จอมนักรบท้าโลก 808 ศิลปินแนวหน้า

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 808 ศิลปินแนวหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในเวลานี้ เสียงเท้าเดินดังขึ้น หยูฉงโหลวเดินขึ้นไปบนเวทีของโรงแรมและเริ่มร้องโอเปร่าหวงเหมย

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าการแสดงของหยูฉงโหลวนั้นยอดเยี่ยมมาก!

ผู้ชมต่างก็อินกับบทเพลงของเขาและพากันปรบมือให้เขา ชาตินี้ได้ฟังการแสดงสดของหยูฉงโหลวสักครั้ง ถือเป็นบุญจริงๆ!

แต่ติงฉี่ซานไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลย

หยูฉงโหลวเป็นศิลปินที่ติงหงเหย้าเชิญมา ยิ่งเขาร้องเพลงเพราะมากแค่ไหน ติงหงเหย้าก็ยิ่งได้รับเกียรติมากเท่านั้น และเจียงชื่อก็ยิ่งเทียบกับเขาไม่ได้

เดิมทีทุกอย่างของงานเลี้ยงในคืนนี้เป็นของเจียงชื่อแล้ว แต่สุดท้ายติงหงเหย้ากลับเข้ามาแย่งซีนเขา นี่มันหมายความว่ายังไง?

ฉะนั้น แม้ติงฉี่ซานจะชอบหยูฉงโหลวมาก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจมีความสุขได้

20 นาทีผ่านไป ในที่สุดหยูฉงโหลวก็ลงจากเวทีเพื่อไปพัก

ด้วยเสียงปรบมืออันอบอุ่นนั้น มันสามารถสัมผัสถึงความกระตือรือร้นของเหล่าแฟนคลับ สามารถรู้สึกถึงความรักของทุกคนที่มีต่อศิลปินแนวหน้าคนนี้

และในเวลานี้ ติงหงเหย้าก็มองไปที่ติงฉี่ซานด้วยรอยยิ้มจางๆ และถามขึ้นว่า “อาสาม เป็นยังไงบ้างครับ?”

ติงฉี่ซานก็ตอบทันที “พอใช้ได้”

“พอใช้ได้? ฮ่า ๆ อาสามจะพูดจริงเหรอครับ? เขาเป็นถึงศิลปินอันดับหนึ่งในวงการโอเปร่าหวงเหมยนะครับ แต่อาสามกลับบอกเขาว่า ‘พอใช้ได้’ ?”

ติงฉี่ซานถูกถามจนไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่หันหน้าหนีและเมินเฉยต่อเขา

ติงหงเหย้าก็หันมองไปที่เจียงชื่ออีกครั้งแล้วถามว่า “เจียงชื่อ คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าพ่อคุณชอบโอเปร่าหวงเหมย?”

เจียงชื่อตอบสั้นๆ คำเดียวด้วยสีหน้าเฉยเมย “รู้”

ทันทีที่คำนี้ถูกพูดออกจากปาก ทุกคนต่างก็เป็นกังวลและสงสัยว่านี่มันเป็นหลุมกับดักไม่ใช่หรือ?

ติงหงเหย้าพูดต่อ “ในเมื่อคุณรู้ ทำไมคุณไม่เชิญนักร้องมาร้องเพลงให้พ่อฟังสักเพลงล่ะ? ทำไม ไม่มีปัญญาเชิญหรือว่าลืมเรื่องนี้ไปแล้ว?”

เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นหลุมกับดัก

ทุกคนต่างก็ถอนหายใจด้วยความกังวล เพราะไม่ว่าเจียงชื่อจะตอบอย่างไร เขาต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

เฮ้อ เจียงชื่อเก่งก็จริงนะ แต่ถ้าเทียบกับติงหงเหย้าแล้ว ยังต่างกันอยู่บ้าง หรือบอกได้ว่าเจียงชื่อไม่ใช่คู่ต่อสู้ของติงหงเหย้าเลยก็ว่าได้ เพราะแค่นี้ก็ตกหลุมพรางของคนอื่นแล้ว

เจียงชื่อเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มเบาๆ “จะว่าไป มันก็บังเอิญนะ เพราะผมก็เชิญนักร้องโอเปร่าหวงเหมยมาให้พ่อเหมือนกัน”

“อ้าว จริงเหรอ?” ติงหงเหย้าแสยะยิ้มถามว่า “นักร้องคนไหนกัน?”

นี่เป็นอีกหลุมพรางหนึ่งของเขา

เพราะไม่ว่าจะเป็นนักร้องคนไหน มันก็ไม่อาจเทียบกับหยูฉงโหลวได้

หยูฉงโหลวคือที่หนึ่งในวงการ!

ดังนั้น ขอแค่เจียงชื่อพูดชื่อออกมา นั่นก็แปลว่าเขากำลังตกลงไปในหลุมพราง แต่ต่อให้เขาไม่พูด เขาก็ต้องตกลงไปในหลุมพรางอยู่แล้ว เพราะทันทีที่ศิลปินคนนั้นขึ้นมา และเมื่อต้องเทียบกับหยูฉงโหลวแล้ว ทุกคนก็จะเห็นความแตกต่างของพวกเขา

แต่เจียงชื่อเลือกที่จะเก็บชื่อนั้นไว้ “ผมไม่จำเป็นต้องพูดครับ เพราะทุกคนในนี้รู้จักเขาดี ขอแค่เขาขึ้นไปบนเวที ทุกคนก็จะรู้ทันที”

ติงหงเหย้าถึงกับหัวเราะออกมา “โอ้ว ทุกคนรู้จักดีด้วย? เจียงชื่อ คุณขี้โม้เก่งไม่เบาเลยนะ!”

อันที่จริงแล้ว แม้แต่หยูฉงโหลว หลายๆ คนในนี้ก็ยังไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ

เนื่องจากคนสมัยนี้ไม่ได้ฟังเพลงโอเปร่าแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับโอเปร่าหวงเหมยนี้

แม้แต่หยูฉงโหลวยังเป็นเช่นนี้ คงไม่ต้องพูดถึงศิลปินคนอื่นๆ หรอก

ฉะนั้น ติงหงเหย้าไม่มีวันเชื่อสำหรับเจียงชื่อที่บอกว่าทุกคนจะรู้จักศิลปินคนนี้หลังจากที่เขาขึ้นบนเวที

ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว คนอื่นๆ ก็ไม่เชื่อเช่นกัน

เพราะในโลกใบนี้ ไม่มีคนดังกล่าวอยู่แล้ว

เจียงชื่อกระแอมเบาๆ “พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ดูของจริงดีกว่าไหม?”

ติงหงเหย้าพยักหน้าตอบ “ได้สิ ไหนของจริง ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าศิลปินท่านไหนที่คือคนที่รู้จักของทุกคนในนี้!”

ติงหงเหย้ามั่นใจในตัวเองมาก เพราะคนที่เขาเชิญมาเป็นถึงหยูฉงโหลว ไม่ว่าเจียงชื่อจะเชิญใครมา ตราบใดที่เขาร้องเพลงโอเปร่าหวงเหมย เขาจะเทียบกับหยูฉงโหลวไม่ได้แน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน!!!

ต๊อก แต๊ก ต๊อก แต๊ก ต๊อก แต๊ก!!! เสียงเท้าเดินดังขึ้น

ทุกคนกลั้นหายใจมองไปทางประตูทางเข้าและอยากรู้ว่าศิลปินดังที่ทุกคนรู้จักคนนี้คือใคร

ชายคนนั้นเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

เมื่อดูจากรูปร่างแล้ว ทุกคนรู้สึกคุ้นเคยมาก แต่เมื่อมองจากใบหน้าแล้ว ทุกคนก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยมากขึ้น

เนื่องจากการแต่งหน้าของเขา ทุกคนจึงจำใบหน้าของเขาไม่ได้ในทันที แค่รู้สึกว่าคนคนนี้คุ้นเคยเหมือนกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน

และเมื่อมองให้ละเอียด ความคุ้นเคยต่อศิลปินคนนี้ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น

แน่นอนว่ามีหลายๆ คนจำเขาได้แล้ว

โดยเฉพาะคนของตระกูลติง ทุกคนต่างก็รู้ว่าเขาคือใคร รวมไปถึงพนักงานเก่าของบริษัท ทุกคนต่างก็นั่งไม่ติดเก้าอี้และลุกขึ้นทีละคน เพราะพวกเขารู้ตัวว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ต่อหน้าชายผู้นี้

ลุกขึ้นยืน ลุกขึ้นยืน ลุกขึ้นยืน

ผู้คนต่างก็ลุกขึ้นยืนทีละคน และคนที่จำศิลปินคนนี้ได้ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ

“ไม่มีทาง?”

“นี่ นี่มันเล่นตลกอะไรกัน? ใครเป็นคนเชิญเขามา?”

“ให้ตายสิ ฉันตาฝาดไปใช่ไหม!”

“เจียงชื่อเอ๋ยเจียงชื่อ นี่คุณใช้เวทมนตร์อะไรถึงทำอย่างนั้นได้?”

ในที่สุด ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนกันหมด ไม่มีใครกล้านั่งฟังศิลปินคนนี้ร้องเพลงเลย

ก็เพราะว่าทุกคนรู้ว่าเขาคนนี้คือเขา

ซึ่งเขาคนนี้ก็คือคุณปู่แห่งตระกูลติง ติงจ้ง อดีตหัวหน้าครอบครัวตระกูลติง!!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบท้าโลก 808 ศิลปินแนวหน้า

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 808 ศิลปินแนวหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในเวลานี้ เสียงเท้าเดินดังขึ้น หยูฉงโหลวเดินขึ้นไปบนเวทีของโรงแรมและเริ่มร้องโอเปร่าหวงเหมย

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าการแสดงของหยูฉงโหลวนั้นยอดเยี่ยมมาก!

ผู้ชมต่างก็อินกับบทเพลงของเขาและพากันปรบมือให้เขา ชาตินี้ได้ฟังการแสดงสดของหยูฉงโหลวสักครั้ง ถือเป็นบุญจริงๆ!

แต่ติงฉี่ซานไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลย

หยูฉงโหลวเป็นศิลปินที่ติงหงเหย้าเชิญมา ยิ่งเขาร้องเพลงเพราะมากแค่ไหน ติงหงเหย้าก็ยิ่งได้รับเกียรติมากเท่านั้น และเจียงชื่อก็ยิ่งเทียบกับเขาไม่ได้

เดิมทีทุกอย่างของงานเลี้ยงในคืนนี้เป็นของเจียงชื่อแล้ว แต่สุดท้ายติงหงเหย้ากลับเข้ามาแย่งซีนเขา นี่มันหมายความว่ายังไง?

ฉะนั้น แม้ติงฉี่ซานจะชอบหยูฉงโหลวมาก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจมีความสุขได้

20 นาทีผ่านไป ในที่สุดหยูฉงโหลวก็ลงจากเวทีเพื่อไปพัก

ด้วยเสียงปรบมืออันอบอุ่นนั้น มันสามารถสัมผัสถึงความกระตือรือร้นของเหล่าแฟนคลับ สามารถรู้สึกถึงความรักของทุกคนที่มีต่อศิลปินแนวหน้าคนนี้

และในเวลานี้ ติงหงเหย้าก็มองไปที่ติงฉี่ซานด้วยรอยยิ้มจางๆ และถามขึ้นว่า “อาสาม เป็นยังไงบ้างครับ?”

ติงฉี่ซานก็ตอบทันที “พอใช้ได้”

“พอใช้ได้? ฮ่า ๆ อาสามจะพูดจริงเหรอครับ? เขาเป็นถึงศิลปินอันดับหนึ่งในวงการโอเปร่าหวงเหมยนะครับ แต่อาสามกลับบอกเขาว่า ‘พอใช้ได้’ ?”

ติงฉี่ซานถูกถามจนไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่หันหน้าหนีและเมินเฉยต่อเขา

ติงหงเหย้าก็หันมองไปที่เจียงชื่ออีกครั้งแล้วถามว่า “เจียงชื่อ คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าพ่อคุณชอบโอเปร่าหวงเหมย?”

เจียงชื่อตอบสั้นๆ คำเดียวด้วยสีหน้าเฉยเมย “รู้”

ทันทีที่คำนี้ถูกพูดออกจากปาก ทุกคนต่างก็เป็นกังวลและสงสัยว่านี่มันเป็นหลุมกับดักไม่ใช่หรือ?

ติงหงเหย้าพูดต่อ “ในเมื่อคุณรู้ ทำไมคุณไม่เชิญนักร้องมาร้องเพลงให้พ่อฟังสักเพลงล่ะ? ทำไม ไม่มีปัญญาเชิญหรือว่าลืมเรื่องนี้ไปแล้ว?”

เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นหลุมกับดัก

ทุกคนต่างก็ถอนหายใจด้วยความกังวล เพราะไม่ว่าเจียงชื่อจะตอบอย่างไร เขาต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

เฮ้อ เจียงชื่อเก่งก็จริงนะ แต่ถ้าเทียบกับติงหงเหย้าแล้ว ยังต่างกันอยู่บ้าง หรือบอกได้ว่าเจียงชื่อไม่ใช่คู่ต่อสู้ของติงหงเหย้าเลยก็ว่าได้ เพราะแค่นี้ก็ตกหลุมพรางของคนอื่นแล้ว

เจียงชื่อเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มเบาๆ “จะว่าไป มันก็บังเอิญนะ เพราะผมก็เชิญนักร้องโอเปร่าหวงเหมยมาให้พ่อเหมือนกัน”

“อ้าว จริงเหรอ?” ติงหงเหย้าแสยะยิ้มถามว่า “นักร้องคนไหนกัน?”

นี่เป็นอีกหลุมพรางหนึ่งของเขา

เพราะไม่ว่าจะเป็นนักร้องคนไหน มันก็ไม่อาจเทียบกับหยูฉงโหลวได้

หยูฉงโหลวคือที่หนึ่งในวงการ!

ดังนั้น ขอแค่เจียงชื่อพูดชื่อออกมา นั่นก็แปลว่าเขากำลังตกลงไปในหลุมพราง แต่ต่อให้เขาไม่พูด เขาก็ต้องตกลงไปในหลุมพรางอยู่แล้ว เพราะทันทีที่ศิลปินคนนั้นขึ้นมา และเมื่อต้องเทียบกับหยูฉงโหลวแล้ว ทุกคนก็จะเห็นความแตกต่างของพวกเขา

แต่เจียงชื่อเลือกที่จะเก็บชื่อนั้นไว้ “ผมไม่จำเป็นต้องพูดครับ เพราะทุกคนในนี้รู้จักเขาดี ขอแค่เขาขึ้นไปบนเวที ทุกคนก็จะรู้ทันที”

ติงหงเหย้าถึงกับหัวเราะออกมา “โอ้ว ทุกคนรู้จักดีด้วย? เจียงชื่อ คุณขี้โม้เก่งไม่เบาเลยนะ!”

อันที่จริงแล้ว แม้แต่หยูฉงโหลว หลายๆ คนในนี้ก็ยังไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ

เนื่องจากคนสมัยนี้ไม่ได้ฟังเพลงโอเปร่าแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับโอเปร่าหวงเหมยนี้

แม้แต่หยูฉงโหลวยังเป็นเช่นนี้ คงไม่ต้องพูดถึงศิลปินคนอื่นๆ หรอก

ฉะนั้น ติงหงเหย้าไม่มีวันเชื่อสำหรับเจียงชื่อที่บอกว่าทุกคนจะรู้จักศิลปินคนนี้หลังจากที่เขาขึ้นบนเวที

ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว คนอื่นๆ ก็ไม่เชื่อเช่นกัน

เพราะในโลกใบนี้ ไม่มีคนดังกล่าวอยู่แล้ว

เจียงชื่อกระแอมเบาๆ “พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ดูของจริงดีกว่าไหม?”

ติงหงเหย้าพยักหน้าตอบ “ได้สิ ไหนของจริง ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าศิลปินท่านไหนที่คือคนที่รู้จักของทุกคนในนี้!”

ติงหงเหย้ามั่นใจในตัวเองมาก เพราะคนที่เขาเชิญมาเป็นถึงหยูฉงโหลว ไม่ว่าเจียงชื่อจะเชิญใครมา ตราบใดที่เขาร้องเพลงโอเปร่าหวงเหมย เขาจะเทียบกับหยูฉงโหลวไม่ได้แน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน!!!

ต๊อก แต๊ก ต๊อก แต๊ก ต๊อก แต๊ก!!! เสียงเท้าเดินดังขึ้น

ทุกคนกลั้นหายใจมองไปทางประตูทางเข้าและอยากรู้ว่าศิลปินดังที่ทุกคนรู้จักคนนี้คือใคร

ชายคนนั้นเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

เมื่อดูจากรูปร่างแล้ว ทุกคนรู้สึกคุ้นเคยมาก แต่เมื่อมองจากใบหน้าแล้ว ทุกคนก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยมากขึ้น

เนื่องจากการแต่งหน้าของเขา ทุกคนจึงจำใบหน้าของเขาไม่ได้ในทันที แค่รู้สึกว่าคนคนนี้คุ้นเคยเหมือนกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน

และเมื่อมองให้ละเอียด ความคุ้นเคยต่อศิลปินคนนี้ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น

แน่นอนว่ามีหลายๆ คนจำเขาได้แล้ว

โดยเฉพาะคนของตระกูลติง ทุกคนต่างก็รู้ว่าเขาคือใคร รวมไปถึงพนักงานเก่าของบริษัท ทุกคนต่างก็นั่งไม่ติดเก้าอี้และลุกขึ้นทีละคน เพราะพวกเขารู้ตัวว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ต่อหน้าชายผู้นี้

ลุกขึ้นยืน ลุกขึ้นยืน ลุกขึ้นยืน

ผู้คนต่างก็ลุกขึ้นยืนทีละคน และคนที่จำศิลปินคนนี้ได้ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ

“ไม่มีทาง?”

“นี่ นี่มันเล่นตลกอะไรกัน? ใครเป็นคนเชิญเขามา?”

“ให้ตายสิ ฉันตาฝาดไปใช่ไหม!”

“เจียงชื่อเอ๋ยเจียงชื่อ นี่คุณใช้เวทมนตร์อะไรถึงทำอย่างนั้นได้?”

ในที่สุด ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนกันหมด ไม่มีใครกล้านั่งฟังศิลปินคนนี้ร้องเพลงเลย

ก็เพราะว่าทุกคนรู้ว่าเขาคนนี้คือเขา

ซึ่งเขาคนนี้ก็คือคุณปู่แห่งตระกูลติง ติงจ้ง อดีตหัวหน้าครอบครัวตระกูลติง!!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+