จอมศาสตราพลิกดารา 221 ฮวาเสี่ยงหรงชนะเลิศ

Now you are reading จอมศาสตราพลิกดารา Chapter 221 ฮวาเสี่ยงหรงชนะเลิศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไป๋เซวียนกลับมายังที่นั่งแขกผู้มีเกียรติ เสียงแสดงความยินดีดังรอบด้าน

นางปรายตามองลู่เสวี่ยแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าหดหู่ของอีกฝ่าย ในอกก็รู้สึกสบายอารมณ์อย่างอดไม่ได้

ตอนนี้ในใจของผู้คน นางกลายเป็นคนที่อบรมบ่มเพาะนางคณิกาอันดับหนึ่งได้แล้ว เป็นเป้าหมายสูงสุดที่แม่เล้าผู้ดูแลหอคณิกาทุกคนต่างไล่ตามอย่างมุ่งมั่น และยามนี้ เป้าหมายของนางเป็นจริงแล้ว ความฝันเป็นความจริงแล้ว

เวลานี้ไม่มีทางมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก

ฮวาเสี่ยงหรงที่ได้รับแรงเสริมจากกลอนอมตะ กลายเป็นนางคณิกาอันดับหนึ่งของการแข่งขันครั้งนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้งแม้แต่น้อย

หัวหน้าหน่วยเลี้ยงรับรองหลิวเฉิงหลงว่ากันว่ามีธุระ ไม่ได้ปรากฏกายมาประกาศผลตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรแล้ว หลังจากรวมคะแนนทั้งสามรอบ คะแนนรอบสุดท้ายของของฮวาเสี่ยงหรงนำโด่ง โดยมีบัณฑิตมีชื่อจากที่นั่งแขกผู้มีเกียรติและผู้ดูแลเก่าแก่ของหน่วยเลี้ยงรับรองสามคนร่วมกันประกาศผล

ยามฮวาเสี่ยงหรงในชุดกระโปรงผ้าโปร่งบางสีขาวสะอาดดุจหิมะเดินจากข้างหลังมาปรากฏบนเวทีหลักอีกครั้ง ทั่วทั้งหน่วยเลี้ยงรับรองก็ฮือฮา

คนนับไม่ถ้วนต่างกู่ร้อง หวังว่าฮวาเสี่ยงหรงจะแสดงให้ชมอีกครั้ง ทว่าพวกเขาก็ต้องผิดหวังแน่นอนแล้ว แม้มีเกียรติยศสูงสุดบนถนนกลิ่นกำจายอยู่ตรงหน้า เผชิญกับเสียงโห่ร้องของผู้นับถือเลื่อมใสหน้าเวทีนับพันนับหมื่น สีหน้าของนางก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยังยิ้มบางๆ อย่างสงบ คารวะขอบคุณ

การร่ายรำคืนนี้มีเพื่อตอบแทนท่านแม่ไป๋เซวียนและหอสดับเซียนเท่านั้น

นับจากนี้เป็นต้นไป การร่ายรำของนางมีไว้ให้เขาดูเพียงผู้เดียว

จากนั้น ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำ ท่ามกลางมหาชนมีคนตะโกนชื่ออีกชื่อหนึ่ง…

“หลี่มู่!”

“หลี่มู่! หลี่มู่! หลี่มู่!”

“เยี่ยมยอดทั้งบุ๋นบู๊ เซียนในหมู่มนุษย์ หลี่มู่!”

คนมากมายตะโกนชื่อของหลี่มู่ หวังว่าอัจฉริยะทั้งบุ๋นและบู๊ที่ทำให้การประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่งไปถึงจุดตื่นเต้นเร้าใจที่สุด โดยใช้พลังกลอนอมตะพลิกสถานการณ์ในช่วงเวลาสำคัญสุดท้าย จะปรากฏตัวขึ้นบนเวทีหลักพร้อมฮวาเสี่ยงหรง

อีกทั้งคลื่นมนุษย์ที่กำลังตื่นเต้นยังตะโกนสมญานามต่างๆ ของหลี่มู่ไม่หยุด

“เซียนกวีหลี่”

“เซียนกวี!”

“เจ้าแห่งอำเภอขาวพิสุทธิ์”

“หลี่ไท่ไป๋ หลี่ไท่ไป๋ (ท่านหลี่แห่งขาวพิสุทธิ์)!”

จนสุดท้าย เสียงตะโกนร้องเรียกทั้งหมดก็กลายเป็น ‘เซียนกวีหลี่ไท่ไป๋’ ดังกลบฟ้าดิน ราวขุนเขากู่ก้องมหาสมุทรคำราม กระหึ่มไปทั่วทั้งหน่วยเลี้ยงรับรองบนถนนกลิ่นกำจาย ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ กระทั่งว่าโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งและดุเดือดเสียยิ่งกว่าฮวาเสี่ยงหรงได้ตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งก่อนหน้านี้อีก

ทว่า พวกเขาก็ต้องผิดหวังซ้ำอีก

เพราะจวบจนฮวาเสี่ยงหรงลงจากเวที หลี่มู่ก็ไม่ปรากฏตัว

เขาไม่ได้แสร้งทำตามใจ ‘ผู้ชม’ พวกนี้

‘พี่ชายคนนี้เป็นสายพลัง ไม่ใช่สายไอดอล’

หลี่มู่พูดกับตัวเองในใจอย่างภาคภูมิใจ

ตอนนี้ งานประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่งปิดม่านลงแล้ว

ฮวาเสี่ยงหรงได้ที่หนึ่ง ลู่หงซิ่วได้ที่สอง เซวี่ยหรุ่ยได้ที่สาม ซืออวี้หวาได้ที่สี่ นี่คืออันดับรายชื่อในท้ายที่สุด

แต่ก็เหมือนกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกครั้งบนโลก ผู้คนล้วนจดจำคนที่สอบได้ที่หนึ่ง งานประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่งครั้งนี้ คนที่ผู้คนจดจำมีเพียงฮวาเสี่ยงหรงคนเดียวเท่านั้น ลู่หงซิ่วซึ่งได้ที่สองเป็นได้แค่ตัวประกอบ หลังจากนี้ทุกครั้งที่เอ่ยถึงชื่อลู่หลงซิ่ว คนจะนึกถึงฮวาเสี่ยงหรงตามมา คิดถึงการร่ายรำชวนหลงใหลและกลอนอมตะนั้น

เสียงอื้ออึงและคำวิจารณ์ต่างๆ หลังจากอารมณ์ขึ้นสู่จุดสูงสุดยังดังอยู่นานกว่าจะเงียบลง

ฝูงชนบนถนนกลิ่นกำจายไม่ได้แยกย้ายกันไปตามการสิ้นสุดของงานประกวดคณิกาอันดับหนึ่ง กลับมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

เพราะงานสำคัญเพิ่งจะเริ่ม

หลังจากการประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่ง ก็จะเป็นรายการที่ดึงดูดสายตาของคนนับไม่ถ้วนอีกรอบหนึ่งในคืนนี้…

งานประมูลทาสสาว

ทาสสาวที่หน่วยเลี้ยงรับรองตั้งใจป่าวประกาศนำเสอและแต่งองค์ทรงเครื่องจะถูกนำมาประมูลในรอบถัดไป

และหนึ่งในนั้น ผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดย่อมเป็นภรรยากับลูกสาวของขุนพลเจิ้นกั๋วถังฉงและทาสสาวองครักษ์วิหารเทพหมาป่าแห่งที่ราบทุ่งหญ้า หญิงงามมีมากมาย แต่หญิงงามที่มีฐานะไม่ต้องสงสัยเลยว่าก็เหมือนยาพิษถึงแก่ชีวิต ยิ่งดึงดูดให้คนมากมายบ้าคลั่งเพื่อพวกนางได้ง่ายกว่า นอกจากนั้น ยังมีสาวงามวัยกำดัดจากตระกูลขุนนางตกยากที่หน่วยเลี้ยงรับรองรวบรวมมาจากที่ต่างๆ ก็จะนำมาประมูลบนเวทีหลักด้วยเช่นกัน

สำหรับหลายคน แม้แต่การประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่ง อันที่จริงก็มีเพียงเพื่ออุ่นเครื่องให้กับงานประมูลครั้งนี้ ในเมื่อนางคณิกาอันดับหนึ่งต่อให้สวยเพียงใดก็เหมือนบุปผาในกระจกจันทร์ในน้ำ เลือนรางยากจะเข้าถึง เป็นของผู้มีอำนาจจำนวนน้อยเท่านั้น แต่ทาสสาวเหล่านี้ หากโชคดีพอละก็ไม่แน่ว่าอาจประมูลมาได้สักคน

อีกทั้งงานประมูลทาสสาวที่ใหญ่โตแบบนี้ สามปีห้าปีถึงจะจัดขึ้นครั้งหนึ่ง

นี่ต่างหากถึงจะเป็นงานสำคัญที่แท้จริง

ดังนั้น หลังจากพิธีรับตำแหน่งคณิกาอันดับหนึ่งที่ไม่นับว่ายุ่งยากและถึงขั้นทำไปลวกๆ เสียด้วยซ้ำ การจัดแต่งบนเวทีหลักก็เริ่มจัดวางใหม่

กระโจมของหอคณิกาต่างๆ หลังเวทีถูกรื้อออก กระโจมหลังใหม่และรถบุปผชาติกรงเหล็กแต่ละคันถูกลากออกมาจากฐานที่มั่นของหน่วยเลี้ยงรับรอง จัดวางไว้ตามตำแหน่งที่กำหนดเอาไว้ก่อนแล้วที่หลังเวทีหลัก

นักรบของหน่วยเลี้ยงรับรองร่วมมือกับทหารกองรักษาการณ์เมืองฝั่งตะวันออก รักษาความปลอดภัยทั้งเวทีหลักเอาไว้ คนแปลกหน้าห้ามเข้ามา ในนั้นมียอดฝีมือระดับหนึ่งขั้นปรมาจารย์ที่พลังแข็งแกร่งหลายสิบคนรักษาการณ์ ป้องกันไม่ให้คนก่อความวุ่นวายหรือเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น

ในขณะเดียวกัน คนของหน่วยเลี้ยงรับรองก็เริ่มแจกจ่ายป้ายสัญลักษณ์เข้าร่วมประมูลอย่างเป็นระเบียบตามรายชื่อและจำนวนคนจ่ายเงินมัดจำเข้าร่วมงานที่บันทึกเอาไว้ คนที่มีป้ายสัญลักษณ์เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าร่วมประมูลหลังจากงานเริ่มอย่างเป็นทางการ มิฉะนั้นหากคนมากมายขนาดนั้นเที่ยวตะโกนวุ่นวาย งานประมูลก็จะกลายเป็นเรื่องน่าขบขันไป

ก่อนงานประมูลจะเริ่ม การเตรียมงานทั้งหมดก็เสร็จเรียบร้อย ตอนนี้เหลือแค่แจกจ่ายป้ายเท่านั้น

คนที่ได้ป้ายสัญลักษณ์มาไม่ใช่แค่ร่ำรวยแต่ยังสูงศักดิ์ เพราะคนธรรมดาจ่ายเงินมัดจำหนึ่งแสนตำลึงทองไม่ไหว

บัณฑิตนักกวีมีชื่อที่แต่เดิมนั่งอยู่บนที่นั่งแขกผู้มีเกียรติ ส่วนมากย้ายไปนั่งที่อื่นแล้ว เพราะที่นั่งแขกผู้มีเกียรติตอนนี้กลายเป็นเขตแข่งประมูลของเหล่าเศรษฐี เหล่าคนร่ำรวยที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์พวกนี้มายังที่นั่งของตัวเองภายใต้การนำทางโดยสาวใช้หน้าตางดงามของหน่วยเลี้ยงรับรองแล้ว ต่างพูดจาปราศรัยกันอย่างคึกคัก ทักทายซึ่งกันและกัน หยั่งเชิงถามถึงคนที่จะประมูลมา

คนพวกนี้ล้วนเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงในเมืองฉางอันและเมืองรอบๆ ทั้งนั้น ร่ำรวยกันมหาศาล

แน่นอน คนพวกนี้ก็ไม่ใช่แขกผู้สูงศักดิ์ที่สุดสำหรับงานประมูลทาสสาวครั้งนี้

เหล่าแขกผู้สูงศักดิ์ระดับสูงที่มีทรัพย์สินทั้งยังพร้อมด้วยอำนาจ ฐานะ และพลังอย่างแท้จริง ล้วนถูกจัดให้อยู่ในหอเคลื่อนที่ที่มิดชิดและเป็นส่วนตัวดีมากซึ่งทยอยสร้างขึ้นรอบเวทีหลักเรียบร้อย หอเหล่านี้ใกล้เวทีหลักกว่าที่นั่งแขกผู้มีเกียรติมาก ตำแหน่งก็อยู่สูงกว่าเล็กน้อย มุมมองชัดเจน สามารถพิจารณารูปโฉมความงามของทาสสาวที่นำมาประมูลบนเวทีได้ในองศาที่ดีเยี่ยมที่สุด

และคนข้างนอกก็ไม่อาจมองทะลุหอเข้ามาจนรู้ว่าแขกผู้สูงศักดิ์ระดับสูงข้างในมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ สะดวกสำหรับบุคคลยิ่งใหญ่ที่ฐานะสูงส่งแต่ไม่เหมาะที่จะเผยหน้าค่าตาเข้าร่วมประมูล

เมื่อดูจากด้านต่างๆ ความเชี่ยวชาญด้านรายละเอียดของหน่วยเลี้ยงรับรองประณีตจนถึงที่สุด

ต่อให้เป็นคนที่มาจากดาวโลกอย่างหลี่มู่มอง ก็ให้คะแนนกิจกรรมวางแผนการค้าครั้งนี้สูงได้ หัวหน้าหน่วยเลี้ยงรับรองหลิวเฉิงหลงเป็นคนที่มีความสามารถในด้านนี้จริงๆ

……

ในห้องส่วนตัวหอเซียนโบยบิน หลี่มู่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง คนที่มาด้วยกันยังมีฮวาเสี่ยงหรง ซินเอ๋อร์ และไป๋เซวียน ทั้งหมดปรากฏกายขึ้นในห้องส่วนตัว

คลื่นเสียงเรียก ‘หลี่ไท่ไป๋’ เป็นระลอกๆ ด้านนอกยังไม่เงียบหายไป

ใบหน้าของสาวใช้ซินเอ๋อร์เต็มไปด้วยความดีใจและตื่นเต้น

“คุณชายสุดยอดจริงๆ กลอนบทเดียวก็พลิกสถานการณ์กลับคืนมาได้” นางไม่เหมือนฮวาเสี่ยงหรงหรือไป๋เซวียนที่เข้าใจบทกลอน ไม่ได้มีความรู้ด้านวรรณกรรมมากนัก ดังนั้นจึงรู้สึกอัศจรรย์ใจและเหลือเชื่อเป็นอย่างมากที่หลี่มู่อาศัยกลอนแค่บทเดียวก็ชิงตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งมาให้คุณหนูของตนเองได้

ความจริงแล้วสาวใช้เช่นเดียวกันกับนางอยู่ในหน่วยเลี้ยงรับรองมีชะตาชีวิตอนาถมาก

หากเจอกับเจ้านายที่ดียังอยู่สบายได้หลายปีหน่อย รอจนเจ้านายไถ่ตัวออกไปหรือแต่งงาน สามารถตามไปเป็นสาวใช้คนสนิทได้ก็นับว่าไม่เลว แต่หากเจอเจ้านายไม่ดีแล้วละก็ ชะตากรรมสุดท้ายของสาวใช้คนนั้นจะตกเป็นหญิงขายเรือนร่างระดับล่างในหน่วยเลี้ยงรับรอง มีชีวิตอยู่ไปวันๆ เท่านั้น

ซินเอ๋อร์นับว่าชะตาค่อนข้างดี

ก่อนหน้านี้ฮวาเสี่ยงหรงแสดงท่าทีที่ชัดเจนกับหลี่มู่แล้วว่าจะไถ่ตัวให้ซินเอ๋อร์ ดังนั้นซินเอ๋อร์ตอนนี้จึงมองตัวเองเป็นสาวใช้คนสนิทตามสมควร ถึงอย่างไรนางก็ต้องตามไปเป็นเพื่อนยามคุณหนูแต่งงานอยู่แล้ว สาวใช้ตัวน้อยเพ้อฝันอยู่เต็มอก

ไป๋เซวียนก็เช่นกัน ความตื่นตะลึงในใจยังไม่หายไป

ตอนนั้นนางแทบจะหมดหวังอย่างสิ้นเชิง เพราะรอบกวีคนดังให้คะแนนแสดงให้เห็นเจตนาของหน่วยเลี้ยงรับรองแล้ว เบื้องหลังยังมีบุคคลผู้ยิ่งใหญ่กำลังควบคุมอยู่ พูดจากมุมนี้ ฮวาเสี่ยงหรงคิดจะชิงตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งก็ไร้ซึ่งโอกาส นางเองก็ไม่หวังแล้วเช่นกัน แต่ความสามารถของหลี่มู่ช่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรนัก เหนือกว่าขอบเขตทั่วไป กลอนอมตะแค่อ้าปากก็ท่องออกมาได้ราวกับดื่มน้ำกินข้าว ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

เด็กหนุ่มที่ความสามารถเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน?

โลกนี้ทำไมถึงมีคนที่พิสดารเช่นนี้ได้?

หรือจะเป็นเซียนกลับชาติลงมาเกิดจริงๆ?

ไป๋เซวียนตะลึงกับความสามารถของหลี่มู่โดยสิ้นเชิง ในชีวิตของนางเห็นความรุ่งโรจน์มาไม่รู้ต่อเท่าไหร่ ได้พบบุคคลยอดเยี่ยมมาไม่มากก็น้อย แต่แทบจะไม่มีใครคนใดเทียบกับหลี่มู่ได้เลย ต่อให้เป็นคุณชายเหวินจงปินแห่งฉินตะวันตกยุคปัจจุบันก็เหมือนว่าเทียบไม่ได้?

หากอายุน้อยลงอีกสิบกว่าปี ไป๋เซวียนสาบาน นางจะติดตามอยู่ข้างกายหลี่มู่โดยไม่สนว่าต้องแลกสิ่งใดแน่นอน ต่อให้เป็นบ่าวรับใช้ก็ยังดี

น่าเสียดายนัก

ยามข้าถือกำเนิดเจ้ายังไม่เกิด ยามเจ้าเกิดสังขารข้าโรยรา ตอนนี้ตัวเองสังขารโรยราเสียแล้ว

บนโต๊ะวางอาหารเลิศรสและสุราไว้เต็มไปหมด หลี่มู่นั่งลงกล่าว “ฮ่าๆ ทำตัวสบายๆ ทุกคนนั่งเถอะ พวกเรามาร่วมแสดงความยินดีให้ฮวาเอ๋อร์ที่ร่ายรำงามล่มเมือง ชิงตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งมาได้ ท่านแม่ไป๋ก็สมความปรารถนา ทุกคนดื่มหมดจอก” เขายกจอกสุราขึ้น

ใบหน้าของฮวาเสี่ยงหรงมีแต่ความซาบซึ้งและเลื่อมใส

นางในตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยเป็นจริงละม้ายฝันไป

ความรู้สึกแบบนี้ไม่ใช่เพราะตัวเองชิงตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งได้…อันที่จริง ตำแหน่งคณิกาอันดับหนึ่งไม่มีความสำคัญอะไรเลยสำหรับนางในตอนนี้ เพียงแค่ตอบแทนบุญคุณท่านแม่ไป๋ก็เท่านั้น ที่มาของความรู้สึกแบบนี้ แท้ที่จริงเป็นเพราะความสามารถและพลังของหลี่มู่ เขาราวกับเทพเซียน ไม่ใช่คนบนโลกมนุษย์

ขณะนั่งอยู่ข้างกายหลี่มู่ สายตาของนางจับจ้องอยู่ที่ร่างเขาตลอด

นางมีความรู้สึกเหมือนฝันไปอย่างไรอย่างนั้น

ทุกคนต่างยกจอกสุรา บรรยากาศอบอุ่น

หลี่มู่เอ่ยปาก “ฮวาเอ๋อร์ ข้าได้ยินท่านแม่ไป๋บอกว่าเจ้าเคยอธิษฐานที่วัดลมรำเพย วันหนึ่งไปจากหน่วยเลี้ยงรับรองแล้วจะต้องใช้ชื่อเดิมของตนให้จงได้ คืนนี้ได้ตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่ง ตอบแทนบุญคุณที่ท่านแม่ไป๋ปกป้องคุ้มครอง นับว่าตัดขาดกับหน่วยเลี้ยงรับรองทุกอย่างแล้ว เช่นนี้ก็แล้วกัน นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้าใช้ชื่อเดิมของเจ้า ตั้งแต่นี้ไปบนโลกไม่มีฮวาเสี่ยงหรงอีก มีเพียงซ่างกวนอวี่ถิงเท่านั้น เจ้าว่าอย่างไร?”

“เอ๋…ทุกอย่างเอาตามคำคุณชายเถิด” หลังจากฮวาเสี่ยงหรงตะลึงไปชั่วครู่ ก็ร่ำไห้ด้วยความยินดี

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมศาสตราพลิกดารา 221 ฮวาเสี่ยงหรงชนะเลิศ

Now you are reading จอมศาสตราพลิกดารา Chapter 221 ฮวาเสี่ยงหรงชนะเลิศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไป๋เซวียนกลับมายังที่นั่งแขกผู้มีเกียรติ เสียงแสดงความยินดีดังรอบด้าน

นางปรายตามองลู่เสวี่ยแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าหดหู่ของอีกฝ่าย ในอกก็รู้สึกสบายอารมณ์อย่างอดไม่ได้

ตอนนี้ในใจของผู้คน นางกลายเป็นคนที่อบรมบ่มเพาะนางคณิกาอันดับหนึ่งได้แล้ว เป็นเป้าหมายสูงสุดที่แม่เล้าผู้ดูแลหอคณิกาทุกคนต่างไล่ตามอย่างมุ่งมั่น และยามนี้ เป้าหมายของนางเป็นจริงแล้ว ความฝันเป็นความจริงแล้ว

เวลานี้ไม่มีทางมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก

ฮวาเสี่ยงหรงที่ได้รับแรงเสริมจากกลอนอมตะ กลายเป็นนางคณิกาอันดับหนึ่งของการแข่งขันครั้งนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้งแม้แต่น้อย

หัวหน้าหน่วยเลี้ยงรับรองหลิวเฉิงหลงว่ากันว่ามีธุระ ไม่ได้ปรากฏกายมาประกาศผลตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรแล้ว หลังจากรวมคะแนนทั้งสามรอบ คะแนนรอบสุดท้ายของของฮวาเสี่ยงหรงนำโด่ง โดยมีบัณฑิตมีชื่อจากที่นั่งแขกผู้มีเกียรติและผู้ดูแลเก่าแก่ของหน่วยเลี้ยงรับรองสามคนร่วมกันประกาศผล

ยามฮวาเสี่ยงหรงในชุดกระโปรงผ้าโปร่งบางสีขาวสะอาดดุจหิมะเดินจากข้างหลังมาปรากฏบนเวทีหลักอีกครั้ง ทั่วทั้งหน่วยเลี้ยงรับรองก็ฮือฮา

คนนับไม่ถ้วนต่างกู่ร้อง หวังว่าฮวาเสี่ยงหรงจะแสดงให้ชมอีกครั้ง ทว่าพวกเขาก็ต้องผิดหวังแน่นอนแล้ว แม้มีเกียรติยศสูงสุดบนถนนกลิ่นกำจายอยู่ตรงหน้า เผชิญกับเสียงโห่ร้องของผู้นับถือเลื่อมใสหน้าเวทีนับพันนับหมื่น สีหน้าของนางก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยังยิ้มบางๆ อย่างสงบ คารวะขอบคุณ

การร่ายรำคืนนี้มีเพื่อตอบแทนท่านแม่ไป๋เซวียนและหอสดับเซียนเท่านั้น

นับจากนี้เป็นต้นไป การร่ายรำของนางมีไว้ให้เขาดูเพียงผู้เดียว

จากนั้น ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำ ท่ามกลางมหาชนมีคนตะโกนชื่ออีกชื่อหนึ่ง…

“หลี่มู่!”

“หลี่มู่! หลี่มู่! หลี่มู่!”

“เยี่ยมยอดทั้งบุ๋นบู๊ เซียนในหมู่มนุษย์ หลี่มู่!”

คนมากมายตะโกนชื่อของหลี่มู่ หวังว่าอัจฉริยะทั้งบุ๋นและบู๊ที่ทำให้การประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่งไปถึงจุดตื่นเต้นเร้าใจที่สุด โดยใช้พลังกลอนอมตะพลิกสถานการณ์ในช่วงเวลาสำคัญสุดท้าย จะปรากฏตัวขึ้นบนเวทีหลักพร้อมฮวาเสี่ยงหรง

อีกทั้งคลื่นมนุษย์ที่กำลังตื่นเต้นยังตะโกนสมญานามต่างๆ ของหลี่มู่ไม่หยุด

“เซียนกวีหลี่”

“เซียนกวี!”

“เจ้าแห่งอำเภอขาวพิสุทธิ์”

“หลี่ไท่ไป๋ หลี่ไท่ไป๋ (ท่านหลี่แห่งขาวพิสุทธิ์)!”

จนสุดท้าย เสียงตะโกนร้องเรียกทั้งหมดก็กลายเป็น ‘เซียนกวีหลี่ไท่ไป๋’ ดังกลบฟ้าดิน ราวขุนเขากู่ก้องมหาสมุทรคำราม กระหึ่มไปทั่วทั้งหน่วยเลี้ยงรับรองบนถนนกลิ่นกำจาย ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ กระทั่งว่าโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งและดุเดือดเสียยิ่งกว่าฮวาเสี่ยงหรงได้ตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งก่อนหน้านี้อีก

ทว่า พวกเขาก็ต้องผิดหวังซ้ำอีก

เพราะจวบจนฮวาเสี่ยงหรงลงจากเวที หลี่มู่ก็ไม่ปรากฏตัว

เขาไม่ได้แสร้งทำตามใจ ‘ผู้ชม’ พวกนี้

‘พี่ชายคนนี้เป็นสายพลัง ไม่ใช่สายไอดอล’

หลี่มู่พูดกับตัวเองในใจอย่างภาคภูมิใจ

ตอนนี้ งานประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่งปิดม่านลงแล้ว

ฮวาเสี่ยงหรงได้ที่หนึ่ง ลู่หงซิ่วได้ที่สอง เซวี่ยหรุ่ยได้ที่สาม ซืออวี้หวาได้ที่สี่ นี่คืออันดับรายชื่อในท้ายที่สุด

แต่ก็เหมือนกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกครั้งบนโลก ผู้คนล้วนจดจำคนที่สอบได้ที่หนึ่ง งานประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่งครั้งนี้ คนที่ผู้คนจดจำมีเพียงฮวาเสี่ยงหรงคนเดียวเท่านั้น ลู่หงซิ่วซึ่งได้ที่สองเป็นได้แค่ตัวประกอบ หลังจากนี้ทุกครั้งที่เอ่ยถึงชื่อลู่หลงซิ่ว คนจะนึกถึงฮวาเสี่ยงหรงตามมา คิดถึงการร่ายรำชวนหลงใหลและกลอนอมตะนั้น

เสียงอื้ออึงและคำวิจารณ์ต่างๆ หลังจากอารมณ์ขึ้นสู่จุดสูงสุดยังดังอยู่นานกว่าจะเงียบลง

ฝูงชนบนถนนกลิ่นกำจายไม่ได้แยกย้ายกันไปตามการสิ้นสุดของงานประกวดคณิกาอันดับหนึ่ง กลับมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

เพราะงานสำคัญเพิ่งจะเริ่ม

หลังจากการประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่ง ก็จะเป็นรายการที่ดึงดูดสายตาของคนนับไม่ถ้วนอีกรอบหนึ่งในคืนนี้…

งานประมูลทาสสาว

ทาสสาวที่หน่วยเลี้ยงรับรองตั้งใจป่าวประกาศนำเสอและแต่งองค์ทรงเครื่องจะถูกนำมาประมูลในรอบถัดไป

และหนึ่งในนั้น ผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดย่อมเป็นภรรยากับลูกสาวของขุนพลเจิ้นกั๋วถังฉงและทาสสาวองครักษ์วิหารเทพหมาป่าแห่งที่ราบทุ่งหญ้า หญิงงามมีมากมาย แต่หญิงงามที่มีฐานะไม่ต้องสงสัยเลยว่าก็เหมือนยาพิษถึงแก่ชีวิต ยิ่งดึงดูดให้คนมากมายบ้าคลั่งเพื่อพวกนางได้ง่ายกว่า นอกจากนั้น ยังมีสาวงามวัยกำดัดจากตระกูลขุนนางตกยากที่หน่วยเลี้ยงรับรองรวบรวมมาจากที่ต่างๆ ก็จะนำมาประมูลบนเวทีหลักด้วยเช่นกัน

สำหรับหลายคน แม้แต่การประกวดนางคณิกาอันดับหนึ่ง อันที่จริงก็มีเพียงเพื่ออุ่นเครื่องให้กับงานประมูลครั้งนี้ ในเมื่อนางคณิกาอันดับหนึ่งต่อให้สวยเพียงใดก็เหมือนบุปผาในกระจกจันทร์ในน้ำ เลือนรางยากจะเข้าถึง เป็นของผู้มีอำนาจจำนวนน้อยเท่านั้น แต่ทาสสาวเหล่านี้ หากโชคดีพอละก็ไม่แน่ว่าอาจประมูลมาได้สักคน

อีกทั้งงานประมูลทาสสาวที่ใหญ่โตแบบนี้ สามปีห้าปีถึงจะจัดขึ้นครั้งหนึ่ง

นี่ต่างหากถึงจะเป็นงานสำคัญที่แท้จริง

ดังนั้น หลังจากพิธีรับตำแหน่งคณิกาอันดับหนึ่งที่ไม่นับว่ายุ่งยากและถึงขั้นทำไปลวกๆ เสียด้วยซ้ำ การจัดแต่งบนเวทีหลักก็เริ่มจัดวางใหม่

กระโจมของหอคณิกาต่างๆ หลังเวทีถูกรื้อออก กระโจมหลังใหม่และรถบุปผชาติกรงเหล็กแต่ละคันถูกลากออกมาจากฐานที่มั่นของหน่วยเลี้ยงรับรอง จัดวางไว้ตามตำแหน่งที่กำหนดเอาไว้ก่อนแล้วที่หลังเวทีหลัก

นักรบของหน่วยเลี้ยงรับรองร่วมมือกับทหารกองรักษาการณ์เมืองฝั่งตะวันออก รักษาความปลอดภัยทั้งเวทีหลักเอาไว้ คนแปลกหน้าห้ามเข้ามา ในนั้นมียอดฝีมือระดับหนึ่งขั้นปรมาจารย์ที่พลังแข็งแกร่งหลายสิบคนรักษาการณ์ ป้องกันไม่ให้คนก่อความวุ่นวายหรือเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น

ในขณะเดียวกัน คนของหน่วยเลี้ยงรับรองก็เริ่มแจกจ่ายป้ายสัญลักษณ์เข้าร่วมประมูลอย่างเป็นระเบียบตามรายชื่อและจำนวนคนจ่ายเงินมัดจำเข้าร่วมงานที่บันทึกเอาไว้ คนที่มีป้ายสัญลักษณ์เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าร่วมประมูลหลังจากงานเริ่มอย่างเป็นทางการ มิฉะนั้นหากคนมากมายขนาดนั้นเที่ยวตะโกนวุ่นวาย งานประมูลก็จะกลายเป็นเรื่องน่าขบขันไป

ก่อนงานประมูลจะเริ่ม การเตรียมงานทั้งหมดก็เสร็จเรียบร้อย ตอนนี้เหลือแค่แจกจ่ายป้ายเท่านั้น

คนที่ได้ป้ายสัญลักษณ์มาไม่ใช่แค่ร่ำรวยแต่ยังสูงศักดิ์ เพราะคนธรรมดาจ่ายเงินมัดจำหนึ่งแสนตำลึงทองไม่ไหว

บัณฑิตนักกวีมีชื่อที่แต่เดิมนั่งอยู่บนที่นั่งแขกผู้มีเกียรติ ส่วนมากย้ายไปนั่งที่อื่นแล้ว เพราะที่นั่งแขกผู้มีเกียรติตอนนี้กลายเป็นเขตแข่งประมูลของเหล่าเศรษฐี เหล่าคนร่ำรวยที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์พวกนี้มายังที่นั่งของตัวเองภายใต้การนำทางโดยสาวใช้หน้าตางดงามของหน่วยเลี้ยงรับรองแล้ว ต่างพูดจาปราศรัยกันอย่างคึกคัก ทักทายซึ่งกันและกัน หยั่งเชิงถามถึงคนที่จะประมูลมา

คนพวกนี้ล้วนเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงในเมืองฉางอันและเมืองรอบๆ ทั้งนั้น ร่ำรวยกันมหาศาล

แน่นอน คนพวกนี้ก็ไม่ใช่แขกผู้สูงศักดิ์ที่สุดสำหรับงานประมูลทาสสาวครั้งนี้

เหล่าแขกผู้สูงศักดิ์ระดับสูงที่มีทรัพย์สินทั้งยังพร้อมด้วยอำนาจ ฐานะ และพลังอย่างแท้จริง ล้วนถูกจัดให้อยู่ในหอเคลื่อนที่ที่มิดชิดและเป็นส่วนตัวดีมากซึ่งทยอยสร้างขึ้นรอบเวทีหลักเรียบร้อย หอเหล่านี้ใกล้เวทีหลักกว่าที่นั่งแขกผู้มีเกียรติมาก ตำแหน่งก็อยู่สูงกว่าเล็กน้อย มุมมองชัดเจน สามารถพิจารณารูปโฉมความงามของทาสสาวที่นำมาประมูลบนเวทีได้ในองศาที่ดีเยี่ยมที่สุด

และคนข้างนอกก็ไม่อาจมองทะลุหอเข้ามาจนรู้ว่าแขกผู้สูงศักดิ์ระดับสูงข้างในมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ สะดวกสำหรับบุคคลยิ่งใหญ่ที่ฐานะสูงส่งแต่ไม่เหมาะที่จะเผยหน้าค่าตาเข้าร่วมประมูล

เมื่อดูจากด้านต่างๆ ความเชี่ยวชาญด้านรายละเอียดของหน่วยเลี้ยงรับรองประณีตจนถึงที่สุด

ต่อให้เป็นคนที่มาจากดาวโลกอย่างหลี่มู่มอง ก็ให้คะแนนกิจกรรมวางแผนการค้าครั้งนี้สูงได้ หัวหน้าหน่วยเลี้ยงรับรองหลิวเฉิงหลงเป็นคนที่มีความสามารถในด้านนี้จริงๆ

……

ในห้องส่วนตัวหอเซียนโบยบิน หลี่มู่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง คนที่มาด้วยกันยังมีฮวาเสี่ยงหรง ซินเอ๋อร์ และไป๋เซวียน ทั้งหมดปรากฏกายขึ้นในห้องส่วนตัว

คลื่นเสียงเรียก ‘หลี่ไท่ไป๋’ เป็นระลอกๆ ด้านนอกยังไม่เงียบหายไป

ใบหน้าของสาวใช้ซินเอ๋อร์เต็มไปด้วยความดีใจและตื่นเต้น

“คุณชายสุดยอดจริงๆ กลอนบทเดียวก็พลิกสถานการณ์กลับคืนมาได้” นางไม่เหมือนฮวาเสี่ยงหรงหรือไป๋เซวียนที่เข้าใจบทกลอน ไม่ได้มีความรู้ด้านวรรณกรรมมากนัก ดังนั้นจึงรู้สึกอัศจรรย์ใจและเหลือเชื่อเป็นอย่างมากที่หลี่มู่อาศัยกลอนแค่บทเดียวก็ชิงตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งมาให้คุณหนูของตนเองได้

ความจริงแล้วสาวใช้เช่นเดียวกันกับนางอยู่ในหน่วยเลี้ยงรับรองมีชะตาชีวิตอนาถมาก

หากเจอกับเจ้านายที่ดียังอยู่สบายได้หลายปีหน่อย รอจนเจ้านายไถ่ตัวออกไปหรือแต่งงาน สามารถตามไปเป็นสาวใช้คนสนิทได้ก็นับว่าไม่เลว แต่หากเจอเจ้านายไม่ดีแล้วละก็ ชะตากรรมสุดท้ายของสาวใช้คนนั้นจะตกเป็นหญิงขายเรือนร่างระดับล่างในหน่วยเลี้ยงรับรอง มีชีวิตอยู่ไปวันๆ เท่านั้น

ซินเอ๋อร์นับว่าชะตาค่อนข้างดี

ก่อนหน้านี้ฮวาเสี่ยงหรงแสดงท่าทีที่ชัดเจนกับหลี่มู่แล้วว่าจะไถ่ตัวให้ซินเอ๋อร์ ดังนั้นซินเอ๋อร์ตอนนี้จึงมองตัวเองเป็นสาวใช้คนสนิทตามสมควร ถึงอย่างไรนางก็ต้องตามไปเป็นเพื่อนยามคุณหนูแต่งงานอยู่แล้ว สาวใช้ตัวน้อยเพ้อฝันอยู่เต็มอก

ไป๋เซวียนก็เช่นกัน ความตื่นตะลึงในใจยังไม่หายไป

ตอนนั้นนางแทบจะหมดหวังอย่างสิ้นเชิง เพราะรอบกวีคนดังให้คะแนนแสดงให้เห็นเจตนาของหน่วยเลี้ยงรับรองแล้ว เบื้องหลังยังมีบุคคลผู้ยิ่งใหญ่กำลังควบคุมอยู่ พูดจากมุมนี้ ฮวาเสี่ยงหรงคิดจะชิงตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งก็ไร้ซึ่งโอกาส นางเองก็ไม่หวังแล้วเช่นกัน แต่ความสามารถของหลี่มู่ช่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรนัก เหนือกว่าขอบเขตทั่วไป กลอนอมตะแค่อ้าปากก็ท่องออกมาได้ราวกับดื่มน้ำกินข้าว ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

เด็กหนุ่มที่ความสามารถเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน?

โลกนี้ทำไมถึงมีคนที่พิสดารเช่นนี้ได้?

หรือจะเป็นเซียนกลับชาติลงมาเกิดจริงๆ?

ไป๋เซวียนตะลึงกับความสามารถของหลี่มู่โดยสิ้นเชิง ในชีวิตของนางเห็นความรุ่งโรจน์มาไม่รู้ต่อเท่าไหร่ ได้พบบุคคลยอดเยี่ยมมาไม่มากก็น้อย แต่แทบจะไม่มีใครคนใดเทียบกับหลี่มู่ได้เลย ต่อให้เป็นคุณชายเหวินจงปินแห่งฉินตะวันตกยุคปัจจุบันก็เหมือนว่าเทียบไม่ได้?

หากอายุน้อยลงอีกสิบกว่าปี ไป๋เซวียนสาบาน นางจะติดตามอยู่ข้างกายหลี่มู่โดยไม่สนว่าต้องแลกสิ่งใดแน่นอน ต่อให้เป็นบ่าวรับใช้ก็ยังดี

น่าเสียดายนัก

ยามข้าถือกำเนิดเจ้ายังไม่เกิด ยามเจ้าเกิดสังขารข้าโรยรา ตอนนี้ตัวเองสังขารโรยราเสียแล้ว

บนโต๊ะวางอาหารเลิศรสและสุราไว้เต็มไปหมด หลี่มู่นั่งลงกล่าว “ฮ่าๆ ทำตัวสบายๆ ทุกคนนั่งเถอะ พวกเรามาร่วมแสดงความยินดีให้ฮวาเอ๋อร์ที่ร่ายรำงามล่มเมือง ชิงตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งมาได้ ท่านแม่ไป๋ก็สมความปรารถนา ทุกคนดื่มหมดจอก” เขายกจอกสุราขึ้น

ใบหน้าของฮวาเสี่ยงหรงมีแต่ความซาบซึ้งและเลื่อมใส

นางในตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยเป็นจริงละม้ายฝันไป

ความรู้สึกแบบนี้ไม่ใช่เพราะตัวเองชิงตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่งได้…อันที่จริง ตำแหน่งคณิกาอันดับหนึ่งไม่มีความสำคัญอะไรเลยสำหรับนางในตอนนี้ เพียงแค่ตอบแทนบุญคุณท่านแม่ไป๋ก็เท่านั้น ที่มาของความรู้สึกแบบนี้ แท้ที่จริงเป็นเพราะความสามารถและพลังของหลี่มู่ เขาราวกับเทพเซียน ไม่ใช่คนบนโลกมนุษย์

ขณะนั่งอยู่ข้างกายหลี่มู่ สายตาของนางจับจ้องอยู่ที่ร่างเขาตลอด

นางมีความรู้สึกเหมือนฝันไปอย่างไรอย่างนั้น

ทุกคนต่างยกจอกสุรา บรรยากาศอบอุ่น

หลี่มู่เอ่ยปาก “ฮวาเอ๋อร์ ข้าได้ยินท่านแม่ไป๋บอกว่าเจ้าเคยอธิษฐานที่วัดลมรำเพย วันหนึ่งไปจากหน่วยเลี้ยงรับรองแล้วจะต้องใช้ชื่อเดิมของตนให้จงได้ คืนนี้ได้ตำแหน่งนางคณิกาอันดับหนึ่ง ตอบแทนบุญคุณที่ท่านแม่ไป๋ปกป้องคุ้มครอง นับว่าตัดขาดกับหน่วยเลี้ยงรับรองทุกอย่างแล้ว เช่นนี้ก็แล้วกัน นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้าใช้ชื่อเดิมของเจ้า ตั้งแต่นี้ไปบนโลกไม่มีฮวาเสี่ยงหรงอีก มีเพียงซ่างกวนอวี่ถิงเท่านั้น เจ้าว่าอย่างไร?”

“เอ๋…ทุกอย่างเอาตามคำคุณชายเถิด” หลังจากฮวาเสี่ยงหรงตะลึงไปชั่วครู่ ก็ร่ำไห้ด้วยความยินดี

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+