใจจะคุกเข่า ก็คุกเข่าไปเหอะ”

หลังจากหันหน้าไปดู ติงเฟิงเฉิงก็ถามว่า “พี่ไห่เจ้านายของพวกแกล่ะ?”

พวกเขายังคิดกันไปว่า ติงเฟิงเฉิงจงใจถามว่าทำไมพี่ไห่ถึงไม่มา? จึงรีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า : “เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่แขน พี่ไห่เลยกำลังไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาจจะมาไม่ได้สักพัก แต่คุณวางใจได้ ขอแค่พี่ไห่หายดีเป็นปกติแล้ว เขาจะต้องรีบมาขอโทษด้วยตัวเองอย่างแน่นอนครับ ”

ติงเฟิงเฉิงยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

พี่ไห่ได้รับบาดเจ็บที่แขน? ใครมันจะไปขวัญกล้าขนาดนั้น?

เขาถามอย่างไม่แน่ใจนักว่า: “ที่พวกแกมาทำแบบนี้ เป็นเพราะใครงั้นเหรอ?”

ชายคนนั้นพูดอย่างจริงใจอย่างยิ่ง : “คุณอย่าล้อพวกเราเล่นเลยครับ เป็นเพราะใคร? ไม่ใช่ว่าคุณรู้ดีกว่าพวกเราหรอกเหรอ?”

ติงเฟิงเฉิงขมวดคิ้วมุ่น ไม่พูดอะไรอีก แต่หันหลังแล้วเดินเข้าไปในหอบรรพบุรุษ

“คุณปู่ แปลกมากเลย ลูกน้องของพี่ไห่ถึงกับมาขอโทษผมจริงๆ ด้วย!”

“แถมพี่ไห่ยังได้รับบาดเจ็บอีก”

“น่าแปลกจริงๆ ไม่รู้ว่าใครช่วยล้างแค้นให้ผมกันแน่?”

ติงจ้งหัวเราะฮาๆ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะอยู่ในการคำนวณของเขามานานพอสมควรแล้ว เขาปัดๆ แขนเสื้อ แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า: “ใครช่วยแก ยังต้องให้ฉันพูดอีกเรอะ?”

ติงเฟิงเฉิงตกใจจนผงะ นึกถึงบุคคลคนหนึ่งขึ้นมาทันที

“เจียงชื่อ?”

“เป็นไปไม่ได้ ไอ้เต่าหดหัวนั่นน่ะเหรอ? มันจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”

พูดยังไม่ทันจบ ติงจ้งก็ยกมือขึ้นตบกะโหลกติงเฟิงเฉิงเต็มๆ ตบจนดวงตาทั้งสองข้างพร่างพราย มองเห็นดาวสีทองระยิบระยับเลยทีเดียว

“ห้ามพูดจาอย่างนี้กับผู้มีพระคุณ!”

ผู้มีพระคุณ ?

ติงเฟิงเฉิงยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมแก้ม ไม่รู้แล้วว่าควรจะพูดอะไรดี ทำไมทัศนคติของคุณปู่ถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้?

แต่เมื่อกี้ตอนที่เจียงชื่อจะออกไป ก็พูดไว้ว่าเขาจะช่วยตัวเองจริงๆ ซะด้วยสิ

ดูเหมือนว่านอกจากเจียงชื่อแล้ว ก็ไม่มีใครพูดอะไรที่คล้ายคลึงกับคำพูดทำนองนี้อีก

พวกที่ชอบประจบประแจงตัวเองในยามปกติ ในเวลานี้ ต่างก็พากันเปิดตูดหนีไปให้ไกลเท่าที่จะไกลได้กันทั้งนั้น ไม่มีใครเต็มใจเข้าใกล้เขาแม้แต่คนเดียว นับประสาอะไรกับการพูดเรื่องจะช่วยแก้แค้นให้ตัวเองกันล่ะ?

“หรือว่า….จะเป็นเขาจริงๆ ?”

ถ้าเป็นเจียงชื่อจริงๆ ล่ะก็ ติงเฟิงเฉิงก็คงจะรู้สึกประดักประเดิดขึ้นมาแน่แล้ว

ติงจ้งโบกมือเป็นพัลวัน “แกยังจะมัวยืนเซ่อทำอะไรอยู่ ? ยังไม่รีบไปขอบคุณในบุญคุณของคนเค้าอีก ! เฟิงเฉิง ฉันจะบอกแกให้นะ ว่าตระกูลติงของพวกเราจะสามารถกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งหรือไม่ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับเจียงชื่อแล้ว เขาเป็นความหวังเดียวของพวกเรา หัวเด็ดตีนขาดแกก็ห้ามทำให้เขาผิดหวัง เข้าใจมั้ย ?”

แม้จะเป็นคำพูดแบบนี้ แต่ติงเฟิงเฉิงก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

เขาถามด้วยความสงสัย: “คุณปู่ ทำไมจู่ๆ ปู่ถึงได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเจียงชื่อไปได้มากขนาดนี้ล่ะ? เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าปู่เคยเกลียดเขามาตลอดหรอกเหรอ?”

ติงจ้งยกยิ้ม

“เมื่อก่อนฉันมันมีตาแต่ดันไร้แววเอง ตอนนี้ ฉันมองเห็นอะไรๆ ได้ชัดเจนแล้วว่าใครดีใครชั่ว ในใจฉันตอนนี้เปรียบเหมือนกระจกเงาอันสดใส มองอะไรก็กระจ่างชัดแล้ว!”

“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว ไปกันเถอะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบท้าโลก 727 คำขอโทษอย่างจริงใจ

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 727 คำขอโทษอย่างจริงใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การคุกเข่านี้ ทำให้ติงเฟิงเฉิงตกตะลึงจนอึ้งค้างไปเลย ถึงกับสงสัยขึ้นมาว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่าเลยทีเดียว

เขาอยู่มาจนโตขนาดนี้ ตลอดมาได้แต่แสร้งทำเป็นหลานชายที่แสนดี คอยส่ายหูส่ายหางวิ่งไปขอโทษขอโพยคนอื่นมาโดยตลอด วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกแล้วรึไง? ถึงกับมีคนเป็นฝ่ายมาขอโทษเขาก่อนแบบนี้?

ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ คนเหล่านี้ยังเป็นคนแข็งแกร่งกว่าลูกน้องของตัวเองอีกด้วย

ถ้าว่ากันตามเหตุผล มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้

เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “คือว่า… อย่าทำอย่างนี้เลยน่า ทุกคนลุกขึ้นเถอะ”

เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ติงเฟิงเฉิงถึงกับร้อนตัวขึ้นมาเลยทีเดียว

ที่ตลกยิ่งกว่าคือ อีกฝ่ายยังไม่ยอมลุกขึ้น!

หัวหน้าทีมที่พาคนมาพูดขึ้นอย่างจริงใจมาก ว่า : “ไม่ พวกเรายังลุกขึ้นไม่ได้ เพราะถึงยังไงพวกเราก็มีความผิดติดตัวมาก่อน พวกเราไม่มีเหตุผลสมควรก็หาเรื่องชวนทะเลาะ บีบบังคับให้คุณถอนตัวจากตระกูลติง เป็นพวกเราเองที่ผิด ไม่มีอะไรจะพูดแก้ตัว พวกเรามาที่นี่เพื่อขอโทษโดยเฉพาะ ได้โปรดให้พวกเราสารภาพบาป และทำการสำนึกผิดต่อหน้าหอบรรพบุรุษตระกูลติงด้วย มีแค่วิธีนี้เท่านั้นถึงจะทำให้พวกเราสบายใจได้”

“เอ่อ……”

ติงเฟิงเฉิงเกาหัวแกรกๆ “ถ้าพวกแกเต็มใจจะคุกเข่า ก็คุกเข่าไปเหอะ”

หลังจากหันหน้าไปดู ติงเฟิงเฉิงก็ถามว่า “พี่ไห่เจ้านายของพวกแกล่ะ?”

พวกเขายังคิดกันไปว่า ติงเฟิงเฉิงจงใจถามว่าทำไมพี่ไห่ถึงไม่มา? จึงรีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า : “เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่แขน พี่ไห่เลยกำลังไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาจจะมาไม่ได้สักพัก แต่คุณวางใจได้ ขอแค่พี่ไห่หายดีเป็นปกติแล้ว เขาจะต้องรีบมาขอโทษด้วยตัวเองอย่างแน่นอนครับ ”

ติงเฟิงเฉิงยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

พี่ไห่ได้รับบาดเจ็บที่แขน? ใครมันจะไปขวัญกล้าขนาดนั้น?

เขาถามอย่างไม่แน่ใจนักว่า: “ที่พวกแกมาทำแบบนี้ เป็นเพราะใครงั้นเหรอ?”

ชายคนนั้นพูดอย่างจริงใจอย่างยิ่ง : “คุณอย่าล้อพวกเราเล่นเลยครับ เป็นเพราะใคร? ไม่ใช่ว่าคุณรู้ดีกว่าพวกเราหรอกเหรอ?”

ติงเฟิงเฉิงขมวดคิ้วมุ่น ไม่พูดอะไรอีก แต่หันหลังแล้วเดินเข้าไปในหอบรรพบุรุษ

“คุณปู่ แปลกมากเลย ลูกน้องของพี่ไห่ถึงกับมาขอโทษผมจริงๆ ด้วย!”

“แถมพี่ไห่ยังได้รับบาดเจ็บอีก”

“น่าแปลกจริงๆ ไม่รู้ว่าใครช่วยล้างแค้นให้ผมกันแน่?”

ติงจ้งหัวเราะฮาๆ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะอยู่ในการคำนวณของเขามานานพอสมควรแล้ว เขาปัดๆ แขนเสื้อ แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า: “ใครช่วยแก ยังต้องให้ฉันพูดอีกเรอะ?”

ติงเฟิงเฉิงตกใจจนผงะ นึกถึงบุคคลคนหนึ่งขึ้นมาทันที

“เจียงชื่อ?”

“เป็นไปไม่ได้ ไอ้เต่าหดหัวนั่นน่ะเหรอ? มันจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”

พูดยังไม่ทันจบ ติงจ้งก็ยกมือขึ้นตบกะโหลกติงเฟิงเฉิงเต็มๆ ตบจนดวงตาทั้งสองข้างพร่างพราย มองเห็นดาวสีทองระยิบระยับเลยทีเดียว

“ห้ามพูดจาอย่างนี้กับผู้มีพระคุณ!”

ผู้มีพระคุณ ?

ติงเฟิงเฉิงยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมแก้ม ไม่รู้แล้วว่าควรจะพูดอะไรดี ทำไมทัศนคติของคุณปู่ถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้?

แต่เมื่อกี้ตอนที่เจียงชื่อจะออกไป ก็พูดไว้ว่าเขาจะช่วยตัวเองจริงๆ ซะด้วยสิ

ดูเหมือนว่านอกจากเจียงชื่อแล้ว ก็ไม่มีใครพูดอะไรที่คล้ายคลึงกับคำพูดทำนองนี้อีก

พวกที่ชอบประจบประแจงตัวเองในยามปกติ ในเวลานี้ ต่างก็พากันเปิดตูดหนีไปให้ไกลเท่าที่จะไกลได้กันทั้งนั้น ไม่มีใครเต็มใจเข้าใกล้เขาแม้แต่คนเดียว นับประสาอะไรกับการพูดเรื่องจะช่วยแก้แค้นให้ตัวเองกันล่ะ?

“หรือว่า….จะเป็นเขาจริงๆ ?”

ถ้าเป็นเจียงชื่อจริงๆ ล่ะก็ ติงเฟิงเฉิงก็คงจะรู้สึกประดักประเดิดขึ้นมาแน่แล้ว

ติงจ้งโบกมือเป็นพัลวัน “แกยังจะมัวยืนเซ่อทำอะไรอยู่ ? ยังไม่รีบไปขอบคุณในบุญคุณของคนเค้าอีก ! เฟิงเฉิง ฉันจะบอกแกให้นะ ว่าตระกูลติงของพวกเราจะสามารถกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งหรือไม่ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับเจียงชื่อแล้ว เขาเป็นความหวังเดียวของพวกเรา หัวเด็ดตีนขาดแกก็ห้ามทำให้เขาผิดหวัง เข้าใจมั้ย ?”

แม้จะเป็นคำพูดแบบนี้ แต่ติงเฟิงเฉิงก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

เขาถามด้วยความสงสัย: “คุณปู่ ทำไมจู่ๆ ปู่ถึงได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเจียงชื่อไปได้มากขนาดนี้ล่ะ? เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าปู่เคยเกลียดเขามาตลอดหรอกเหรอ?”

ติงจ้งยกยิ้ม

“เมื่อก่อนฉันมันมีตาแต่ดันไร้แววเอง ตอนนี้ ฉันมองเห็นอะไรๆ ได้ชัดเจนแล้วว่าใครดีใครชั่ว ในใจฉันตอนนี้เปรียบเหมือนกระจกเงาอันสดใส มองอะไรก็กระจ่างชัดแล้ว!”

“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว ไปกันเถอะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+