จอมนักรบท้าโลก 778 ยืมตัวพี่เขยไปใช้

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 778 ยืมตัวพี่เขยไปใช้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สิบนาทีต่อมา ทั้งสองคนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบกับซูสวน

ในวันนี้ซูสวนแต่งตัวสวยงามเป็นอย่างมาก

กระโปรงลูกไม้สีส้มดูอบอุ่นและเข้ากับเสื้อทรงตาข่าย เปรียบเสมือนดอกทานตะวันท่ามกลางแสงแดดที่ส่องประกายระยิบระยับและเปี่ยมด้วยลมหายใจแห่งความเยาว์วัย

ทุกๆ ครั้งที่เห็นซูสวน เธอจะรู้สึกหึงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของติงเมิ่งเหยนจะงดงามมากแต่ติงเมิ่งเหยนยังขาดกลิ่นอายแห่งความเยาว์วัยของซูสวนอยู่

หรือจะพูดได้ว่า เมื่อซูสวนอยู่ต่อหน้าติงเมิ่งเหยนนั้นเธอมักจะคิดว่าเธอ‘อายุมาก’แม้ว่าเธอจะอายุแค่ยี่สิบกว่าก็ตาม

“พี่สาว!” ซูสวนเข้าไปกอดติงเมิ่งเหยน

“พี่เขย!” ซูสวนเข้าไปกอดเจียงชื่ออีกครั้ง สิ่งที่ทำให้ติงเมิ่งเหยนรู้สึกไม่สบายใจก็คือตอนที่ซูสวนกอดเจียงชื่อนั้นดูมีความสุขเป็นอย่างมาก

ความหึงหวงในใจของติงเมิ่งเหยนนั้นถูกตีจนแตกเป็นเสียงเพล้ง

“มา มากินข้าวเช้ากันเถอะ” ซูฉินพูดในห้องนั่งเล่น

ทุกคนมารวมตัวกันรับประทานอาหารเช้า

เพื่อเป็นการต้อนรับการมาของซูสวน ซูฉินจึงได้เตรียมอาหารไว้มากมายหลายอย่าง

“ว้าว ฝีมือของอาหญิงนี่นับวันยิ่งเก่งมากขึ้นเลยนะคะ อร่อยกว่าแม่หนูมากเลยค่ะ” ซูสวนกินพลางพูดออกมา

“เด็กคนนี้ รู้วิธีประจบประแจงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ซูฉินกล่าวอย่างร่าเริง

ส่วนติงเมิ่งเหยนที่กินโจ๊กเข้าไปหนึ่งคำได้ถามอย่างสงสัยว่า “พูดตามจริงนะ ซูสวน วันนี้ที่หล่อนมาบ้านเรานั้นมีอะไรเหรอ?หล่อนคงไม่ได้มาโดยไม่ได้มีธุระอะไรหรอก อย่าพยายามมาหลอกลวงฉันเลย”

“ฮิฮิ เรื่องอะไรก็ดูเหมือนจะปิดบังพี่สาวไม่ได้เลยสินะ” ซูสวนทำเสียงอ่ะแฮ่มออกมาพร้อมกับพูดอย่างจริงจัง “ที่หนูมาในวันนี้ก็เพราะว่ามีเรื่องอยากขอให้พี่ช่วยน่ะ”

“เหอะ ฉันรู้หรอกน่า” ติงเมิ่งเหยนคีบผักดองขึ้นมาชิ้นหนึ่ง “พูดมาสิ มีเรื่องอะไร?”

ซูสวนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ และพูดต่อหน้าทุกคนว่า “ที่มาในวันนี้ หนูอยากจะขอยืมตัวพี่เขยไปใช้น่ะค่ะ!”

พรึ่บ~~

เจียงชื่อที่กำลังทานโจ๊กอยู่ด้านข้างถึงกับควบคุมแทบไม่อยู่จนจะพ่นออกมา

นี่มันคำขออะไรแปลกๆ กันเนี่ย?

ยืมตนงั้นเหรอ?ยืมไปทำอะไร?หลอกล่อของเงิน?คงไม่หรอกน่า ซูสวนสวยขนาดนั้นคงมีคนมาตามรุมจีบเยอะแยะ

กลับมาคิดอีกทีอาจจะเป็นการมาขอยืมเงินตนอีกแล้ว?

เพล้ง

ในใจของติงเมิ่งเหยนตื่นตระหนก มือของเธอสั่นจนตะเกียบในมือตกลงไปอยู่บนโต๊ะ

เธอหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับสงบสติอารมณ์ เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาอีกครั้งและถามอย่างไม่มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า “ซูสวน อย่ามาแผลงฤทธิ์นะ”

ซูสวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ไม่ได้มาแผลงฤทธิ์อะไรสักหน่อย วันนี้ที่มาก็แค่จะมาขอยืมตัวพี่เขยไปใช้เท่านั้นเอง”

ติงเมิ่งเหยนวางตะเกียบในมือลงพร้อมกับมองไปที่ซูสวนอย่างเอาจริงเอาจัง “หล่อนจะเอาเขาไปทำอะไร?เอาไปเป็นคนขับรถเหรอ?”

“ไม่ใช่!”

“งั้นคืออะไรล่ะ?”

“ฉันอยากให้พี่เขยมาเป็นแฟนของฉัน!”

บูม!!!

ฉากในตอนนี้หยุดนิ่งในทันที ที่โต๊ะอาหาร สีหน้าของทุกๆ คนดูอึดอัด

โจ๊กที่อยู่ในปากของเจียงชื่อนั้นไม่สามารถกลืนลงไปหรืออาเจียนออกมาได้ รูขุมขนทั่วร่างกายนั้นได้เปิดออก ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย ตอนที่เขาอยู่สนามรบก็ไม่เคยรู้สึกเครียดขนาดนี้มาก่อนเลย

ซูฉินที่เป็นแม่ยายถึงกับวางตะเกียบลง มองและพูดกับเจียงชื่อด้วยสายตาที่เย็นชา “เอาล่ะ เจียงชื่อ ดูไม่ออกเลยนะว่านายจะมีความสามารถขนาดนี้ ชอบทั้งพี่สาวและน้องสาวเลยเหรอ?”

เจียงชื่อพูดไม่ออกและไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร

ติงเมิ่งเหยนตบโต๊ะ “พวกเธอสองคนนี่มันอะไรกัน?”

เมื่อเผชิญกับความสงสัยของผู้หญิงทั้งสองคน เจียงชื่อถึงกับอธิบายไม่ถูกพร้อมกับมองไปที่ซูสวนด้วยท่าทางที่ขมขื่น “เจ้าคุณหนูอย่าพูดซี้ซั้วจะได้ไหม?อาจทำให้คนตายได้เลยนะ!”

ใครจะรู้ ซูสวนยิ้มออกมาพร้อมกับพูดอย่างคนที่ไม่ได้คิดอะไร “อาหญิง พี่สาว พวกท่านเข้าใจผิดกันแล้ว พอดีว่าตอนบ่ายหนูมีนัดบอดเลยอยากจะขอให้พี่เขยแกล้งเป็นแฟนให้หน่อยเพื่อที่จะได้ไล่คู่นัดบอดไปก็เท่านั้นเองค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ติงเมิ่งเหยนกับซูฉินจึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ซูฉินหยิบตะเกียบพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่สิสวนเอ๋อ หล่อนไม่อยากไปนัดบอดก็ไม่ต้องไปสิ ทำไมต้องไปหลอกคนอื่นเขากันด้วย?”

ซูสวนถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “หนูไม่อยากไปค่ะแต่พ่อของหนูบังคับให้หนูไป”

“ทำไมล่ะ ครั้งนี้พ่อของหล่อนก็เป็นคนจัดหามาให้อีกงั้นเหรอ?”

“ใครบอกว่าไม่ใช่กันล่ะคะ?หนูล่ะไม่รู้จริงๆ ว่าพ่อของหนูไปหาคู่นัดบอดมาจากไหน ว่ากันว่าเป็นอนาคตทายาทของบริษัทใหญ่ มีเงินมากมายและบังคับให้หนูไปเจอให้ได้”

ซูฉินพยักหน้า “งั้นมันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอกเหรอ?”

“ดีอะไรกันล่ะคะ?” ซูสวนพูดอย่างขมขื่น “อาหญิงน่ะไม่รู้อะไร ชายคนนั้นอายุปาจะเข้าสี่สิบแล้วด้วย!นี่หนูไปหาแฟนหรือหาพ่อกันแน่?”

“ห๊ะ?สี่สิบเหรอ?งั้นพ่อหล่อนก็ทำเกินไปหน่อยนะ”

“ก็ใช่น่ะสิคะ!”

หลังจากที่ซูสวนได้สนทนากับซูฉินแล้วก็รู้สึกว่าการนัดบอดครั้งนี้ไว้ใจไม่ได้แต่การที่ไม่ไปก็อาจทำร้ายจิตใจของพ่อได้ ดังนั้นการไปรับมือสักหน่อยก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้

ตราบใดที่รู้ว่าซูสวนนั้นมีแฟนแล้ว ต่อให้ยากแค่ไหนก็ต้องถอยออกมา

ซูฉินพยักหน้า “อืม เรื่องนี้สามารถช่วยเหลือกันได้ ชื่อเอ๋อ วันนี้นายก็ไปกับสวนเอ๋อสักหน่อยก็แล้วกัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบท้าโลก 778 ยืมตัวพี่เขยไปใช้

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 778 ยืมตัวพี่เขยไปใช้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สิบนาทีต่อมา ทั้งสองคนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบกับซูสวน

ในวันนี้ซูสวนแต่งตัวสวยงามเป็นอย่างมาก

กระโปรงลูกไม้สีส้มดูอบอุ่นและเข้ากับเสื้อทรงตาข่าย เปรียบเสมือนดอกทานตะวันท่ามกลางแสงแดดที่ส่องประกายระยิบระยับและเปี่ยมด้วยลมหายใจแห่งความเยาว์วัย

ทุกๆ ครั้งที่เห็นซูสวน เธอจะรู้สึกหึงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของติงเมิ่งเหยนจะงดงามมากแต่ติงเมิ่งเหยนยังขาดกลิ่นอายแห่งความเยาว์วัยของซูสวนอยู่

หรือจะพูดได้ว่า เมื่อซูสวนอยู่ต่อหน้าติงเมิ่งเหยนนั้นเธอมักจะคิดว่าเธอ‘อายุมาก’แม้ว่าเธอจะอายุแค่ยี่สิบกว่าก็ตาม

“พี่สาว!” ซูสวนเข้าไปกอดติงเมิ่งเหยน

“พี่เขย!” ซูสวนเข้าไปกอดเจียงชื่ออีกครั้ง สิ่งที่ทำให้ติงเมิ่งเหยนรู้สึกไม่สบายใจก็คือตอนที่ซูสวนกอดเจียงชื่อนั้นดูมีความสุขเป็นอย่างมาก

ความหึงหวงในใจของติงเมิ่งเหยนนั้นถูกตีจนแตกเป็นเสียงเพล้ง

“มา มากินข้าวเช้ากันเถอะ” ซูฉินพูดในห้องนั่งเล่น

ทุกคนมารวมตัวกันรับประทานอาหารเช้า

เพื่อเป็นการต้อนรับการมาของซูสวน ซูฉินจึงได้เตรียมอาหารไว้มากมายหลายอย่าง

“ว้าว ฝีมือของอาหญิงนี่นับวันยิ่งเก่งมากขึ้นเลยนะคะ อร่อยกว่าแม่หนูมากเลยค่ะ” ซูสวนกินพลางพูดออกมา

“เด็กคนนี้ รู้วิธีประจบประแจงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ซูฉินกล่าวอย่างร่าเริง

ส่วนติงเมิ่งเหยนที่กินโจ๊กเข้าไปหนึ่งคำได้ถามอย่างสงสัยว่า “พูดตามจริงนะ ซูสวน วันนี้ที่หล่อนมาบ้านเรานั้นมีอะไรเหรอ?หล่อนคงไม่ได้มาโดยไม่ได้มีธุระอะไรหรอก อย่าพยายามมาหลอกลวงฉันเลย”

“ฮิฮิ เรื่องอะไรก็ดูเหมือนจะปิดบังพี่สาวไม่ได้เลยสินะ” ซูสวนทำเสียงอ่ะแฮ่มออกมาพร้อมกับพูดอย่างจริงจัง “ที่หนูมาในวันนี้ก็เพราะว่ามีเรื่องอยากขอให้พี่ช่วยน่ะ”

“เหอะ ฉันรู้หรอกน่า” ติงเมิ่งเหยนคีบผักดองขึ้นมาชิ้นหนึ่ง “พูดมาสิ มีเรื่องอะไร?”

ซูสวนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ และพูดต่อหน้าทุกคนว่า “ที่มาในวันนี้ หนูอยากจะขอยืมตัวพี่เขยไปใช้น่ะค่ะ!”

พรึ่บ~~

เจียงชื่อที่กำลังทานโจ๊กอยู่ด้านข้างถึงกับควบคุมแทบไม่อยู่จนจะพ่นออกมา

นี่มันคำขออะไรแปลกๆ กันเนี่ย?

ยืมตนงั้นเหรอ?ยืมไปทำอะไร?หลอกล่อของเงิน?คงไม่หรอกน่า ซูสวนสวยขนาดนั้นคงมีคนมาตามรุมจีบเยอะแยะ

กลับมาคิดอีกทีอาจจะเป็นการมาขอยืมเงินตนอีกแล้ว?

เพล้ง

ในใจของติงเมิ่งเหยนตื่นตระหนก มือของเธอสั่นจนตะเกียบในมือตกลงไปอยู่บนโต๊ะ

เธอหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับสงบสติอารมณ์ เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาอีกครั้งและถามอย่างไม่มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า “ซูสวน อย่ามาแผลงฤทธิ์นะ”

ซูสวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ไม่ได้มาแผลงฤทธิ์อะไรสักหน่อย วันนี้ที่มาก็แค่จะมาขอยืมตัวพี่เขยไปใช้เท่านั้นเอง”

ติงเมิ่งเหยนวางตะเกียบในมือลงพร้อมกับมองไปที่ซูสวนอย่างเอาจริงเอาจัง “หล่อนจะเอาเขาไปทำอะไร?เอาไปเป็นคนขับรถเหรอ?”

“ไม่ใช่!”

“งั้นคืออะไรล่ะ?”

“ฉันอยากให้พี่เขยมาเป็นแฟนของฉัน!”

บูม!!!

ฉากในตอนนี้หยุดนิ่งในทันที ที่โต๊ะอาหาร สีหน้าของทุกๆ คนดูอึดอัด

โจ๊กที่อยู่ในปากของเจียงชื่อนั้นไม่สามารถกลืนลงไปหรืออาเจียนออกมาได้ รูขุมขนทั่วร่างกายนั้นได้เปิดออก ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย ตอนที่เขาอยู่สนามรบก็ไม่เคยรู้สึกเครียดขนาดนี้มาก่อนเลย

ซูฉินที่เป็นแม่ยายถึงกับวางตะเกียบลง มองและพูดกับเจียงชื่อด้วยสายตาที่เย็นชา “เอาล่ะ เจียงชื่อ ดูไม่ออกเลยนะว่านายจะมีความสามารถขนาดนี้ ชอบทั้งพี่สาวและน้องสาวเลยเหรอ?”

เจียงชื่อพูดไม่ออกและไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร

ติงเมิ่งเหยนตบโต๊ะ “พวกเธอสองคนนี่มันอะไรกัน?”

เมื่อเผชิญกับความสงสัยของผู้หญิงทั้งสองคน เจียงชื่อถึงกับอธิบายไม่ถูกพร้อมกับมองไปที่ซูสวนด้วยท่าทางที่ขมขื่น “เจ้าคุณหนูอย่าพูดซี้ซั้วจะได้ไหม?อาจทำให้คนตายได้เลยนะ!”

ใครจะรู้ ซูสวนยิ้มออกมาพร้อมกับพูดอย่างคนที่ไม่ได้คิดอะไร “อาหญิง พี่สาว พวกท่านเข้าใจผิดกันแล้ว พอดีว่าตอนบ่ายหนูมีนัดบอดเลยอยากจะขอให้พี่เขยแกล้งเป็นแฟนให้หน่อยเพื่อที่จะได้ไล่คู่นัดบอดไปก็เท่านั้นเองค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ติงเมิ่งเหยนกับซูฉินจึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ซูฉินหยิบตะเกียบพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่สิสวนเอ๋อ หล่อนไม่อยากไปนัดบอดก็ไม่ต้องไปสิ ทำไมต้องไปหลอกคนอื่นเขากันด้วย?”

ซูสวนถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “หนูไม่อยากไปค่ะแต่พ่อของหนูบังคับให้หนูไป”

“ทำไมล่ะ ครั้งนี้พ่อของหล่อนก็เป็นคนจัดหามาให้อีกงั้นเหรอ?”

“ใครบอกว่าไม่ใช่กันล่ะคะ?หนูล่ะไม่รู้จริงๆ ว่าพ่อของหนูไปหาคู่นัดบอดมาจากไหน ว่ากันว่าเป็นอนาคตทายาทของบริษัทใหญ่ มีเงินมากมายและบังคับให้หนูไปเจอให้ได้”

ซูฉินพยักหน้า “งั้นมันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอกเหรอ?”

“ดีอะไรกันล่ะคะ?” ซูสวนพูดอย่างขมขื่น “อาหญิงน่ะไม่รู้อะไร ชายคนนั้นอายุปาจะเข้าสี่สิบแล้วด้วย!นี่หนูไปหาแฟนหรือหาพ่อกันแน่?”

“ห๊ะ?สี่สิบเหรอ?งั้นพ่อหล่อนก็ทำเกินไปหน่อยนะ”

“ก็ใช่น่ะสิคะ!”

หลังจากที่ซูสวนได้สนทนากับซูฉินแล้วก็รู้สึกว่าการนัดบอดครั้งนี้ไว้ใจไม่ได้แต่การที่ไม่ไปก็อาจทำร้ายจิตใจของพ่อได้ ดังนั้นการไปรับมือสักหน่อยก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้

ตราบใดที่รู้ว่าซูสวนนั้นมีแฟนแล้ว ต่อให้ยากแค่ไหนก็ต้องถอยออกมา

ซูฉินพยักหน้า “อืม เรื่องนี้สามารถช่วยเหลือกันได้ ชื่อเอ๋อ วันนี้นายก็ไปกับสวนเอ๋อสักหน่อยก็แล้วกัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+